• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

บลจ.ยูโอบี ชี้ตลาดผันผวนสูงระยะสั้น จากผลกระทบโอไมครอน

Started by Shopd2, December 02, 2021, 06:07:08 PM

Previous topic - Next topic

Shopd2



บลจ.ยูโอบี จับตาผลกระทบจากโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ต่อสินทรัพย์แต่ละประเภทอย่างใกล้ชิด หากผลกระทบรุนแรง อาจจะแนะนำให้ลดน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลงอีก หรือลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้น Cyclicals คาดความผันผวนในตลาดสูงระยะสั้น จากความไม่แน่นอน

รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี(ประเทศไทย)จำกัดระบุว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ทำให้ความไม่แน่นอนอยู่ในระดับสูง เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลมากนัก โดยโอไมครอนถูกพบว่า มีการกลายพันธุ์จำนวนมากบนรหัสพันธกรรม ผู้เชี่ยวชาญบางคนประเมินว่า อัตราการแพร่กระจายและการดื้อต่อวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันอาจสูงกว่าสายพันธุ์เดลต้า  แต่ประเด็นนี้ ก็ยังไม่ได้รับการทดสอบและทดลองอย่างเหมาะสม แต่ถึงแม้ว่าจะจริง ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดก็จะขึ้นอยู่กับระดับของอัตราการแพร่กระจายและประสิทธิผลของวัคซีนในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวด้วย 

 

ประเด็นสำคัญที่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนอีกประการหนึ่งก็คือระดับความรุนแรงของไวรัส การฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงที่มีการระบาดของไวรัสสายพันธุ์อื่นๆก่อนหน้านี้เป็นแนวป้องกันด่านแรก แต่เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนว่าวัคซีนจะมีประสิทธิภาพมากเพียงใดในการต้านทานไวรัสสายพันธุ์นี้และยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับระยะเวลาที่ต้องใช้ในการปรับปรุงวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบัน จึงยังมีความเสี่ยงที่แนวป้องกันนี้อาจจะไม่สามารถต้านทานไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวได้ดีนัก


ส่วนผลกระทบต่อเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของรัฐบาลและธนาคารกลางด้วย โดยหลายประเทศมีมาตรการตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ Omicron โดยการออกมาตรการจำกัดการเดินทางจากบางประเทศในแอฟริกา อย่างไรก็ตาม เราประเมินว่า รัฐบาลของประเทศต่างๆไม่ได้ต้องการที่จะใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด เว้นเสียแต่ว่าจะถูกสถานการณ์บังคับหากเกิดการระบาดอย่างรุนแรงและ/หรือความสามารถในการให้บริการของระบบสาธารณสุขเข้าไปใกล้ขีดจำกัดมากเกินไป 

 

สำหรับธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) เราคิดว่าแรงกดดันให้เร่งลด QE อาจจะลดลงบ้างเนื่องจากความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น แต่เราก็เชื่อว่า Fed น่าจะไม่ได้ต้องการชะลอการลด QE ลง เราคิดว่า Fed อาจจะต้องการรักษาทางเลือกที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้เร็วขึ้นในกรณีที่แรงกดดันเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงในช่วงกลางปี 2022
 


ส่วนผลผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ไทยพบว่า ผลตอบแทนพันธบัตรไทยปรับตัวลงเล็กน้อย ยกเว้นพันธบัตรอายุ 7-15 ปี ที่ปรับลดลง 5bps (1bps=0.01%)ในวันศุกร์ ที่ผ่านมา เปรียบเทียบกับผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10ปี ที่ปรับตัวลง 16bps ตั้งแต่ข่าวไวรัสโอไมครอนออกมา เนื่องจากนักลงทุนต่างประเทศมีความกังวล เรื่องผลกระทบต่อเศรษฐกิจและต้องการลดความเสี่ยงในการลงทุน โดยมีการขายพันธบัตรไทยออกด้วย 

 

ทั้งนี้มียอดขายสุทธิในพันธบัตรอายุต่ำกว่า 1 ปี สูงถึง 2,644 ล้านบาทและขายพันธบัตรอายุมากกว่า 1 ปี 948 ล้านบาท  ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวอย่างรวดเร็ว จาก 33.40 บาท มาอยู่ที่ 33.68 บาทต่อUSD อย่างไรก็ตามมีแรงซื้อจากนักลงทุนกลุ่มธนาคารเข้ามาสนับสนุนและกดผลตอบแทนลง ส่วนตลาดตราสารหนี้ไทยเช้านี้ ยังคงเงียบๆ ผลตอบแทนส่วนใหญ่ยังเสนอซื้อขาย รอบๆ ราคาปิดเมื่อวันศุกร์
 
 
ส่วนแนวโน้ม คาดว่านักลงทุนจะยังรอดูสถานะการณ์และผลการศึกษาผลกระทบของไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ก่อนว่าจะรุนแรงหรือไม่ และประสิทธิภาพของวัดซีนปัจจุบันจะสามารถป้องกันได้แค่ไหน น่าจะส่งผลให้ตลาดตราสารหนี้ไทยและผลตอบแทนพันธบัตรเคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ หรืออาจปรับตัวขึ้นเล็กน้อย หลังจากหายตื่นตระหนก
 

กลยุทธ์การลงทุน ในตราสารหนี้ไทย เรายังคงอายุเฉลี่ยตราสารหนี้ใกล้เคียงกับมาตราวัด เนื่องจากแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ที่พึ่งพิงการท่องเที่ยวยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะมีการนักท่องเที่ยวต่างประเทศกลับเข้ามา
 

ขณะที่ผลกระทบต่อตลาดตราสารทุนไทย รัฐบาลไทยประกาศห้ามผู้ที่เดินทางมาจาก 8 ประเทศในแอฟริกาตอนใต้ที่พบการระบาดของไวรัส COVID-19 สายพันธุ์ใหม่เดินทางเข้ามาในไทย โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม แม้ว่าจนถึงขณะนี้จะยังไม่พบการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าว

 

เราจะติดตามสถานการณ์การระบาดของไวรัสสายพันธุ์ Omicron และผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสินทรัพย์แต่ละประเภทอย่างใกล้ชิด หากเราประเมินว่าจะมีผลกระทบเชิงลบอย่างรุนแรงก็อาจจะแนะนำให้ลดน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลงอีกและ/หรือลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้น Cyclicals

 

เราคาดว่า ความผันผวนในตลาดน่าจะยังคงสูงในระยะสั้นจากความไม่แน่นอนที่รออยู่ และในช่วง 2 วันที่ผ่านมาดัชนีตลาดหลักทรัพย์ได้ปรับตัวลงมาเกือบ 50 จุด หรือประมาณร้อยละ 3  ถือว่าน่าจะได้รับข่าวของไวรัสสายพันธุ์ omicron บ้างแล้ว  อย่างไรก็ดี กลยุทธ์การลงทุนของกองทุนเราคือเน้น Domestic reopening with less exposure on international reopening  และยังคงเน้น EV ธีม Electronics สื่อสาร

 

ส่วนกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ และ Domestic reopening น่าจะปรับฐานระยะสั้น เนื่องจากน้ำหนักการลงทุนในตราสารทุนไทยล่าสุดอยู่ที่ 93% เทียบมาตรวัด 90%   เราคาดว่า จะลดน้ำหนักส่วนนี้มาที่ระดับ 90% ในจังหวะที่เหมาะสม   
 

ด้านผลกระทบต่อตลาดต่างประเทศ สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกปรับลดลงลงหนักในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงประมาณ 2-4%  MSCI World Index และ S&P500 ปรับลดลง 2.2% และ 2.3%ตามลำดับ หุ้นกลุ่ม Reopening theme อาทิ กลุ่มท่องเที่ยว การเงิน พลังงาน ปรับลดลงแรง  ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับลดลงประมาณ 10bps ในเกือบทุกช่วงอายุ เช่นเดียวกับราคาน้ำมันและ Crypto Currencies ที่ปรับลงแรงเช่นกัน
 

ด้านเศรษฐกิจนั้น เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงฟื้นตัวและนโยบายการเงินเริ่มคลายความผ่อนคลายลง เรามีมุมมองว่าผลตอบแทนจากการลงทุนมีแนวโน้มต่ำกว่าช่วงก่อนหน้าในขณะที่ความผันผวนมีสูงขึ้น  ดังนั้น การลงทุนต่างประเทศ จึงเน้นลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงให้สมดุลย์ระหว่างกลุ่ม growth และ cyclical รวมถึงควรกระจายความเสี่ยงไปยังหลายสินทรัพย์ โดยแนะนำการลงทุนในหุ้นกลุ่มสุขภาพทั่วโลก 

 

บลจ.ยูโอบีมีมุมมองว่า จะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ดีในระยะยาว ผ่านกองทุน UOBSHC UOBSHC-SSF UHCRMF