ภาวะตลาดหุ้น (https://www.whereonsales.com/%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b8%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2%e0%b8%a1%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%ad%e0%b8%9a%e0%b8%9a%e0%b8%b2%e0%b8%97%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%99%e0%b8%b5/)ลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 41.50 จุด กลุ่มน้ำมัน-เหมืองแร่หนุนตลาด
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพุธ (30 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ แต่ความไม่แน่ใจเกี่ยวกับผลการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครนก็ยังคงกดดันบรรยากาศการซื้อขายโดยรวม
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,578.75 จุด เพิ่มขึ้น 41.50 จุด หรือ +0.55%
หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่นำตลาดปรับตัวขึ้น โดยหุ้นบีพี และหุ้นเชลล์ พุ่งขึ้น 3% และ 4.6% ตามลำดับ หลังราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น
นอกจากนี้ หุ้นเชลล์ยังได้แรงหนุนจากการที่เจ.พี. มอร์แกน ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังคงถูกกดดันจากความไม่แน่ใจเกี่ยวกับการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังจากรัสเซียเปิดเผยในวันพุธว่า ยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงในการเจรจา แม้ขานรับต่อการที่ยูเครนกำหนดข้อเรียกร้องเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อยุติความขัดแย้งก็ตาม
หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวลง 1.3% สวนทางตลาด โดยหุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ร่วงลง หลังโบรกเกอร์ปรับลดคำแนะนำลงทุน