• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

BAM คาดสรุปร่วมทุนตั้ง AMC ใน Q2/65 พร้อมต่อยอดบริหารหนี้

Started by Ailie662, March 04, 2022, 11:47:44 PM

Previous topic - Next topic

Ailie662

BAM คาดสรุปร่วมทุนตั้ง AMC ใน Q2/65 พร้อมต่อยอดบริหารหนี้ไม่มีหลักประกัน

นายรฐนนท์ ฟูเกียรติ ผู้จัดการกลุ่มนักลงทุนสัมพันธ์และบริการผู้ถือหุ้น ฝ่ายสื่อสารองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) กล่าวถึงความคืบหน้าการร่วมทุนจัดตั้งธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ (AMC) กับสถาบันการเงินพันธมิตรนั้น หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปลดล็อกด้านกฎระเบียบไปแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมตัวเกี่ยวกับกระบวนการในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน คาดว่าจะมีความชัดเจนออกมาในไตรมาส 2/65 โดยที่ในช่วงแรกจะทำ AMC ที่บริหารจัดการหนี้ที่มีหลักประกัน

ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้จัดตั้งบริษัทใหม่ที่จะเข้ามาบริหารจัดการหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน (Clean loan) ซึ่งเป็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจของ BAM ในธุรกิจใหม่ และสร้างรายได้ใหม่ๆ เข้ามาให้กับบริษัท เนื่องจากบริษัทมองเห็นโอกาสทางการตลาดของธุรกิจบริหารจัดการหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน เพราะยังมีผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดไม่มาก และบริษัทมีความชำนาญในการบริหารหนี้ที่มีหลักประกันมาก่อน จึงเห็นโอกาสที่ดีในการเข้าสู่กลุ่มหนี้ที่ไม่มีหลักประกันด้วย อีกทั้งปริมาณหนี้ที่ไม่มีหลักประกันมีอยู่มากถึง 1 แสนล้านบาท ทำให้บริษัทยังมีโอกาสเข้าไปชิงส่วนแบ่งในการบริหารจัดการได้มากเช่นกัน

นายรฐนนท์ กล่าวว่า บริษัทมองว่าธนาคารพาณิชย์จะมองหาพันธมิตรที่มีความชำนาญในการบริหารจัดการหนี้เป็นเฉพาะด้าน อย่างเช่น BAM ที่มีความชำนาญในการบริหารจัดการหนี้ที่มีหลักประกัน ทำให้บริษัทมีโอกาสมากในการที่พันธมิตรจะมีความสนใจเข้าร่วมทุน ส่วนหนี้ที่ไม่มีหลักประกันนั้น ธนาคารพาณิชย์อาจจะไปร่วมทุนกับผู้ประกอบการรายอื่นที่มีความชำนาญมากกว่า แต่บริษัทก็ไม่ปิดโอกาสในการต่อยอดธุรกิจในการบริหารจัดการหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน ซึ่งยังคงต้องรอดูเหมาะสมของการต่อยอดธุรกิจในอนาคต

อย่างไรก็ตาม การร่วมทุนในการตั้งธุรกิจใหม่อาจจะมีผลขาดทุนจากการบริหารจัดการในช่วง 1-2 ปีแรก แต่บริษัทมองว่าสิ่งที่ได้เข้ามาชดเชยคือ รายได้จากการบริหารจัดการหนี้ และรายได้จากการขาย NPA ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ที่เป็นพันธมิตรจะมีการนำหนี้เสียออกมาขายให้กับบริษัทร่วมทุนเพื่อนำไปบริหาร ก็จะทำให้ธนาคารพาณิชย์มีหนี้เสียลดลง และมีรายได้จากดอกเบี้ยจากการปล่อยสินเชื่อให้กับบริษัทร่วมทุน

ขณะที่ความร่วมมือกับไปรษณีย์ไทย ถือเป็นการที่สามารถช่วยให้บริษัทประหยัดค่าใช้จ่ายในการสำรวจทรัพย์ จากการที่มีเครือข่ายและพนักงานของไปรษณีย์ไทย ที่มีความคุ้นเคยกับพื้นที่ในทำเลต่างๆ มีความคล่องตัวในการเดินทางไปสำรวจทรัพย์ มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ และสามารถช่วยเหลือในการประเมินทรัพย์ได้เบื้องต้น ทำให้สามารถช่วยให้บริษัทลดค่าใช้จ่ายในการส่งพนักงานไปสำรวจทรัพย์ได้ค่อยข้างมาก และบริษัทก็สามารถช่วยไปรษณีย์ไทยในด้านการตลาด ประชาสัมพันธ์กิจกรรมส่งเสริมการขาย และอาจจะมีการพัฒนาต่อยอดความร่วมมือไปยังบริการอื่นๆได้เช่นกัน

ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจของ BAM ในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าซื้อหนี้ NPL ไว้ที่ 9 พันล้านบาท โดยคาดว่าสถาบันการเงินจะนำหนี้ออกมาขายในปริมาณใกล้เคียงกับปีก่อนที่กว่า 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการติดตามการเปิดขายหนี้ NPL แต่คาดว่าจะทำได้ดีขึ้น เพราะไม่มีมาตรการล็อกดาวน์เหมือนปีก่อน ทำให้การขายทรัพย์ของกรมบังคับคดีดำเนินการได้ตามปกติ

ขณะที่ตั้งเป้าหมายการเรียกเก็บหนี้ไว้ที่ 1.74 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น การเรียกเก็บ NPL ราว 1.04 หมื่นล้านบาท และ NPA ราว 7 พันล้านบาท โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามีผลการเรียกเก็บหนี้ในระดับที่บริษัทพอใจ และคาดว่าไตรมาส 1/65 จะเป็นไปตามเป้าหมายเรียกเก็บหนี้ NPL ที่ 2.27 พันล้านบาท และ NPA 1.4 พันล้านบาท ส่วนไตรมาส 2/65 ตั้งเป้าเรียกเก็บ NPL ไว้ที่ 2.52 พันล้านบาท และ NPA 1.34 พันล้านบาท

ด้านกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในปี 65 สำหรับแผนระยะสั้นจะเน้นการลดระยะเวลาคืนทุน ประกอบด้วย เพิ่มจำนวนลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้และผู้ซื้อทรัพย์ NPA แบบขายผ่อนชำระ ส่วน NPL จะยืดหยุ่นเงื่อนไขการปรับโครงสร้างหนี้ รวมถึงยังคงเดินหน้าขยายช่องทางออนไลน์ ประมูลทรัพย์ออนไลน์ ทั้งการดำเนินการในด้านราคา และกลยุทธ์พิเศษเฉพาะกลุ่มนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุน High net-worth

ส่วนกลยุทธ์ระยะกลางและระยะยาว จะเป็นการดำเนินธุรกิจด้วยโมเดล Asset light model-Joint Venture รวมถึงจัดตั้งหน่วยธุรกิจหนี้ไม่มีหลักประกัน (หลังจากขายทอดตลาดหลักประกันแล้ว) การขยายกลุ่มลูกค้า การนำหลัก ESG มาใช้เป็นปรัชญาการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการขยายเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ และการปรับโครงสร้างภายในองค์กรและการส่งต่อความรู้สู่พนักงานรุ่นใหม่