• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

ทีเอ็มบีธนชาต รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4 ปี 2564

Started by Chigaru, January 22, 2022, 08:39:13 AM

Previous topic - Next topic

Chigaru

ทีเอ็มบีธนชาต รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4 ปี 2564 ที่ 2,799 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 127% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมทั้งปีมีกำไร 10,474 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากปี 2563

ทีเอ็มบีธนชาต รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4 ปี 2564 ที่ 2,799 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 127% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมทั้งปีมีกำไร 10,474 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากปี 2563 ด้านคุณภาพสินทรัพย์บริหารจัดการได้ตามแผน อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับต่ำที่ 2.81% สำหรับปี 2565 วางแผนกลับมาโตสินเชื่อ เพิ่มศักยภาพด้านดิจิทัลและเตรียมนำเสนอบริการด้านการเงินที่ครบวงจรยิ่งขึ้นให้กับลูกค้า

ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) แจ้งผลประกอบการไตรมาส 4 และรอบ 12 เดือน ปี 2564 โดยธนาคารรายงานกำไรสุทธิ 2,799 ล้านบาท ในไตรมาส 4 ปี 2564 เพิ่มขึ้น 19% จากไตรมาสก่อน เป็นผลจากรายได้ที่ปรับตัวดีขึ้นและค่าใช้จ่ายตั้งสำรองฯ ที่ลดลงเนื่องจากสามารถลดอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพลงมาอยู่ที่ 2.81% จาก 2.98% ในไตรมาส 3 ปี 2564 และหากเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2563 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 127% จากค่าใช้จ่ายตั้งสำรองฯ ที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2563 ซึ่งธนาคารได้ตั้งสำรองฯ สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเพื่อเตรียมการล่วงหน้าสำหรับปี 2564 แต่โดยรวมทั้งปี ธนาคารยังคงตั้งสำรองฯ ในระดับสูงที่ 21,514 ล้านบาท ใกล้เคียงกับ 24,831 ล้านบาท ในปี 2563 ส่งผลให้กำไรสุทธิ ปี 2564 อยู่ที่ 10,474 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อนหน้า

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า สำหรับปี 2564 แม้จะมีความท้าทายจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยืดเยื้อแต่ธนาคารสามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้ตามแผน ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายการรวมธนาคาร ซึ่งเสร็จสมบูรณ์ได้ตามกำหนด หรือเป้าหมายด้านการดำเนินงาน ซึ่งธนาคารยังคงยึดนโยบายการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง ไม่เร่งขยายสินเชื่อ ขณะเดียวกันก็เน้นปรับปรุงคุณภาพพอร์ตสินเชื่อโดยการลดยอดสินเชื่อที่มีคุณภาพค่อนข้างอ่อนแอ ทั้งนี้ ก็เพื่อคงความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงินไว้สร้างการเติบโตเมื่อเศรษฐกิจเอื้ออำนวย

ซึ่งจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณฟื้นตัวหลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ธนาคารจึงเริ่มกลับมาเติบโตอีกครั้ง โดยขยายฐานเงินฝากเพิ่มขึ้นได้ 1.1% และโตสินเชื่อได้ 0.9% จากไตรมาส 3 ปี 2564 ทั้งนี้ การเติบโตสินเชื่อยังคงเป็นไปตามนโยบายระมัดระวังและเน้นสินเชื่อที่มีหลักประกันเป็นหลัก ได้แก่ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อเช่าซื้อ ด้านรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเช่นกันที่ 4.4% จากไตรมาส 3 ปี 2564 จากทั้งรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ขณะที่ด้านค่าใช้จ่ายนั้น ธนาคารสามารถรับรู้ผลประโยชน์ด้านต้นทุนจากการรวมกิจการได้ตามแผนและรักษาวินัยด้านค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้เป็นไปตามกรอบเป้าหมาย

ทั้งนี้ แม้การดำเนินนโยบายระมัดระวังจะส่งผลให้ภาพรวมสินเชื่อปี 2564 ลดลง 1.5% เมื่อเทียบกับปี 2563 แต่ในเชิงคุณภาพนั้นถือได้ว่าดีขึ้น บ่งบอกได้จากผลรวมของสินเชื่อชั้นที่ 2 หรือ สินเชื่อที่มีความเสี่ยงด้านเครดิต และสินเชื่อชั้น 3 หรือ สินเชื่อด้อยคุณภาพที่ลดลงกว่า 7 พันล้านบาท หรือ ประมาณ 4.4% จากสิ้นปีที่แล้ว ซึ่งท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่กลับไปสู่ภาวะปกติ ธนาคารก็จะยังคงให้ความสำคัญกับการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ต่อไป

สำหรับรายละเอียดผลการดำเนินงานหลักของปี 2564 มีดังนี้
เงินฝากอยู่ที่ 1,339 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.1% จากไตรมาส 3 ปี 2564 มาจากเงินฝากลูกค้ารายย่อยและสอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของสินเชื่อ แต่ลดลง 2.5% จากปี 2563 สาเหตุหลักมาจากเงินฝากประจำที่ปรับตัวลดลงตามกลยุทธ์การปรับโครงสร้างเงินฝากหลังการรวมกิจการ รวมถึงการบริหารเงินฝากให้สอดคล้องกับทิศทางสินเชื่อที่ชะลอตัว

ทั้งนี้ สินเชื่ออยู่ที่ 1,372 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.9% จากไตรมาส 3 ปี 2564 เติบโตจากทั้งสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ แต่ชะลอลง 1.5% เมื่อเทียบกับปี 2563 เนื่องจากธนาคารมีการเติบโตสินเชื่ออย่างระมัดระวัง จึงทำให้ยอดสินเชื่อใหม่น้อยกว่ายอดสินเชื่อชำระคืน อีกทั้งมีการปรับปรุงคุณภาพพอร์ตโดยการลดยอดสินเชื่อที่ค่อนข้างอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของสินเชื่อที่อยู่ภายใต้โปรแกรมให้ความช่วยเหลือนั้น มีสัดส่วนประมาณ 12% ของพอร์ตสินเชื่อรวม ทรงตัวจากไตรมาส 3 ปี 2564 โดยคุณภาพของพอร์ตยังเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้

รายได้จากการดำเนินงานในปี 2564 อยู่ที่ 65,537 ล้านบาท ชะลอลง 5.5% จากปีก่อน สะท้อนผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในปี 2564 อยู่ที่ 31,219 ล้านบาท ลดลง 3.0% การลดลงดังกล่าวเป็นผลจากการรับรู้ประโยชน์จากการรวมกิจการด้านต้นทุนและการมีวินัยด้านค่าใช้จ่าย จึงทำให้ค่าใช้จ่ายลดลงได้ แม้ว่าเป็นปีที่มีกระบวนการรวมกิจการ (Integration) และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 48%

ด้านคุณภาพสินทรัพย์ สินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ 42,121 ล้านบาท ลดลงจาก 44,411 ล้านบาทในไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้นจาก 39,594 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2563 ในส่วนของอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม โดยอยู่ที่ 2.81% ในไตรมาส 4 ปี 2564 ลดลงจาก 2.98% ในไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้นจาก 2.50% ณ สิ้นปี 2563 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่ฐานสินเชื่อชะลอลง ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเป็นไปตามประมาณการและอยู่ในกรอบเป้าหมายของธนาคาร

ท้ายสุดด้านความเพียงพอของเงินกองทุนยังก็อยู่ในระดับสูงและเป็นลำดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรมธนาคาร โดย ณ สิ้นปี 2564 อัตราส่วน CAR และ Tier 1 (เบื้องต้น) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 19.3% และ 15.3% ตามลำดับ ยังคงสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ 11.0% และ 8.5%

นายปิติ ตัณฑเกษม กล่าวสรุปว่า "สำหรับปี 2565 นั้น ธนาคารตั้งเป้ากลับมาเติบโตทั้งด้านสินเชื่อและเงินฝาก แต่ก็แน่นอนว่าจะเป็นไปอย่างรอบคอบ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ซึ่งหลังการรวมธนาคารและระบบต่าง ๆ เป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์แล้ว ในปีนี้ธนาคารก็พร้อมที่จะเปิดตัวและนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ที่ได้นำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยพัฒนาให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการที่ครบวงจรได้ง่ายและสะดวกขึ้น เพื่อสร้างชีวิตการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งวันนี้และอนาคต พร้อมเดินหน้าต่อยอดธุรกิจควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพด้านดิจิทัลต่อไป"