• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - homemie

#151
น้ำยาหล่อลื่น น้ำมันหล่อลื่น สเปรย์หล่อลื่นอเนกประสงค์
น้ำยาหล่อลื่น (Lubricants & Greases) หรือน้ำมันหล่อลื่น คือสารที่ใช้ในการลดความฝืด หรือเคลือบช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนต่างๆ ให้เคลื่อนที่ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนเครื่องยนต์ หรือชิ้นส่วนเครื่องจักร เพื่อลดความเสียดทาน และป้องกันการสึกหรอระหว่างผิวสัมผัสที่ต้องมีการเคลื่อนไหว อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการช่วยระบายความร้อน โดยทำหน้าที่เป็นตัวกลางนำความร้อนออกจากจุดที่ร้อนจัด เพื่อป้องกันความเสียหายจากความร้อนที่สูงเกินไป ช่วยรักษาความสะอาดเครื่องยนต์ รวมถึงป้องกันสนิมบริเวณชิ้นส่วนโลหะ และป้องกันการกัดกร่อนของชิ้นส่วนต่างๆ ได้อีกด้วย แถมน้ำยาหล่อลื่นยังเป็นสารที่นำเอาสิ่งสกปรก และสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ที่อยู่ในเครื่องจักรออกด้วยการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ถือได้ว่าน้ำยาหล่อลื่นเป็นอีกหนึ่งน้ำยาเฉพาะทางที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของชิ้นส่วนต่างๆ ให้ยาวนานยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วน้ำยาหล่อลื่นมักจะอยู่ในรูปของแข็ง ของเหลว กึ่งแข็งกึ่งเหลว และก๊าซ แต่ที่ผู้คนนิยมใช้งานกันแพร่หลาย ก็จะเป็นประเภทของเหลว เช่น น้ำยาหล่อลื่น (Lubricants) ที่จะมีทั้งรูปแบบของสเปรย์หล่อลื่น และน้ำมันหล่อลื่นให้คุณเลือกใช้งานได้ตามความต้องการ ส่วนอีกหนึ่งประเภทที่เป็นที่นิยมไม่แพ้กันก็คือ จารบี ที่อยู่ในรูปแบบสารกึ่งแข็งกึ่งเหลว

จารบี คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร
จารบี (Greases) คือน้ำยาหล่อลื่น หรือน้ำมันหล่อลื่นอีกประเภทหนึ่งที่อยู่ในรูปแบบสารกึ่งแข็งกึ่งเหลว และเป็นอีกประเภทที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งมีหน้าที่คล้ายกับน้ำยาหล่อลื่นที่อยู่ในรูปของเหลว คือมีหน้าที่ช่วยลดการสึกหรอ และปกป้องชิ้นส่วนต่างๆ ที่อยู่ภายในเครื่องยนต์ หรือเครื่องจักรไม่ให้เสียดสีกันจนเกิดความเสียหาย รวมถึงยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ หรือชื้นส่วนเครื่องจักรเช่นกัน แต่จารบีจะมีความสามารถในการระบายความร้อนได้น้อยกว่า และมีความหนืดสูงกว่าน้ำมันหล่อลื่น เพื่อให้สามารถใช้ได้ทั้งในอุณหภูมิสูงและต่ำ รวมถึงใช้ได้ในกรณีที่ไม่สามารถใช้น้ำมันหล่อลื่นได้ แต่มีข้อควรระวังคือถ้าใช้ในปริมาณที่มากเกินไปอาจจะทำให้บริเวณนั้นสกปรกได้
#152
กล้องติดรถยนต์ (Car Camera)
ถ้าพูดถึงกล้องติดรถยนต์เป็นแก๊ตแจ๊ตหนึ่งที่ต้องบอกเลยว่า ไม่ว่าจะหันไปมองรถยนต์คันไหนก็เหมือนจะเป็นเรื่องปกติที่จะมีกล้องติดรถยนต์กันทุกคัน เพราะการขับรถอยู่บนท้องถนนนั้น มีความเสี่ยงอยู่มากมาย และอาจเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้อยู่ตลอดเวลา ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องติดกล้องติดรถยนต์เพื่อที่จะสามารถใช้เป็นหลักฐานในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนในยุคนี้มากๆ

ปัจจัยสำคัญในการเลือกกล้องติดรถยนต์
กล้องติดรถยนต์นั้น ถ้ามองภายนอกจะดูเป็นกล้องหน้ารถที่รูปร่างหน้าตาคล้ายกัน แต่มันจะมีคุณสมบัติและประสิทธิภาพในการทำงานที่แตกต่างกันในบางรุ่น จึงต้องใช้เวลาในการเลือกสักนิด โดย HomePro ได้คัดสรรรุ่นที่มีคุณภาพมาให้เลือก อย่าง SNAPPLE และ DTECH โดยเทคนิคการเลือกกล้องติดรถยนต์นั้น หลักๆจะต้องพิจารณาจากฟังก์ชันดังต่อไปนี้

ความละเอียดวิดีโอ ความละเอียดวิดีโอเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะเราต้องการใช้บันทึกเหตุการณ์ให้คมชัดเพื่อที่จะสามารถใช้เป็นหลักฐานได้ ส่วนใหญ่จะมีความละเอียดอยู่ที่ FULL HD (1080p) ซึ่งเป็นความละเอียดในระดับมาตรฐาน สามารถบันทึกภาพไว้ได้ชัดเจน สามารถนำวิดีโอไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไม่มีปัญหา

อัตรา Frame Rate หรือ FPS สำหรับค่า FPS ก็คือ อัตราเฟรมภาพต่อวินาที เป็นหน่วยวัดจำนวนการบันทึกภาพของภาพเคลื่อนไหวในกล้องวิดีโอแบบต่าง ๆ ต่อ 1 วินาที ยิ่งกล้องมีค่า FPS สูง ภาพที่ออกมาก็จะมีความลื่นไหล สำหรับใน[url=https://www.homepro.co.th/c/TVA0207]ควรเลือกค่า FPS อยู่ที่ 25-30 FPS ซึ่งเป็นระดับที่กำลังดี ภาพที่ได้ยังคงความลื่นไหล ต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันไฟล์ภาพก็ไม่ใหญ่จนเกินไป

ฟังก์ชั่นการใช้งาน ฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นอีกสิ่งนึงที่ต้องคำนึงถึง โดยฟังก์ชั่นพื้นฐานหลักๆที่ส่วนใหญ่ที่ต้องมีคือ G-sensor หรือระบบบันทึกอัตโนมัติเมื่อกล้องเกิดการสั่นสะเทือน หรือกระแทก เพราะการเคลื่อนไหวของรถยนต์จะทำให้กล้องขยับอยู่ตลอด ฟังก์ชั่นนี้จะช่วยให้มองเห็นภาพได้ชัดเจน สบายตามากขึ้น

มุมมองของกล้อง สำหรับมุมมองของกล้องนั้น ก็ถือว่ามีความสำคัญเช่นกัน ซึ่งต้องเลือกมุมที่เหมาะสมกับรถของเราและต้องเป็นเลนส์นูน หากรถคันใหญ่ก็ต้องเลือกมุมกล้องที่กว้างขึ้น เพื่อให้กล้องสามารถบันทึกภาพไว้ได้ทั้งหมด ทางที่ดีคุณควรดูรีวิวจากภาพจริง เนื่องจากบางรุ่นระบุไว้เท่ากัน แต่ภาพที่ได้ไม่เท่ากัน

ความสามารถในการรับแสงน้อยหรือในเวลากลางคืน ควรเลือกกล้องติดรถยนต์รุ่นที่มีรูรับแสงกว้าง หรือมีระบบอินฟาเรดซึ่งสามารถบันทึกภาพในที่มืดได้ จะช่วยให้ภาพที่บันทึกในเวลากลางคืนหรือในที่มืดมีคุณภาพดีกว่า
#153
Shoe Cover)
ถุงคลุมเท้า หรือ ถุงคลุมเท้าแบบใช้แล้วทิ้ง เป็นอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ที่ใช้สำหรับสวมคลุมเท้าเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกต่างๆ เช่น น้ำ ฝุ่นละออง หรือเชื้อโรค ที่ติดมากับเท้าของเราเข้าไปในพื้นที่ควบคุมความสะอาดได้ อีกทั้งยังป้องกันเท้าของเราไปสัมผัสกับสิ่งสกปรกหรือเชื้อโรคที่อยู่ตามพื้นโดยตรงได้อีกเช่นกัน และโดยทั่วไปแล้วเราจะสามารถพบเห็นถุงคลุมเท้าแบบใช้แล้วทิ้งที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลายอยู่ 2 ประเภท หลักๆ คือ ถุงคลุมเท้าแบบพลาสติกและถุงคลุมเท้าแบบใยสังเคราะห์ ซึ่งแต่ละประเภทจะมีโครงสร้างที่มีความแข็งแรง ความเหนียวทน ยากต่อการฉีกขาด ทนต่อสารเคมี ทนทานต่อสภาพอากาศ กันน้ำ กันความชื้น และคุณสมบัติในการต้านทานด้านอื่นๆ ได้ดีแตกต่างกันไป นอกจากนี้ถุงคลุมเท้าจะมาพร้อมกับยางยืดบริเวณปากถุงสำหรับรัดข้อเท้าหรือหน้าแข้งได้กระชับ ช่วยเพิ่มความถนัดในการใช้งานที่ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับใช้ในโรงพยาบาล อุตสาหกรรมทางการแพทย์ ห้องคลีนรูม ห้องแล็บ และโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป

เนื่องจากถุงคลุมเท้าแบบใช้แล้วทิ้งมีให้เลือกทั้งแบบสั้น แบบยาว และหลายขนาด ดังนั้นการเลือกขนาดถุงคลุมเท้าจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับขนาดรองเท้าที่สวมใส่ทำงานด้วย เพราะหากถุงคลุมเท้าขนาดเล็กเกินไปจะทำให้ปิดคลุมรองเท้าได้ไม่มิดชิดและประสิทธิภาพในการป้องกันสิ่งสกปรกลดลงได้ หรือหากเลือกถุงคลุมเท้าขนาดใหญ่เกินไปอาจทำให้เกิดการสะดุดล้มขณะเดินได้อีกเช่นกัน

รสะดุดล้มขณะเดินได้อีกเช่นกัน
#154
อุปกรณ์เตือนภัย[/b]
อุปกรณ์เตือนภัยเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะเข้ามาช่วยในเรื่องของการรักษาความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นกับตัวเราเองหรือกับคนรอบข้าง อาคารสถานที่ต่างๆ รวมถึงเรื่องของทรัพย์สินและอื่นๆ อีกมากมาย โดยอุปกรณ์เตือนภัยจะสามารถแจ้งเตือนให้เราทราบถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นก่อนหน้า เพื่อป้องกันและแก้ไขได้อย่างทันท่วงที ซึ่งอุปกรณ์เตือนภัยที่มีวางจำหน่ายตามท้องตลาดก็มีให้เลือกใช้งานหลายรูปแบบ อาทิ เครื่องตรวจจับควัน ที่สามารถแจ้งเตือนการเกิดไฟไหม้ได้จากระดับควันหรือระดับอุณหภูมิที่สูงเกินไป, อุปกรณ์ตรวจจับความเคลื่อนไหว ที่สามารถตรวจจับว่ามีใครเคลื่อนไหวอยู่รอบบริเวณบ้านของเราในยามค่ำคืนหรือตอนที่เราไม่อยู่บ้าน เป็นต้น

สิ่งต่างๆ เหล่านี้หากเราไม่มีการติดตั้งสัญญาณเตือนจากอุปกรณ์เตือนภัย ก็อาจจะเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว นับว่าเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับคนที่ต้องการป้องกันและเพิ่มความปลอดภัยให้กับบ้านของเราให้มากขึ้น อีกทั้งยังสร้างความสบายใจให้กับผู้ที่ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม เช่น เมื่อเราติดอุปกรณ์เตือนขโมยที่บ้าน ก็ทำให้เราสามารถออกไปไหนมาไหนได้โดยไม่ต้องเป็นกังวล

อุปกรณ์เตือนภัยที่ได้รับความนิยมมีอะไรบ้าง
เครื่องตรวจจับควันไฟ (Smoke Detector) แน่นอนว่าเรื่องอัคคีภัย ถือเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก หากเกิดเหตุไม่คาดฝันจากการทำอาหาร ไฟฟ้าลัดวงจร หรือแม้แต่สูบบุหรี่ เครื่องตรวจจับควันเป็นอุปกรณ์เตือนภัยที่จะช่วยคุณให้ไม่เกิดความสูญเสียของชีวิตและทรัพย์สินจากอัคคีภัยได้ ซึ่ง HomePro ได้คัดสรรแบรนด์ที่มีคุณภาพและปลอดภัยมาไว้ให้คุณเลือกแล้ว ไม่ว่าจะเป็น HACO, C-CURRY, MILOCK
อุปกรณ์เตือนภัยประเภทสัญญาณกันขโมย แก๊ตแจ๊ตประเภทนี้เป็นอุปกรณ์เตือนภัยหลักๆที่ได้รับความนิยม และมีไว้เพื่อดูแลความปลอดภัยจากการโจรกรรม โดยอุปกรณ์เตือนภัยสำหรับการกันขโมยนั้นก็จะมีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ อาทิ อุปกรณ์ตรวจจับความเคลื่อนไหว (Motion Sensor) เอาไว้ตรวจจับเมื่อมีคนเข้ามาในพื้นที่หวงห้าม หรือสัญญาณเตือนกันขโมยแบบติดกับประตูและหน้าต่าง หากว่ามีการเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาตสัญญาณก็จะดังขึ้น

และยังมีอุปกรณ์เตือนภัยต่างๆ สำหรับที่พักอาศัยยุคใหม่อย่าง Smart Home เช่น อุปกรณ์ตรวจจับน้ำรั่ว (Water Leak Sensor) เอาไว้ตรวจจับการรั่วซึมของน้ำหรือปริมาณน้ำที่ไหลออกมามากผิดปกติในจุดต่าง ๆ และตรวจจับอุณหภูมิภายในบ้านแบบเรียลไทม์ เป็นต้นดยการใส่หน้ากากอนามัย แว่นตานิรภัย และถุงมือนิรภัยเพื่อความปลอดภัย
#155
สีโป๊วปูน สีโป๊วผนังอะคริลิก คืออะไร
สีโป๊วปูน  (Cement Fillers) เป็นสีประเภทหนึ่งที่มีหน้าที่ในการช่วยอุดโป๊วรอยแตกร้าว เช่น รอยหัวตะปู รูพรุนตามด หรือรอยต่อแผ่นยิปซั่ม รวมถึงซ่อมแซม ขึ้นรูป และเพิ่มความเรียบเนียนของผนังที่ชำรุด ไม่ว่าจะเป็นการชำรุดจากการใช้งาน หรืออุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ง่าย และรวดเร็ว สามารถใช้งานตกแต่งได้ทั้งภายนอก และภายใน ผลิตจากกาวอะคริลิกคุณภาพสูง สามารถยึดเกาะพื้นผิวได้อย่างแน่นสนิท ทั้งพื้นผิวคอนกรีต ยิปซั่ม ปูนฉาบ และไม้ เป็นต้น ซึ่งเมื่อทาแล้วสีโป๊วปูน จะกลายเป็นสีขาว และสามารถทาสีทับได้โดยที่ไม่เหลืองไม่เป็นคราบ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติแห้งไว ไม่หดตัว สามารถขัดตกแต่งได้ง่าย จึงไม่จำเป็นต้องโป๊วหลายรอบ แต่ไม่ควรทำการโป๊วในวันที่มีความชื้นสูง หรือฝนตก และไม่ควรใช้ในบริเวณที่ต้องแช่น้ำ หรือมีน้ำขังอยู่ตลอดเวลา แถมยังไม่เหมาะสำหรับการโป๊วในบริเวณรอยแตกร้าวที่มีโอกาสขยับ แตกร้าวเพิ่ม หรือรอยต่อของโครงสร้างที่มีโอกาสในการเคลื่อนตัว

การเตรียมพื้นผิวสำหรับพื้นผิวที่ต้องการอุดโป๊ว
ในการเตรียมพื้นผิวที่จะอุดโป๊วด้วยสีโป๊วนั้น ควรทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากเศษฝุ่นผง สี เศษซีเมนต์ หรือคราบไขต่างๆ ออกให้หมดก่อน แต่ในกรณีที่เป็นพื้นผิวปูนเก่าที่มีลักษณะเป็นฝุ่น หรือร่วนพรุน แนะนำให้ทาสีรองพื้นปูนเก่าในบริเวณที่ต้องการอุดโป๊วเป็นจำนวน 1 รอบแล้วทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 2-3 ชั่วโมง จากนั้นให้ใช้เกรียงในการอุดโป๊วรอยแตกร้าว แล้วทิ้งให้แห้งประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง ขัดตกแต่งด้วยกระดาษทราย แล้วเช็ดทำความสะอาดฝุ่นที่เกิดจากการขัด ก่อนที่จะทำการทาสีทับหน้าตามในภายหลัง

เมื่อเปิดฝาใช้งานแล้วก็ควรปิดฝาให้สนิทในกรณีที่ใช้งานไม่หมดภายในหนึ่งครั้ง ควรจัดเก็บไว้ในที่แห้ง และไม่โดนแสงแดดโดยตรง ที่สำคัญคือควรใช้งานสีโป๊วปูน ในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก และพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้สีโป๊วปูน สัมผัสผิวหนังหรือสูดดมโดยตรง โดยการใส่หน้ากากอนามัย แว่นตานิรภัย และถุงมือนิรภัยเพื่อความปลอดภัย
#156
ทุกรอยรั่วบริเวณหลังคา ดาดฟ้า ก็อุ่นใจได้ด้วยกันซึมโพลียูรีเทน
เป็นเรื่องปกติที่บ้านหรือที่พักอาศัยของเราอาจจะเกิดปัญหารั่วซึมกันมาเมื่อเวลาผ่านไปนานๆ ถือได้ว่าเป็นปัญหาที่สร้างความกวนใจให้กับเจ้าของบ้านไม่น้อย ดังนั้นสิ่งแรกที่เราควรจะทำหลังจากเกิดปัญหานี้คือ การสำรวจให้แน่ใจก่อนว่าสาเหตุที่รั่วซึมนั้นเกิดจากอะไรกันแน่ เพื่อที่จะได้รู้ว่าปัญหาการรั่วซึมภายในบริเวณบ้านของเรานั้นเกิดจากส่วนไหนของบ้าน เพื่อที่จะได้เลือกซื้อวัสดุกันซึมให้ตอบโจทย์และมีคุณภาพกับส่วนที่ซึมในบ้านมากที่สุด ซึ่งหากปัญหาการรั่วซึมนั้นส่วนใหญ่แล้วจะเกิดมาจากบริเวณดาดฟ้า หรือภายนอกบ้านบริเวณที่ต้องโดนแสงแดดอยู่บ่อยๆ

กันซึมโพลียูรีเทนในปัจจุบันนั้นค่อนข้างเป็นที่นิยมในหมู่ผู้รับเหมาต่างๆ เกี่ยวกับงานประเภทซ่อมแซมหลังคา ซ่อมแซมบริเวณดาดฟ้า และรอยรั่วจากภายนอกต่างๆ หน้าที่ของกันซึมโพลียูรีเทนจะทำการรับแรงดึงและปกปิดรอยร้าวนั้นไว้ ทำให้น้ำไม่สามารถไหลผ่านรอยร้าวในบริเวณนั้นได้ เรียกได้ว่าเป็นการป้องกันการรั่วซึมได้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งคุณสมบัติของกันซึมโพลียูรีเทนที่ผลิตมาจากยางนั้นยังสามารถยืด หด และขยายตัว ตามรอยร้าวที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมานี้ส่งผลให้กันซึมโพลียูรีเทนเป็นที่นิยมอย่างมากในงานสำหรับงานซ่อมแซมหลังคาหรือดาดฟ้าในปัจจุบัน

คุณสมบัติเบื้องต้นของกันซึมโพลียูรีเทนกันซึม
กันซึมโพลียูรีเทนนั้นสามารถทนต่อการขังตัวของน้ำได้เป็นระยะเวลานาน แม้กระทั่งช่วงเวลาที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ก็ยังสามารถทำหน้าที่รองรับน้ำฝนและป้องกันการรั่วซึมได้เป็นอย่างดี โดยในปัจจุบันกันซึมโพลียูรีเทนจะแบ่งออกเป็นสองประเภทหลักๆ ดังนี้

กันซึมโพลียูรีเทน แบบส่วนผสมเดียว จะมีเพียงกันซึมโพลียูรีเทนเป็นส่วนประกอบหลักส่วนเดียวเท่านั้น ไม่มีส่วนผสมของสารอื่นๆ ทำให้แห้งตัวได้จากการสัมผัสอากาศและจากการสัมผัสกับแสง โดยคุณสมบัติเบื้องต้นนั้นใช้ในการป้องกันการรั่วซึมได้ค่อนข้างดีกว่าแบบ กันซึมอะคริลิก และ กันซึมแบบยางมะตอย เมื่อใช้กับงานหลังคา

กันซึมโพลียูรีเทน แบบสองส่วนผสม จะเป็นการนำเอากันซึมโพลียูรีเทนมาผสมกับสารเพิ่มความแข็งชนิดอื่นๆ ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย โดยอายุการใช้งานฉลี่ยจะอยู่ที่ 7 – 10 ปี ยังคงคุณสมบัติในการป้องกันการรั่วซึมได้ดีเยี่ยม สามารถเคลือบกันซึมได้ที่ความหนาตั้งแต่ 1 – 10 มิลลิเมตร
#157
การเลือกซื้อสีน้ำทาภายใน ต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง
สีน้ำทาบ้านภายใน (Interior Paint) ที่นิยมใช้งานกันมักจะใช้เป็นสีน้ำ หรือสีอะคริลิค เนื่องจากอาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่ในประเทศไทยจะมีพื้นผิวเป็นปูน จึงทำให้สีน้ำสามารถยึดเกาะบนพื้นผิวนั้นได้เป็นอย่างดี แถมยังมีความคงทนค่อนข้างมาก และหลายคนอาจจะยังมีความสงสัยว่าสามารถนำสีน้ำทาภายในไปใช้งานแทนสีน้ำทาภายนอกได้หรือไม่ ก็ขอตอบเลยว่าไม่แนะนำอย่างยิ่ง เพราะด้วยคุณสมบัติเฉพาะที่ผู้ผลิตต้องการใส่ให้แค่กับสีทาภายใน จึงไม่ได้ใส่สารบางอย่างที่ช่วยให้สีสามารถทนต่อสภาพอากาศต่างๆ ได้ และถ้าหากนำไปใช้งานภายนอกแล้ว ในระยะสั้นอาจไม่เห็นผลอะไรมากนัก แต่ในระยะยาวจะเห็นได้ชัดว่าสีจะซีดจาง สีหลุดร่อนได้ง่าย และเสื่อมสภาพได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับการเลือกใช้งานสีน้ำทาบ้านภายใน นั้น ควรจะเลือกสีน้ำทาภายในที่สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ทนต่อการขัดถู สามารถป้องกันเชื้อรา และแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งสีทาภายในจะต้องไม่มีสารเคมีอันตราย และกลิ่นฉุนที่อาจทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย เช่น ปราศจากสาร VOCs หรือสารระเหย เพราะเป็นสารที่จะทำให้รู้สึกแสบตา แสบจมูก หายใจลำบาก เกิดอาการวิงเวียนศีรษะได้ และถ้าสะสมในร่างกายเป็นเวลานานจะทำให้เยื่อหุ้มปอดถูกทำลายได้ในที่สุด ฉะนั้นหากเลือกสีทาภายในบ้านก็ควรจะต้องพิจารณาค่า VOCs ให้มีค่าเป็น Zero หรือ Low รวมทั้งปราศจากสารปรอท และตะกั่ว ซึ่งเป็นโลหะหนักและเป็นอันตรายต่อร่างกายเช่นกัน

ประเภทของสีน้ำทาบ้านภายใน และการเตรียมพื้นผิว
สีทาภายในชนิดด้าน สีประเภทนี้จะมีราคาถูกที่สุด เมื่อทาเสร็จแล้วผิวหน้าที่ได้จะมีความด้าน สวย ดูทันสมัย แต่จะทำความสะอาดยาก เพราะสีด้านจะจับฝุ่น โดยช่างมักจะชอบใช้งานสีประเภทนี้ที่สุดเพราะงานจะดูเรียบเนียนเวลาฉาบปูน

สีน้ำทาบ้านภายใน ชนิดกึ่งเงา สีชนิดนี้จะแพงกว่าสีด้าน เนื่องจากมีคุณสมบัติสะท้อนเงาเล็กน้อย จึงช่วยให้บ้านและอาคารดูสว่างขึ้น ที่สำคัญคือสามารถทำความสะอาดได้ง่ายกว่าสีทาภายในชนิดด้านอีกด้วย

สีน้ำทาบ้านภายใน ชนิดเงา เป็นประเภทที่มีความคงทนมากที่สุด และทำความสะอาดได้ง่ายที่สุด แต่มักจะไม่ค่อยนิยมใช้งานกัน เพราะการออกแบบจะทำได้ยาก และราคาก็มักจะแพงกว่า

นอกจากจะรู้ว่าต้องการใช้สีน้ำทาภายในชนิดไหนแล้ว คุณก็ควรที่จะต้องรู้จักการดูแลให้สีติดทนยาวนานด้วยเช่นกัน โดยการรักษาสีทาอาคารทุกประเภทนั้นจะต้องดูแลตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มทา ซึ่งก่อนทาสีก็จะต้องทำความสะอาดผิวพื้นให้สะอาด ปราศจากฝุ่นผง และคราบมันต่างๆ ให้หมดเสียก่อน จากนั้นให้ทาสีรองพื้นก่อนทำการลงสีจริง ส่วนการทาสีนั้นก็สามารถทาตามคำแนะนำของสีแต่ละประเภทได้เลย
#158
สีทาบ้าน (Decorative Paint)
สีทาบ้าน หรือ สีทาอาคาร เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความสวยงามและสร้างสีสันให้กับบรรยากาศในการตกแต่งบ้านได้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่าการเลือกสีทาบ้านมาใช้งานนั้้น จะต้องพิจารณากันถึงเรื่องของความทนทานและลักษณะการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น สีทาภายนอก หรือ สีทาภายใน ที่มีให้เลือกใช้งานอยู่หลากหลายประเภท ซึ่งสีทาบ้านแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกใช้งานสีทาบ้านจะต้องเลือกให้ตรงกับลักษณะการใช้งาน เพื่อความคงทนไม่หลุดร่อนส่งผลให้บ้านของเราโดดเด่นสวยงามอย่างยาวนาน
สีทาบ้านยี่ห้อไหนดี?
การเลือกสีทาบ้านมาใช่งาน นอกจากการเลือกโทนสีที่คุณชื่นชอบแล้ว สิ่งที่ต้องพิจารณาต่อมาคือเรื่องของยี่ห้อสีทาบ้าน ซึ่งตามท้องตลาดทั่วไปมีวางจำหน่ายเป็นจำนวนมาก การเลือกสีทาบ้านที่มีคุณภาพก็ควรเลือกจากแบรนด์ยี่ห้อที่มีชื่อเสียง อาทิเช่น สีทาบ้าน TOA, สีทาบ้าน NIPPON, CAPTAIN, สีทาบ้าน BEGER, สีทาบ้าน DELTA, สีทาบ้าน ICI, สีทาบ้าน JOTUN เป็นต้น ซึ่งในบางยี่ห้อสามารถป้องกันคราบสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นรอยเลอะเปรอะเปื้อนก็สามารถใช้ผ้าเช็ดออกได้อย่างง่ายดาย
ซึ่งคุณสามารถสั่งซื้อสีทาบ้านผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ www.homepro.co.th ศูนย์รวมสีทาบ้านและสีทาอาคารทั้งภายนอกและภายใน พร้อมอุปกรณ์สีทาบ้านแบบครบวงจร พร้อมจัดส่งถึงบ้านคุณ รับประกันคุณภาพ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่โฮมโปรทุกสาขาใกล้บ้านของคุณ หรือโทร Call Center 1284
ประเภทสีทาบ้านและสีทาอาคาร
โดยทั่วไปแล้วสีทาบ้านจะสามารถแยกได้ตามลักษณะการใช้งานอยู่ 2 รูปแบบ คือ สีทาภายนอกและสีทาภายใน โดยสีทาบ้านบางประเภทก็สามารถใช้งานได้ทั้งภายนอกและภายใน เช่น สีน้ำพลาสติก หรือสีอะคริลิค เป็นต้น นอกจากเรื่องของลักษณะการใช้งานแล้วยังต้องพิจารณาในเรื่องของวัสดุที่จะทาสีประกอบด้วย อาทิ วัสดุไม้ หรือ วัสดุเหล็ก เป็นต้น เพราะแต่ละวัสดุก็จะมีการเลือกใช้สีที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ก็เพื่อเลือกประเภทสีทาบ้านให้ตรงกับลักษณะการใช้งานมากที่สุด
สีน้ำพลาสติก หรือ สีอะคริลิค
เป็นสีทาบ้านประเภทที่ได้รับความนิยมใช้งานมากที่สุด เนื่องจากสามารถใช้งานได้ทั้งภายนอกและภายใน โดยสีอะคริลิคสำหรับทาภายนอกจะมีราคาที่สูงมากกว่าประเภทที่ใช้ทาภายใน เนื่องจากเป็นสีที่มีอะคริลิคแบบ 100% และมีการผสมสารเคมีอื่นๆเพิ่มเติมเข้าไปด้วย เพื่อป้องกันสภาพแวดล้อมภายนอกตัวอาคาร เช่น ป้องกันแสงแดด ป้องกันฝน ป้องกันเชื้อราและตะไคร้น้ำ ป้องกันเรื่องของกรดด่าง เป็นต้น คุณสมบัติดังกล่าวจะช่วยทำให้สีมีความคงทน ทนทานไม่หลุดล่อน บ้านสวยยาวนานไม่ต้องทาสีบ้านใหม่บ่อยๆ
สีน้ำมัน
เป็นสีอีกประเภทที่ให้ความมันเงาสวยงาม นิยมนำมาใช้ทากับงานไม้หรืองานเหล็ก เช่น ประตูรั้วบ้าน หรือราวโลหะ เป็นต้น เป็นสีที่ใช้น้ำมันหรือทินเนอร์เป็นตัวทำละลาย สามารถนำมาใช้ในงานทาพื้นคอนกรีตได้เช่นกัน แต่สีน้ำมันค่อนข้างแห้งช้ามากกว่าสีประเภทอื่น ต้องปล่อยทิ้งไว้อย่างน้อย 6 ชั่วโมง และมีราคาที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงนิยมนำมาใช้ทาตกแต่งเฉพาะส่วนมากกว่า
สีทาไม้ หรือ สีย้อมไม้
เป็นสีอีกประเภทที่นิยมใช้กับงานไม้ทั่วไป สีทาไม้มีคุณสมบัติช่วยให้วัสดุไม้มีความมันวาวและสวยงามขึ้นมากกว่าเดิม สามารถนำมาใช้ได้กับวัสดุไม้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น กำแพงไม้ ผนังไม้ เฟอร์นิเจอร์ไม้ หรือพื้นไม้ เป็นต้น การเลือกใช้สีย้อมไม้ช่วยทำให้ลวดลายของไม้มีความเด่นชัดและดูสดมากยิ่งขึ้น สำหรับบ้านที่เน้นการเลือกใช้วัสดุไม้ในการตกแต่ง การเลือกใช้สีทาไม้หรือสีย้อมไม้มาทาเคลือบอีกชั้น จะช่วยสร้างบรรยากาศความเป็นธรรมชาติให้กับภายในบ้านได้เป็นอย่างดี
สีกันสนิม หรือ สีงานเหล็ก
เป็นสีที่ใช้สำหรับงานเหล็กทั่วไป ซึ่งแน่นอนว่าไม่ว่าจะเป็นตามอาคารหรือบ้านเรือนทั่วไป จะต้องมีการใช้งานเหล็กในการตกแต่งหรือก่อสร้างอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการตกแต่งบ้านรูปแบบไสตล์ลอฟท์ ที่เน้นโครงสร้างเหล็กลุคเท่ห์ๆในการตกแต่งเป็นส่วนใหญ่ การเลือกใช้สีทาเหล็กมาใช้งาน จะสามารถช่วยป้องกันสนิมได้ เพิ่มความมันวาวของวัสดุเหล็กได้อย่างสวยงาม ซึ่งโดยปกติทั่วไปแล้วมักใช้สีทาเหล็กหรือสีกันสนิมก่อนที่จะลงสีน้ำมันทับอีกชั้น
เกรดของสีทาบ้าน
อีกสิ่งที่ต้องพิจารณาประกอบในการเลือกสีทาบ้านมาใช้งาน คือเรื่องของเกรดของสีทาบ้าน ซึ่งเกรดของสีนั้นจะสามารถแบ่งออกเป็น 4 เกรดด้วยกันได้แก่ A, B, C และ D โดยสีทาบ้านแต่ละเกรดก็มีคุณสมบัติและคุณภาพที่แตกต่างกันดังต่อไปนี้
สีทาบ้านเกรด A เป็นสีที่มีส่วนผสมของอะคริลิค 100% ราคาค่อนข้างสูง นำเข้ามาจากฝั่งยุโรป แต่เทียบกับคุณภาพแล้วจัดว่าคุ้มค่า มีอายุการใช้งานยาวนานตั้งแต่ 5-10 ปี
สีทาบ้านเกรด B เป็นสีที่มีส่วนผสมของอะคริลิค 100% เหมือนกันแต่ต่างกันตรงที่เป็นสีที่มาจากฝั่งทางเอเชีย มีคุณภาพกลางๆ อายุการใช้งานนาวนานประมาณ 3-5 ปี
สีทาบ้านเกรด C เป็นสีที่มีส่วนผสมของอะคริลิค 70% เป็นสีที่มีการผสมสารเคมีอื่นๆเพิ่มเข้าไปด้วย มีคุณภาพพอใช้ ราคาไม่แพงมากนัก มีอายุอาการใช้งานประมาณ 1-3 ปี
สีทาบ้านเกรด D เป็นสีที่มีคุณภาพเกรดต่ำที่สุด มีการผสมสารเคมีอื่นๆมากกว่า 30% ขึ้นไป สัดส่วนของอะคริลิคน้อยกว่าสีทาบ้านเกรดอื่นๆ
#159
สีงานไม้ เลือกใช้งานอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
สีน้ำทาไม้ หรือสีอะครีลิคทาไม้ (Acrylic Wood Paint) เป็นสีที่ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับงานไม้โดยเฉพาะ ซึ่งก็มีให้เลือกใช้งานหลากหลายประเภทด้วยกัน โดยคุณสมบัติของสีอะครีลิคทาไม้จะสามารถป้องกันน้ำ หรือความชื้นซึมเข้าเพื่อลดโอกาสการเกิดสีหลุดล่อน โป่งพอง และเนื้อไม้บิดงอ ช่วยให้วัสดุไม้มีความคงทนต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาอันเป็นสาเหตุของสีซีดจางได้เป็นอย่างดี รวมถึงเพิ่มความสวยงาม และขับลวดลายของไม้ธรรมชาติให้ดูมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งสามารถป้องกันการเกิดเชื้อรา และตะไคร่น้ำได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งการเลือกสีน้ำทาไม้สำหรับใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น การทาสีไม้ภายนอก หรือการทาสีไม้ภายในจะต้องพิจารณาจากประเภทของสีน้ำทาไม้และลักษณะการใช้งาน เพื่อที่จะเลือกสีงานไม้ให้เหมาะสมที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็สามารถนำไปใช้ได้กับงานไม้แทบทุกชนิด ทั้งงานไม้กลางแจ้ง งานไม้ใกล้พื้นที่ชื้น งานประตู งานหน้าต่าง งานเฟอร์นิเจอร์ และงานรั้วบ้าน สำหรับสีทาไม้ตามท้องตลาดทั่วไปก็มีให้เลือกใช้งานอยู่หลากหลายยี่ห้อ โดยคุณภาพของแต่ละยี่ห้อก็มีความแตกต่างกันออกไป ดังนั้นการเลือกสีอะครีลิคทาไม้มาใช้งานก็ควรเลือกจากแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น สีทาไม้ BEGER สีทาไม้ TOA หรือสีทาไม้ RPS เป็นต้น

คุณสมบัติหลักของสีน้ำทาไม้ประเภทอะครีลิค
สีงานไม้ที่มีให้เลือกใช้งานอยู่ในปัจจุบันจะเป็นสีทาไม้ประเภททึบแสง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วสีอะครีลิคทาไม้เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมนำมาใช้งานมากที่สุด ซึ่งการจะเลือกสีทาไม้มาใช้งานจะต้องทราบก่อนว่าแต่เดิมที่เคยมีการทาเอาไว้นั้นเป็นสีอะคริลิคหรือไม่ เนื่องจากจะไม่สามารถทาทับกันได้หากเป็นสีทาไม้คนละประเภท ซึ่งการทดสอบสามารถทำได้ด้วยการใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ และถูบนพื้นผิววัสดุ ถ้าหากมีสีติดสำลีก็แสดงว่าสีที่ใช้ทาแต่เดิมคือสีประเภทอะคริลิค แต่ถ้าเป็นสีน้ำมันจะไม่มีสีใดๆ ติดสำลีออกมา

สีน้ำทาไม้ประเภทสีอะคริลิค (Water Base) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำให้การทาสีไม้นั้นทำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม แถมยังไม่มีกลิ่นฉุน แต่ถ้าหากชิ้นงานนั้นมีการทาสีน้ำมันมาก่อน คุณจะต้องทำการขัดสีน้ำมันออกก่อนถึงจะลงสีอะคริลิคใหม่ได้ และควรรองพื้นด้วยสีรองพื้นไม้เพื่อเพิ่มการยึดเกาะของสีด้วย
#160
ถุงคลุมรองเท้าใช้สำหรับคลุมรองเท้าเมื่อเข้าสู่ห้องปฏิบัติการ ห้องคลีนรูม โรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล หรือสถานที่อื่นๆ โดยปกติแล้ว ถุงคลุมรองเท้ามีสองประเภท แบบสั้นและแบบยาว ทำจากวัสดุที่หลากหลาย รวมถึงพลาสติก ผ้าฝ้าย หรือเยื่อกระดาษ ยืดหยุ่นดี น้ำหนักเบา ใส่สบาย ไม่อับชื้น มีหลายสีหลายขนาด สามารถพกพาติดตัวไปเพื่อป้องกันไม่ให้รองเท้าลื่นไถลและรองเท้ากันน้ำไม่ให้กระเด็นหรือฝุ่นออกจากรองเท้าจึงถือเป็นการทำความสะอาดและป้องกันสิ่งสกปรกต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ




#161
น้ำยาเฉพาะทาง น้ำแบบแบบไหนเหมาะกับงานแบบไหน
หากพูดถึงน้ำยาเฉพาะทางปัจจุบันนี้มาหลากหลายมาก และน้ำยาแต่ละชนิดก็มีลักษณะการใช้งานแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาจำกัดปลวก น้ำยาลอกสีเก่า น้ำยาทำความสะอาดไม้ น้ำยากำจัดสนิม น้ำยาเคลือบกันซึม เป็นต้น แต่เดิมน้ำยาที่เราใช้กันในปัจจุบันมีแบบสำเร็จรูปให้เลือกใช้มากมาย ตามการใช้งาน ช่วยให้เราสามารถประหยัดเวลาในการจัดการบ้านของเราได้อย่างง่ายขึ้นอีกด้วย
น้ำยาเฉพาะทางแบบไหนเหมาะกับส่วนไหน?
น้ำยากำจัดปลวก
น้ำยากำจัดปลวกที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกันหลายชนิดเช่น เทลงดิน ทาป้องกันเนื้อไม้ เป็นต้น สามารถใช้สำหรับป้องกันและกำจัดปลวก ทั้งนี้ก่อนใช้งานเองควรสวมเครื่องมือป้องกันอย่างถุงมือ หรือหน้ากากอนามัยก่อนเพื่อป้องกัน และควรเก็บให้พ้นมือเด็ก สัตว์เลี้ยง หรือเปลวไฟด้วย
น้ำยาลอกสี
น้ำยาที่ใช้สำหรับลอกสีเก่าที่ทาไว้โดยเฉพาะมีส่วนผสมของสารละลายคลอรีนและสารสังเคราห์พิเศษ ทำให้สามารถลอกสีได้ การใช้งานเพียงทางบริเวณสีเก่าปล่อยไว้ประมาณ 5 – 10 นาทีให้สีเก่าพองตัวหรือนิ่มขึ้นจากนั้นสามารถขูดออกด้วยเกรียงเหล็ก หรือ มีดโป๊วสี จากนั้นทำความสอาดด้วยผงซักฟอกและล้างออกด้วยน้ำสะอาด ควรปล่อยให้แห้งก่อนที่จะทาทับด้วยสีใหม่
น้ำยาทำความสะอาดไม้
เป็นน้ำยาที่ใช้สำหรับทำความสะอาดไม้เหมาะกับใช้ในเฟอร์นิเจอรืประเภทไม้ทั้งภายในและภายนอก สามารถกำจัดคราบเชื้อราและตระไคร่น้ำได้ ส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีสารระเหยและกลิ่นรบกวน แต่ควรเก็บให้ไกลจากเด็กและสัตว์เลี้ยงเนื่องจากอาจเกิดอันตราย
น้ำยาทำกำจัดสนิม
เป็นน้ำยาที่ใช้สำหรับทำเหล็กของคุณดูมันวาวและมีอายุการใช้งานที่ยืนยาวขึ้นเนื่องจากน้ำยาประเถทนี้จะเข้าไปแทรกซึมในสนิมแล้วลอกออก พร้อมสร้างผลึกฟิลม์ทำให้สีไม่เกิดสนิม ส่วนใหญาแล้วออกแบบมาให้ใช้งานได้หลากหลายทั้งแบบ ทา จุ่ม กลิ้ง หรือ พ่น โดยการใช้งานตามกระบวนการเหล่านี้จะทำแล้วทิ้งไว้ประมาณ 30-60 นาทีแล้วล้างน้ำยาออกจากนั้นเช็ดให้แห้ง
น้ำยาเคลือบกันซึม
เป็นน้ำยาอะครีลิคโคโพลีเมอร์ชนิดเข้มข้น น้ำยาเคลือบกันซึมมีคุณสมบัติในการกันซึม ทนทานต่อสภาวะ อากาศและรังสี UV เนื้อฟิล์มมีความแข็งแรงและยืดหยุ่น สามารถปกปิดรอยแตกร้าวได้ดี สูตรน้ำ ไม่มีกลิ่นฉุน ที่สำคัญน้ำยาเคลือบกันซึมปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน ใช้งานง่าย เพียงทาด้วยแปรง หรือลูกกลิ้ง เมื่อแห้งแล้ว ใสไม่มีสี ทาทับกระเบื้องได้                                                                                                             
#162
ที่ใส่สบู่ ที่วางสบู่ (Soap Holders)
ที่ใส่สบู่ ที่กดสบู่ หรือ ที่วางสบู่ จัดว่าเป็นอุปกรณ์ในห้องน้ำที่ทุกบ้านต้องมีไว้ใช้งานขาดไม่ได้เลย ไม่ว่าคุณจะใช้สบู่เหลว หรือสบู่ก้อน ก็จำเป็นที่จำเป็นที่จะต้องมีภาชนะสำหรับใส่เพื่อใช้งาน โดยที่วางสบู่ทั่วไปก็มีให้เลือกใช้งานหลากหลายรูปแบบและดีไซน์ ตัววัสดุในการผลิตก็มีให้เลือกใช้หลากหลายประเภท เช่น ที่วางสบู่พลาสติก ที่วางสบู่สเตนเลส ที่วางสบู่เซรามิค ที่วางสบู่ตะแกรงโลหะ เป็นต้น ซึ่งการเลือกที่วางสบู่มาใช้งานในบ้าน ก็ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละคน ด้วยดีไซน์ที่มีความสวยงาม แตกต่าง อาจจะต้องพิจารณาถึงเรื่องสไตล์ในการตกแต่งห้องน้ำ
วัสดุที่วางสบู่
ที่วางสบู่ที่มีวางจำหน่ายทั่วไป มีให้เลือกใช้งานหลากหลายวัสดุ ซึ่งแต่ละวัสดุก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เช่น ที่วางสบู่พลาสติกหรือซิลิโคน จะเป็นที่วางสบู่ที่เราพบเห็นมากที่สุด ราคาถูกที่สุด และมีความสวยงามหลากหลายรูปแบบและดีไซน์ให้เลือกสรร แต่หากคุณต้องการความโมเดิร์นหรูหราขึ้นมาหน่อย แนะนำให้เลือกที่วางสบู่โลหะหรือที่วางสบู่สแตนเลสมาใช้งาน ถึงแม้ราคาอาจจะสูงกว่าสักหน่อย แต่หากเทียบกันในเรื่องของความทนทาน ที่วางสบู่สแตนเลสจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่า แต่หากคุณชื่นชอบความสวยงามแบบมินิมอลโทนสีขาวหรือลวดลายหินอ่อน ที่วางสบู่เซรามิคเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ที่วางสบู่เซรามิคจะมีความแข็งแรงทนทาน แต่ที่วางสบู่ประเภทนี้จะมีน้ำหนักมาก อีกทั้งยังแตกหักได้ง่าย ดังนั้นจึงต้องควรระวังอย่างมากเรื่องของการติดตั้ง
นอกจากเรื่องของวัสดุและความสวยงามของที่วางสบู่แล้ว จะต้องพิจารณาเรื่องของพื้นที่ในการติดตั้งที่วางสบู่ประกอบด้วย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วที่วางสบู่สามารถติดตั้งในพื้นที่อื่นนอกจากห้องน้ำได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณซิงค์ครัว บริเวณเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า เป็นต้น การติดตั้งสามารถติดตั้งได้ทั้งแบบเจาะผนัง และแบบใช้กาวกันน้ำ หรือแบบสูญญากาศ ซึ่งการจะเลือกวิธีติดตั้งรูปแบบใด ก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่คุณจะนำไปใช้งาน เช่น ในห้องน้ำบริเวณส่วนพื้นที่เปียก ก็ควรเลือกติดตั้งแบบเจาะผนัง เพื่อความแน่นหนา แต่หากใช้ในส่วนพื้นที่แห้ง ก็อาจจะเลือกแบบติดตั้งด้วยกาวกันน้ำหรือสูญญากาศก็สามารถใช้ได้เช่นกัน
ที่กดสบู่เหลว (Soap Dispensers)
ที่กดสบู่เหลว ก็เป็นอีกอุปกรณ์ห้องน้ำที่เรามักพบเจอตามห้องน้ำสาธารณะทั่วไป ใช้สำหรับบรรจุสบู่เหลวสำหรับล้างมือตามเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า แต่ก็สามารถนำมาใช้ติดตั้งใช้งานตามที่อยู่อาศัยได้เช่นกัน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วที่กดสบู่จะผลิตจากพลาสติกที่มีความแข็งแรงทนทาน อีกทั้งยังมีรูปลักษณ์ที่สวยงามทันสมัย ในปัจจุบันมีที่กดสบู่เซ็นเซอร์วางจำหน่ายอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ที่กดสบู่เซ็นเซอร์ใช้งานสะดวก อีกทั้งยังช่วยเรื่องของการลดการสัมผัสกับอุปกรณ์ต่างๆในห้องน้ำเพื่อป้องกันเชื้อโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงสถานการณ์ปัจจุบัน การลดจุดสัมผัสที่มีความเสี่ยงจึงเป็นเรื่องที่องค์กรหลายๆแห่งเลือกที่จะใช้ที่กดสบู่เซ็นเซอร์มากขึ้น                                                                           
#163
ปั๊มจุ่ม (Submersible Pumps)
ปั๊มจุ่ม เป็นปั๊มน้ำอีกประเภทที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมนำมาใช้งานทั่วไป ซึ่งหลายคนอาจจะรู้จักกันในชื่อ "ปั๊มไดโว่" เป็นปั๊มน้ำที่ใช้สำหรับงานสูบน้ำจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง โดยการใช้งานก็ค่อนข้างง่ายมาก ทำเพียงนำตัวปั๊มลงไปจุ่มวางไว้ในบริเวณน้ำที่เราต้องการจะดูดออก เช่น การระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่จำกัด ดึงน้ำจากบ่อน้ำพุหรือบ่อปลา แต่ปั๊มจุ่มเป็นปั๊มน้ำขนาดเล็กจึงมีกำลังส่งต่ำ แต่ก็สามารถสูบน้ำได้ในปริมาณมาก โดยปั๊มจุ่มที่มีวางจำหน่ายตามท้องตลาดปัจจุบัน จะมีให้เลือกหลายขนาด ถ้าหากต้องการให้ดึงน้ำให้เร็วหน่อยควรใช้ตัวที่มีกำลังวัตต์ประมาณ 200 -250 วัตต์
ส่วนในเรื่องของการใช้งาน ไม่ควรใช้งานปั๊มจุ่มนานต่อเนื่องมากกว่า 8 ชั่วโมง เนื่องจากอาจจะก่อให้เกิดความร้อน และอาจจะทำให้มอเตอร์ตัดและใบพัดล็อคได้ ต้องทำการถอดใบพัดออกมาหมุนกลับเข้าไปใหม่ถึงจะใช้งานได้เหมือนเดิม ปั๊มจุ่มจะมีให้เลือกใช้งานหลักๆอยู่ 2 แบบ คือ ปั๊มจุ่มแบบที่มีลูกลอย เป็นปั๊มที่เมื่อจุ่มลงน้ำ ลูกลอยจะลอยขึ้น และจะหยุดการทำงานเมื่อดูดน้ำหมดลูกลอยก็จะจมลง เป็นปั๊มน้ำที่สามารถตัดการทำงานได้โดยอัตโนมัติ และอีกประเภทคือปั๊มจุ่มแบบไม่มีลูกลอย ที่จะต้องเปิด-ปิดสวิทช์เอง
ประเภทปั๊มจุ่ม
1. ปั๊มจุ่มฐานปิด/ประเภทน้ำสะอาด โดยปั๊มจุ่มน้ำสะอาดยอมให้ของแข็งหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าทางดูดได้ แต่ไม่ควรมีขนาดใหญ่กว่า 2 มิลลิเมตร และ ไม่ควรใช้งานต่อเนื่องเกิน 8 ชั่วโมง ซึ่งข้อสังเกตของปั๊มจุ่มดูดน้ำสะอาดคือจะมีตะแกรงกันเศษสกปรกอยู่บริเวณฐาน
2.  ปั๊มจุ่มฐานเปิด/ประเภทน้ำเสียหรือโคลน ใช้กับน้ำที่มีสิ่งปนเปื้อนมาก เช่น มีเศษหิน กรวด ใบไม้ ขี้ปลา หรือขี้โคลน เป็นต้น ปั๊มจุ่มน้ำเสียยอมให้ของแข็งหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าทางดูดได้ ซึ่งข้อสังเกตของปั๊มจุ่มดูดน้ำเสียคือจะมีตะแกรงเป็นรูขนาดใหญ่และตัวฐานของปั๊มจะสูง เพื่อสามารถดูดตะกอนหรือสิ่งสกปรกได้
วิธีจำแนกปั๊มจุ่มตามวัสดุในการผลิต
วัสดุที่นำมาใช้ผลิต ปั๊มจุ่มก็เป็นอีกสิ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือกปั๊มจุ่มมาใช้งาน ซึ่งวัสดุต่างๆก็บ่งบอกถึงความแข็งแรงทนทานและอายุการใช้งานของ ปั๊มจุ่ม และเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาถึงเหมาะสมกับหน้างาน แต่กำลังการส่งน้ำหรือปริมาณการจ่ายน้ำจะมากหรือจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับกำลังวัตต์ (Watt)
[https://www.homepro.co.th/c/PLU0604]ปั๊มจุ่ม[/url]พลาสติก Abs : เหมาะกับการใช้สูบน้ำทั่วไป ทั้งน้ำสะอาด น้ำสกปรก
ปั๊มจุ่มเหล็กหล่อ : เหมาะกับการใช้สูบน้ำทั่วไป ทั้งน้ำสะอาด น้ำสกปรก
ปั๊มจุ่มสเตนเลส : เหมาะกับการใช้สูบน้ำทั่วไป ทั้งน้ำจืด น้ำเค็มไม่เป็นสนิม บ่อเกราะ อุตสาหกรรม

#164
แก้ปัญหาหลังคารั่วซึมด้วยอะคริลิคกันซึม

ปัญหาเรื่องหลังคารั่วซึม และดาดฟ้ารั่วซึม เป็นปัญญาที่หลายๆ บ้านมักพบเจอได้เสมอในช่วงหน้าฝน ไม่ว่าบ้านหรือที่อยู่อาศัยของเรานั้นจะผ่านช่วงฤดูฝนมาแล้วหลายปี หรือไม่เว้นแม้แต่บ้านที่เพิ่งสร้างใหม่ก็ตาม ปัญหานี้มักจะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยสาเหตุจากรอยต่อต่างๆ ของวัสดุ เช่น รางระบายน้ำ จุดยึดติดของกระเบื้องหลังคา รอยต่อกระเบื้อง หรือจะเป็น หลังคาเหล็ก และเมทัลชีท ที่อาจเสื่อมสภาพตามการใช้งาน ด้วยสาเหตุนี้เองทำให้น้ำฝนซึมผ่านลงมาด้านล่าง จนเกิดความชื้นสะสมที่เป็นตัวการของปัญหาสีพอง สีลอกร่อน และเชื้อรา ที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งบนผนังและฝ้าเพดาน แต่ปัญหานี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หากเรารู้จุดเกิดเหตุของปัญหาว่ามาจากส่วนไหน ก็จะทำให้เราสามารถแก้ไขปัญหาการรั่วซึมได้อย่างตรงจุด ด้วยการใช้ อะคริลิคกันซึม ในการซ่อมแซม

อะคริลิคกันซึมในปัจจุบันนั้นเราสามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้ตาข่ายไฟเบอร์เมท ใช้สำหรับทาอุดรอยรั่วซึม รอยแตกร้าวบริเวณต่าง ๆ ของบ้านและอาคารเพื่อป้องกันการรั่วซึม เช่น หลังคา ดาดฟ้า รอยต่อของรางน้ำฝน ปีกนก ระเบียงกันสาด เมื่อกาวแห้งแล้วสามารถทาสีทับได้ทันที ซึ่งคุณสมบัติของอะคริลิคกันซึมคือสามารถป้องกันปัญหาการรั่วซึมของน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความทนทานต่อสภาพอากาศ รวมถึงสามารถสะท้อนความร้อน และรังสี  UV ได้เป็นอย่างดี

จุดที่มักจะพบกับปัญหารั่วซึมได้บ่อยที่สุด
คราบน้ำกลางฝ้าเพดาน จุดนี้เกิดจากการรั่วซึมของดาดฟ้า หรือหลังคา อาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นรอยร้าวบนดาดฟ้าคอนกรีต การรั่วซึมระหว่างแผ่นกระเบื้อง การรั่วซึมจากน็อตยึดกระเบื้อง ลอนเมทัลชีท หรือแม้แต่จุดยึดของกระเบื้องกับโครงสร้าง ทั้งนี้ให้ลองสำรวจดูจากพื้นที่ด้านบนของคราบน้ำที่ฝ้าเพดานเสียก่อน หากพบจุดที่เกิดการรั่วซึมแล้วสามารถใช้อะคริลิกกันซึมในการจัดการได้ทันที

คราบน้ำไหลตามกำแพง ปัญหานี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ หากเป็นห้องครัวที่ต่อเติมผนังชิดกับขอบชายคา และรางน้ำฝน มักจะเกิดเป็นคราบน้ำไหลลงมาตามกำแพงฝั่งหลังบ้าน หรือรางน้ำฝนรั่ว แต่หากเกิดคราบน้ำไหลลงมาตามฝ้าเพดานและผนังภายในบ้านเป็นแนวยาวฝั่งใดฝั่งหนึ่ง หรือเกิดทั้งสองมุม ควรมองหาทิศทางการมาของน้ำเพื่อที่จะหาจุดรั่วซึมและนำอะคริลิกกันซึมไปอุดรอยรั่วนั้น



#165

พรมห้องน้ำ (Bath Mats)
พรมห้องน้ำเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ห้องน้ำมีประโยชน์ต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก เพราะมันจะช่วยในเรื่องความสะอาดของพื้นห้องน้ำเพื่อสุขอนามัยที่ดีของทุกคนในครอบครัว โดยมันจะทำหน้าที่ในการดูดซับน้ำที่กระเด็น หรือเปียกตามเท้าของคุณเพื่อป้องกันการลื่นล้มได้ นอกจากนั้นยังช่วยในการตกแต่งให้ห้องน้ำของคุณดูดี มีสไตล์ และน่าใช้งานมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งที่ HomePro ก็มีพรมห้องน้ำให้เลือกใช้งานหลากหลายประเภท ทั้งผลิตจากวัสดุที่แตกต่างกันไปจนถึงเรื่องของขนาด และสีสัน ซึ่งมันจะส่งผลไปถึงคุณสมบัติในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น แผ่นกันลื่น พรมชักโครก พรมลูกฟูก และแผ่นตกแต่ง แถมในปัจจุบันยังมีการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาผลิตพรมหินเช็ดเท้าขึ้นเพื่อพัฒนาคุณสมบัติต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การันตีคุณภาพจากแบรนด์ชั้นนำ อาทิ Home Living Style, MOYA, ELLIS, Me Living และอื่นๆ อีกมากมาย

เทคนิคการเลือกพรมห้องน้ำ
สำหรับลูกค้าโฮมโปรท่านใดที่ยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกซื้อพรมพื้นห้องน้ำแบบใด HomePro ก็ขอแนะนำวิธีการเลือกซื้อพรมห้องน้ำเบื้องต้น เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างไม่ต้องกังวล เพราะทุกวันนี้มีพรมห้องน้ำมากมายในท้องตลาด แต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติและราคาที่แตกต่างกันออกไป ฉะนั้นมันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรจะทราบก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ

ทำความสะอาดง่าย เนื่องจากสถานที่ที่คุณต้องการซื้อพรมไปวางนั้นคือห้องน้ำ ซึ่งเป็นห้องที่ค่อนข้างสกปรกเร็วและเปียกชื้นตลอดเวลา ฉะนั้นคุณก็ควรคำนึงถึงการทำความสะอาดพรมเช็ดเท้าเป็นอันดับแรกๆ เช่น เลือกพรมห้องน้ำ พรมเช็ดเท้า หรือพรมชักโครกจากวัสดุที่เป็นคราบยาก ทำให้ช่วยลดจำนวนที่ต้องซักล้างต่อเดือนได้ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาทำงานบ้านหรือบ้านที่ไม่มีแม่บ้าน

วัสดุและคุณสมบัติ วัสดุของพรมพื้นห้องน้ำก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนจำเป็นจะต้องเลือกให้ดี มีคุณภาพ และเหมาะสม เช่น เลือกวัสดุที่สามารถกันเชื้อโรคได้ ซึมซับน้ำดี แห้งไว หรือกำจัดกลิ่นได้ ฯลฯ

เพศและวัย สำหรับครอบครัวที่มีผู้ชายและเด็กๆ แนะนำให้เลือกซื้อพรมชักโครกที่มีช่องว่าง หรือสามารถวางโดยเว้นระยะห่างจากตัวชักโครกให้น้อยที่สุด เพื่อป้องกันการกระเด็นของปัสสาวะ และหมั่นทำความสะอาดบ่อยๆ ก็ได้เช่นกัน