• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Beer625

#3781



ผลการศึกษาระยะยาวโดยคณะนักวิทยาศาสตร์อิมพิเรียลคอลเลจลอนดอน ร่วมกับบริษัทวิจัยตลาดอิปซอส เอ็มโออาร์ไอ ศึกษาการสว็อบ 98,233 ครั้งระหว่างวันที่ 24 มิ.ย.-12 ก.ค. พบว่า 160 ติดโควิด ด้วยอัตราความชุกที่ 1.21% สำหรับคนที่ไม่ฉีดวัคซีน และ 0.40% สำหรับคนที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว

ผลการศึกษายังพบด้วยว่า คนที่ฉีดวัคซีนแล้วอาจส่งต่อไวไรัสไปให้คนอื่นน้อยกว่าคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนถึงสองเท่า


อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่และนักวิทยาศาสตร์ในอังกฤษขอให้ประชาชนระมัดระวัง หลังรัฐบาลยกเลิกข้อจำกัดคุมโควิดทั้งหมดในอังกฤษเมื่อวันที่ 19 ก.ค. รวมถึงยกเลิกกฎหมายบังคับสวมหน้ากากในอาคารบางแห่ง

ขณะที่เอกสารรัฐบาลสหรัฐที่หลุดออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อน เตือนว่า การติดเชื้อในหมู่ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วไม่ได้เกิดขึ้นยากเหมือนเมื่อก่อน และเป็นการติดเชื้อที่ติดต่อกันได้ง่าย

นายพอล เอลเลียต อาจารย์วิทยาลัยสาธารณสุขของอิมพิเรียลและผู้อำนวยการโครงการสำรวจครั้งนี้กล่าวว่า ข้อค้นพบที่ได้ยืนยันข้อมูลก่อนหน้าที่ระบุว่า วัคซีนสองโดสให้ปกป้องการติดเชื้อได้ดี แต่ยังมีความเสี่ยงอยู่เพราะไม่มีวัคซีนตัวใดปกป้องได้ 100%

ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันจากกระทรวงสาธารณสุขลดลงนับตั้งแต่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุม ขณะที่ผลการสำรวจจากประชาชนชี้ว่า การติดเชื้ออาจเพิ่มขึ้นแต่ในอัตราช้าลง

เทรนด์นี้สร้างความประหลาดใจให้กับผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ ที่คาดว่าการติดเชื้อใหม่ต้องพุ่งขึ้น การศึกษาของอิมพิเรียล-อิปซอสที่เก็บข้อมูลจนถึงวันที่ 12 ก.ค. พบว่า ช่วงนั้นผู้ติดเชื้อค่อยๆ เพิ่มขึ้นกว่าเดือนก่อนหน้า
#3782


"บิลด์" สื่อดังในประเทศเยอรมนี รายงานว่า โฮเซ มูรินโญ กุนซือใหม่ของ โรมา ทีมดังในศึกกัลโช เซเรีย อา อิตาลี เตรียมเบนเป้าหันไปล่าตัว โธมัส เดอลานีย์ มิดฟิลด์ทีมชาติเดนมาร์กของโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ ยักษ์ใหญ่แห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี ไปเสริมทัพ หลังแผนการคว้าตัว กรานิต ชากา กองกลางของ อาร์เซนอล ทีมในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ส่อแววคว้าน้ำเหลว

สื่อดังแห่งเมืองเบียร์ ระบุว่า เดิมที่ มูรินโญ พุ่งเป้าไปที่การคว้า ซากา มาเสริมทัพเป็นเป้าหมายแรก แต่มีอันต้องผิดหวังไม่อาจสู้ราคาค่าตัวที่ "ปืนใหญ่" ต้นสังกัดของดาวเตะทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ตั้งไว้ได้ ส่งผลให้นายใหญ่ "นางพญาหมาป่า" ต้องเบนเป้าหมายมาหา เดอลานีย์ โดยเวลานี้ ทีมดังจากแดนมะกะโรนี กำลังเฝ้าจับตาสถานการณ์เรื่องการต่อสัญญาใหม่ของมิดฟิลด์ทีมชาติเดนมาร์กกับ "เสือเหลือง" และพร้อมจะยื่นข้อเสนอทันที และคาดว่าทีมจากเมืองเบียร์ อาจจะพร้อมปล่อยดาวเตะรายนี้ออกไปด้วยค่าตัวราว 9 ล้านปอนด์เท่านั้น
#3783


นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ภายในประเทศที่ยังขยายตัวในวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อเอสเอ็มอีเป็นจำนวนมาก ทั้งปัญหายอดขายและรายได้ลดลง SME D Bank ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อเอสเอ็มอีไทย จึงออกมาตรการทางการเงินเสริม ด้วยแพคเกจสินเชื่อ "เติมทุน SMEs มีสุข ยิ้มได้" วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท ภายใต้ 3 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ ได้แก่ "SMEs D เติมทุน" "SMEs มีสุข" และ "SMEs ยิ้มได้" ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้มีวงเงินเพิ่มขึ้น นำไปใช้เสริมสภาพคล่อง และลดต้นทุนทางการเงิน


สำหรับจุดเด่นของ 3 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ เปิดกว้างเอสเอ็มอีทุกกลุ่มธุรกิจ คุณสมบัติกู้ได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ วงเงินกู้สูงขึ้นถึง 15 ล้านบาทต่อราย ได้แก่ "สินเชื่อ SMEs D เติมทุน" วงเงิน 5,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 4% ต่อปี เปิดโอกาสรับรีไฟแนนซ์จากสถาบันการเงินเดิม ช่วยลดต้นทุนทางการเงิน ผ่อนนานถึง 10 ปี


"สินเชื่อ SMEs มีสุข" วงเงิน 5,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 5% ต่อปี สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเงินลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการ หรือปรับเปลี่ยนธุรกิจ รองรับการเติบโตในอนาคต ผ่อนนานถึง 10 ปี และ "สินเชื่อ SMEs ยิ้มได้" วงเงิน 5,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 5.5% ต่อปี ทบทวนวงเงินได้ทุกปี ช่วยเติมทุนหมุนเวียนให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถบริหารจัดการธุรกิจไม่มีสะดุด โดยเปิดรับคำขอกู้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565


"SME D Bank ตระหนักดีถึงพันธกิจสำคัญในการเป็นกลไกของรัฐพาเอสเอ็มอีไทยให้เข้าถึงแหล่งทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของเอสเอ็มอีอย่างรุนแรง ธนาคารจึงดำเนินนโยบายให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ด้วยการออกแพคเกจสินเชื่อใหม่ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี มีเงินทุนเพิ่มขึ้น ต้นทุนทางการเงินลดลง สามารถนำไปใช้เสริมสภาพคล่องเพียงพอสูงถึงรายละ 15 ล้านบาท ช่วยบริหารจัดการธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้" นางสาวนารถนารี กล่าว
#3784


นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการและใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่องและแข็งขัน ตลอด 7 ปีที่ผ่าน กว่าจะประสบผลสำเร็จดังกล่าว โดยเฉพาะล่าสุดในการเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 44 (WHC 44) ของคณะผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ อย่างต่อเนื่องทุกวัน กว่า 2 สัปดาห์ ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างวันที่ 16 – 31 กรกฎาคม 2564

ที่ประชุม WHC 44 ได้พิจารณาการขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแหล่งใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 34 แหล่ง พิจารณารายงานสถานภาพการอนุรักษ์ (SoC) จำนวน 256 แหล่ง และรับรองข้อตัดสินใจ จำนวน 332 ข้อ

เมื่อวันที่ 26 กรกฏาคม 2564 วาระการขึ้นทะเบียนกลุ่มป่าแก่งกระจาน (KKFC) ได้รับการพิจารณา และที่ประชุม WHC 44 มีมติเห็นชอบขึ้นทะเบียนกลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลก ภายใต้เกณฑ์ข้อ 10 ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ โดยได้ตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าความโดดเด่นอันเป็นสากล (Outstanding Universal Values – OUV) ของผืนป่ากลุ่มป่าแก่งกระจาน และเล็งเห็นความมุ่งมั่นของไทยในการส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และความพยายามผลักดันการขึ้นทะเบียนอย่างต่อเนื่องและแข็งขันในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งการปฏิบัติตามข้อมติและข้อแนะนำของที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกอย่างครบถ้วน ได้แก่ การส่งเสริมการรับรู้และการมีส่วนร่วมของชุมชนในการขึ้นทะเบียน และการปรับขอบเขตพื้นที่นำเสนอตามที่หารือกับเมียนมา

นอกเหนือจากความสำเร็จในครั้งนี้แล้ว ที่ประชุม WHC 44 ยังมีมติเลือกไทยเป็นหนึ่งในรองประธานการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 45 (WHC 45) ภายใต้การดำรงตำแหน่งประธานของรัสเซีย โดยการประชุม WHC 45 จะจัดขึ้น ณ เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย ซึ่งถือเป็นเกียรติยศและความมั่นใจที่ไทยได้รับจากเวทีการประชุมระดับชาติอีกด้วย

กระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมองค์การระหว่างประเทศ ขอขอบคุณกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสถานเอกอัครราชทูตไทยที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนไทยในคณะกรรมการมรดกโลก ที่ทำงานอย่างแข็งขัน "ในการหาเสียงสนับสนุนจากประเทศสมาชิกคณะกรรมการมรดกโลก 20 ประเทศ" 


นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทย ได้มีการจัดการดูแลความเป็นอยู่ของชนกลุ่มน้อยในพื้นที่เป็นอย่างดี และทุกคนก็มีความเป็นอยู่ดีขึ้นตามลำดับ โดยรัฐบาลไทยได้ดำเนินการทุกอย่างตามคำแนะนำที่ไอยูซีเอ็น และประเทศอื่นๆ ที่แสดงความเป็นห่วงติติง จากการประชุมครั้งที่ผ่านมาเป็นอย่างดีแล้ว

หลังจากนั้น ก็มีผู้แทนจากประเทศ อียิป เอธิโอเปีย และประเทศโอมานขึ้นกล่าวสนับสนับสนุนให้ป่าแก่งกระจานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยผู้แทนจากประเทศโอมานระบุว่า ประเทศไทย เป็น 1 ใน 5 ของโลกที่มีการจัดการพื้นที่ป่าเป็นอย่างดี และมีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ โดยมีพืชและสัตว์ป่าที่มีความสำคัญมากกว่า 700 ชนิด

สื่อต่างประเทศ รายงานว่า ประเทศภาคีสมาชิกอื่นๆ ที่สนับสนุนให้กลุ่มป่าแก่งกระจานขึ้นเป็นมรดกโลก ได้แก่ จีน ซาอุดีอาระเบีย สเปน ออสเตรเลีย มาลี บราซิล ไนจีเรีย เมียนมา และกัวเตมาลา

อย่างไรก็ตาม ทีมประเทศไทยต้องขอขอบคุณมิตรประเทศสมาชิกคณะกรรมการมรดกโลกที่ให้การสนับสนุนการขึ้นทะเบียนกลุ่มป่าแก่งกระจานของไทย

นายธานี กล่าวย้ำว่า กระทรวงการต่างประเทศยืนยันความมุ่งมั่นของไทย ที่จะทำงานร่วมกับศูนย์มรดกโลกในการดูแลรักษาแหล่งมรดกโลก และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการบริหารและอนุรักษ์พื้นที่ พร้อมทั้งพัฒนาความเป็นอยู่ของชุมชนในพื้นที่ต่อไป ตลอดจนมุ่งส่งเสริมแนวคิด "Sustainability of Things" หรือการปรับกระบวนทัศน์ในการดำรงชีวิตให้มีความยั่งยืนมากขึ้น เสริมสร้างสังคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และส่งเสริมความสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952233
#3785

โดย ทีมจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด 

ท่ามกลางแรงหนุนจากอุปสงค์ทั้งในและนอกประเทศที่ฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ในไตรมาสที่ 1 เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (EM) ยังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนที่ในไตรมาส 1 โตถึง 18.3 % YoY ซึ่งเป็นการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 1992 ทําให้รัฐบาลจีนออกมาทยอยผ่อนปรนการผ่อนคลายทั้งนโยบายการเงินและการคลังลง (Policy Normalization) ซึ่งเรามีมุมมองว่าอาจจะส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศ EM ชะลอตัวลงในระยะข้างหน้า แต่อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจ EM ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลกที่ยังใช้นโยบายการเงินและการคลังแบบผ่อนคลายและเศรษฐกิจโลกยังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดย IMF ได้ปรับคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 6% ในปีนี้ ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นจากที่เคยคาดการณ์เอาไว้เมื่อเดือน ม.ค. ที่ว่าจะขยายตัวที่ระดับ 5.5% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากโครงการฉีดวัคซีนในหลายๆ ประเทศทั่วโลก

สำหรับด้านการลงทุน เรามีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดหุ้น EM ในระยะสั้นถึงกลาง เนื่องจากยังคงมีปัจจัยเสี่ยงด้านลบที่ต้องติดตาม ปัจจัยแรก ได้แก่ การที่รัฐบาลจีนทำ Policy Normalization ซึ่งเริ่มส่งผลกระทบต่อตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีนทั้งดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของจีน (Chinese Man.cturing PMI) ที่ดูหมือนจะชะลอตัวลงและตัวเลขสภาพคล่องทางการเงินในประเทศจีน TSF ที่มีแนวโน้มจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว โดยถ้าตัวเลขเหล่านี้ยังชะลอลงอย่างต่อเนื่องอาจจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจในภูมิภาค EM ได้ ปัจจัยต่อมาได้แก่ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศกลุ่ม EM เช่น ตุรกี อินเดีย และบราซิล ยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยอดการฉีดวัคซีนในกลุ่มประเทศ EM ที่ยังน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศ Developed Market (DM) เช่น ยุโรป หรือ สหรัฐฯ ดังแผนภาพที่ 

นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มจะแข็งค่าขึ้นในระยะสั้น ซึ่งจะกดดันกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น EM และ ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ไม่รู้จะสิ้นสุดลงอย่างไร แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่สภาวะตลาดในช่วงที่ผ่านมาจะเป็นการสลับการลงทุนระหว่างกลุ่มมากกว่าการเทขายทั้งตลาด ทำให้ถึงแม้โดยรวมเราจะมีมุมมองเป็นกลาง แต่เรายังมองว่าหุ้นบางกลุ่มยังมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่ดีอยู่ในระยะข้างหน้า เช่น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในจีนที่ในช่วงที่ผ่านมาโดนผลกระทบจากการสลับการลงทุนจากหุ้นกลุ่ม Growth ไปยังหุ้น กลุ่ม Value รวมถึงกฎเกณฑ์ของรัฐบาลจีนเกี่ยวกับการต่อต้านการผูกขาด ทำให้ราคาของหุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวลงมาค่อนข้างแรง โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในจีน (FTSE China Incl A 25% Technology Capped Index) จากต้นปีปรับตัวลงมาประมาน 2.5% เทียบกับตลาดหุ้นจีนโดยรวม (MSCI China Index) ที่ปรับตัวลงประมาณ 0.5% ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐฯ (Nasdaq 100 Index) ปรับตัวขึ้นถึง 10 % ทำให้ Valuation ในเชิงเปรียบเทียบของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในจีนลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ดังแผนภาพที่ 2


สุดท้ายนี้ ถึงแม้ตลาดหุ้น EM จะยังไม่มีความน่าสนใจในระยะสั้นถึงกลางแต่ในระยะยาวเรายังมีมุมมองเป็นบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้น EM อยู่จากระดับ Valuation ที่ยังอยู่ในระดับที่ต่ำเทียบกับตลาดหุ้น DM ดังแผนภาพที่ 3 รวมถึงแนวโน้มเงินเฟ้อที่อยู่ในขาขึ้นจากสภาวะเศรษฐกิจที่ค่อยๆ ฟื้นตัวจากผลกระทบของ COVID-19 ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดหุ้น EM ในระยะยาว ทำให้ตลาดหุ้น EM ยังเป็นทางเลือกที่ดีในการลงทุนระยะยาวและกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน

https:// m.mgronline.com/mutualfund/detail/9640000075343
#3786



จากการที่ศาลปกครองมีคำพิพากษา เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง โครงการ "แอชตัน อโศก" ที่ออกให้แก่ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด เมื่อวันที่ 30 ก.ค.64 จนกลายเป็นประเด็นร้อน เพราะปัจจุบันโครงการ "แอชตัน อโศก" สร้างเสร็จและโอนกรรมสิทธิ์มาได้กว่า 2 ปีแล้ว แม้ว่าจะยังมียูนิตเหลือขายอยู่แต่ก็เพียงไม่กี่ยูนิตจากจำนวนทั้งหมด 783 ยูนิต

การเพิกถอนใบอนุญาตครั้งนี้ เท่ากับว่าโครงการนี้ก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตมาตั้งแต่หลายปีที่แล้ว และขั้นตอนต่างๆ ที่ต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ต้นนั้นก็ผิดด้วยเช่นกัน 

การที่มีคำพิพากษาแบบนี้ออกมานั้นสร้างความวิตกกังวลให้กับคนที่มียูนิตอยู่ในโครงการนี้แน่นอน..

ล่าสุด วันที่ 31 ก.ค.64 ชานนท์ เรืองกฤติยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน ) ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊คเพจ Ananda Development  เพื่อชี้แจงถึงลูกบ้าน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า เตรียมจะยื่นอุทธรณ์ และมั่นใจว่าจะชนะ

     
เนื้อความทั้งหมด มีดังนี้..

สวัสดีครับ ท่านลูกค้าอนันดา ชาวแอชตัน อโศก ทุกท่าน ครับ

ผม ชานนท์ เรืองกฤติยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน ) ผมหวังว่า ท่านหลายๆคนมีสุขภาพที่แข็งแรงปลอดภัยจากโควิดช่วงนี้นะครับ สำหรับวันนี้ผมมีเรื่องสำคัญที่จะบอกกล่าวท่านครับ เมื่อวานทางศาลปกครองก็ได้มีการพิพากษาในกรณีที่เกี่ยวข้องกับโครงการของเรานะครับ ท่านคงเห็นในสื่อและไม่สบายใจ

เป้าหมายวันนี้ ผมอยากบอกท่านว่า ผมมั่นใจว่าเราต้องสู้ชนะครับ ผมไม่ยอมนะครับ ผมและผู้บริหารอนันดาทุกท่านจะอยู่เคียงข้างท่าน สู้ต่อไปครับ เราจะยื่นอุทธรณ์ ที่ศาลปกครองสูงสุด เราเชื่อว่าในกระบวนการยุติธรรม ที่จะต้องคุ้มครองผู้ประกอบการอย่างเราที่สุจริตและผลที่ออกมาน่าจะเป็นธรรมเพื่อดำรงให้สังคมเราอยู่อย่างสงบสุข

ผมขอยืนยันอีกหนึ่งครั้งนะครับว่าบริษัททำตามกฏหมายทุกประการประสานงานกับทุกหน่วยงานทุกต้องตามกฏหมาย ผมอยากให้ท่านสบายใจนะครับ


ในภาวะนี้ผมก็เห็นใจหลายๆ คนคงนอนไม่หลับเช่นเดียวกับผม ผมจะใช้ความสามารถสุดฝีมือของผมและทีมงานและประสานงานกับสำนักงานกฏหมาย เพื่อความยุติธรรม ให้พวกเราทั้งหมด เราอยู่รวมกัน เรือลำเดียวกัน เราต้องสามัคคีกันนะครับ

แล้วเราต้องแก้ไขปัญหาสังคมด้วยกันนะครับ ผมก็เห็นใจรัฐเช่นเดียวกันครับ กฏระเบียบของรัฐเองก็ซับซ้อน แต่เราต้องช่วยกันพัฒนาบ้านเมืองเราต่อนะครับ ผมเป็นหนึ่งคนที่มีความหวังในประเทศไทยแต่เราต้องเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน เอาใจเราใส่ใจเขาด้วยกันนะครับเพื่อประโยชน์ส่วนรวมทั้งหมดนะครับ

ผมเชื่อมั่นจริงๆนะครับว่า ระบบยุติธรรมจะมีมุมมองเพื่อสร้างความสงบให้พวกเราทั้งหมด หากท่านอยากติดต่อมา สามารถติดต่อได้ที่อนันดาคอลเซ็นเตอร์ 02-3162222 อนันดาเฟซบุ๊กหรืออีเมล์ของผม chanond@ananda.co.th/csc@ananda.co.thได้นะครับ

ผมหวังว่า แมสเสจนี้ก็จะทำให้ท่านสบายใจผมขอให้ท่านให้โอกาสอนันดาแก้ไขปัญหาต่อ

ขอขอบคุณครับ
#3787



วันที่ 1 ส.ค. 64 นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามการเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์และสมุยพลัสโมเดลอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้ความมั่นใจว่า โครงการดังกล่าวยังคงเดินหน้าต่อ แม้ว่าจะมีตัวเลขของผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในจังหวัดภูเก็ต เพิ่มขึ้น แต่พบว่า ส่วนใหญ่มาจากคนในพื้นที่ แคมป์ก่อสร้าง หรือผู้ที่เดินทางข้ามจังหวัด ซึ่งปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาตามโครงการนี้ เพราะจากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมที่เดินทางเข้ามาภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์นั้น อยู่ที่ประมาณ 13,281 คน พบว่า ติดเชื้อใหม่เพียง 1 คน ส่วนผู้ติดเชื้อชาวต่างชาติสะสม มีจำนวน 30 คน และตรวจพบเชื้อตั้งแต่วันแรกที่เดินทางเข้ามา และถูกส่งเข้ารับการรักษาแล้ว อย่างไรก็ตาม จังหวัดภูเก็ตได้ยกระดับมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ควบคุมการเดินทาง เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 - 16 ส.ค. 2564 ยกเว้นบางกรณีที่สามารถเข้าพื้นของจังหวัดได้ เช่น รถฉุกเฉินทางการแพทย์ ขนส่งยา เวชภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภค แก๊สหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง ขนส่งเงินของธนาคาร หรือผู้ที่มีความจำเป็น เป็นต้น ถือเป็นการปิดการเดินทางเข้า-ออกจังหวัด แต่ไม่ได้ปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แต่อย่างใด เพื่อให้การควบคุมโรคมีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ และเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและคนภูเก็ตทุกคน

นายธนกร กล่าวต่อว่า ในส่วนของสมุยพลัสโมเดล กรณีที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 บนเกาะสมุย จำนวน 54 รายนั้น เป็นคลัสเตอร์ร้านอาหาร ซึ่งทางจังหวัดก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ยืนยันว่าสมุยพลัสโมเดลยังดำเนินการต่อไปได้ เนื่องจากกลุ่มที่ติดเชื้อไม่ได้มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติโครงการสมุยพลัสโมเดล และไม่ใช่นักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่ข้ามไปจากจังหวัดภูเก็ตด้วย ขอให้มั่นใจในโครงการดังกล่าวว่าสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติตามโครงการสมุยพลัสโมเดล และภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่เดินทางเข้าเกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่านั้น อยู่ที่ประมาณ 200 คน โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาต่างพอใจ รู้สึกผ่อนคลายกับทัศนียภาพรอบเกาะ และไม่ได้มีความกังวลใดๆ


นายธนกร กล่าวอีกว่า ท่านนายกฯ ขอให้เชื่อมั่นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวโดยเน้นพื้นที่ปลอดภัย และเตรียมขยายพื้นที่เดินหน้าต่อในการเปิดเกาะพีพี เกาะไหง และไร่เลย์ ของจังหวัดกระบี่ และเขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ ของจังหวัดพังงา ตั้งเป้าภายในเดือนสิงหาคมนี้ ในส่วนของพื้นที่ของเกาะนั้นมีความพร้อม ประชาชนตามเกาะฉีดวัคซีนแล้ว 70 - 100% และเป็นพื้นที่ไม่พบผู้ติดเชื้อ โดยระยะแรกจะให้ประชาชนคนไทยที่ฉีดวัคซีนครบโดสและมีผลการตรวจ Swab ภายในระยะเวลาที่กำหนด ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาจะมาจากกลุ่มภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์และสมุยพลัสโมเดลก่อน เชื่อว่าจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มมากขึ้น โดยยึดแนวทางสร้างความสมดุลระหว่างการเฝ้าระวังความปลอดภัยสุขภาพอนามัย และการส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพื่อคนไทยทุกคน ตามเจตนารมณ์ของท่านนายกฯ ดังนั้น ขอให้ช่วยกันสร้างบรรยากาศที่ดีเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว และร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจเดินหน้าต่อไป.
#3788



ในงวดวันที่ 16 สิงหาคม 2564 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ณ อาคารออกรางวัล สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จังหวัดนนทบุรี ประชาชนที่สนใจรับชมการถ่ายทอดสดได้ทางสถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป รับฟังการถ่ายทอดเสียงทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ AM ความถี่ 891 กิโลเฮิรตซ์ และสามารถรับชมผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล www.glo.or.th แอปพลิเคชันของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล "GLO Lottery official" ตั้งแต่เวลา 14.30 น. เป็นต้นไป

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะเปิดให้ผู้ที่ลงทะเบียนแล้วทำรายการซื้อสลากงวดวันที่ 16 สิงหาคม 2564 ในวันที่ 4 สิงหาคม 2564 และจองล่วงหน้าสลากงวดวันที่ 1 กันยายน 2564 ในวันที่ 5-6 สิงหาคม 2564 ผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคารกรุงไทย

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดให้ลงทะเบียนจองคิวเพื่อขอรับเงินรางวัลสลากงวดวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ผ่านเว็บไซต์ www.glo.or.th หรือแอปพลิเคชัน GLO Lottery โดยเริ่มจองคิวได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2564 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป เพื่อให้ผู้ถูกรางวัลได้รับบริการที่สะดวกและเว้นระยะห่างตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19

เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ผู้ถูกรางวัลสามารถรับเงินรางวัลได้ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ สามารถขึ้นเงินรางวัลงวดปัจจุบันได้ทุกรางวัลยกเว้นรางวัลที่ 1 โดยมีค่าธรรมเนียมการให้บริการจากผู้ขอรับเงินรางวัล ในอัตราร้อยละ 1 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร. 0-2528-9999

สำนักงานสลากฯ ขอเตือนตัวแทนจำหน่าย และผู้ซื้อจองล่วงหน้าฯ การนำสลากไปขายต่อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์หรือเว็บไซต์ต่างๆ เป็นการกระทำที่ผิดเงื่อนไขในสัญญา และหลักเกณฑ์การรับสลากไปจำหน่าย

สำนักงานสลากฯ ขอเตือนผู้ซื้อสลาก การซื้อสลากผ่านช่องทางดังกล่าว หากยังไม่ได้รับสลากมาไว้ในครอบครอง เมื่อถูกรางวัลท่านอาจไม่สามารถนำสลากมารับเงินรางวัลได้

https:// www.thairath.co.th/news/local/2150636
#3789



เลขาธิการ คปภ. ออกคำสั่งนายทะเบียนด่วน ให้ผู้เอาประกันภัยที่สามารถแยกกักตัวที่บ้าน Home Isolation ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เคลมค่ารักษาพยาบาลได้ คปภ. ผนึกกำลังภาคธุรกิจประกันภัย ช่วยเหลือประชาชนสู้โควิด-19 พร้อมหนุนภาครัฐใช้มาตรการ Home Isolation แก้ปัญหาวิกฤตเตียงโรงพยาบาลไม่เพียงพอ

ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย เข้าสู่ระลอก 3 ที่กระจายไปทั่วเป็นวงกว้าง และเกิดคลัสเตอร์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำนักงาน คปภ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ออกคำสั่งนายทะเบียนที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับมาตรการของรัฐบาลที่ได้ปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้เอาประกันภัย โดยการขยายความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ขยายความคุ้มครองการรักษาพยาบาลเนื่องจากการติดเชื้อโควิด-19 ในโรงพยาบาลสนามหรือ hospitel ให้ได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัย

เช่นเดียวกับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลทั่วไป และขยายความคุ้มครองกรณีผลกระทบจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่กระทำการโดยแพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรที่ได้รับการอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทย ไม่ว่าจะดําเนินการ ณ สถานที่ใดก็ตาม ให้ได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัย เช่นเดียวกับการฉีดวัคซีนในโรงพยาบาลทั่วไป



อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ยังคงไม่คลี่คลายและทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้จำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยติดเชื้อไม่เพียงพอ การเพิ่มโรงพยาบาลสนามหรือ hospitel ไม่ทันกับการเพิ่มจำนวนของผู้ป่วยติดเชื้อ และสิ่งที่สำคัญคือบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องทำงานหนักมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยมีหลายรายต้องติดเชื้อ ทำให้มีจำนวนไม่เพียงพอต่อการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ รัฐบาลจึงได้มีแนวทางปรับการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้ออกแนวทางการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ให้ได้รับการดูแลรักษาแบบ Home Isolation หรือแบบ Community Isolation



ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพและการประกันภัย COVID-19 ที่มีอยู่ในปัจจุบัน พบว่า ยังไม่ครอบคลุมถึงกรณีการดูแลรักษาแบบ Home Isolation หรือแบบ Community Isolation ซึ่งย่อมทำให้ผู้เอาประกันภัยซึ่งเข้ารับการดูแลรักษาแบบ Home Isolation หรือแบบ Community Isolation ไม่สามารถเคลมประกันได้ ดังนั้น เพื่อความเป็นธรรมและให้ระบบประกันภัยเข้าไปบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน อีกทั้งเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของภาครัฐและบุคลากรทางการแพทย์ สำนักงาน คปภ. จึงได้ประชุมหารือร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทย

โดยได้ข้อสรุปร่วมกันว่า ระบบประกันภัยควรจะเข้าไปช่วยเหลือในเรื่องนี้ ตนในฐานะนายทะเบียนจึงได้ออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 43/2564 เรื่อง การจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และได้เข้ารับการดูแลรักษาพยาบาลแบบ Home Isolation หรือแบบ Community Isolation สำหรับบริษัทประกันชีวิต และคำสั่งนายทะเบียนที่ 44/2564 เรื่อง การจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และได้เข้ารับการดูแลรักษาพยาบาลแบบ Home Isolation หรือแบบ Community Isolation สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการให้ความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย ทั้งนี้ หากตรวจพบว่าผู้เอาประกันภัยติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งมีการดูแลรักษาแบบดังกล่าว โดยกรณีกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก ให้สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลจากวงเงินความคุ้มครองผู้ป่วยนอกตามความจำเป็นทางการแพทย์และที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินผลประโยชน์ในกรมธรรม์ หรือกรณีตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในให้อนุโลมจ่ายค่ารักษาพยาบาลแบบการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยนอก ตามความจำเป็นทางการแพทย์และที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินผลประโยชน์ในกรมธรรม์



ส่วนกรณีกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีเป็นผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ก็ให้อนุโลมจ่ายค่ารักษาพยาบาลแบบการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยนอกตามความจำเป็นทางการแพทย์และที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินผลประโยชน์ในกรมธรรม์ นอกจากนี้ ยังให้บริษัทประกันภัยจ่ายค่าชดเชยรายวันกรณี Home Isolation หรือ Community Isolation หากมีความจำเป็นทางการแพทย์ที่ต้องรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในในสถานพยาบาล เช่น อยู่ในกลุ่มเสี่ยงแต่ไม่มีสถานพยาบาลรองรับ โดยจ่ายตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองค่าชดเชยรายวัน สูงสุด 14 วัน นับแต่วันที่มีความจำเป็นทางการแพทย์ที่ต้องรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในในสถานพยาบาลแต่ไม่มีสถานพยาบาลรองรับ อีกทั้งคำสั่งนายทะเบียนนี้ยังเปิดช่องให้บริษัทประกันภัยสามารถจ่ายเพิ่มเติมได้ตามที่เห็นสมควร นอกเหนือจากการจ่ายตามที่คำสั่งกำหนด โดยคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าว มีผลใช้บังคับกับสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัยที่บริษัทได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน ซึ่งบริษัทออกให้แก่ผู้เอาประกันภัย ทั้งก่อนและหลังวันที่มีคำสั่ง (วันที่ 29 กรกฎาคม 2564) จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564

"การออกคำสั่งนายทะเบียนทั้งสองฉบับนี้ เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สำหรับการดำเนินการต่อไปเพื่อให้ระบบประกันภัยสามารถรองรับความเสี่ยงในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้สอดคล้องกับมาตรการทางด้านสาธารณสุข สำนักงาน คปภ. จะได้เร่งส่งเสริมให้มีการพัฒนากรมธรรม์ประกันภัยให้ครอบคลุมถึงกรณีการดูแลรักษาแบบ Home Isolation หรือแบบ Community Isolation ต่อไป ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือ Add Line Official @oicconnect" เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย
#3790



รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้ง ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงต่อเนื่อง ล่าสุดวันที่31 ก.ค.ติดเชื้อเพิ่ม18,912 ราย เสียชีวิต 178 ราย ขณะที่มาตรการตามข้อกำหนดฉบับที่28 ให้มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่20 ก.ค.จะครบเวลาประเมินสถานการณ์อย่างน้อย14 วัน ตามประกาศ ในวันที่2 ส.ค.นี้ 

 ในวันที่1 ส.ค.นี้ เวลา13.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019(โควิด-19)หรือศบค. จะเป็นประธานประชุมศบค. ครั้งที่11/2564 ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ผ่านระบบซูมจากบ้านพักกรมทหารราบที่1 


โดยจะพิจารณาวาระต่างๆ และมาตรการที่ประกาศตามข้อกำหนด ฉบับที่28 ที่มีผลบังคับใช้มาแต่วันที่20 ก.ค.โดยเฉพาะการล็อกดาวน์ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ที่จะยังคงมาตรการไว้ต่อเนื่องไประยะเวลาหนึ่ง ตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอ หากล็อกดาวน์เข้มข้นและมีประสิทธิภาพจะลดจำนวนการติดเชื้อลงได้ หากไม่ล็อกดาวน์ตัวเลขจะยิ่งพุ่งสูงขึ้น

ทั้งนี้ คาดว่าจะมีหารือปรับระดับพื้นที่จ.สีแดงเข้ม เพิ่มเติมหลังพบว่าหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากการเดินกลับภูมิลำเนา


รวมถึงจะพิจารณาผ่อนปรนบางมาตรการ เช่น ขายอาหารในห้างสรรพสินค้า ให้ขายแบบเดลิเวอรี่สั่งกลับบ้านเท่านั้น โดยจะเข้มงวดมาตรการป้องกันส่วนบุคคลของพนักงานในครัวมากขึ้น นอกจากนั้นติดตามการจัดสรรวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชนในกลุ่มเสี่ยง กลุ่มแรงงาน รวมถึงจัดสรรวัคซีนให้บุคลากรการแพทย์ด่านหน้าและกลุ่มเป้าหมาย และการติดตามความคืบหน้าหลังการปรับแผนการฉีดวัคซีน
#3791



อาการนอนไม่หลับสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย มีหลายปัจจัยที่ทำให้นอนไม่หลับ หากเป็นติดต่อกันนานๆ จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและประสิทธิภาพในการทำงานของสมองลดลง ใครที่มีอาการดังกล่าวไม่ควรนิ่งนอนใจ หากปล่อยไว้อาจกลายเป็นอาการนอนไม่หลับเรื้อรังได้ 

โรคนอนไม่หลับ (Insomnia) มีหลายแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกง่วงมากแต่นอนไม่หลับ สมองไม่หยุดคิด นอนหลับตื้นแล้วตื่นกลางดึกบ่อยๆ หรือใช้เวลานานกว่าจะข่มตาหลับ หากรู้สึกว่าอาการเหล่านี้รบกวนคุณภาพของการนอน ก็เป็นไปได้ว่ามีความผิดปกติในวงจรการหลับ โดยแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ดังนี้

นอนหลับยาก - ต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะหลับ
หลับไม่ทน - ตื่นกลางดึกแล้วไม่สามารถนอนหลับต่อได้
หลับๆ ตื่นๆ - เคลิ้มๆ หลับเป็นพักๆ รู้สึกเหมือนไม่ได้นอนหลับเลยตลอดคืน

สาเหตุของการนอนไม่หลับ มีอะไรบ้าง?
ปัจจัยที่ทำให้นอนไม่หลับในเวลากลางคืนมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน ซึ่งหากนอนไม่หลับติดต่อกันบ่อยๆ ก็จะทำให้รู้สึกอ่อนล้า เพลีย ไม่มีสมาธิ ความจำไม่ดี ส่งผลให้สมองไม่มีประสิทธิภาพในการควบคุมการทำงานของร่างกาย อาจทำให้เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุระหว่างวันได้ สำหรับสาเหตุที่ทำให้นอนไม่หลับ เกิดจากปัจจัยต่อไปนี้

ปัจจัยทางร่างกาย : มีไข้ มีอาการเจ็บป่วย เจ็บปวดบริเวณต่างๆ ของร่างกาย จนทำให้นอนหลับยาก
ปัจจัยทางจิตใจ : ความวิตกกังวล ความเครียด โรคไบโพลาร์ โรคซึมเศร้า ฯลฯ
ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม : ห้องมีแสงสว่างมากเกินไป มีเสียงดังรบกวนการนอน ดื่มเครื่องดื่มกาเฟอีน เล่นเกมและเล่นมือถือก่อนนอน กินอาหารที่ย่อยยาก ออกกำลังกายหนักก่อนนอน เป็นต้น

วิธีแก้อาการนอนไม่หลับ ฝึกนิสัยการนอนใหม่ตั้งแต่วันนี้
นอนไม่หลับทำไงดี? หากเข้านอนแล้ว แต่หลังจากผ่านไป 30 นาที ก็ยังไม่สามารถข่มตาหลับได้ ให้ลุกขึ้นไปหากิจกรรมผ่อนคลายก่อนนอน เช่น ฟังเพลงสบายๆ อ่านหนังสือ นั่งสมาธิ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่กระตุ้นความเครียดและความรู้สึกตื่นตัว เพราะจะทำให้นอนหลับยากกว่าเดิม และที่สำคัญควรปรับนิสัยการนอนเสียใหม่ เพื่อทำให้การนอนหลับพักผ่อนในแต่ละคืนมีคุณภาพมากขึ้น เช่น

ไม่ควรนอนกลางวันนานเกินไป หากต้องการงีบพักผ่อนก็ให้ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง
ไม่ควรนอนกลางวันหลังเวลา 15.00 น. เป็นต้นไป เพราะจะทำให้นอนหลับยากในกลางคืน
ในวันหยุดก็ควรเข้านอนและตื่นนอนเวลาเดิมอยู่เสมอ 
หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนในช่วงเย็น ช่วงหัวค่ำ และก่อนนอน
จัดห้องนอนให้มืดสนิท บรรยากาศเงียบไม่มีเสียงรบกวน
ฝึกเล่นโยคะ นั่งสมาธิ และผ่อนลมหายใจเข้า-ออก จะช่วยให้หลับง่ายขึ้น
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักก่อนนอน
ปิดสัญญาณอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือ เพื่อไม่ให้เสียงแจ้งเตือนรบกวนการนอน

เครื่องดื่มช่วยให้นอนหลับ มีอะไรบ้าง?
นอนไม่หลับ ควรกินอะไรดี? หลายคนอาจจะเคยลองมาทุกวิธีแล้ว แต่ก็ยังนอนไม่หลับเหมือนเดิม ก็สามารถหันมาแก้ปัญหาด้วยการ "กิน" ได้เช่นกัน บางคนอาจรู้สึกหิวกลางดึกจนนอนไม่หลับ แต่ก็ไม่อยากลุกขึ้นมากินข้าวมื้อดึก ก็ให้เปลี่ยนมากินกล้วยสุก 1 ผล หรือโยเกิร์ต 1 ถ้วย เพื่อให้กลับไปนอนหลับสบายมากขึ้น

นอกจากนี้ ก็ยังมีอาหารอื่นๆ ที่หากกินก่อนนอน จะช่วยให้นอนหลับง่าย และส่งผลดีต่อระบบการย่อยอาหารอีกด้วย เช่น ชาคาโมมายล์  น้ำผึ้ง ซีเรียล ธัญพืช รวมถึงถั่วและอัลมอนด์ ซึ่งช่วยลดความเครียด ทำให้รู้สึกนอนหลับง่ายขึ้นนั่นเอง


อย่างไรก็ตาม การรักษาอาการนอนไม่หลับของแต่ละคนมีวิธีที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้รู้สึกนอนไม่หลับ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปรับเปลี่ยนนิสัยการนอนเสียใหม่ แต่หากโรคนอนไม่หลับรบกวนจิตใจ หรือส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ก็อาจจะต้องไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ที่มา : โรงพยาบาลเปาโล, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
#3792
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาด กนง.'คงดอกเบี้ย0.50%'ในการประชุม4ส.ค.64


"ศูนย์วิจัยกสิกรไทย"ประเมินว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 4 ส.ค. นี้ กนง. จะพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญความเสี่ยงอย่างมากจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งส่งผลให้การแพร่ระบาดมีแนวโน้มควบคุมได้ยากขึ้น

ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ระบบสาธารณสุขของไทยเผชิญข้อจำกัดมากขึ้น คาดว่าภาครัฐจึงจำเป็นต้องต่ออายุมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและการจ้างงาน และมีผลกระทบต่อเนื่องไปยังกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคให้ทรุดตัวไปกว่าเดิม

ดังนั้น มาตรการทางการเงินแบบผ่อนคลายยังคงมีความจำเป็นในการช่วยประคับประคองเศรษฐกิจควบคู่ไปกับมาตรการทางการคลังที่ออกมาเพิ่มเติม ซึ่งในการประชุมกนง.ที่จะถึงนี้ คาดว่ากนง. น่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% เพื่อเก็บกระสุนไว้ใช้ในยามสถานการณ์เศรษฐกิจแย่ลงไปกว่านี้ ท่ามกลางความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน (policy space) ที่มีจำกัด

ในขณะเดียวกัน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) น่าจะยังคงมุ่งเน้นการใช้มาตรการที่ตรงจุดเพื่อช่วยลดภาระหนี้สินของภาคธุรกิจและครัวเรือน โดยล่าสุดธปท. ร่วมกับสมาคมธนาคารไทยและสมาคมธนาคารนานาชาติได้เห็นร่วมกันออกมาตรการเร่งด่วนด้วยการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้ SMEs และ รายย่อย เป็นระยะเวลา 2 เดือนให้กับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ทั้งในพื้นที่ควบคุมฯ และนอกพื้นที่ควบคุมฯ ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ

 อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์เศรษฐกิจแย่ลงกว่าที่คาด กนง. คงเผชิญแรงกดดันให้ออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมในระยะข้างหน้า โดยการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายยังคงเป็นทางเลือกหนึ่งที่กนง. อาจนำมาพิจารณา

ทั้งนี้ หากสถานการณ์การแพร่ระบาดยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปลายไตรมาส 3ปี2564 และส่งผลให้ทางการยังจำเป็นต้องต่ออายุมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดต่อไปในระยะข้างหน้า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับความเสี่ยงเชิงลบเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งทางภาครัฐคงจำเป็นต้องออกมาตรการทางการเงินและการคลังเพิ่มเติมเพื่อเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจ

โดยธปท. น่าจะยังคงมาตรการเฉพาะจุดที่ช่วยลดภาระหนี้สิน เช่น การพักชำระหนี้ ต่อไป ขณะที่ มีความเป็นไปได้ที่กนง. อาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะข้างหน้าหากมีความจำเป็น เนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะช่วยลดภาระทางการเงินของครัวเรือนและภาคธุรกิจอย่างทั่วถึง

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อโลกขาขึ้น และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณถอนนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเร็วกว่าที่คาด อาจนำมาซึ่งความท้าทายในการดำเนินนโยบายทางการเงินของธปท. โดยนโยบายการเงินของเฟดที่เปลี่ยนไปในทิศทางเข้มงวดมากขึ้นจะส่งผลให้มีเงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ (Emerging markets)ซึ่งการที่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าประเทศ อื่นๆ อันส่งผลให้กนง. อาจจำเป็นจะต้องพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยนโยบายสวนทางกับธนาคารกลางอื่นๆ จะยิ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดเงินทุนไหลออกจากตลาดเงินไทย และอาจเป็นปัจจัยกดดันค่าเงินบาทในระยะข้างหน้า 
#3793



ปังตั้งแต่เริ่มจริงๆ สำหรับค่ายดัง genie records ที่ขอรัวกลองต้อนรับวงร็อกน้องใหม่ "BOMB AT TRACK" (บอมบ์ แอท แทร็ค) เข้าสู่บ้านหลังใหญ่ ประกอบด้วยสมาชิก 5 คน เต้-วงศกร เตมายัง (นักร้องนำ), เมษ-ภควรรษ ประเสริฐศักดิ์ (กีตาร์), ปุ้ย-ปราชญานนท์ ยุงกลาง (กีตาร์), ข้น-ศาสตร์ พรมุณีสุนทร (เบส) และ นิล-สิรภพ เลิศชวลิต (กลอง) หลังโดนกระชากหน้ากากเผยโฉมว่าเป็นมือดีที่บุกอาละวาดห้องทำงานป๋าเต็ด ไปในวันครบรอบ 5 ปี ของวง เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา 

งานนี้เปิดฉากแนะนำตัวอย่างเป็นทางการด้วยการปล่อยเพลงและมิวสิกวิดีโอสุดแสบ "บ้ายอ" เพื่อให้เห็นถึงตัวตนที่มาพร้อมกับอาวุธทางดนตรีสไตล์ RAP METAL แถมยังแสดงฝีมือแต่งเนื้อเพลงทั้งหมดเองอีกด้วย นับเป็นวงร็อกวัยรุ่นเลือดใหม่ที่น่าจับตามองของยุคนี้เลยทีเดียว


เต้-วงศกร นักร้องนำของวงได้พูดถึงแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงว่า "ผมนึกถึงสถานการณ์ที่คนผู้น้อยคอยประจบเจ้านายเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตัวเองต้องการ คำว่าบ้ายอมันเลยผุดขึ้นมาในใจผมครับ ผมจึงตั้งใจหยิบประเด็นนี้มาต่อยอดเป็นเพลงบ้ายอซึ่งเพลงก็จะพูดถึงคนที่มีอำนาจ มีพวกพ้องไว้คอยสรรเสริญเยินยอและเรียกใช้จนลืมตัว จนเป็นต้นตอของปัญหาที่ตามมาอีกมากมาย ทั้งเนื้อร้อง ทำนอง และดนตรีเพลงนี้ ถูกขึ้นโครงไปพร้อมๆกัน จากโจทย์ของวงที่อยากได้ซาวด์ที่เป็นเอกลักษณ์และแตกต่างจากอัลบั้มที่เราเคยทำ"


"นอกจากนี้เรายังได้ พี่มิน-ศิวโรจน์ จิตตนิยมพาณิชย์ (Minerva Recording Studios) มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ และได้ Ted Jensen (Sterling Sound) Mastering Engineer ที่เคยทำงานให้กับ Green Day, Madonna และศิลปินระดับโลกอีกหลายคน มาจบขั้นตอน Mastering ให้วงของพวกเรา จนในที่สุดวง BOMB AT TRACK ก็ได้ซาวด์ดนตรีที่มีความเปลี่ยนแปลงและมีเอกลักษณ์เฉพาะวงของเราชัดเจนยิ่งขึ้น แต่อุดมการณ์ในการทำเพลงของพวกเรายังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือพัฒนาการทางดนตรีที่จะเข้มข้นกว่าเดิมครับผม ยังไงก็ฝากแฟนๆ ติดตามผลงานของพวกเราด้วยครับทาง genie records ทุกช่องทางครับ"
 
#3794


รายงานข่าวจากสมาคมประกันวินาศภัยไทย แจ้งว่า วันนี้(30 ก.ค.2564) ได้มีหนังสือเวียนจากสมาคมประกันวินาศภัยไทย ลงนามโดยนายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 เวียนถึงกรรมการผู้จัดการบริษัทประกันวินาศภัยที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ โดยระบุสาระสำคัญว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019(Covid-19)ในปัจจุบันซี่งมีความรุนแรงและได้ขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้ภาครัฐต้องดำเนินการเพิ่มช่องทางการนำผู้ติดเชื้อCOVID-19 เข้าสู่ระบบการดูแลในรูปแบบของการดูแลผู้ติดเชื้อที่บ้าน (Home Isolation)และการดูแลด้วยระบบชุมชน(Community Isolation) จากเดิมที่กำหนดให้เป็นการเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลโรงพยาบาลสนาม หรือโรงแรมที่เป็นโรงพยาบาลกักตัว(Hospitel) เท่านั้น

เนื่องจากระบบการดูแลในรูปแบบที่เพิ่มข้นดังกล่าว ส่งผลทำให้ผู้เอาประกันไม่สามารถขอใบรับรอง แพทย์ จากสถานพยาบาล ได้ และอาจทำให้การดำเนินการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนสำหรับความคุ้มครองกรณีเจ็บป่วยหรือตรวจพบเชื้อ (แบบเจอจ่ายจบ) ไม่ได้รับความสะดวกในสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากในกรมธรรม์ประกันภัยได้กำหนดให้ผู้เอาประกันภัยต้องแสดงหลักฐานใบรับรองแพทย์ ประกอบการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนด้วย สมาคมประกันวินาศภัยไทยจึงใคร่ขอความร่วมมือจากบริษัทสมาชิกในการอนุโลมไม่ต้องเรียกเอกสารใบรับรองแพทย์จากผู้เอาประกันภัยในช่วงเวลานี้ โดยขอให้ใช้เพียงเอกสารมาตรฐานและผ่านการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อให้สามารถยืนยันตัวตนของผู้ที่รับการตรวจหาเชื้อได้และผลการตรวจมีความน่าเชื่อถือ

สมาคมฯขอขอบคุณบริษัทสมาชิกเป็นอย่างสูงที่ได้ร่วมกันพัฒนากรมธรรม์ประกันภัยCovid-19 รูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงให้กับประชาชนและสังคม รวมถึงได้ให้การสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมของสมาคมฯ เพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขตลอดระยะเวลาการแพร่ระบาดของโรคมาอย่างต่อเนื่อง สมาคมฯหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับความร่วมมือจากท่านในโอกาสนี้ เพื่อให้ธุรกิจประกันวินาศภัยได้ทำหน้าที่เป็นส่วนสำคัญในการนำพาประเทศก้าวข้ามผ่านวิกฤติในครั้งนี้
#3795



"ลลิล พร็อพเพอร์ตี้" เผยแม้โควิด-19 ระลอกใหม่จะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น แต่ภาคธุรกิจก็ต้องเดินหน้าต่อ พร้อมปรับแผนรับมือด้วยการปูพรมการตลาดดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งเสริมความสะดวกแก่กำลังซื้อรองรับความต้องการ เชื่อ 'Work from home Function' ยังเป็นคำตอบที่ใช่ของลูกค้าในปัจจุบันและคาบเกี่ยวสู่อนาคต พัฒนาบริการพิเศษ VIP Video Call & Private Tour ให้ผู้บริโภคสามารถคลิกเข้าชมโครงการได้แบบ 360 องศาผ่านออนไลน์แพลตฟอร์ม

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพภายใต้คอนเซ็ปต์ "บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี" เปิดเผยว่า กว่า 1 ปีที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งรุนแรงที่สุดจากวิกฤติ COVID-19 ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจเกิดการชะลอตัวเช่นเดียวกับภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศไทย ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็เช่นกันต้องมีการปรับแผนรับมืออย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2564 ถือเป็นโจทย์ที่ต้องก้าวผ่านไปให้ได้เพราะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดนับจากเกิดการแพร่ระบาด บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวิเคราะห์การตลาด การพัฒนาโครงการพร้อมอยู่ที่มีความหลากหลาย ปรับโฉมการออกแบบให้ตอบโจทย์ Work from home Function รวมทั้งรับเทรนด์การประหยัดพลังงานภายในบ้านด้วย Ecosystem เดินหน้าการตลาดเพิ่มการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ตลอดจนพัฒนาการบริการหลังการขายให้มีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้เอื้อต่อความต้องการและความสะดวกสบายของผู้บริโภคตามสถานการณ์อยู่เสมอ โดยได้นำกลยุทธ์ Data-Driven Marketing มาเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนการทำธุรกิจ เพื่อมอบบ้านที่ตรงตามความต้องการของตลาดในแต่ละช่วงอย่างเหมาะสม "การตลาดแบบ Data-Driven จะช่วยให้องค์กรสามารถบริหารงบประมาณได้ดีและตรงจุดยิ่งขึ้น ทั้งยังนำข้อมูลที่ได้มาศึกษาถึงความต้องการของตลาด สร้างข้อได้เปรียบทางการตลาดและการขายแบบตรงใจ รวมถึงการเลือกใช้สื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง

สำหรับที่ผ่านมาบริษัทได้นำข้อมูลที่ได้มาปรับกลยุทธ์สร้างความแข็งแกร่งให้แก่ออนไลน์ แพลตฟอร์ม และพัฒนารูปแบบบริการที่พร้อมมอบความสะดวกและปลอดภัยผ่านโลกออนไลน์อย่างสมบูรณ์แบบเพื่อให้ลูกค้ายังสามารถเลือกซื้อบ้านได้ผ่าน Private tour แบบ VDO call เพื่อต่อยอดการสร้างโอกาสในการขายอย่างมีประสิทธิภาพในสถานการณ์นี้

"COVID-19 สร้างจุดเปลี่ยนที่สำคัญให้แก่วงการอสังหาริมทรัพย์ของไทยในทุกกลุ่มตลาด เป็นตัวเร่งให้ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคก้าวสู่การตลาดแบบดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งเร็วยิ่งขึ้น จนสร้างประสบการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นกลายเป็น new normal ที่ผู้บริโภคยอมรับและคุ้นเคย ที่สำคัญคือแบรนด์ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าและเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด ทำอย่างไรให้ลูกค้าเลือกซื้อบ้านได้แม้นั่งอยู่ที่บ้านถือเป็นความท้าทายของธุรกิจอสังหาฯ สิ่งนี้คือโจทย์ที่สำคัญที่ผู้ประกอบการต้องเตรียมรับมืออย่างเข้มข้นในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ที่หลายฝ่ายเชื่อว่าจะเป็นช่วงที่ส่งผลกระทบในภาพรวมที่หนักที่สุดช่วงนึงจากปัญหา COVID-19"

โดยการพัฒนาบริการพิเศษ VIP Video Call & Private Tour ให้ผู้บริโภคสามารถคลิกเข้าชมโครงการได้แบบ 360 องศาผ่านออนไลน์แพลตฟอร์มของ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ถือเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับการตอบรับอย่างมากในช่วง COVID-19 "บริษัทเปิดให้ลูกค้าสามารถลงทะเบียนล่วงหน้า (Pre-registration) เพื่อเยี่ยมชมโครงการผ่านระบบ VDO Call เพื่อนำชมโครงการตามที่ลูกค้าต้องการ เปิดโอกาสให้ลูกค้าสอบถามข้อสงสัยได้แบบ real time เพียงคลิก https:// www.lalinproperty.com/visit-vip/ เพื่อลงทะเบียน และกดเลือกโครงการที่ต้องการเยี่ยมชม พร้อมระบุวันและเวลาที่สะดวกในการ VDO Call เจ้าหน้าที่โครงการก็จะติดต่อไปตามวันและเวลาที่นัดหมาย เพิ่มความสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้นในช่วง COVID-19
#3796



นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะกรรมการในคณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อกำกับการปฏิรูปกฎหมายของรัฐบาล เปิดเผยว่า คณะกรรมการได้จัดทำข้อเสนอในการปฏิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วนของประเทศไทยเพื่อใช้เป็นแรงจูงใจที่สำคัญในการชักจูงให้เกิดการลงทุนจากต่างประเทศ รวมทั้งดึงดูดให้คนที่มีความสามารถสูงเข้ามาทำงานและใช้ชีวิตในประเทศไทยซึ่งถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมและฟื้นฟูประเทศไทยหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง

โดยในส่วนนี้ต้อมีการปรับปรุงกฎหมายหลายส่วนโดยเฉพาะเกกณฑ์การซื้อที่อยู่อาศัยและวีซ่าสำหรับผู้พำนักระยะยาว ในส่วนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์ได้เสนอผ่านคณะกรรมการฯไปยังนายกรัฐมนตรีว่าให้มีการปรับปรุงในส่วนของข้อกำหนดเดิมที่ให้ชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทยซึ่งต้อการจะซื้อที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมในประเทศสามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินในประเทศไทยได้ จากเดิมกำหนดว่าจะต้องใช้แหล่งเงินจากภายนอกประเทศเข้ามาซื้อ ซึ่งในส่วนนี้จะช่วยจูงใจให้ต่างชาติเข้ามาทำงานและอาศัยในไทยในระยะยาวมากขึ้น 

และช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้กับภาคอสัหาริมทรัพย์ในปัจจุบันซึ่งในสต็อกของคอนโดเหลืออยู่จำนวนมาก ซึ่งในส่วนนี้ได้มีการหารือกับธนาคารพาณิชย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกรมที่ดินแล้ว โดยขั้นตอนต่อไปจะต้องเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ร.บ.คอนโดฯ คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายใน 1 เดือน ซึ่งในส่วนนี้จะปลดล็อกเฉพาะคอนโคฯก่อนไม่เกี่ยวกับการซื้อบ้านซึ่งในส่วนนั้นมีประเด็นของกรรมสิทธิ์ที่ดินซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปในขณะนี้ 

"นักธุรกิจ และชาวต่างชาติที่ทำงานในเมืองไทยจำนวนหนึ่ง ต้องการที่จะซื้อคอนโดมิเนียมที่มีราคาแพงมากเป็นพรีเมี่ยมแต่กฎหมายกำหนดว่าไม่ให้คนกลุ่มนี้กู้เงินจากสถาบันการเงินในประเทศมาซื้อคอนโดฯ หากสามารถปลดล็อกในส่วนนี้ได้ก็จะช่วยให้สามารถระบายสต็อกคอนโดที่มีอยู่จำนวนมากได้ส่วนหนึ่ง"

สำหรับการต่ออายุคอนโดมิเนียมประเภทการซื้อที่ให้สิทธิการเช่าที่ถือครองกรรมสิทธิ์ตามช่วงระยะเวลาที่กำหนดหรือ "ลีสโฮลด์" (Leasehold) คณะกรรมการฯก็ได้เสนอให้ขยายสิทธิ์จากเดิม 30 ปี เป็น 50 ปีเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันและการขยายระยะเวลาเช่ากรรมสิทธิ์ให้ยาวขึ้นก็จูงใจให้มีการทำธุรกรรมในรูปแบบนี้มากขึ้น

สำหรับการแก้ไขเรื่องการให้วีซ่าของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการมาอาศัยระยะยาวในประเทศไทย (long stay Visa) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เกษียณอายุหรือเป็นกลุ่มที่มีอายุมากไม่ได้ทำงานแล้วเข้ามาพักผ่อนในประเทศไทยแบบระยะยาว ได้เสนอให้มีการพิจารณาปรับปรุงจากการให้วีซ่าในระยะเวลา 1 ปีต่อครั้ง เป็น 5 ปีต่อครั้งซึ่งจะจูงใจกลุ่มผู้สูงอายุในกลุ่มประเทศแสกนดิเนีวยร์ ญี่ปุ่น และออสเตรเลียให้มาอยู่ในประเทศไทยได้มากขึ้น ซึ่งเมื่อกลุ่มนี้มาอยู่ในระยะยาว 5 ปีก็จะคิดเรื่องการซื้อที่อยู่อาศัยซึ่งกฎเกณฑ์เรื่องการกู้เงินเพื่อซื้อคอนโดในประเทศไทยได้ก็จะเอื้อให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

นายกอบศักดิ์กล่าวต่อว่าในส่วนของการผลักดันเรื่องการปฏิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วน และการตัดลดกฎหมายที่ไม่จำเป็น (regulatory guillotine) ได้ทำงานร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ซึ่งจากการศึกษาพบว่าข้อกฎหมายที่ไม่มีความจำเป็น ไม่ทันสมัยหรือเข้ากับสถานการณ์ซึ่งพบว่ามีอยู่ประมาณ 1,000 กระบวนงานข้อกฎหมาย คำสั่ง หรือกฎกระทรวงต่างๆ ที่เป็นปัญหา

ซึ่งได้ส่งแบบสอบถามไปยังหน่วยงานต่างๆที่เป็นเจ้าของกฎหมายแล้วซึ่งมีการสอบถามว่าจะปรับเปลี่ยน แก้ไขได้อย่างไรซึ่งมีการตอบกลับมาแล้ว 50% 30% มีความเห็นด้วยว่าจะต้องแก้ไขปัญหาและจำนวนไม่น้อยขั้นตอนจำนวนมากสามารถแก้ไขได้ที่หน่วยงานราชการนั้นเองให้มีความรวดเร็วขึ้น คล่องตัวขึ้น เหมือนกับการทำ 5 ส. ส่วนที่ไม่สามารถแก้ไขได้ต้องแก้กฎหมายก็จะมีการเสนอให้รัฐบาลดำเนินการต่อไป

อย่างไรก็ตามในส่วนที่สามารถแก้ไขได้จากการปรับลด แก้ไขกระบวนงานซึ่งลดลงได้ 20 - 30% จะได้เกือบ 200 - 300 ข้อ ซึ่งหากคิดเป็นการลดต้นทุนของประชาชนและภาคธุรกิจลงได้กว่า 3 หมื่นล้านบาท โดยในการปรับลดกฎหมายและตัดลดกฎหมายที่ไม่จำเป็นหรือแนวทาง "5 ส.กฎหมาย" ในส่วนของราชการ ได้วางแนวทางในการพิจารณาของหน่วยงานราชการไว้ 3 ข้อได้แก่

1.เป็นระเบียบ ข้อกำหนดที่ไม่มีกฎหมายรองรับ

2.เป็นกฎหมายที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนาธุรกิจ

และ 3.เป็นกฎหมายไม่เหมาะสมกับยุคสมัย 

"หลายประเทศในอาเซียนกำลังให้ความสำคัญและจริงจังกับการปฎิรูปและสะสางกฎหมายที่ไม่มีความจำเป็น เป็นภาระให้ประชาชน ภาคธุรกิจ หรือเป็นกฎหมายที่ล้าสมัย เนื่องจากทุกประเทศรับทราบข้อมูลที่ตรงกันว่าการดำเนินการปฏิรูปกฎหมายจะมีผลต่อการดึงดูดการลงทุน และขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและมีผลต่อการจัดอันดับความยากง่ายในการดำเนินธุรกิจ (Ease of doing business) ซึ่งหากประเทศไทยไม่ดำเนินการในเรื่องนี้ก็จะเสียเปรียบและตกขบวนการพัฒนาและการลงทุนจากต่างประเทศที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน"นายกอบศักดิ์กล่าว 
#3797



ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (29 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีกำหนดการปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลโดยในเวลา 11.00 น. เวลา 11.00 น.มีกำหนดการพบกับนายอะห์หมัด อับดุลเลาะฮ์ อัลฮาญะรี (Ahmed Adbulla Al-Hajeri) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรบาห์เรนประจำประเทศไทย ที่เข้าอำลานายกรัฐมนตรี ในโอกาสพ้นหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

โดยก่อนกำหนดการดังกล่าวได้เรียกประชุมทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานที่ปรึกษาเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรี และนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เข้าร่วมประชุม  

ทั้งนี้คาดว่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์เศรษฐกิจล่าสุดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่มีดีขึ้น รวมทั้งมีการติดเชื้อในภาคการผลิตโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ รวมทั้งมีการหารือถึงมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมที่อาจจะออกมาในช่วงที่ยังต้องมีการควบคุมการระบาดของโรคต่อเนื่องไปอีกระยะเวลาหนึ่งหลังจากที่การระบาดยังไม่ลดลง


ทั้งนี้ที่ประชุม ครม.ที่ผ่านมาได้มีการออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนจากผลกระทบจากโควิด-19 ได้แก่ มาตรการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของครัวเรือนและประชาชน ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและระดับอุดมศึกษา ภาครัฐและเอกชน กรอบวงเงินรวม 3.3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น มาตรการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กรอบวงเงิน 23,000 ล้านบาท สำหรับนักเรียนในระบบการศึกษาไทย ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564 โดยสนับสนุนค่าใช้สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ปกครอง 2,000 บาท/นักเรียน 1 คน รวมทั้งจัดสรรค่าใช้จ่ายให้แก่สถานศึกษาเพื่อช่วยจัดการเรียนรู้ รวมทั้งลดหรือตรึงค่าใช้จ่ายในโรงเรียนเอกชนให้เท่ากับปีการศึกษา 2563

มาตรการการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของนิสิตนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐและเอกชน ของ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวตกรรม (อว.) กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ นิสิต/นักศึกษาชาวไทย ระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา ในสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐและเอกชน ระยะเวลา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564

มีแนวทางการดำเนินการ ได้แก่สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ จะได้รับส่วนลดเป็นลักษณะร่วมจ่ายระหว่างรัฐและสถาบันอุดมศึกษาในอัตรา 6:4 โดยค่าเล่าเรียน/ค่าธรรมเนียมการศึกษาส่วนที่ไม่เกิน 50,000 บาท ลด 50% 50,001 - 100,000 บาท ลด 30 % และเกิน 100,000 บาท ลด 10% โดยส่วนลดสูงสุดรวมกันไม่เกิน 50% ส่วนสถาบันอุดมศึกษาของเอกชน ค่าเล่าเรียน/ค่าธรรมเนียมการศึกษา รัฐสนับสนุนในอัตรา 5,000 บาท/คน

ครม.ยังได้อนุมัติเพิ่มกรอบวงเงินโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดและพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวม 13 จังหวัด วงเงินรวม 15,027.686 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,522.99 ล้านบาท จากเดิม 13,504.696 ล้านบาท โดยเพิ่มจากเดิม 10 จังหวัด เป็น 13 จังหวัด ซึ่งพื้นที่ 3 จังหวัดที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา พร้อมมอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมเร่งประมาณการจำนวนนายจ้างและผู้ประกันนมาตรา 33 กลุ่มเป้าหมายที่คาดว่าจะขี้นทะเบียนประกันสังคมรายใหม่ด้วย

ทั้งนี้กรอบวงเงินดังกล่าวเป็นเงินช่วยเหลือให้แก่นายจ้างในระบบประกันสังคมใน 9 ประเภทกิจการ ใน 13 จังหวัดกลุ่มเป้าหมาย 7,238.631 ล้านบาท และเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 สัญชาติไทยที่เป็นลูกจ้างในกิจการของนายจ้างตามคุณสมบัติ จำนวน 7,789.055 ล้านบาท ซึ่งทั้งนายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยา ยังจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้
#3798



สมาพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก (เอพีจีซี) ร่วมกับเดอะมาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ และเดอะอาร์แอนด์เอ ผู้จัดการแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ (เอเอซี) ร่วมแถลงข่าวยืนยันการแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ ครั้งที่ 12 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2021 ที่สนามดูไบ ครีก กอล์ฟ แอนด์ ยอชต์ คลับ ในนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หลังจากต้องยกเลิกไปในปี 2020 เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

การแข่งขันกอล์ฟกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2009 เพื่อเป็นเวทีพัฒนานักกอล์ฟสมัครเล่นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยแชมป์รายการนี้จะได้รับเชิญเข้าร่วมแข่งขันในระดับเมเจอร์ รายการเดอะ มาสเตอร์ส และ ดิ โอเพน ขณะที่รองแชมป์จะได้สิทธิ์ลงเล่นรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายลุ้นตั๋วลุยศึก ดิ โอเพน โดยในปี 2020 การแข่งขันถูกยกเลิกเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด -19 ล่าสุดฝ่ายจัดการแข่งขันเผยกำหนดการแข่งขันในปี 2021 จะกลับมาดวลวงสวิงระหว่างวันที่ 3-6 พฤศจิกายนนี้ ณ สนามดูไบ ครีก กอล์ฟ แอนด์ ยอชต์ คลับ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกอล์ฟรายการนี้ โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นหนึ่งใน 42 ประเทศสมาชิกของสหพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก และนครดูไบก็เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกอล์ฟระดับอาชีพและระดับสมัครเล่นทุกปี รวมถึงการแข่งขันรายการ ดูไบ เดเสิร์ต คลาสสิค ของยูโรเปียนทัวร์ และรายการดีพี เวิลด์ทัวร์ แชมเปียนชิพ

ไทมูร์ ฮัสซัน อามิน ประธานสหพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก เฟร็ด ริดลีย์ ประธานมาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ และ มาร์ติน สลัมเบอร์ส ประธานบริหารของอาร์แอนด์เอ กล่าวร่วมกันถึงการจัดการแข่งขันกอล์ฟ เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ 2021 ว่า "การสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เมเจอร์รายการ เดอะ มาสเตอร์ส ในปีนี้ของฮิเดกิ มัตสึยามา ซึ่งเป็นเจ้าของแชมป์เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ 2 สมัย เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการแข่งขันรายการนี้ในฐานะที่เวทีสำหรับการพัฒนากีฬากอล์ฟและความสามารถของนักกอล์ฟสมัครเล่นในภูมิภาค เราขอขอบคุณเป็นอย่างสูงสำหรับสมาพันธ์ฟอล์ฟเอมิเรตส์ และดูไบ ครีก กอล์ฟ แอนด์ ยอชต์ คลับ ที่ให้การสนับสนุนจัดการแข่งขันในปีนี้ และเรามุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดการแข่งขันในปีนี้ได้อย่างปลอดภัยตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อมอบโอกาสที่จะเปลี่ยนชีวิตให้กับนักกอล์ฟสมัครเล่น ที่สมควรได้รับโอกาสเหล่านี้ ขณะที่สนามดูไบครีกจะช่วยยกระดับมาตรฐานสนามที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้ และเราก็เฝ้ารอที่จะได้เห็นการประชันฝีมือของนักกอล์ฟมือสมัครเล่นระดับแถวหน้าของเอเชีย-แปซิฟิกในเดือนพฤศจิกายนนี้"

สำหรับสนามดูไบ ครีก เปิดบริการในปี 1993 เป็นสนาม 18 หลุม พาร์ 71 ซึ่งเริ่มแรกออกแบบโดยคาร์ล ลิตเท่น ก่อนจะมีการออกแบบใหม่ในปี 2004 นำทีมออกแบบโดย โธมัส บียอร์น สนามแห่งนี้เคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการดูไบ เดเสิร์ต คลาสสิค ในปี 1999 และ 2000 และรายการ ดูไบ ครีก โอเพ่น ซึ่งเรย์ฮัน โธมัส รองแชมป์เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ ปี 2018 โชว์ฟอร์มทำสถิติสนามในปี 2017 เมื่อเร็วๆนี้ สนามดูไบ ครีก เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ดูไบ แชมเปียนชิพ รายการในเวิลด์ อเมเจอร์ ทัวร์ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

ด้าน ชีค ฟาฮิม บิน สุลต่าน อัล กอซิมี ประธานสมาพันธ์กอล์ฟเอมิเรตส์ กล่าวว่า "หลังจากได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันกอล์ฟ เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ มาหลายปีในฐานะสมาชิกของสมาพันธ์กอล์ฟ เอเชีย-แปซิฟิก เรารู้สึกตื่นเต้นยินดีมากที่จะได้ต้อนรับการแข่งขันอันทรงเกียรตินี้สู่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นครั้งแรก การแข่งขันรายการนี้มีความหมายอย่างมากกับบรรดานักกอล์ฟมือสมัครเล่นในเอเชีย-แปซิฟิก เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมสนับสนุนสมาพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซฟิก, มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ และอาร์แอนด์เอ ในความพยายามจัดการแข่งขันที่ปลอดภัยและประสบความสำเร็จร่วมกันในการสร้างเวทีเพื่อพัฒนาและส่งเสริมเกมกีฬากอล์ฟ"

คริสโตเฟอร์ เมย์ ประธานประธานกรรมการบริหารของดูไบกอล์ฟ กล่าวว่า "การแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ เป็นการรวมตัวกันของเหล่านักกอล์ฟมือสมัครเล่นระดับแนวหน้าจากทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและทั่วโลก เราภูมิใจที่ได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรผู้ก่อตั้งทัวร์นาเมนต์ เลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในปีนี้ ซึ่งเรามั่นใจว่าการแข่งขันเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ ปีนี้ จะเป็นบททดสอบที่ท้าทายและสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกอล์ฟที่เข้าร่วมชิงชัย และเรากำลังเฝ้ารอที่จะได้เป็นเวทีแห่งการประชันฝีมือของบรรดานักกอล์ฟมือสมัครเล่นระดับแนวหน้าจากทั่วโลกและมีส่วนร่วมในการพัฒนาเกมกีฬากอล์ฟ"

ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 12 ปีของการแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ การแข่งขันรายการนี้คือบันไดก้าวแรกสู่การเป็นผู้เล่นชั้นนำของโลกของนักกอล์ฟหลายคน รวมถึง มัตสึยามา ซึ่งคว้าแชมป์เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ 2 ครั้ง และมาสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟญี่ปุ่นคนแรกที่ได้แชมป์เมเจอร์หลังชนะเลิศรายการมาสเตอร์ส ในปี 2021

ทางด้าน หลิน ยู่ซิน นักกอล์ฟมือสมัครเล่นจากจีน ดีกรีแชมป์ปี 2017 และ 2019 หวังสร้างสถิติเป็นนักกอล์ฟคนแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ 3 สมัย หลังจากเมื่อเร็วๆนี้ ทำผลงานผ่านการตัดตัวในรายการเมเจอร์ ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 149 ที่สนามรอยัล เซนต์ จอร์จส

นักกอล์ฟถนัดซ้ายมือสมัครเล่นอันดับ 16 ของโลก กล่าวกว่า "การแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพเป็นทัวร์นาเมนต์ที่วิเศษมากที่ทำให้ผมมีโอกาสได้ลงเล่นรายการเมเจอร์ทั้งในมาสเตอร์ส และดิ โอเพน ซึ่งผมรู้สึกซาบซึ้งใจและขอบคุณรายการนี้อย่างมาก"
#3799



"เมย์" รัชนก อินทนนท์ ตบขนไก่สาวขวัญใจชาวไทย ทำเสียวเล็กน้อยเมื่อเสียเกมแรกให้กับ โซเนีย เชี๊ยะ จากมาเลเซียไปก่อน แต่สุดท้ายสามารถพลิกกลับมาเอาชนะไปได้ 2-1 จบแชมป์กลุ่ม เอ็น เข้ารอบน็อคเอาต์ไปเจอนักแบดมินตันอินโดนีเซีย

การแข่งขันแบดมินตันในกีฬาโอลิมปิก 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันพุธที่ 28 กรกฎาคม 2564 เป็นการแข่งขันกันในวันที่ 5

ประเภทหญิงเดี่ยว "เมย์" รัชนก อินทนนท์ ขนไก่สาวขวัญในชาวไทย มืออันดับ 6 ของโลก ลงเล่นแมตช์สุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ็น พบกับ โซเนีย เชี๊ยะ มือ 35 ของโลกจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งใครจะชนะเกมนี้จะผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาต์ทันที

เกมแรก โซเนีย เชี๊ยะ เริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยม อาศัยการเล่นที่เหนียวแน่น ขณะที่ รัชนก ตีผิดพลาดเองอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ขนไก่สาวมาเลเซียเก็บเกมแรกไปได้ก่อน 21-19 ขึ้นนำ 1-0

เกมสอง รัชนก อินทนนท์ แก้เกมของตัวเองมาได้ดี ตีผิดพลาดน้อยลง และมีเกมบุกที่หลากหลายขึ้น ก่อนจะเบียดเอาชนะในช่วงท้ายไป 21-18 คะแนน ตีเสมอ 1-1

เกมตัดสิน โซเนีย เชี๊ยะ ดูจะมีความฟิตที่เป็นรอง เคลื่อนที่ได้ช้าลงกว่าในสองเกมแรก ทำให้ รัชนก อินทนนท์ เล่นได้ง่ายขึ้น บุกใส่สาวจากมาเลเซียอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายเป็นขนไก่สาวจากไทยที่เก็บเกมนี้ไปได้ 21-10 คะแนน

ส่งผลให้ รัชนก อินทนนท์ พลิกกลับมาเอาชนะ โซเนีย เชี๊ยะ 2-1 เกม 19-21, 21-18, 21-10 จบแชมป์ของกลุ่ม เอ็น ตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาต์ได้สำเร็จ โดยจะเข้าไปพบกับ เกรกอเรีย มาริสกา ทันจุง มือ 23 ของโลกจากอินโดนีเซีย โดยจะแข่งขันในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป
#3800


นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ(กพศ.)ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 ซึ่งประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน

 โดยมีสาระสำคัญ คือ กพศ.ได้มีมติเห็นชอบในหลักการการกำหนดพื้นที่และแนวทางการให้สิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค ประกอบด้วย ภาคเหนือได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้แก่ ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี และหนองคาย, ภาคกลาง-ตะวันตกได้แก่ พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี และภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช และมอบหมายให้คณะอนุกรรมการด้านสิทธิประโยชน์ กำหนดพื้นที่ และศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ พิจารณากำหนดขอบเขตพื้นที่ของแต่ละระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ กิจการเป้าหมาย และสิทธิประโยชน์ แล้วนำเสนอกพศ.ต่อไป

ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้จังหวัดที่อยู่ในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษของทั้ง 4 ภาค ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีเขตเศรษฐกิจพิเศษ พิจารณาจัดตั้งกลไกการบริหารจัดการในระดับพื้นที่ เพื่อประสานการขับเคลื่อนการพัฒนาให้เป็นไปตามนโยบายของกพศ.ต่อไป

นอกจากนี้กพศ.ยังได้พิจารณาแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ 10 แห่ง ได้แก่ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก สงขลา สระแก้ว ตราด หนองคาย นครพนม มุกดาหาร เชียงราย กาญจนบุรี และนราธิวาส โดยแนวทางการดำเนินงานจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาและเชื่อมโยงฐานการผลิตและบริการกับพื้นที่เศรษฐกิจหลักของประเทศ การจูงใจให้เกิดการลงทุนในพื้นที่อย่างต่อเนื่องและการบริหารจัดการแรงงานและผู้ประกอบการ โดยจะจัดตั้งคณะอนุกรรมการและคณะทำงานเพื่อดำเนินการในด้านต่างๆ เช่น ด้านสิทธิประโยชน์ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น 

ที่ประชุมกพศ. ได้เห็นชอบให้เทศบาลตำบลสำนักขาม ใช้พื้นที่ประมาณ 19 ไร่ ในที่ราชพัสดุในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสงขลาของแปลงที่จะจัดให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.)เช่า(แปลงที่ 2) เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมโยงโครงการนิคมอุตสาหกรรมสงขลากับด่านศุลกากรสะเดา แห่งที่ 2 พร้อมทั้งเห็นชอบให้เปิดประมูลสรรหาผู้ได้รับสิทธิพัฒนาในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก และมอบหมายให้กรมธนารักษ์ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง