ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN

เครื่องกรองน้ำดื่ม (Water Purifiers)
เครื่องกรองน้ำดื่ม เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยขจัดสิ่งปนเปื้อน เชื้อโรค สารเคมี หรือโลหะต่างๆ อาทิ ตะกั่ว สนิมเหล็ก หรือสารโลหะนัก เป็นต้น ที่เจือปนอยู่ในน้ำดื่ม ซึ่งหากร่างกายของเราได้รับสารเจือปนดังกล่าวในปริมาณมาก อาจจะส่งผลถึงเรื่องของสุขภาพร่างกายของเราได้ ดังนั้นการติดตั้งเครื่องกรองน้ำดื่มไว้ใช้งานตามบ้านเรือน จึงเป็นตัวช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ในน้ำดื่มได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

โดยตามท้องตลาดทั่วไปก็มีเครื่องกรองน้ำคุณภาพจากหลากหลายยี่อให้เลือกใช้งาน อาทิ เครื่องกรองน้ำ Pure, เครื่องกรองน้ำ Stiebel, เครื่องกรองน้ำ Mazuma



ประเภทเครื่องกรองน้ำดื่ม
ก่อนตัดสินใจเลือกเครื่องกรองน้ำมาใช้งานที่บ้าน ก่อนอื่นจะต้องศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับประเภทของเครื่องกรองน้ำดื่มก่อนว่า มีกี่ประเภทและแต่ละประเภทมีคุณสมบัติอะไรบ้าง โดยเครื่องกรองน้ำที่มีวางจำหน่ายตามท้องตลาดปัจจุบันมีให้เลือกอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ เครื่องกรองน้ำดื่มระบบ RO, เครื่องกรองน้ำดื่มระบบ UV และ เครื่องกรองน้ำดื่มระบบ UF ซึ่งคุณสมบัติของเครื่องกรองน้ำแต่ละประเภทก็มีความแตกต่างกัน...



เครื่องกรองน้ำระบบ UV เป็นเครื่องกรองน้ำที่สามารถกรองสิ่งสกปรกและเชื้อโรคที่เจือปนอยู่ในน้ำดื่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการทำงานคือใช้แสง UV จากหลอดไฟยูวีเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกต่างๆออกไป และยังคงแร่ธาตุต่างๆที่จำเป็นต่อร่างกายไว้ด้วย อีกทั้งยังดูแลรักษาง่าย ซ่อมแซมเปลี่ยนอะไหล่ตัวเครื่องและแผ่นกรองได้ด้วยตัวเอง ที่สำคัญคือราคาเครื่องกรองน้ำดื่มประเภทนี้ไม่แพงมาก เหมาะกับการนำมาใช้งานตามบ้านเรือนทั่วไป

เครื่องกรองน้ำระบบ RO เป็นเครื่องกรองน้ำที่มีคุณสมบัติในการกรองแร่ธาตุที่จำเป็นและไม่จำเป็นต่อร่างกายออกไปทั้งหมด ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าน้ำที่ผ่านการกรองจากเครื่องกรองน้ำดื่มประเภทนี้จะมีความสะอาดบริสุทธิ์ แต่เครื่องกรองน้ำประเภทนี้จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง เหมาะกับการนำมาใช้กับน้ำที่มีความสกปรกและมีสิ่งเจือปนมาก เช่น บริเวณที่ใช้น้ำบาดาลหรือน้ำดิบตามต่างจังหวัด เป็นต้น

เครื่องกรองน้ำระบบ UF เป็นเครื่องกรองน้ำที่มีขั้นตอนการกรองน้ำ 4-5 ขั้นตอน โดยเป็นการพัฒนาขึ้นมาจากเครื่องกรองน้ำระบบ UV ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ในบางรุ่นอาจจะเปลี่ยนจากระบบ UV เป็นเพิ่มไส้กรองอีกขั้นที่เรียกว่า โพรเทคแบคทีเรีย เข้ามาแทนที่ ช่วยทำให้การกรองน้ำมีความสะอาดบริสุทธิ์ไร้สารเจือปนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนไส้กรองได้ง่ายและสะดวก เหมาะกับการนำมาใช้ในครัวเรือน

พลาสติกกันกระแทก หรือบับเบิ้ลกันกระแทก ผลิตมาจากเม็ดพลาสติกชนิดพิเศษ โดยผ่านเครื่องจักรที่ทันสมัย ทำให้เกิดฟองอากาศซึ่งจัดเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ มีสีขาวใส น้ำหนักเบา โดยบับเบิ้ลกันกระแทกนี้เป็นอุปกรณ์แพ็คกิ้งที่มีความสามารถในการกันน้ำ กันฝุ่น สามารถป้องกันรอยเปื้อนของสารหล่อลื่น และสารเคมี จำพวกน้ำมัน และสารที่มีความเป็นกรดหรือด่างได้ อีกทั้งสามารถใช้ในกรณีที่ไม่สามารถหากล่องส่งของ ที่มีขนาดพอดีกับสิ่งของที่ต้องการส่งได้ ก็สามารถเลือกกล่องหรือถุง ที่มีขนาดใหญ่กว่าและเสริมพวกวัสดุห่อหุ้ม อย่างพลาสติกกันกระแทก หรือบับเบิ้ลกันกระแทกเข้าไปเสริม เพิ่มความแน่นหนาด้วยการห่อด้วยพลาสติกใส หรือฟิล์มยืด เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดแรงกระแทกขณะจัดส่งอีกชั้น โดยเฉพาะสินค้าที่แตกหักได้ง่าย เช่น เครื่องแก้ว หรือเซรามิคที่เป็นของตกแต่งบ้าน เป็นต้น และนอกจากคุณสมบัติกันกระแทกแล้ว ยังมีคุณสมบัติป้องกันรอยขีดข่วนได้อีกด้วย

ขนาดของพลาสติกกันกระแทก บับเบิ้ลกันกระแทก
เม็ดลมที่อยู่บนพลาสติกกันกระแทก หรือบับเบิ้ลกันกระแทก มีขนาดแตกต่างกันขึ้นอยู่กับขนาดและความเปราะบางของสินค้า โดยทั่วไปการใช้บับเบิ้ลกันกระแทกที่มีเม็ดลมขนาดเล็ก จะใช้สำหรับสินค้าที่เปราะบาง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องแก้ว เป็นต้น ในขณะที่พลาสติกกันกระแทกอีกชนิด ก็คือแผ่นฟิล์มพลาสติกที่มีเม็ดลมขนาดใหญ่กว่า เหนียวกว่า และแตกยากกว่าพลาสติกกันกระแทกทั่วไป มักใช้สำหรับสินค้าเปราะบางมาก แตกหักง่ายมาก หรือสินค้าขนาดใหญ่ เช่น เฟอร์นิเจอร์ และสำหรับพลาสติกกันกระแทก หรือบับเบิ้ลกันกระแทก ที่มีเม็ดลมขนาดเล็ก จะมีขนาดม้วนกว้าง-ยาว ดังนี้

-บับเบิ้ลกันกระแทก ขนาดม้วน กว้าง 1.30 เมตร ยาว 50 เมตร

-บับเบิ้ลกันกระแทก ขนาดม้วน กว้าง 1.30 เมตร ยาว 100 เมตร

-บับเบิ้ลกันกระแทก ขนาดม้วน กว้าง 1 เมตร ยาว 65 เมตร

สำหรับอุปกรณ์แพ็คกิ้งไม่ได้มีเพียงแค่พลาสติกกันกระแทก หรือบับเบิ้ลกันกระแทกเท่านั้นที่เป็นอุปกรณ์กันกระแทก แต่ยังมี ถุงเป่าลมกันกระแทก โฟมกันกระแทกและอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถกันกระแทกได้ดีไม่แพ้กัน โดยเลือกใช้ตามความเหมาะสมของประเภทและขนาดของสินค้า

หน้ากากปิดจมูก (Masks)

หน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากปิดจมูก (Masks) หรือเรียกอีกอย่างว่า  แมสปิดปาก เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยปกป้องไม่ให้ผู้สวมใส่สัมผัสละอองฝอยของน้ำมูกหรือน้ำลาย มลพิษ หรือของเหลวต่างๆ ที่อาจมีเชื้อโรคหรือเชื้อไวรัส และเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นด้วยเช่นกัน สิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งคือไม่ควรเอามือไปสัมผัสกับด้านหน้าของหน้ากากอนามัย เพราะอาจมีสารคัดหลั่งจากผู้ที่ติดเชื้อมาติดก็เป็นได้ พยายามหมั่นล้างมือบ่อยๆและเปลี่ยนหน้ากากอนามัยระหว่างวันหากคุณต้องไปหลายสถานที่

หน้ากากปิดจมูก (Masks)

หน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากปิดจมูก (Masks) เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยปกป้องไม่ให้ผู้สวมใส่สัมผัสละอองฝอยของน้ำมูกหรือน้ำลาย มลพิษ หรือของเหลวต่างๆ ที่อาจมีเชื้อโรคหรือเชื้อไวรัส และเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นด้วยเช่นกัน สิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งคือไม่ควรเอามือไปสัมผัสกับด้านหน้าของหน้ากากอนามัย เพราะอาจมีสารคัดหลั่งจากผู้ที่ติดเชื้อมาติดก็เป็นได้ พยายามหมั่นล้างมือบ่อยๆและเปลี่ยนหน้ากากอนามัยระหว่างวันหากคุณต้องไปหลายสถานที่

หน้ากากอนามัยแต่ละประเภทควรใช้อย่างไรให้ถูกวิธี

ในสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 และยังมีเรื่องของฝุ่น PM 2.5 หน้ากากอนามัย หรือ หน้ากาก N95 จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆสำหรับการใช้ชีวิตในปัจจุบัน ดังนั้นควรใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากกันฝุ่นให้ถูกต้องเมื่อคุณต้องออกไปในที่สาธารณะหรือต้องพบปะผู้คน ไม่ว่าจะที่ใดก็ตาม เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคและเชื้อไวรัสต่างๆที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายของคุณได้ นอกจากนี้หน้ากากยังมีความสำคัญอย่างมากสำหรับงานที่ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลพิษทางอากาศ เช่น งานกู้ภัย หรืองานที่อยู่กับสารเคมีตามโรงงานอุตสาหกรรม การเลือกหน้ากาก N95, หน้ากากกันพิษ, หน้ากากกันสารเคมีหรือหน้ากากครึ่งหน้า ไปใช้งาน เป็นสิ่งที่มีความจำเป็น การสวมใส่หน้ากากที่ถูกประเภทจะสามารถช่วยป้องกันสุขภาพร่างกายของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหน้ากากอนามัยที่มีวางจำหน่ายอยู่นั้นมีให้เลือกอยู่ 5 ประเภทหลักๆด้วยกัน ได้แก่ ...

หน้ากากอนามัยหรือแมสปิดปากมีกี่ประเภท?

หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ สามารถพบเห็นได้ตามสถานพยาบาลทั่วไป ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีแผ่นกรอง Melt-blown ที่มีคุณสมบัติในการป้องกันแบคทีเรียได้ถึง 99% เช่น หน้ากากอนามัย g-lucky ที่มีคุณสมบัติในการกรองได้ทั้งฝุ่น PM 2.5 และ เชื้อแบคทีเรีย
หน้ากากอนามัยคาร์บอน จะมีด้านหนึ่งเป็นสีดำจากคาร์บอน ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นสีขาว มีความสามารถในการป้องกันได้เช่นเดียวกับหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ แต่สิ่งที่พิเศษ คือ มี Activated Carbon ที่ช่วยกรองกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ดีกว่าหน้ากากอนามัยทั่วไป เช่น กลิ่นจากสารเคมี
หน้ากากอนามัย N95 ผลิตจากโพลีโพรพีลีน (Polypropylene) หรือหน้ากาก N95 มีลักษณะครอบบริเวณหน้าปากและจมูกได้อย่างมิดชิด และสามารถป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอนได้ จึงเป็นหน้ากากกันฝุ่นที่มีประสิทธิภาพในการดักจับอนุภาคขนาดเล็ก PM 2.5 และ PM10 ได้เป็นอย่างดี
หน้ากากอนามัยแบบผ้า นิยมใช้เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและสารคัดหลั่งต่างๆได้ แต่ไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคหรือฝุ่นละอองที่มีอนุภาคขนาดเล็ก เช่น PM 2.5 ได้ ซึ่งข้อดีของหน้ากากอนามัยแบบผ้า คือสามารถนำไปซักและนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีก
หน้ากากครึ่งหน้า หรือ หน้ากากกันสารเคมี หรือเรียกอีกอย่างว่า เป็นหน้ากากอีกประเภทที่สามารถเสริมตัวป้องกันอย่างไส้กรองฝุ่นเข้าไปเพิ่มเติม หน้ากากกันสารเคมีเหมาะสำหรับใช้กับการทำงานที่มีความเสี่ยง เช่น ป้องกันอันตรายจากสารเคมี มลพิษทางอากาศ ไม่ว่าจากการเกษตร การก่อสร้าง หรืองานช่าง ในบางรุ่นหน้ากากครึ่งหน้าจะมาพร้อมกับแว่นตาซึ่งเสริมความปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับใช้ในการกู้ภัยต่างๆ ที่สภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยมลพิษทางอากาศ คุณสามารถสั่งซื้อหน้ากากครึ่งหน้าได้ที่ > หน้ากากครึ่งหน้า YAMADA 501 หรือ หน้ากากครึ่งหน้าพร้อมแว่นตา YAMADA 522 หรือ  หน้ากากกันพิษ

กระดาษทิชชู่ หรือ กระดาษชำระ (Tissue Paper)
กระดาษทิชชู่ หรือ กระดาษชำระ เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ทุกคนต้องใช้ในชีวิตประจำวัน และจัดเป็นของใช้อเนกประสงค์ที่ทุกบ้านต้องมีไว้ใช้งาน ด้วยคุณสมบัติที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทั้งเช็ด ซับ ห่อ หรือใช้เช็ดทำความสะอาดคราบสกปรกที่ติดอยู่ตามพื้น เฟอร์นิเจอร์ หรือของใช้ภายในบ้าน กระดาษทิชชู่สามารถหยิบใช้ได้ง่าย สะอาด ปลอดภัย ใช้แล้วทิ้งได้เลยทันที ที่สำคัญคือราคาไม่แพง แต่อย่างไรก็ตามน้อยคนที่จะรู้ว่ากระดาษทิชชู่ หรือ กระดาษชำระ นั้นสามารถจำแนกได้ถึง 4 ประเภท จะมีอะไรบ้างตามมาดูกันเลย !

กระดาษชำระ (Toilet Paper) กระดาษทิชชู่ประเภทนี้ผลิตมาจากเยื่อต้นไม้และเยื่อกระดาษรีไซเคิล ลักษณะนุ่มพอสมควร ส่วนใหญ่กระดาษชำระ มักใช้สำหรับเช็ดชำระหลังจากการขับถ่าย หรือใช้เช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกต่างๆ โดยทั่วไปแล้วกระดาษชำระจะมีให้เลือกใช้งานอยู่ 2 ไซส์คือ แบบม้วนใหญ่ และ แบบม้วนเล็ก กระดาษชำระ เป็นที่นิยมใช้กันตามบ้าน ออฟฟิศ สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

กระดาษอเนกประสงค์ (Paper Towel) กระดาษอเนกประสงค์นี้มักพบเห็นได้ส่วนมากในห้องครัวถือเป็นไอเทมคู่ใจของเชฟทั้งหลาย หรือคนที่เข้าครัวทำอาหารบ่อย ๆ โดยลักษณะจะเป็นกระดาษชำระม้วนใหญ่ แผ่นใหญ่ มีความหนา สำหรับใช้ในการเช็ดคราบอาหาร ซับน้ำมันจากการทอด ผลิตจากเยื่อบริสุทธิ์ 100% ไม่ผ่านการฟอกสี

กระดาษเช็ดหน้า (Facial Tissue) เป็นกระดาษทิชชู่อีกชนิดหนึ่งที่เรามักจะใช้กันบ่อยๆตามบ้าน ลักษณะจะเป็นแผ่นๆ เนื้อกระดาษมี 2 ชั้น ลักษณะจะเป็นกล่องกระดาษสี่เหลี่ยมผืนผ้าสามารถหยิบใช้ได้สะดวก มีจำนวนแผ่นแตกต่างกันออกไป ใน 1 กล่อง บรรจุ 60 , 80 , 180 หรือ 200 แผ่น น้ำหนักต่ำสุด 28 g/m และมีค่า pH ประมาณ 5.5 – 8.5 มีหน้าที่ไว้เช็ดทำความสะอาดผิวหน้า หรือเช็ดเครื่องสำอาง คุณสมบัติของเนื้อกระดาษจึงต้องนุ่ม สะอาด และต้องเหนียวกว่ากระดาษประเภทอื่นๆ เพราะเมื่อนำมาเช็ดหน้าจะต้องไม่ทำให้ผิวหน้าเกิดความระคายเคืองและต้องให้สัมผัสที่อ่อนโยนแก่ผิวด้วย

กระดาษทิชชู่ชนิดเปียก (Wet Wipe) เป็นกระดาษทิชชู่ที่ผสมมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีประสิทธิสูง ขนาดเล็กกะทัดรัด สามารถพกพาได้สะดวก กระดาษทิชชู่เปียกบางยี่ห้อจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เช็ดแล้วให้ความรู้สึกสดชื่นและสะอาด แต่ในบางยี่ห้อก็จะไร้กลิ่นหรือสารเคมี ซึ่งมีความอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า เหมาะสำหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายหรือใช้ในการเช็ดทำความสะอาดผิวของเด็กเล็กก็สามารถใช้งานได้เช่นกัน อีกทั้งยังมีประโยชน์มากทั้งในยามฉุกเฉินและในชีวิตประจำวัน หากต้องเข้าห้องน้ำสาธารณะก็สามารถใช้กระดาษทิชชู่เปียกเช็ดทำความสะอาดฝารองนั่งโถสุขภัณฑ์ก่อนใช้งานเพื่อสุขอนามัยที่ดี นอกจากนี้ยังสามารถเช็ดทำความสะอาดทั้งโต๊ะและเก้าอี้ หลังรับประทานอาหารได้อีกด้วย เพื่อความสะอาดและสร้างความมั่นใจให้กับทุกคนมากยิ่งขึ้น

ก๊อกน้ำ (Faucets)
ก๊อกน้ำ หนึ่งในอุปกรณ์สำคัญในห้องน้ำที่ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในการเปิด-ปิดน้ำ โดยวัสดุที่เลือกใช้ควรเป็นวัสดุที่แข็งแรง มีความทนทาน และไม่เกิดสนิม เพราะก๊อกน้ำเป็นสิ่งที่ต้องโดนน้ำตลอดเมื่อใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นก๊อกเซ็นเซอร์, ก๊อกซิงค์, ก๊อกอ่างอาบน้ำ, ก๊อกยืนอาบ และก๊อกล้างพื้น ในปัจจุบันจะนิยมใช้ก๊อกน้ำที่ผลิตจากสแตนเลสหรือทองเหลืองชุบโครเมียมติดตั้งกันมากขึ้น เนื่องจากมีความทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดี และยังมีลักษณะมันวาว ทนต่อสารเคมีและรอยขีดข่วนได้ดี จึงสามารถใช้งานได้ยาวนานและปลอดภัยจากสารเคมีตกค้าง อย่างโลหะหนักได้อีกด้วย ส่วนเรื่องดีไซน์นั้นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการเลือกซื้อเช่นกัน ทาง HomePro จึงมีก๊อกน้ำให้เลือกมากมายหลายแบบ หลายขนาด ครอบคลุมทุกสไตล์การตกแต่งบ้านของคุณ

ประเภทของก๊อกน้ำและการเลือกซื้อก๊อกน้ำ

การเลือกซื้อก๊อกน้ำแต่ละประเภทก็ขึ้นอยู่กับวัสดุ จุดประสงค์ และสถานที่ของการใช้งาน โดยหลักๆแล้วอาจจะต้องดูในเรื่องของซิลยางและแหวนยางในตัวก๊อกน้ำที่จำเป็นจะต้องมีคุณภาพสูง ทนต่อการใช้งาน และไม่รั่วซึมง่าย และที่สำคัญควรมีระบบเปิด-ปิดเพียงรอบเดียวเพื่อการประหยัดน้ำ

ก๊อกอ่างล้างหน้า (Basin Faucets) โดยก๊อกอ่างล้างหน้า จะมีทั้งแบบก๊อกน้ำหมุนวาล์ว และแบบก๊อกเซ็นเซอร์โดยสามารถแบ่งได้ 3 แบบ ดังนี้

ก๊อกน้ำเดี่ยว ก๊อกน้ำแบบทั่วไป ใช้ได้เฉพาะน้ำเย็นอย่างเดียว

ก๊อกน้ำผสมรูเดี่ยว (ก๊อกน้ำเดี่ยวผสม) ใช้ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น มีจุดเปิด-ปิดจุดเดียว ปรับระดับน้ำร้อน-เย็นโดยการโยกซ้าย-ขวา

ก๊อกน้ำผสมเซ็นเตอร์ (ก๊อกน้ำคู่ผสม) เป็ก๊อกเซ็นเซอร์ที่มีทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น หรือมีวาล์วแยกหมุนเปิด-ปิดวาล์วน้ำร้อนและน้ำเย็นได้

ก๊อกซิงค์ (Sink Faucets) หรือก๊อกน้ำสำหรับอ่างล้างจานในครัว ส่วนใหญ่นิยมใช้กันแบบน้ำเย็นอย่างเดียว โดยก๊อกซิงค์แบบก้านจับเดียวจะช่วยให้ใช้งานได้สะดวกและรวดเร็ว เพียงแค่โยกซ้าย-ขวาเพื่อเปิด-ปิด

ก๊อกอ่างอาบน้ำ (Bathtub Mixers) หรือ ก๊อกผสมอ่างอาบน้ำ ที่ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในการเปิด-ปิดน้ำในอ่างอาบน้ำ ซึ่งมีทั้งเป็นระบบก๊อกเซ็นเซอร์ และยังสามารถควบคุมอุณหภูมิความเย็น-ร้อนของน้ำตามความต้องการของคุณได้อีกด้วย

ก๊อกยืนอาบ (Shower Mixers) หรือ ก๊อกผสมยืนอาบ มีหน้าที่ในการเปิด-ปิดน้ำและควบคุมอุณหภูมิของน้ำ สามารถติดตั้งใช้งานร่วมกับฝักบัวสายอ่อนได้หลากหลายรูปแบบ

ก๊อกล้างพื้น (Shank Faucets) หรือ ก๊อกน้ำเดี่ยว ใช้สำหรับล้างพื้น ล้างรถ รดน้ำต้นไม้ หรือซักผ้า มีทั้งชนิดก๊อกบอลและก๊อกบอลสนามสำหรับสวมสายยาง

กระดาษทิชชู่ หรือ กระดาษชำระ (Tissue Paper)
กระดาษทิชชู่ หรือ กระดาษชำระ เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ทุกคนต้องใช้ในชีวิตประจำวัน และจัดเป็นของใช้อเนกประสงค์ที่ทุกบ้านต้องมีไว้ใช้งาน ด้วยคุณสมบัติที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทั้งเช็ด ซับ ห่อ หรือใช้เช็ดทำความสะอาดคราบสกปรกที่ติดอยู่ตามพื้น เฟอร์นิเจอร์ หรือของใช้ภายในบ้าน กระดาษทิชชู่สามารถหยิบใช้ได้ง่าย สะอาด ปลอดภัย ใช้แล้วทิ้งได้เลยทันที ที่สำคัญคือราคาไม่แพง แต่อย่างไรก็ตามน้อยคนที่จะรู้ว่ากระดาษทิชชู่ หรือ กระดาษชำระ นั้นสามารถจำแนกได้ถึง 4 ประเภท จะมีอะไรบ้างตามมาดูกันเลย !

กระดาษชำระ (Toilet Paper) กระดาษทิชชู่ประเภทนี้ผลิตมาจากเยื่อต้นไม้และเยื่อกระดาษรีไซเคิล ลักษณะนุ่มพอสมควร ส่วนใหญ่กระดาษชำระ มักใช้สำหรับเช็ดชำระหลังจากการขับถ่าย หรือใช้เช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกต่างๆ โดยทั่วไปแล้วกระดาษชำระจะมีให้เลือกใช้งานอยู่ 2 ไซส์คือ แบบม้วนใหญ่ และ แบบม้วนเล็ก กระดาษชำระ เป็นที่นิยมใช้กันตามบ้าน ออฟฟิศ สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

กระดาษอเนกประสงค์ (Paper Towel) กระดาษอเนกประสงค์นี้มักพบเห็นได้ส่วนมากในห้องครัวถือเป็นไอเทมคู่ใจของเชฟทั้งหลาย หรือคนที่เข้าครัวทำอาหารบ่อย ๆ โดยลักษณะจะเป็นกระดาษชำระม้วนใหญ่ แผ่นใหญ่ มีความหนา สำหรับใช้ในการเช็ดคราบอาหาร ซับน้ำมันจากการทอด ผลิตจากเยื่อบริสุทธิ์ 100% ไม่ผ่านการฟอกสี

กระดาษเช็ดหน้า (Facial Tissue) เป็นกระดาษทิชชู่อีกชนิดหนึ่งที่เรามักจะใช้กันบ่อยๆตามบ้าน ลักษณะจะเป็นแผ่นๆ เนื้อกระดาษมี 2 ชั้น ลักษณะจะเป็นกล่องกระดาษสี่เหลี่ยมผืนผ้าสามารถหยิบใช้ได้สะดวก มีจำนวนแผ่นแตกต่างกันออกไป ใน 1 กล่อง บรรจุ 60 , 80 , 180 หรือ 200 แผ่น น้ำหนักต่ำสุด 28 g/m และมีค่า pH ประมาณ 5.5 – 8.5 มีหน้าที่ไว้เช็ดทำความสะอาดผิวหน้า หรือเช็ดเครื่องสำอาง คุณสมบัติของเนื้อกระดาษจึงต้องนุ่ม สะอาด และต้องเหนียวกว่ากระดาษประเภทอื่นๆ เพราะเมื่อนำมาเช็ดหน้าจะต้องไม่ทำให้ผิวหน้าเกิดความระคายเคืองและต้องให้สัมผัสที่อ่อนโยนแก่ผิวด้วย

กระดาษทิชชู่ชนิดเปียก (Wet Wipe) เป็นกระดาษทิชชู่ที่ผสมมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีประสิทธิสูง ขนาดเล็กกะทัดรัด สามารถพกพาได้สะดวก กระดาษทิชชู่เปียกบางยี่ห้อจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เช็ดแล้วให้ความรู้สึกสดชื่นและสะอาด แต่ในบางยี่ห้อก็จะไร้กลิ่นหรือสารเคมี ซึ่งมีความอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า เหมาะสำหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายหรือใช้ในการเช็ดทำความสะอาดผิวของเด็กเล็กก็สามารถใช้งานได้เช่นกัน อีกทั้งยังมีประโยชน์มากทั้งในยามฉุกเฉินและในชีวิตประจำวัน หากต้องเข้าห้องน้ำสาธารณะก็สามารถใช้กระดาษทิชชู่เปียกเช็ดทำความสะอาดฝารองนั่งโถสุขภัณฑ์ก่อนใช้งานเพื่อสุขอนามัยที่ดี นอกจากนี้ยังสามารถเช็ดทำความสะอาดทั้งโต๊ะและเก้าอี้ หลังรับประทานอาหารได้อีกด้วย เพื่อความสะอาดและสร้างความมั่นใจให้กับทุกคนมากยิ่งขึ้น

ก๊อกน้ำ (Faucets)
ก๊อกน้ำ หนึ่งในอุปกรณ์สำคัญในห้องน้ำที่ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในการเปิด-ปิดน้ำ โดยวัสดุที่เลือกใช้ควรเป็นวัสดุที่แข็งแรง มีความทนทาน และไม่เกิดสนิม เพราะก๊อกน้ำเป็นสิ่งที่ต้องโดนน้ำตลอดเมื่อใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นก๊อกเซ็นเซอร์, ก๊อกซิงค์, ก๊อกอ่างอาบน้ำ, ก๊อกยืนอาบ และก๊อกล้างพื้น ในปัจจุบันจะนิยมใช้ก๊อกน้ำที่ผลิตจากสแตนเลสหรือทองเหลืองชุบโครเมียมติดตั้งกันมากขึ้น เนื่องจากมีความทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดี และยังมีลักษณะมันวาว ทนต่อสารเคมีและรอยขีดข่วนได้ดี จึงสามารถใช้งานได้ยาวนานและปลอดภัยจากสารเคมีตกค้าง อย่างโลหะหนักได้อีกด้วย ส่วนเรื่องดีไซน์นั้นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการเลือกซื้อเช่นกัน ทาง HomePro จึงมีก๊อกน้ำให้เลือกมากมายหลายแบบ หลายขนาด ครอบคลุมทุกสไตล์การตกแต่งบ้านของคุณ

ประเภทของก๊อกน้ำและการเลือกซื้อก๊อกน้ำ

การเลือกซื้อก๊อกน้ำแต่ละประเภทก็ขึ้นอยู่กับวัสดุ จุดประสงค์ และสถานที่ของการใช้งาน โดยหลักๆแล้วอาจจะต้องดูในเรื่องของซิลยางและแหวนยางในตัวก๊อกน้ำที่จำเป็นจะต้องมีคุณภาพสูง ทนต่อการใช้งาน และไม่รั่วซึมง่าย และที่สำคัญควรมีระบบเปิด-ปิดเพียงรอบเดียวเพื่อการประหยัดน้ำ

ก๊อกอ่างล้างหน้า (Basin Faucets) โดยก๊อกอ่างล้างหน้า จะมีทั้งแบบก๊อกน้ำหมุนวาล์ว และแบบก๊อกเซ็นเซอร์โดยสามารถแบ่งได้ 3 แบบ ดังนี้

ก๊อกน้ำเดี่ยว ก๊อกน้ำแบบทั่วไป ใช้ได้เฉพาะน้ำเย็นอย่างเดียว

ก๊อกน้ำผสมรูเดี่ยว (ก๊อกน้ำเดี่ยวผสม) ใช้ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น มีจุดเปิด-ปิดจุดเดียว ปรับระดับน้ำร้อน-เย็นโดยการโยกซ้าย-ขวา

ก๊อกน้ำผสมเซ็นเตอร์ (ก๊อกน้ำคู่ผสม) เป็ก๊อกเซ็นเซอร์ที่มีทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น หรือมีวาล์วแยกหมุนเปิด-ปิดวาล์วน้ำร้อนและน้ำเย็นได้

ก๊อกซิงค์ (Sink Faucets) หรือก๊อกน้ำสำหรับอ่างล้างจานในครัว ส่วนใหญ่นิยมใช้กันแบบน้ำเย็นอย่างเดียว โดยก๊อกซิงค์แบบก้านจับเดียวจะช่วยให้ใช้งานได้สะดวกและรวดเร็ว เพียงแค่โยกซ้าย-ขวาเพื่อเปิด-ปิด

ก๊อกอ่างอาบน้ำ (Bathtub Mixers) หรือ ก๊อกผสมอ่างอาบน้ำ ที่ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในการเปิด-ปิดน้ำในอ่างอาบน้ำ ซึ่งมีทั้งเป็นระบบก๊อกเซ็นเซอร์ และยังสามารถควบคุมอุณหภูมิความเย็น-ร้อนของน้ำตามความต้องการของคุณได้อีกด้วย

ก๊อกยืนอาบ (Shower Mixers) หรือ ก๊อกผสมยืนอาบ มีหน้าที่ในการเปิด-ปิดน้ำและควบคุมอุณหภูมิของน้ำ สามารถติดตั้งใช้งานร่วมกับฝักบัวสายอ่อนได้หลากหลายรูปแบบ

ก๊อกล้างพื้น (Shank Faucets) หรือ ก๊อกน้ำเดี่ยว ใช้สำหรับล้างพื้น ล้างรถ รดน้ำต้นไม้ หรือซักผ้า มีทั้งชนิดก๊อกบอลและก๊อกบอลสนามสำหรับสวมสายยาง

สว่านไฟฟ้า เครื่องมือช่างสำหรับอำนวยความสะดวกในงานเจาะ
สว่านไฟฟ้า (Electrical Drills) เป็นอุปกรณ์สำคัญของงานช่างที่ใช้สำหรับการเจาะบนพื้นผิววัสดุต่างๆ และเป็นเครื่องมือไฟฟ้าพื้นฐานที่ไม่ว่าจะเป็นช่างมืออาชีพ หรือช่างมือสมัครเล่นก็จำเป็นต้องมีติดบ้านเอาไว้ใช้งานเพื่อตอบโจทย์การประกอบชิ้นงาน และซ่อมแซมชิ้นส่วนต่างๆ ถือเป็นสว่านอีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้งานเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีขนาดค่อนข้างกะทัดรัด ทำให้จับถือใช้งานได้อย่างคล่องตัว พกพาได้ง่าย อีกทั้งยังทำงานได้อย่างเสถียร และอำนวยความสะดวกสูงสุดด้วยความสามารถในการเจาะวัสดุได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น งานเจาะไม้ งานเจาะเหล็ก งานเจาะอิฐ หรืองานเจาะอลูมิเนียม เป็นต้น ซึ่งสว่านไฟฟ้าจะทำงานด้วยระบบไฟฟ้า มีลักษณะคล้ายปืนโดยมีสายไฟอยู่ตรงด้านล่างของด้ามจับ ส่วนปลายจะมีลักษณะเป็นปากที่ใช้สำหรับยึดดอกสว่าน ส่วนดอกสว่านนั้นสามารถเปลี่ยนขนาดได้ตามลักษณะการใช้งาน ในส่วนของการทำงานนั้นจะใช้แรงบิดที่ได้จากหัวสว่าน และดอกสว่านในการเจาะรู ทำให้ไม่ต้องออกแรงในการเจาะมากนัก นอกจากการเจาะรูแล้ว สว่านไฟฟ้ายังสามารถประยุกต์ใช้ในการขันน็อต หรือสกรูได้อีกด้วย และข้อดีของสว่านไฟฟ้าคือ สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่องหลายชั่วโมง แถมยังสามารถรองรับการเปลี่ยนหัวสว่านเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานที่หลากหลายได้อย่างอเนกประสงค์

สว่านไฟฟ้า และข้อแนะนำในการใช้งาน
ก่อนการใช้งานสว่านไฟฟ้านั้นควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน และควรจะต้องเตรียมอุปกรณ์ป้องกันภัย ทั้งหน้ากากปิดจมูก ถุงมือนิรภัย และแว่นตานิรภัยเพื่อป้องกันฝุ่นละออง เศษวัสดุ หรือสะเก็ดไฟที่อาจเป็นอันตรายได้ เมื่อใช้งานเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ควรทำความสะอาดในส่วนที่เป็นซอกซึ่งอาจมีเศษผงจากการทำงานเข้ามาติดในกลไก และอาจทำให้เกิดการติดตัดของมอเตอร์ได้ ควรหลีกเลี่ยงการเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาที่มีสารเคมีเพื่อป้องกันการกัดกร่อน และลดความเสี่ยงจากการเสียหายของอุปกรณ์ รวมถึงแนะนำให้ถอดชิ้นส่วนต่างๆ ที่เป็นเหล็กนำมาเช็ดด้วยน้ำมันเพื่อป้องกันสนิม จากนั้นก็เก็บรักษาไว้ในกล่องเครื่องมือให้เรียบร้อย และสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือเรื่องของสายไฟ ซึ่งคุณควรตรวจเช็คสายไฟของสว่านไฟฟ้าดูว่าอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานหรือไม่ หากสายไฟมีรอยถลอก ก็อาจเกิดความเสี่ยงที่จะมีไฟฟ้ารั่วไหลได้ ฉะนั้นจึงไม่ควรนำเครื่องมือนั้นมาใช้งาน เพราะมีความอันตรายที่จะถูกกระเเสไฟฟ้าดูดได้

เครื่องเป่าลม และเครื่องเป่าลมร้อนต่างกันอย่างไร
เครื่องเป่าลม (Blowers) หรือที่หลายๆ คนเรียกกันว่าโบลเวอร์ ถือเป็นเครื่องมือไฟฟ้าที่สามารถนำไปใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ ทั้งใช้ในการดูดฝุ่นและเป่าลมได้ภายในเครื่องเดียว ทำงานด้วยหลักการเคลื่อนที่ของอากาศด้วยความเร็ว และสามารถกำหนดทิศทางของลมได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน โดยตัวเครื่องจะมีขนาดที่กะทัดรัด น้ำหนักเบา จึงทำให้ถือง่าย และจับได้อย่างถนัดมือ ซึ่งเครื่องเป่าลมนี้จะเหมาะสำหรับการเป่า หรือดูดเศษฝุ่นในพื้นที่ต่างๆ เช่น โซฟา โต๊ะทำงาน หรือเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ รวมถึงในบริเวณที่เข้าถึงยาก เช่น ร่องบนคีย์บอร์ด และซอกเบาะรถยนต์ อีกทั้งยังใช้ในการเป่าใบไม้ หรือเป่าเพื่อไล่น้ำได้เช่นกัน จึงถือได้ว่าเป็นการช่วยลดการสัมผัสในจุดที่มีแหล่งน้ำขัง และเป็นการช่วยประหยัดทั้งแรงกาย และเวลาอีกด้วย โดยทั่วไปแล้วเครื่องเป่าลมนี้จะสามารถทำงานต่อเนื่องได้ประมาณ 60 นาที จึงบอกได้เลยว่ามันสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งงานช่าง และงานบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่สำหรับ เครื่องเป่าลมร้อน (Hot Air Guns) นั้นเป็นเครื่องมือที่จะเน้นให้ความร้อนที่สูง ต่างจากเครื่องเป่าลมทั่วไปที่มักเน้นแค่ความแรงของลมเย็น โดยหลักการทำงานของเครื่องเป่าลมร้อนนั้นจะอาศัยพลังงานไฟฟ้า ทำให้วงจรภายในตัวเครื่องเกิดความร้อนขึ้น ซึ่งความร้อนนี่เองที่จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ชิ้นงานต่างๆ เกิดการหลอมละลาย และแนบติดสนิทจนกลายเป็นเนื้อเดียวกันได้ มักจะนิยมนำมาใช้งานกันอย่างแพร่หลายทั้งในครัวเรือน ไปจนถึงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งงานเชื่อม งานอิเล็กทรอนิกส์ งานเคลือบห่อพลาสติก งานติดฟิล์มรถยนต์ และอื่นๆ อีกมากมาย โดยจุดเด่นของเครื่องเป่าลมร้อนคือสามารถต่อเข้ากับอุปกรณ์หัวต่อทั้งแบบกลม และแบบแบนได้ จึงทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งาน

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการใช้งานเครื่องเป่าลม และเครื่องเป่าลมร้อน
ทั้งเครื่องเป่าลม และเครื่องเป่าลมร้อนนั้นก็มีราคาที่ไม่สูงมากนัก โดยราคาจะอยู่ที่ประมาณหลักพันเท่านั้น ทั้งนี้การเลือกซื้อก็ขึ้นอยู่กับฟังก์ชั่นการทำงาน และความต้องการใช้งานของคุณ ซึ่งหากเครื่องเป่าลมมีกำลังวัตต์สูง ก็จะมีแรงลมที่สูงมาก และราคาก็จะสูงตามไปด้วย สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการใช้งานเครื่องเป่าลมทั้ง 2 ประเภท คือ ควรปรับระดับความแรงลม และระดับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับประเภทของชิ้นงาน ไม่แนะนำให้ใช้งานติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไปโดยไม่พัก เพราะจะทำให้ขดลวดหรือเทอร์โมฟิวส์ขาดได้ โดยขณะที่พักเครื่องนั้นควรวางให้ส่วนหัวตั้งขึ้น และต้องระวังไม่เผลอวางเครื่องในแนวนอนให้สัมผัสพื้น เพราะอาจมีโอกาสที่ทำให้ขดลวดที่ยังร้อน และอ่อนตัวอยู่มาสัมผัสกัน จนเกิดการลัดวงจร หรือขดลวดขาดได้

ถุงซีลสุญญากาศ

ถุงซีลสุญญากาศ หรือ ถุงสุญญากาศ เป็นถุงพลาสติกอีกประเภท ที่เหมาะสำหรับการกักเก็บอาหารทุกประเภท โดยความโดดเด่นของมันคือการดูดอากาศที่อยู่ในถุงออกด้วยเครื่องดูดอากาศ ทำให้ของที่อยู่ภายในถุงอยู่ในสภาวะสุญญากาศ ไม่มีอากาศหรือออกซิเจนภายใน ทำให้สามารถถนอมอาหารได้ยาวนานมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากเชื้อราและแบคทีเรียที่ทำให้อาหารเสียนั้น จะเจริญเติมโตได้ดีในที่ที่มีออกซิเจน ดังนั้นการที่เรากักเก็บอาหารไว้ในถุงซีลสุญญากาศ จึงช่วยลดโอกาสที่เชื้อราและแบคทีเรียจะเจริญเติมโตนั่นเอง

ฝักบัวเรนชาวเวอร์ (Rain Showers)
การอาบน้ำในทุกๆวัน เป็นการช่วยชะล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย อีกทั้งยังเป็นตัวช่วยสร้างความผ่อนคลาย ลดความเครียดได้เป็นอย่างดี โดยอุปกรณ์ในการอาบน้ำที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันคือ ฝักบัว ซึ่งในปัจจุบันก็จะมีฝักบัวให้เลือกใช้งานหลักอยู่ 2 ประเภท คือฝักบัวทั่วไป หรือ ฝักบัวมือ (Hand Shower) และ ฝักบัวเรนชาวเวอร์ (Rain Shower) ที่เป็นฝักบัวอีกประเภทที่เรียกได้ว่าค่อนข้างได้รับความนิยมและเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากในยุคปัจจุบัน เนื่องจากฝักบัวเรนชาวเวอร์เป็นเทรนด์ใหม่ในการอาบน้ำ ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มความผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความสดชื่นสบายตัวได้มากขึ้นอีกด้วย แต่เชื่อว่าหลายคนเริ่มสนใจอยากได้ฝักบัวเรนชาวเวอร์มาใช้งานที่บ้าน แต่อาจจะยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกซื้อฝักบัวเรนชาวเวอร์ที่ไหนดี? ขอตอบตรงนี้! ว่าเข้ามาเลือกซื้อได้ที่ Homepro Online
ข้อดีของฝักบัวเรนชาวเวอร์?
ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อฝักบัวเรนชาวเวอร์ จะต้องมาทำความเข้าใจกันถึงเรื่องของข้อดีและลักษณะของฝักบัวเรนชาวเวอร์กันก่อน โดยลักษณะการกระจายของน้ำจะไม่เหมือนกับฝักบัวธรรมดาทั่วไปที่มีการกระจายน้ำในวงเล็กๆ แต่ฝักบัวเรนชาวเวอร์จะมีขนาดที่ใหญ่กว่า ทำให้กระจายน้ำได้ในวงกว้างมากขึ้น แต่ลักษณะการกระจายของน้ำจะเหมือนกับสายฝนที่ตกลงเหนือศรีษะ ทำให้คุณมีความรู้สึกว่าอยู่ท่ามกลางสายฝน
ข้อดีของการมีฝักบัว Rain Shower ไว้ในงานที่บ้านหลักๆคือเรื่องของความผ่อนคลาย การที่สายน้ำไหลลงมาในแนวดิ่งลงสู่ศรีษะของเราไล่ไปจนถึงส่วนลาง แบบไม่ต้องจับฝักบัวหรือหมุนตัวเพื่อกระจายน้ำให้ทั่วแบบเดิม นอกจากนี้ในบางรุ่น จะเป็นสายน้ำที่ผสมฟองอากาศเล็กๆ ทำให้น้ำที่กระทบตัวเรามีความนุ่มละมุนมากขึ้น ส่งผลให้เรารู้สึกสบายตัวและมีความสุขกับการอาบน้ำในทุกๆวัน และเนื่องจากการไหลของน้ำเป็นแนวดิ่งจากบนสู่ล่าง ทำให้เราสามารถประหยัดเวลาในการอาบน้ำได้ดี โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เราเร่งรีบในตอนเช้า เพราะจะสามารถสระผมพร้อมอาบน้ำแปรงฟันได้ในเวลาเดียวกัน
นอกจากเรื่องของความผ่อนคลายในการอาบน้ำแล้ว อีกคุณสมบัติที่ฝักบัวเรนชาวเวอร์มีคือเรื่องของความสวยงามสไตล์โมเดิร์นคลาสสิค ที่จะช่วยตกแต่งห้องน้ำให้ดูสวยงามอย่างลงตัว โดยเฉพาะคนที่ต้องการตกแต่งห้องน้ำให้ดูธรรมชาติ เปลี่ยนห้องน้ำธรรมดาให้เหมือนกับห้องน้ำกลางแจ้ง สามารถเลือกนำฝักบัวเรนชาวเวอร์ไปติดตั้งใช้งาน เพื่อสร้างบรรยากาศให้เหมือนกับอาบน้ำอยู่ท่ามกลางสายฝนได้เป็นอย่างดี
การเลือกฝักบัวเรนชาวเวอร์
การเลือกฝักบัวเรนชาวเวอร์มาใช้งานที่บ้าน จะต้องพิจารณาในเรื่องของวัสดุในการผลิต ที่จะต้องมีความทนทานและไม่เป็นสนิม โดยวัสดุสเตนเลสเกรด 304 เป็นวัสดุที่แนะนำให้เลือกใช้งาน ตามบ้านเรือนทั่วไป แต่หากต้องการนำไปติดตั้งตามห้องน้ำกลางแจ้งริมชายหาดก็จะแนะนำให้เลือกเป็นวัสดุประเภททองเหลืองชุบโครเมียมจะเหมาะมากกว่า นอกจากนี้ยังต้องเลือกขนาดของฝักบัวเรนชาวเวอร์ที่มีให้เลือกถึง 3 ขนาดคือ ฝักบัวเรนชาวเวอร์ 5 นิ้ว, 8 นิ้ว หรือ 12 นิ้ว ซึ่งหากให้แนะนำก็ควรเลือกฝักบัวที่มีขนาดใหญ่มาใช้งานไปเลยขนาด 8 นิ้วหรือมากกว่า เพื่อการกระจายน้ำอย่างทั่วถึง
ตัวหัวฝักบัวเรนชาวเวอร์ควรปรับองศาได้ตามความต้องการ หรือสามารถเลื่อนระดับความสูงของฝักบัวได้ตามความเหมาะสมของผู้ใช้งาน ที่สำคัญคือจะต้องเลือกฝักบัวเรนชาวเวอร์ที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย บริเวณรูบนแป้นจะต้องเป็นยางที่มีเนื้อสัมผัสนุ่ม เพื่อล้างทำความสะอาดคราบตะกรันที่อาจจะอุดรูอยู่ได้อย่างง่ายดาย

กล้องติดรถยนต์ (Car Camera)
ถ้าพูดถึงกล้องติดรถยนต์เป็นแก๊ตแจ๊ตหนึ่งที่ต้องบอกเลยว่า ไม่ว่าจะหันไปมองรถยนต์คันไหนก็เหมือนจะเป็นเรื่องปกติที่จะมีกล้องติดรถยนต์กันทุกคัน เพราะการขับรถอยู่บนท้องถนนนั้น มีความเสี่ยงอยู่มากมาย และอาจเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้อยู่ตลอดเวลา ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องติดกล้องติดรถยนต์เพื่อที่จะสามารถใช้เป็นหลักฐานในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนในยุคนี้มากๆ

ปัจจัยสำคัญในการเลือกกล้องติดรถยนต์
กล้องติดรถยนต์นั้น ถ้ามองภายนอกจะดูเป็นกล้องหน้ารถที่รูปร่างหน้าตาคล้ายกัน แต่มันจะมีคุณสมบัติและประสิทธิภาพในการทำงานที่แตกต่างกันในบางรุ่น จึงต้องใช้เวลาในการเลือกสักนิด โดย HomePro ได้คัดสรรรุ่นที่มีคุณภาพมาให้เลือก อย่าง SNAPPLE และ DTECH โดยเทคนิคการเลือกกล้องติดรถยนต์นั้น หลักๆจะต้องพิจารณาจากฟังก์ชันดังต่อไปนี้

ความละเอียดวิดีโอ ความละเอียดวิดีโอเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะเราต้องการใช้บันทึกเหตุการณ์ให้คมชัดเพื่อที่จะสามารถใช้เป็นหลักฐานได้ ส่วนใหญ่จะมีความละเอียดอยู่ที่ FULL HD (1080p) ซึ่งเป็นความละเอียดในระดับมาตรฐาน สามารถบันทึกภาพไว้ได้ชัดเจน สามารถนำวิดีโอไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไม่มีปัญหา

อัตรา Frame Rate หรือ FPS สำหรับค่า FPS ก็คือ อัตราเฟรมภาพต่อวินาที เป็นหน่วยวัดจำนวนการบันทึกภาพของภาพเคลื่อนไหวในกล้องวิดีโอแบบต่าง ๆ ต่อ 1 วินาที ยิ่งกล้องมีค่า FPS สูง ภาพที่ออกมาก็จะมีความลื่นไหล สำหรับใน[url=https://www.homepro.co.th/c/TVA0207]ควรเลือกค่า FPS อยู่ที่ 25-30 FPS ซึ่งเป็นระดับที่กำลังดี ภาพที่ได้ยังคงความลื่นไหล ต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันไฟล์ภาพก็ไม่ใหญ่จนเกินไป

ฟังก์ชั่นการใช้งาน ฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นอีกสิ่งนึงที่ต้องคำนึงถึง โดยฟังก์ชั่นพื้นฐานหลักๆที่ส่วนใหญ่ที่ต้องมีคือ G-sensor หรือระบบบันทึกอัตโนมัติเมื่อกล้องเกิดการสั่นสะเทือน หรือกระแทก เพราะการเคลื่อนไหวของรถยนต์จะทำให้กล้องขยับอยู่ตลอด ฟังก์ชั่นนี้จะช่วยให้มองเห็นภาพได้ชัดเจน สบายตามากขึ้น

มุมมองของกล้อง สำหรับมุมมองของกล้องนั้น ก็ถือว่ามีความสำคัญเช่นกัน ซึ่งต้องเลือกมุมที่เหมาะสมกับรถของเราและต้องเป็นเลนส์นูน หากรถคันใหญ่ก็ต้องเลือกมุมกล้องที่กว้างขึ้น เพื่อให้กล้องสามารถบันทึกภาพไว้ได้ทั้งหมด ทางที่ดีคุณควรดูรีวิวจากภาพจริง เนื่องจากบางรุ่นระบุไว้เท่ากัน แต่ภาพที่ได้ไม่เท่ากัน

ความสามารถในการรับแสงน้อยหรือในเวลากลางคืน ควรเลือกกล้องติดรถยนต์รุ่นที่มีรูรับแสงกว้าง หรือมีระบบอินฟาเรดซึ่งสามารถบันทึกภาพในที่มืดได้ จะช่วยให้ภาพที่บันทึกในเวลากลางคืนหรือในที่มืดมีคุณภาพดีกว่า

ถังบำบัดน้ำเสีย (Septic Tanks)
ถังบำบัดน้ำเสีย คือ อุปกรณ์ที่ช่วยในการบำบัดน้ำเสียสำหรับครัวเรือน อาคารสำนักงาน โรงเรียน โรงแรม หรือสถานที่อื่นๆ ที่มีการใช้น้ำชะล้างสิ่งต่างๆ อยู่ตลอด เช่นการล้างจาน การซักผ้า หรือการล้างห้องน้ำ เป็นต้น โดยการช่วยกรองของเสียและสิ่งปนเปื้อนที่มีอยู่ในน้ำทิ้งให้ได้มากที่สุด เพราะน้ำที่ถูกใช้งานผ่านกิจกรรมเหล่านี้จะกลายเป็นน้ำเสีย ที่อาจจะส่งผลเสียต่อสาธารณะหากไม่มีการผ่านเข้าถังบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยออกสู่ธรรมชาติ ดังนั้นการใช้งานถังบำบัดน้ำเสียจึงถือเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่งทั้งต่อตนเองและต่อสังคม ถังบำบัดน้ำเสียมักจะมีวัสดุที่ใช้ในการผลิตได้อยู่หลากหลายรูปแบบ สามารถแบ่งประเภทของการผลิตได้เป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ

ถังบำบัดน้ำเสียผลิตจากโพลีเอทธีลีน ค่อนข้างได้รับความนิยมสูง ด้วยคุณสมบัติที่มีความแข็งแรงทนทาน มีความยืดหยุ่น ย่อยสลายได้ยาก จึงทำให้สดุโพลีเอทธีลีนเกิดการสึกกร่อนยาก เหมาะแก่การฝังไว้ใต้ดิน ผลิตโดยการนำเม็ดพลาสติกคุณภาพดีไปใส่ในโมลที่จะขึ้นรูปถัง แล้วใช้ความร้อนสูงในการหลอมเม็ดพลาสติกให้ขึ้นรูปตามโมลที่ได้สร้างไว้

ถังบำบัดน้ำเสียผลิตจากไฟเบอร์กลาส มีทั้งลักษณะเป็นแบบทรงกลม เป็นแฮนด์เลย์คืองานใช้มือช่วย และแบบแคปซูลที่ใช้เครื่องจักรในการผลิต โดยนำเส้นใยแก้วไฟเบอร์กลาส ทำให้หนาเป็นชั้นด้วยกรรมวิธีพันไขว้ไปมาหลายรอบ

ถังบำบัดน้ำเสียผลิตจากซีเมนต์ ผลิตจากคอนกรีต โดยการหล่ออยู่กับที่ หรือหล่อขึ้นรูปโดยการเซตตัวจากโรงงาน แล้วค่อยนำมาประกอบที่หน้าไซท์งาน

ประเภทและการทำงานของถังบำบัดน้ำเสีย
การรู้จักประเภทและการทำงานของถังบำบัดน้ำเสียในเบื้องต้น จะทำให้คุณสามารถเลือกซื้อถังบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานได้

ถังบำบัดน้ำเสียสำเร็จรูปแบบไร้อากาศ (Septic Anaerobic Tank) คือ กระบวนการบำบัดน้ำเสียแบบไม่ใช้อากาศ อาศัยกระบวนการย่อยสลายแบบธรรมชาติ โดยใช้ตัวหัวเชื้อจุลินทรีย์เข้ามาช่วยแยกตะกอนของเสียที่มีขนาดเล็ก ทำให้กากตะกอนอินทรีย์สารลดน้อยลง ส่งผลให้น้ำที่ผ่านการกรองนี้มีความสะอาดพร้อมปล่อยลงสู่บ่อน้ำทิ้งสาธารณะต่อไป

ถังบำบัดน้ำเสียสำเร็จรูปแบบเติมอากาศ (Septic Aeration Tank) คือ กระบวนการบำบัดน้ำเสียที่มีการทำงานร่วมกันระหว่างหัวเชื้อจุลินทรีย์และเครื่องเติมอากาศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำให้สูงขึ้น โดยการถ่ายเทออกซิเจนลงสู่น้ำเพื่อย่อยสลายสิ่งสกปรกในน้ำ และทำการกวนผสมน้ำทำให้จุลินทรีย์สัมผัสกับสารอินทรีย์ได้อย่างทั่วถึงทั้งถัง ส่งผลให้น้ำกลับมามีสภาพที่ดีขึ้นก่อนปล่อยสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะ

ฝักบัว - สายฉีดชำระ จะใช้แบบไหนให้น้ำไหลละมุนทุกการสัมผัสน้ำ
"ห้องน้ำ" ไม่ได้มีเพียงแค่ความละมุนสวยงามจากการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ห้องน้ำเท่านั้น แต่...คุณยังมีความละมุนได้ทุกสัมผัสของการใช้น้ำด้วยอุปกรณ์จ่ายน้ำที่ทำให้คุณฟินไปกับการอาบน้ำอย่าง "ฝักบัว" และรู้สึกละไมด้วยการใช้ "สายฉีดชำระ" สำหรับชำระล้างกิจธุระ แม้..ฝักบัวและสายฉีดชำระจะเป็นอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ แต่ก็ไม่ควรมองข้ามเพราะมีผลการใช้น้ำ หากคุณเลือกฝักบัวและสายฉีดชำระได้ดีมีคุณภาพ นอกจากความละมุนละไมทุกสัมผัสการใช้น้ำเเล้ว ยังช่วยคุณประหยัดน้ำและค่าน้ำได้อีกด้วย ฝักบัว มีกี่แบบ?
ฝักบัวแบบถืออาบ (Hand Shower) ฝักบัวยอดฮิตติดกันแทบทุกบ้าน เป็นฝักบัวมีสายแข็งหรืออ่อนทั้งแบบพลาสติกหรือสแตนเลส ติดตั้งคู่กับแท่นวางเจาะผนัง ติดตั้งง่ายและใช้งานง่าย หาซื้อก็ง่าย ราคาฝักบัวมีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน
ฝักบัวก้านแข็ง (Head Shower) ฝักบัวติดผนังแบบมีก้านต่อตรงจากท่อประปา ไม่มีสาย ปรับเอียงทำมุมซ้ายขวาได้เล็กน้อย ได้น้ำแรงตามต้องการ แต่หากเลือกซื้อฝักบัวผิดก็อาจเปลืองน้ำได้ ติดตั้งในระดับความสูงตั้งแต่ศรีษะขึ้นไป หากชำรุดการซ่อมแซมค่อนข้างยาก อาจรื้อทั้งระบบ
ฝักบัวข้าง (Side Shower) ฝักบัวติดผนังต่อตรงจากท่อประปา มักจะติดตั้งหลายตัวโดยรอบห้องอาบน้ำในระดับความสูงระดับต่างๆ ให้ระบบน้ำแบบการกระจายเหมือนน้ำพุรอบทิศทาง แต่อาจเปลืองน้ำและราคาฝักบัวข้างก็สูงมากและติดตั้งยากเช่นกัน
ฝักบัวเพดาน (Up Head Shower หรือ Rain Shower) ตำแหน่งติดตั้งฝักบัวเพดานอยู่ตรงศีรษะพอดี นิยมติดตั้งตามบ้านและคอนโดสมัยใหม่ ให้น้ำแบบกระจายและแรงเสมือนอาบน้ำท่ามกลางสายฝนหรือน้ำตก แต่อาจเปลืองน้ำและราคาฝักบัวเพดานเพดานค่อนข้างสูง ควรเลือกแบบฝักบัวเรนชาวเวอร์ (Rain Shower) และปรับความแรงเบาได้ เพื่อการประหยัดน้ำและอาบน้ำได้อย่างสบายใจ
เลือกสายฉีดชำระให้ใช่ ใช้งานได้ตอบโจทย์
"สายฉีดชำระ" อุปกรณ์ห้องน้ำสร้างความสะดวกสบายและช่วยชำระล้างกิจธุระส่วนตัวคุณได้อย่างง่ายดายและสะอาดหมดจด ซึ่งการเลือกซื้อสายฉีดชำระ ก็ต้องตอบโจทย์การใช้งานเช่นกัน ไม่ว่าะเป็นสายฉีดชำระแต่ละประเภทวัสดุ และที่สำคัญการระหว่างการใช้น้ำ การจ่ายน้ำของ "หัวฉีดสายชำระ" ยิ่งสายน้ำกระจายได้ดี ยิ่งให้ความละมุนและความฟินได้ขณะใช้งาน และมาดูคร่าวๆกันว่าสายฉีดชำระนั้นมีกี่แบบ?
-สายฉีดชำระทั่วไป มีความนิยมสูงตามบ้านและคอนโดรวมถึงห้องน้ำสาธารณะทั่วไป เนื่องจากเป็นสายฉีดชำระราคาถูกกว่าประเภทอื่นๆ แต่...อายุการใช้งานต่ำและชำรุดแตกหักง่าย
-สายฉีดชำระหัวสแตนเลส นิยมมากขึ้นตามบ้านและคอนโดสมัยใหม่ ด้วยวัสดุแข็งแรงทนทาน แต่ราคาสายฉีดชำระค่อนข้างสูง และอาจเกิดสนิมได้หากเลือกซื้อสายฉีดชำระไม่ได้คุณภาพ
-สายฉีดชำระหัวโครเมียม นิยมเลือกซื้อมากขึ้นตามคอนโดและห้างร้านชั้นนำ เพราะแข็งแรงทนทาน กันสนิม แม้เป็นสายฉีดชำระราคาแพง หากเทียบวัสดุและอายุใช้งานถือว่าคุ้มค่า

ถังพ่นยา เครื่องพ่นยา อุปกรณ์พ่นละอองฝอย
สำหรับการทำสวน หรือ การปลูกต้นไม้ นั้นเราต้องเอาใจใส่และดูแลเป็นพิเศษ เพื่อที่จะให้ผลผลิตที่ออกมานั้นดูสวยงาม ทั้งนี้ก็เพื่อให้สวนของเรานั้นดูสวยงามขึ้นร่มรื่นขึ้น หรือผลผลิตที่ออกมานั้นสามารถขายได้มีราคาดีขึ้น สำหรับคนที่ชื่นชอบในการทำสวน ต่างก็ต้องมีวิธีและเทคนิคในการบำรุงรักษาต้นไม้และผลผลิตของตัวเอง ให้มีความเจริญงอกงามด้วยวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องมือ ในการป้องกันและ กำจัดศัตรูพืช อย่างหนอนโรค แมลงต่าง ที่มาทำความเสียหายให้กับสวนของเรา ซึ่งในการกำจัดศัตรูพืชเหล่านี้เราจะขาดการใช้ ถังพ่นยา ไปไม่ได้เลย

ถังพ่นยานั้นค่อนข้างสามารถใช้งานได้หลากหลายและเหมาะกับเกษตรกรหรือชาวสวนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการ พ่นยา พ่นปุ๋ย หรือแม้กระทั่งพ่นน้ำหมักชีวภาพ เป็นต้น อีกทั้งเครื่องพ่นยานั้นยังทำให้เราสามารถทำงานได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะช่วยให้เราสามารถดูแลสวนของเราได้อย่างทั่วถึงง่ายขึ้น นอกจากถังพ่นยาแล้ว ยังมีอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมาย ที่สามารถใช้พ่นละอองฝอยได้ ไม่ว่าจะเป็น ปืนฉีดแอลกอฮอล์ ปืนฉีดน้ำนาโนสเปรย์ เป็นต้น 

การเลือกซื้อถังพ่นยาให้เหมาะสมกับการทำงานของเราเบื้องต้น
เลือกจากขนาดความจุของเครื่องพ่นยา  ในการที่เราจะเลือกใช้เครื่องพ่นยามาใช้งานนั้นเราอาจจะจำเป็นต้องเลือกขนาดความจุที่เหมาะสม โดยเราสามารถพิจารณาได้เบื้องต้นจากพื้นที่ที่เราจะนำเครื่องพ่นยาไปใช้งาน รวมถึงขนาดของเครื่องพ่นยาและกำลังของผู้ใช้งานด้วย เพราะการที่เราเลือกใช้เครื่องพ่นยาที่มีขนาดใหญ่หรือถังพ่นยาที่มีถังขนาดใหญ่มากก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอไป เพราะจะทำให้เรานั้นสามารถใช้งานได้ยากขึ้นและความคล่องตัวในการใช้งานลดลง

เลือกจากวัสดุความแข็งแรงและทนทาน   ถังพ่นยาหรือเครื่องพ่นยาที่ดีนั้นจะต้องมีวัสดุที่แข็งแรงและสามารถทนต่อสารเคมีชนิดต่างๆได้เป็นอย่างดี เพราะการที่เราเลือกวัสดุที่ดีและมีคุณภาพจะทำให้เราสามารถใช้เครื่องพ่นยาได้ยาวนานขึ้น โดยส่วนใหญ่แน่นเครื่องพ่นยาหรือถังพ่นยาจะทำจากพลาสติกจำพวก ABS ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกันแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี อีกครั้งในหลายๆแบรนด์ยังมีการเคลือบวัสดุด้วยสารป้องกัน UV เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวถังพ่นยานั้นเสื่อมสลายจากการโดนรังสีเมื่อใช้งานไปเป็นระยะเวลานาน

เลือกถังพ่นยาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและมีบริการหลังการขาย การรับประกันนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญมากสำหรับการใช้งานถังพ่นยาและอุปกรณ์อื่นๆที่เกี่ยวข้องควรจะเลือกซื้อจากร้านค้าที่ได้รับมาตรฐาน หรือเลือกซื้อจากถังพ่นยาที่มีการรับประกันอย่างน้อย 1-3 เดือน เพื่อให้เราสามารถมั่นใจว่าถังพ่นยาที่เราซื้อมานั้นจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

นอกจากถังพ่นยาแล้ว ยังมีอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมาย ที่สามารถใช้พ่นละอองฝอยได้ ไม่ว่าจะเป็น ปืนฉีดแอลกอฮอล์ ปืนฉีดน้ำนาโนสเปรย์ โดยปืนฉีดแอลกอฮอล์ เป็นรูปทรงที่ถือคล้ายปืนฉีดน้ำ ด้ามจับส่วนโค้งเว้าช่วยให้จับถนัดกระชับมือ ควบคุมง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งปืนฉีดแอลกอฮอล์สามารถใช้อำนวยความสะดวกในการฉีดพ่ฆ่าเชื้อโรคได้อย่างอเนกประสงค์

กล่องเครื่องมือช่าง ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานเครื่องมือช่าง
กล่องเครื่องมือช่าง (Tool Boxes) เป็นอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บเครื่องมือช่างต่างๆ ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและง่ายต่อการหยิบใช้งาน เพราะส่วนใหญ่แล้วกล่องเครื่องมือช่างมักจะถูกออกแบบให้มีทั้งการแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ หรือแบ่งเป็นชั้นๆ เพื่อช่วยให้คุณสามารถมองหาเครื่องมือที่ต้องการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งคุณสามารถเลือกใส่เฉพาะเครื่องไม้เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับงานนั้นๆ หรือถ้าหากกล่องเครื่องมือช่างของคุณมีขนาดที่ใหญ่พอ คุณก็สามารถที่จะใส่เครื่องมือช่างที่มีอยู่ไปทั้งหมดเลยก็ได้ โดยเฉพาะตามอาคารบ้านเรือนทั่วไปที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีงานช่างอะไรมากมายให้ซ่อมแซม แต่ก็ควรที่จะมีกล่องเครื่องมือช่าง และอุปกรณ์เครื่องมือช่างพื้นฐาน เช่น ประแจ ไขควง คัตเตอร์ คีม และอุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ อย่างน็อต หรือสกรู รวมถึงเครื่องมือไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น เครื่องพ่นสีไฟฟ้า สว่านไฟฟ้า หรือเครื่องเชื่อมไฟฟ้าติดบ้านไว้สำหรับใช้งานเบื้องต้น

วิธีการเลือกซื้อกล่องเครื่องมือช่างให้เหมาะสมกับการใช้งาน
กล่องเครื่องมือช่างก็มีให้เลือกใช้งานอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือกล่องเครื่องมือช่างพลาสติก และกล่องเครื่องมือช่างเหล็ก ซึ่งทั้ง 2 ประเภทนี้ก็จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป แน่นอนว่ากล่องเครื่องมือช่างพลาสติกคงมีความแข็งแรง และคงทนคงสู้กล่องเครื่องมือช่างเหล็กไม่ได้ แต่มันจะมีน้ำหนักเบากว่า และมีช่องต่างๆ แบ่งมาให้ค่อนข้างเยอะ ส่วนกล่องเครื่องมือช่างเหล็กจะได้เปรียบในเรื่องของอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่า แต่ก็จะต้องแลกกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น และยังมีในเรื่องขนาดของกล่องเครื่องมือช่างที่ขึ้นอยู่กับเครื่องมือของคุณว่ามีมากน้อยแค่ไหน รวมถึงขนาดของเครื่องมือที่จะนำมาใส่ด้วย นอกจากนี้คุณยังต้องพิจารณาถึงรูปแบบของกล่องเครื่องมือช่างด้วย เพราะแต่ละแบบนั้นก็จะมีการออกแบบภายในที่ไม่เหมือนกัน เช่น กล่องเครื่องมือช่างทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า จะมีความลึกพอให้สามารถใส่เครื่องมือไฟฟ้าขนาดเล็กได้ และอาจจะมาพร้อมถาดสำหรับวางเครื่องมือเล็กๆ และยังมีกล่องเครื่องมือช่างแบ่งชั้น โดยภายในมีการแบ่งเป็นชั้นไว้อย่างชัดเจน เหมาะสำหรับใส่เครื่องมือทั่วไป และแบบสุดท้ายเป็นกล่องเครื่องมือช่างที่สามารถปรับเปลี่ยนขนาดของช่องต่างๆ ได้ตามความเหมาะสม เหมาะสำหรับใส่เครื่องมือไฟฟ้า

สีย้อมไม้คืออะไร และมีวิธีการนำไปใช้งานอย่างไร
สีย้อมไม้ เป็นสีที่มีความสำคัญกับงานไม้แทบจะทุกแขนง เพราะเป็นสีที่ใช้สำหรับทาย้อมสีของไม้เพื่อรักษาสภาพเนื้อไม้ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ช่วยเพิ่มความสวยงาม เน้นลวดลายไม้ธรรมชาติให้ดูโดดเด่น และสะดุดตามากยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยซ่อมแซมให้งานไม้ที่ดูเก่า และทรุดโทรมกลับมามีสีสันสดใสเหมือนใหม่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งสีย้อมไม้จะมีความยืดหยุ่น สามารถแทรกซึมเข้าไปในเนื้อไม้ได้ ไม่ว่าเนื้อไม้จะยืด หรือหดตัว โดยการเลือกสีย้อมไม้นอกจากจะพิจารณาระหว่างสูตรน้ำ และสูตรน้ำมันแล้ว ยังต้องพิจารณาในเรื่องของความเงา และความด้านของสีที่ต้องการจะใช้งานด้วย ซึ่งสีย้อมไม้สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้

-สีย้อมไม้ชนิดใส เป็นสีย้อมไม้แบบโปร่งแสง ผลิตจากส่วนผสมของผงสีและเรซิ่นที่มีคุณภาพ โดยจะให้ความเงางาม เน้นโชว์ลายไม้แบบธรรมชาติ และมีคุณสมบัติทนต่อแสงแดด จึงสามารถใช้กับวงกบประตูหน้าต่าง รวมถึงเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งได้เป็นอย่างดี

-สีย้อมไม้ชนิดเงา เป็นสีย้อมไม้แบบกึ่งโปร่งใส มีคุณสมบัติป้องกันน้ำได้ดี แถมยังมีส่วนผสมของสารป้องกันเชื้อราเพื่อปกป้องเนื้อไม้จากแสงแดด และรังสีอัลตร้าไวโอเลต ทำให้เนื้อไม้คงความสวยงาม สีสันไม่ซีดจาง จึงสามารถใช้ได้กับงานไม้ทุกชนิดทั้งภายในอาคาร และภายนอกอาคาร

-สีย้อมไม้ชนิดกึ่งเงา เป็นสีย้อมไม้ที่ให้ความเงางามแบบกึ่งเงากึ่งด้าน เหมาะสำหรับใช้ย้อมไม้ที่เป็นส่วนประกอบของบ้านได้ทั้งภายในและภายนอก เช่น ประตู หน้าต่าง หรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เป็นต้น ซึ่งสีย้อมไม้ประเภทนี้จะมีคุณสมบัติทนทานต่อรังสีอัลตร้าไวโอเล็ตได้ดี อีกทั้งยังคงความสวยงามของลวดลายไม้ธรรมชาติได้ดีอีกด้วย

จากที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าสีย้อมไม้นั้นมีให้เลือกใช้งานอยู่ด้วยกัน 2 สูตร โดยแบ่งตามส่วนประกอบทางเคมีได้ ดังนี้

-สีย้อมไม้สูตรน้ำ เป็นสีย้อมไม้ที่ไม่ต้องผสมอะไรเพิ่มเติมก็สามารถนำไปใช้งานได้เลย หรือในบางรุ่นก็อาจจะมีการผสมน้ำสะอาดเพิ่มเติมบ้างเล็กน้อย โดยเมื่อทาลงไปบนงานไม้แล้ว เนื้อฟิล์มจะมีความคงทน สามารถยึดเกาะกับพื้นผิวไม้ได้ดี แถมยังแห้งเร็ว และไม่มีกลิ่นฉุน จึงเป็นสีที่มีความปลอดภัยสูง

-สีย้อมไม้สูตรน้ำมัน เป็นสีย้อมไม้ที่โดยทั่วไปต้องนำมาผสมกับทินเนอร์ก่อนนำมาใช้งาน ส่วนใหญ่แล้วจะผสมด้วยอัตราทินเนอร์ประมาณ 10% ต่อปริมาณสีย้อมไม้ที่ใช้ เหมาะกับการใช้งานทั้งงานภายในและภายนอก เนื่องจากมีความทนทานต่อทุกสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี แถมสีที่ได้หลังทาทับลงบนเนื้อไม้จะค่อนข้างตรงกับสีที่เลือกไว้

บันไดและนั่งร้าน (Ladders & Scaffolding)
บันไดและนั่งร้าน เป็นเครื่องมือช่างอีกประเภทที่ทุกบ้านควรมีไว้ใช้งานสำหรับงานต่อเติมซ่อมแซมในพื้นที่สูง เช่น ซ่อมแซมฝ้าเพดาน ต่อเติมหลังคา ติดตั้งไฟเพดาน หรือทำความสะอาดรางน้ำฝน เป็นต้น ซึ่งบันไดช่างที่มีวางจำหน่ายในปัจจุบันก็มีให้เลือกอยู่หลายประเภท ดังนั้นการพิจารณาเลือกบันไดมาใช้งานก็ขึ้นอยู่กับลักษณะงานที่จะนำไปใช้ ควรทราบถึงความสูงเกี่ยวกับงานที่ต้องทำ เพื่อที่จะได้เลือกประเภทบันไดที่มีความเหมาะสมกับงานและมีความสูงมากเพียงพอ
การซ่อมแซมบ้านบนที่สูงเป็นเรื่องที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองก็จริง แต่ก็แอบแฝงไปด้วยอัตรายที่ไม่คาดคิด ซึ่งหากคุณเลือกประเภทบันไดไม่ตรงกับการใช้งาน ก็อาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน ดังนั้นก่อนเริ่มต้นลงมือต่อเติมบ้านก็ควรเลือกบันไดช่างมาใช้งานอย่างเหมาะสมกันก่อน ซึ่งหลักการเลือกบันไดมาใช้งานเบื้องต้น เป็นสิ่งที่คุณสามารถพิจารณาได้จากลักษณะการใช้งานเป็นหลัก ยกตัวอย่างเช่น ...
การเลือกประเภทบันไดให้เหมาะสมกับงาน
บันไดทรง A
บันไดช่างสำหรับงานทั่วไปบนพื้นที่กว้าง แนะนำให้เลือกบันไดทรง A มาใช้งาน ซึ่งเป็นบันไดที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี บันไดทรง A เป็นบันไดอเนกประสงค์ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย ใช้งานได้ง่าย ตัวฐานมีความมั่นคงแข็งแรง จึงมั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย แต่การใช้บันไดทรง A อาจจะต้องคำนึงเรื่องของขนาดพื้นที่ที่จะนำไปใช้งาน จะต้องมีพื้นที่กว้างมากเพียงพอที่จะกางบันไดให้สุดความกว้าง
-บันไดพาด
เป็นบันไดช่างอีกประเภทที่นิยมใช้งานอย่างแพร่หลาย บันไดพาดถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในที่แคบหรือพื้นที่จำกัดโดยเฉพาะ บันไดพาดเป็นบันไดแบบเบสิคที่สามารถใช้งานได้ง่ายมาก เพียงแค่นำบันไดมาวางพาดกับผนังหรือกำแพงและจัดองศาบันไดให้มั่น เท่านี้ก็สามารถปีนขึ้นไปซ่อมแซมบริเวณพื้นที่สูงได้อย่างปลอดภัย ตัวอย่างการใช้บันไดพาดที่พบเห็นทั่วไปคือ การซ่อมแซมเสาไฟฟ้าตามริมถนน เป็นต้น
-บันไดยืดหดได้
เป็นบันไดช่างที่มีความยืดหยุ่นสูง เนื่องจากสามารถปรับระดับความสูงของบันไดได้ตามความเหมาะสมกับสถานที่ที่นำไปใช้งาน เป็นบันไดเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ต่างระดับ เนื่องจากตรงส่วนขาตั้งบันไดสามารถปรับความสูงของขาตั้งได้ ดังนั้นถึงพื้นที่จะสูงต่ำไม่เท่ากัน แต่ก็สามารถตั้งวางบันไดได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย
-บันไดสเต็ป
เป็นบันไดอีกประเภทที่หลายคนนิยมซื้อไว้ใช้งานติดบ้าน เป็นบันไดที่มีความสูงไม่มาก ใช้สำหรับปีนขึ้นหยิบของหรือจัดเก็บของบริเวณที่สูง เช่น บริเวณหลังตู้ ชั้นหนังสือ เป็นต้น ความสูงของบันไดสเต็ปก็มีความสูงไม่มากเพียง 2-4 ขั้นเท่านั้น โดยบันไดสเต็ปที่มีวางจำหน่ายทั่วไปมีให้เลือกใช้อยู่หลากหลายวัสดุ ไม่ว่าจะเป็น บันไดสแตนเลส บันไดไม้ หรือบันไดพลาสติก ซึ่งราคาบันไดก็มีความแตกต่างกันตามวัสดุ
บันไดกันไฟ
ในกรณีที่ต้องใช้บันไดเพื่อการซ่อมแซมงานที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้า ที่ถึงแม้ว่าจะมีการตัดกระแสไฟแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ควรประมาทจนเกินไป เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้นการเลือกบันไดกันไฟมาใช้งานจะช่วยสร้างความปลอดภัยในงานซ่อมแซมได้อีกขั้น โดยบันไดกันไฟผลิตจากวัสดุที่ไม่นำไฟฟ้าอย่างไฟเบอร์กลาส ซึ่งปลอดภัยกว่าการใช้บันไดจากวัสดุนำไฟฟ้าอย่าง อลูมิเนียม เหล็ก หรือสแตนเลส

เครื่องตัดหญ้าสะพายบ่า ควบคุมง่าย มีด้ามจับที่ถูกหลักสรีระ
สำหรับบ้านที่มีสนามหญ้า เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งต้นหญ้าเหล่านั้นก็จะเติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ จนอาจจะสูงเกินไปจนหมดความสวยงาม จึงต้องมีการตัดหญ้าเพื่อให้สนามหญ้านั้นดูสวยงาม และไม่รกรุงรังอย่างเดิม แต่จะให้ใช้กรรไกรตัดหญ้าคงจะไม่ไหว ฉะนั้นเครื่องมือทำสวนยอดนิยมที่หลายๆ คนมักนำมาเป็นตัวเลือกในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวนั่นก็คือ "เครื่องตัดหญ้าสะพายบ่า (Brush Cutter)" เพราะงานตัดหญ้านั้นไม่ใช่งานที่สบาย มันจะต้องใช้ทั้งแรงกาย แรงใจ และเวลา ซึ่งหากมีเครื่องตัดหญ้าคุณภาพดีสักเครื่องติดบ้านไว้ใช้งานก็คงจะดีไม่น้อย โดยจุดเด่นของเครื่องตัดหญ้าสะพายบ่าจะอยู่ที่ขนาดเล็กกะทัดรัด อีกทั้งยังนำไปใช้งานได้หลากหลายกว่า ทั้งการตัดหญ้า ถางป่า หรือกำจัดวัชพืชทางการเกษตร เป็นต้น แต่ผู้ที่เลือกใช้งานเครื่องตัดหญ้าสะพายบ่าจะต้องมีความชำนาญ รวมถึงสามารถรับน้ำหนักของเครื่องและแหล่งพลังงานได้ด้วย หลักๆ แล้วเครื่องตัดหญ้าสะพายบ่าจะมีให้เลือกใช้งานตามความถนัดได้อยู่ 2 แบบ คือ

เครื่องตัดหญ้าสะพายบ่าแบบก้านแข็ง นิยมใช้ตามไร่ ตามสวน โดยจะมีทั้งเเบบเครื่องยนต์ 2 จังหวะ เเละ 4 จังหวะ ซึ่งมีความแข็งแรง ทนทาน สู้งานหนักได้ และไม่เมื่อยล้าจากการยกก้านตัดหญ้า เนื่องจากน้ำหนักส่วนใหญ่จะถูกสะพายไว้ที่บ่า แต่จะไม่เหมาะกับการนำไปใช้ในพื้นที่แคบเท่าไรนัก เพราะตัวก้านตัดติดกับเครื่องโดยตรง

เครื่องตัดหญ้าสะพายบ่าแบบก้านอ่อน เป็นแบบสายเอ็นที่สามารถทำงานบริเวณริมกำแพง หรือตามขอบกำแพงได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังสามารถตัดกิ่งไม้ในแนวตั้งได้ เพราะตัวก้านสามารถโค้งงอได้ จึงไม่เป็นปัญหาในการตัด แถมยังให้ความคล่องตัวสูง แต่จะต้องเก็บวางให้ตรง และหาสิ่งของมาหนุนเพลา เพื่อป้องกันไม่ให้เพลาหย่อนโค้ง

วิธีการเลือกใช้งานเครื่องตัดหญ้าสะพายบ่า
การจะเลือกเครื่องตัดหญ้าสะพายบ่านั้นไม่ได้ยากอย่างที่หลายๆ ท่านคิด แต่อาจจะแค่มีหลากหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง เพราะในปัจจุบันก็ได้มีเครื่องตัดหญ้าสะพายบ่าหลากหลายรุ่น โดยหลักๆ จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทที่แตกต่างกันออกไปทั้งในเรื่องของแหล่งพลังงาน ลักษณะการใช้งาน และคุณสมบัติ

-เครื่องตัดหญ้าสะพายบ่าแบบใช้น้ำมัน เป็นเครื่องตัดหญ้าที่มีประสิทธิภาพการทำงานที่ทรงพลัง แต่มักจะมีเสียงการทำงานที่ดังตามไปด้วย และตัวเครื่องจะมีน้ำหนักมากกว่าอีก 2 ประเภท เพราะต้องแบกถังน้ำมันไปด้วย

-เครื่องตัดหญ้าสะพายบ่าไฟฟ้า เป็นเครื่องตัดหญ้าที่ต้องเสียบปลั๊กกับไฟบ้านตลอดเวลาการใช้งาน ทำให้มีความเสถียรในการใช้งาน แต่คุณอาจจะต้องมีจุดชาร์จ และมีสายไฟที่อาจขวางทางขณะใช้งานได้

-เครื่องตัดหญ้าสะพายบ่าไร้สาย เป็นเครื่องตัดหญ้าที่ใช้แบตเตอรี่ ทำให้ไม่มีสายไฟระเกะระกะ จึงใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย และมีน้ำหนักเบา แต่คุณจะต้องชาร์จแบตเตอรี่ไว้ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ

เทปกาว 2 หน้า คุณประโยชน์ และการใช้งาน (Double Sided Tape)
08 ก.ค. 2562
เทปกาวสองหน้าเป็นเทปที่มีกาวเคลือบอยู่บนผิวทั้งสองด้านเพื่อใช้สำหรับติดพื้นผิวของวัตถุทั้งสองด้านเข้าด้วยกันสามารถใช้ติดบนพื้นผิวหลากหลายประเภททั้งแผ่นฟิล์ม,โฟม,กระดาษ,เนื้อผ้า และฟอยล์ เพื่อใช้ในการเชื่อมต่อ ผูกยึดหรือติดพื้นผิวของวัสดุทั้งสองด้านเข้าไว้ด้วยกัน

เทปกาว 2 หน้าทำมาจากอะไร

เทปกาวสองหน้าผลิตขึ้นจากฟิล์มโพลีเอสเตอร์บางๆที่เคลือบผิวด้วย acrylic coated ที่มีคุณสมบัติในการยึดติดกับผิวของวัตถุชนิดอื่นๆ เทปกาวสองหน้าสามารถยึดเข้ากับพื้นผิวของวัตถุทั้งสองด้าน เพื่อให้วัตถุทั้งสองชิ้นนั้นติดเข้าด้วยกัน สามารถใช้ได้กับพื้นผิวหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ไม้,โลหะ,พลาสติก,ผ้า และ กระดาษ

คุณสมบัติของเทปกาว 2 หน้า/b]

เทปกาว 2 หน้าผลิตขึ้นจาก Polyester จึงมีความทนทานต่อการฉีกขาดสูง รวมถึงมีความสามารถทนทานต่อการทิ่มทะลุ มีแรงยึดติดกับพื้นผิวได้อย่างดีโดยเฉพาะพื้นผิวที่เป็นโลหะ เทปกาวสองหน้ามีความหนาอยู่ด้วยกันหลายขนาดตั้งแต่ 0.048 mm ไปจนถึง 0.19 mm มีตั้งแต่สีขาวธรรมดา,แบบโปร่งแสง และแบบใส เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละรูปแบบ เทปกาวสองหน้าสามารถทนต่อความร้อนได้สูงถึง 120 – 200 องศาแล้วแต่ชนิดของเทปกาว ทนต่อรังสี UV, ความชื้น และสารละลายต่างๆได้ดี รับน้ำหนักได้มาก และง่ายต่อการทำไดคัท