• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

ประหยัดภาษีด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

Started by Naprapats, March 30, 2022, 02:30:24 AM

Previous topic - Next topic

Naprapats

ประหยัดภาษีด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

เข้าสู่ปีเสือ 2565 ได้เกือบสามเดือนแล้ว เพื่อนสมาชิกบางท่านอาจยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับ ปี 2564 เรียบร้อยแล้ว และวางแผนที่จะมีเงินออมมากขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินที่ต้องการ วันนี้มีคำแนะนำดี ๆ สำหรับเพื่อนสมาชิกที่ต้องการออมเงินและลงทุนเพื่อการเกษียณอายุผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (provident fund: PVD) และต้องการประหยัดภาษีที่ต้องจ่ายในแต่ละปีไปพร้อมกัน

เพื่อนสมาชิกหลายท่านคงทราบดีว่าเงินสะสมที่สมาชิกนำส่งเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนเงินที่จ่ายเข้ากองทุนจริง และเมื่อรวมกับเงินลงทุนเพื่อการเกษียณประเภทอื่น เช่น กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) แล้ว ต้องไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี อีกทั้ง ยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเมื่อนำเงินออกจากกองทุนเมื่ออายุครบ 55 ปี และเป็นสมาชิกมาครบ 5 ปีแล้ว อย่างไรก็ดี เพื่อนสมาชิกอาจสงสัยว่าควรวางแผนการออมการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอย่างไรดี

ส่งเงินสะสมมากช่วยประหยัดภาษี

สำหรับเพื่อนสมาชิกที่ต้องการเก็บเงินเพื่อใช้ในยามเกษียณ และไม่ได้ลงทุนในกองทุนประหยัดภาษีประเภทอื่น ควรเลือกส่งเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพเต็มจำนวน จะได้นำไปหักลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย โดยอัตราเงินสะสมที่สามารถนำส่งเข้ากองทุนจะแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อบังคับกองทุน ซึ่งเพื่อนสมาชิกสามารถสอบถามข้อมูลอัตราเงินสะสมและอัตราเงินสมทบที่จะได้รับจากนายจ้าง รวมถึงเงื่อนไขอื่น ๆ ได้จากคณะกรรมการกองทุนหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของนายจ้างหรือศึกษาได้จากข้อบังคับกองทุน ทั้งนี้ อัตราเงินสะสมและเงินสมทบในข้อบังคับกองทุนจะอยู่ระหว่าง 2-15% ตามที่กฎหมายกำหนดไว้

ลงทุนยาวและสม่ำเสมอช่วยเพิ่มผลตอบแทน

การเก็บออมเพื่อการเกษียณอายุผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นการลงทุนระยะยาว ยิ่งเริ่มส่งเงินเข้ากองทุนเร็วเท่าไร ก็ยิ่งมีเวลาเก็บออมนานขึ้นเท่านั้น ประกอบกับการสะสมเงินอย่างต่อเนื่องทุก ๆ เดือน จะช่วยเพิ่มพูนให้เงินกองทุนงอกเงยจนเป็นเงินก้อนโตที่เราอาจคาดไม่ถึง ตัวอย่างเช่น สมาชิกเริ่มออมตั้งแต่อายุ 20 ปี ได้รับเงินเดือนเริ่มต้น 15,000 บาท และเพิ่มขึ้น 2% ทุกปี ขณะที่สมาชิกและนายจ้างส่งเงินเข้ากองทุนฝ่ายละ 10% ตั้งแต่ปีแรก โดยได้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 3% เมื่อเวลาผ่านไป 15 ปี จะมีเงินเก็บกว่า 7 แสนบาท หากเก็บเงินต่อเนื่องอีก 5 ปี เงินกองทุนจะเพิ่มเป็นประมาณ 1.1 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.5 เท่า และหากเป็นสมาชิกต่อเนื่องถึง 30 ปี เงินกองทุนจะเพิ่มเป็น 2.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3 เท่าจาก 15 ปีที่แล้ว เรียกได้ว่าวินัยการเก็บออมที่ต่อเนื่องจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่เติบโตสูงขึ้นตามระยะเวลาที่ผ่านไปนั่นเอง

เลือกนโยบายการลงทุนเหมาะสมช่วยเพิ่มผลตอบแทนในระยะยาว

สิ่งสำคัญที่เพื่อนสมาชิกควรตระหนักถึงเมื่อวางแผนเก็บเงินเตรียมพร้อมเพื่อการเกษียณคือ การเลือกนโยบาย การลงทุน หากเลือกลงทุนในนโยบายการลงทุนที่มีแต่ความเสี่ยงต่ำเพราะไม่กล้ารับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา อาจต้องแลกกับความเสี่ยงที่จะมีเงินเก็บไม่พอใช้ในยามเกษียณอายุ ดังนั้น หากคณะกรรมการกองทุนของบริษัทที่เพื่อนสมาชิกทำงานอยู่ จัดให้มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย

เพื่อนสมาชิกควรเลือกลงทุนในนโยบายที่เหมาะสมกับความสามารถในการรับความเสี่ยงของตนและตระหนักถึงโอกาสในการได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะยาว เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการออมได้ตามแผนที่วางไว้ เช่น เพื่อนสมาชิกในวัยหนุ่มสาวที่ยังมีเวลาเก็บออมระยะยาวอาจเลือกลงทุนในกองทุนตราสารทุนที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงกว่านโยบายประเภทอื่น โดยข้อมูลปี 2564 พบว่ากองทุนตราสารทุนสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยถึง 18.2% จากปีก่อนหน้า สูงกว่าดัชนีอ้างอิง (SET TRI) ซึ่งอยู่ที่ 17.7% และสูงกว่านโยบายการลงทุนประเภทอื่น อย่างไรก็ดี ผลตอบแทนในอดีตไม่สามารถรับประกันได้ว่าผลตอบแทนในอนาคตจะเป็นเช่นนั้น เพื่อนสมาชิกจึงไม่ควรใช้เป็นปัจจัยเดียวในการตัดสินใจลงทุน สิ่งสำคัญคือการกระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนในนโยบายที่หลากหลาย เพราะหากตราสารทางการเงินประเภทอื่นมีผลขาดทุน อาจมีตราสารทางการเงินประเภทอื่นที่มีกำไรมาช่วยชดเชยให้ผลตอบแทนรวมยังดีอยู่หรือไม่เลวร้ายจนเกินไปนัก

กระจายลงทุนทั้งใน-นอกประเทศ

ในการเลือกนโยบายการลงทุน เพื่อนสมาชิกควรพิจารณาเลือกลงทุนให้ครอบคลุมตราสารทางการเงินทั้งในและต่างประเทศ เพราะนอกจากเป็นการเพิ่มทางเลือกในการสร้างผลตอบแทนแล้ว ยังช่วยกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในด้านต่าง ๆ ได้อีกทางหนึ่งด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลกที่มีความไม่แน่นอนและซับซ้อน การลงทุนในตลาดการเงินเพียงแห่งเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการสร้างผลตอบแทนและการบริหารจัดการความเสี่ยง

ทั้งนี้ การลงทุนในต่างประเทศได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 39 กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ โดยมีมูลค่าการลงทุนเติบโตถึง 51% จากปี 2563 ซึ่งเพื่อนสมาชิกสามารถสอบถามรายละเอียดของกองทุนต่างประเทศหรือแจ้งให้คณะกรรมการกองทุนทราบถึงความสนใจที่จะลงทุนในกองทุนต่างประเทศ เพื่อที่คณะกรรมการกองทุนจะได้ประสานกับบริษัทจัดการเพื่อคัดเลือกนโยบายการลงทุนที่เหมาะสมต่อไป

อย่างไรก็ดี หากเพื่อนสมาชิกเลือกลงทุนไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศแล้วพบว่า ผลการดำเนินงานของกองทุนไม่เป็นที่น่าพอใจหรือขาดทุน ก็อย่าตื่นตระหนกตกใจนัก อยากให้เพื่อนสมาชิกนึกถึงเป้าหมายการออมการลงทุนผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพว่า เป็นเรื่องระยะยาว ความผันผวนในระยะสั้นย่อมเกิดขึ้นเป็นปกติ การลงทุนในนโยบายที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นในระดับความเสี่ยงที่สมาชิกยอมรับได้ ก็อาจนำมาซึ่งผลตอบแทนในระยะยาวที่มากขึ้นได้

สุดท้ายนี้ เพื่อนสมาชิกควรเก็บออมผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเต็มสิทธิที่ได้รับจากนายจ้าง เพื่อช่วยประหยัดภาษีระหว่างทางในแต่ละปี พร้อมกระจายความเสี่ยงในการลงทุนด้วยการเลือกนโยบายการลงทุนที่หลากหลายทั้งในและต่างประเทศ โดยอาจเลือกลงทุนในนโยบายตราสารทุนเพื่อให้มีเงินใช้เพียงพอยามเกษียณ จะได้เป็น "เสือนอนกิน" จากน้ำพักน้ำแรงของตนที่ได้สะสมมาตลอดชีวิตการทำงานหลายสิบปี

ไม่กลายเป็น "เสือร้องไห้" ไร้เงินออมยามไร้เรี่ยวแรงแล้ว

เพื่อนสมาชิก ลูกจ้าง และท่านผู้อ่านที่สนใจ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี

ที่จะได้รับจากการเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ได้ที่นี่ (คลิก) รวมถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้ที่เว็บไซต์ www.ThaiPVD. com ซึ่งมีการนำเสนอเนื้อหาในหลากหลายรูปแบบ

อาทิ บทความ คลิปและอินโฟกราฟิก โดยมีกูรูทางการเงินที่มีชื่อเสียงมาให้ความรู้ด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายและน่าสนใจ