• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

ก.ล.ต. ร่วมกับ The World Bank Group ศึกษาฉากทัศน์ธุรกิจหลักทรัพย์ภายใต้บริบทที่เปลี่ยนแปลง

Started by Jenny937, March 10, 2022, 07:15:17 PM

Previous topic - Next topic

Jenny937

ก.ล.ต. ร่วมกับ The World Bank Group ศึกษาฉากทัศน์ธุรกิจหลักทรัพย์ภายใต้บริบทที่เปลี่ยนแปลง เพื่อกำหนดนโยบายพัฒนาธุรกิจและตลาดทุนไทยที่ยั่งยืน

ก.ล.ต. ร่วมกับ The World Bank Group ศึกษาฉากทัศน์ธุรกิจหลักทรัพย์ ภายใต้หัวข้อ "Landscape of Thai securities businesses after Covid-19 and under digital disruption" เพื่อกำหนดทิศทางและนโยบายที่จะส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจหลักทรัพย์และตลาดทุนไทยให้แข่งขันได้ในระดับสากล ตอบโจทย์ประชาชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และเป็นกลไกสำคัญของตลาดทุนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ภายใต้สภาวการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและความไม่แน่นอนสูงจากปัจจัยภายนอกที่เข้ามากระทบภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-19 (COVID-19) และการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีดิจิทัล (digital disruption) ซึ่งส่งผลกระทบต่อทิศทางในการพัฒนา การปรับตัวให้สามารถแข่งขันได้ภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น รวมทั้งการนำเทคโนโลยีมาให้บริการเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้ใช้บริการที่เปลี่ยนแปลงไป

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในฐานะผู้กำกับดูแลและพัฒนาตลาดทุนไทย เห็นความจำเป็นที่จะต้องมีการศึกษาสภาพแวดล้อม โครงสร้างการแข่งขัน และการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ รวมทั้งแนวโน้มและปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อการพัฒนาธุรกิจหลักทรัพย์ในตลาดทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำมาใช้ในการกำหนดฉากทัศน์ (landscape) โครงสร้างการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบธุรกิจ กำหนดนโยบายและกลยุทธ์ในการส่งเสริม พัฒนา และกำกับดูแลธุรกิจหลักทรัพย์และตลาดทุนไทยให้สอดรับกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป จึงร่วมกับ The World Bank Group ซึ่งเป็นองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญและน่าเชื่อถือในระดับสากล โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัล กฎหมาย และการกำกับดูแลด้านตลาดเงินและตลาดทุน ศึกษาสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง โอกาส ความท้าทาย และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจหลักทรัพย์ รวมทั้งแนวทางในการปรับตัวของผู้ประกอบธุรกิจให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ภายใต้หัวข้อ "Landscape of Thai securities businesses after Covid-19 and under digital disruption"

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า "ความร่วมมือระหว่าง ก.ล.ต. และ The World Bank Group ในครั้งนี้ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการกำหนดทิศทางและนโยบายในการพัฒนาและส่งเสริมการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ในตลาดทุนไทยให้สามารถพิจารณาปรับตัวรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรองรับ digital disruption ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว เพิ่มประสิทธิภาพภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงและท้าทาย สร้างความเข้มแข็งและความสามารถในการแข่งขัน มีบริการที่ตอบโจทย์ประชาชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ช่วยส่งเสริมให้ตลาดทุนไทยแข่งขันได้ในระดับสากล อันจะช่วยเพิ่มความยั่งยืนให้กับตลาดทุนไทยและเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว และหวังว่างานศึกษาชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจและตลาดทุนไทยในวงกว้าง รวมถึงสาธารณชนสามารถนำไปใช้ศึกษาต่อยอดต่อไปได้"

เบอร์กิท ฮานสล์ ผู้จัดการธนาคารโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า "ธนาคารโลกยินดีที่ได้มาร่วมงานกับ ก.ล.ต. ในโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่เกิดขึ้นในช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้ ก.ล.ต. กำหนดทิศทางและนโยบายให้สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปของธุรกิจหลักทรัพย์ไทย รวมทั้งความเปลี่ยนแปลงในตลาดการเงินไทยและทั่วโลก เช่น การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างรวดเร็ว พฤติกรรมของผู้ลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไปเพราะการแพร่ระบาดของ COVID-19 และสภาวะประชากรสูงวัยในสังคมไทย เราเชื่อว่าความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างธนาคารโลกกับ ก.ล.ต. จะนำไปสู่การส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทย และเสริมสร้างความสามารถในการปรับตัวเข้ากับบริบทของตลาดและพฤติกรรมของผู้ลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไป"

ทั้งนี้ โครงการศึกษาดังกล่าวจะมีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเพื่อให้ได้ข้อมูลและความคิดเห็นที่ครอบคลุมและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาธุรกิจหลักทรัพย์และตลาดทุนไทย โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการประมาณ 12 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป