• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

กสิกรฯ คงเป้าจีดีพี -0.5% ท่องเที่ยวยังไม่กลับ ลุ้นปลายปีบาทขยับแข็งค่า

Started by Jessicas, October 21, 2021, 09:29:53 AM

Previous topic - Next topic

Jessicas

นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 64 ที่ -0.5% โดยมองว่าแม้จะมีการผ่อนคลายล็อกดาวน์ และเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ แต่ปริมาณนักท่องเที่ยวน่าจะไม่ได้มากขึ้นอย่างทันท่วงทีในระยะ 2 เดือนที่เหลืออยู่ของปีนี้ จึงไม่น่าจะมีผลหนุนต่อจีดีพีโดยรวมมากนัก ขณะที่ภาคการส่งออกเริ่มชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัดขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเป็นผลมาจากฐานที่สูงขึ้น แต่ปัจจัยด้านอัตราค่าขนส่งที่สูงขึ้นยังเป็นอุปสรรค รวมถึงความกังวลในเรื่องอัตราการเติบโตของโลกที่อาจจะเติบโตไม่ได้ตามที่คาดการณ์ไว้จากเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอาจจะทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางเร็วขึ้น เป็นต้น จึงทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีแม้จะดูผ่อนคลายขึ้นแต่ยังมีความเสี่ยงสูงอยู่เช่นกัน

"เรามองว่าจีดีพีไตรมาส 3 ซึ่งเป็นไตรมาสได้รับผลกระทบมากที่สุดจะติดลบ 4.9% จากไตรมาสก่อนหน้า และติดลบ 3.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และในไตรมาส 4 ปรับตัวดีขึ้นมาเป็นบวก 2.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ยังติดลบ 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ดังนั้น จึงมองว่าแม้การเปิดเมืองจะเกิดขึ้น แต่จำนวนนักท่องเที่ยวอาจจะยังไม่มากนัก โดยจากการสำรวจปัจจัยนักท่องเที่ยวคำนึงในการเดินทางมานั้นจะอยู่ที่ตัวเลขการฉีดวัคซีนซึ่งไทยยังอยู่ในระดับ 31-32% และแนวทางการดูแลหากมีการติดเชื้อเกิดขึ้นซึ่งอันนี้ยังไม่มีความชัดเจน ดังนั้น การเปิดรับนักท่องเที่ยวจึงยังมีรายละเอียดที่ต้องดูแลอีกพอสมควร เชื่อว่าจะเห็นผลที่ชัดเจนขึ้นในปีหน้า"

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท ธนาคารกสิกรไทยยังคงมอง ณ สิ้นปีที่ระดับ 32.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยมองว่าในช่วงปลายปีเงินบาทน่าจะมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดยาวทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่จะมีการปิดสถานะการถือครองที่มีกำไรอยู่แล้วก่อนที่หยุดพัก รวมถึงในช่วงต้นเดือนหน้าจะมีการประชุมของเฟดซึ่งหากมีความชัดเจนในการลดวงเงินการซื้อสินทรัพย์ที่ชัดเจนขึ้น รวมถึงประเด็นอื่นๆ ที่นักลงทุนสนใจอยู่ อาจจะทำให้มีการลดการถือเงินดอลลาร์สหรัฐลงเมื่อตลาดคลายความกังวล

"การเก็งกำไรค่าเงินบาทนั้น จุดเริ่มต้นมาจากการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดซึ่งเป็นตัวแปรเดิมๆ เหมือนกับครั้งก่อนที่เขาเข้ามาเล่น แต่ในคราวนี้มีการขาดดุลงบประมาณด้วย ถือเป็นขาดดุลแฝด ขณะที่การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยมีความต่อเนื่อง และยังไม่มีท่าทีจะดีขึ้น ทำให้การเข้ามาเก็งกำไรเริ่มหนักแน่นขึ้น แต่คาดว่าในช่วงสิ้นปีนี้ที่นักลงทุนในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วน่าจะมีวันหยุดยาว จึงน่าจะปิดสถานะที่เป็นกำไรอยู่แล้วก่อนถึงเทศกาลพักผ่อน รวมถึงในการประชุมเฟดต้นเดือนหน้าหากมีความชัดเจนกรณีการทำ QE น่าจะทำให้ตลาดคลายกังวลและลดการถือดอลลาร์สหรัฐลง โดยมองว่ากรอบเงินบาทในช่วงที่เหลือของปีที่ 32.40-34.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐน่าจะเป็นการเคลื่อนไหวที่ธนาคารแห่งประเทศไทยรับได้ อย่างไรก็ตาม หากภาคการท่องเที่ยวเรากลับมาดีขึ้น อัตราการขนส่งระหว่างประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติ จะทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดกลับเข้าสู่ภาวะเกินดุลได้ จะทำให้การเข้ามาเก็งกำไรลดลงไปสู่ภาวะปกติ"