• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

ตลท.เปิดมุมมองโอกาสลงทุนตลาดหุ้นสิงคโปร์ผ่าน DR พร้อมชูกอง REIT ผลตอบแทนโดดเด่น

Started by Chigaru, March 21, 2022, 07:52:12 AM

Previous topic - Next topic

Chigaru

ตลท.เปิดมุมมองโอกาสลงทุนตลาดหุ้นสิงคโปร์ผ่าน DR พร้อมชูกอง REIT ผลตอบแทนโดดเด่น

น.ส.รินใจ ชาครพิพัฒน์ รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยในงานสัมมนา "Investment opportunities in Singapore & Thailand through DR Linkage เจาะลึกโอกาสการลงทุนในหลักทรัพย์สิงคโปร์และไทย ด้วย DR" ว่า ที่ผ่านมา ตลท.ได้มีการส่งเสริมตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (DR) เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการกระจายการลงทุนในต่างประเทศสำหรับผู้ลงทุน

ปัจจุบันมี DR ที่เข้าจดทะเบียน ได้แก่ DR ที่อ้างอิง ETF หุ้นเวียดนาม, DR อ้างอิงหลักทรัพย์บริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง (BABA80) และจะมี DR อื่นๆ เข้าจดทะเบียนเพิ่มเติมอีกเร็วๆนี้ รวมถึง DR ที่อ้างอิงหลักทรัพย์จดทะเบียนในสิงคโปร์ด้วย

ทั้งนี้ สิงคโปร์ ถือเป็นประเทศหนึ่งที่มีความสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยคาดว่าปีนี้จะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX) ก็มีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนมากมาย ไม่ว่าจะอยู่ในสิงคโปร์เองหรือต่างประเทศ อีกทั้งยังมีกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) มากถึง 44 กอง มูลค่าตามราคาตลาดรวมกว่า 1.3 แสนล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือคิดเป็น 12% ของมูลค่าตลาดรวม และมีผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 9% ต่อปี

กอง REIT ใน SGX มีค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น อาคารสำนักงานให้เช่า, Industrial REIT, CENTER หรือศูนย์ข้อมูล โดยกองทุนเหล่านี้ลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลก

นายเจฟ โฮวี่ นักกลยุทธ์การตลาด ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ถือว่ามีตลาดกอง REIT ที่แข็งแกร่งอย่างมาก ดูได้จากมูลค่าตลาดรวม โดยมีการลงทุนทั้งในประเทศสิงคโปร์และนอกประเทศที่มีความมั่นคง เช่น ฮ่องกง และยังกระจายไปในภาคส่วนต่างๆ เช่น ภาคอุตสาหกรรม บริการ ค้าปลีก หรือ REIT ที่ลงทุนในสินทรัพย์พิเศษ มากกว่า 130 แห่ง ในภูมิภาคเอเชีย

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เอเชียแปซิฟิก กอง REIT ภาคอุตสาหกรรมมีผลตอบแทนจากการลงทุนรวมประมาณ 40% และนอกภาคอุตสาหกรรม มีผลตอบแทนในภาพรวมประมาณ 5% ขณะเดียวกัน REIT ETF ในสิงคโปร์ ก็ถือว่าเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชีย โดยมีกอง REIT ETF ที่โดดเด่นด้วยกัน 5 กอง และมี Asset under management (AUM) ประมาณ 800 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่ง NikkoAM-Straits Trading Asia ex Japan REIT มี AUM สูงสุด โดยมีสัดส่วนการลงทุนทั้งในสิงคโปร์ คิดเป็น 75% และที่เหลือจะลงทุนนอกประเทศดังกล่าว

สำหรับภาพรวมการลงทุนใน SGX มองว่าด้วยปัจจัยการแพร่ระบาดของโควิด-19, เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจากวิกฤตรัสเซียและยูเครน ก็ทำให้กระทบต่อทุกกลุ่มธุรกิจที่คล้ายๆ กัน ซึ่งต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิดว่าแต่ละภาคธุรกิจในสิงคโปร์มีผลกระทบอย่างไร แต่ SGX ก็ยังมีการดำเนินกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและโอกาสในการขยายช่องทางการลงทุน เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้

ด้านนายเจอร์มิน วอง ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์และหัวหน้าทีมธุรกิจ อีทีเอฟ ภูมิภาคเอเชีย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน Nikko Asset Management กล่าวว่า บริษัทฯ เป็นบลจ.ที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของภูมิภาคเอเชีย โดยมี AUM ราว 2.7 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ดูแลทั้งกอง REIT และ ETF ซึ่งคิดเป็น 40% ของพอร์ต

ขณะที่ยังเป็นผู้ออก NikkoAM-Straits Trading Asia ex Japan REIT โดยที่หลักทรัพย์ส่วนใหญ่จะอยู่ที่สิงคโปร์ หรือคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 75% รองลงมาคือฮ่องกง 15% และอินเดีย, มาเลเซีย, จีน, ไทย, ฟิลิปปินส์ ซึ่งถ้ามีการลงทุนในดัชนีนี้ก็จะเป็นการกระจายการลงทุน ไม่ใช่แค่ประเทศอย่างเดียวแต่เป็นประเภทของ REIT ด้วย โดยที่ 36% จะเป็นรีเทล และอีกกว่า 30% เป็นอุตสาหกรรม ออฟฟิศ โรงแรม โรงพยาบาล

ส่วนภาพรวมตลาด Asia ex Japan REIT มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ดูจากปริมาณและคุณภาพของ REIT ที่ให้ลงทุนได้ โดยรวมตลาดดังกล่าวก็มีมาร์เก็ตแคปประมาณ 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ และในส่วนนี้ตลาดสิงคโปร์จะมี Sharpe Ratio ที่สูงกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะเดียวกันยังมีผลตอบแทนที่ดีต่อเนื่อง