• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

ดาวโจนส์ปิดลบ 59.71 จุด ผิดหวังตัวเลขจ้างงาน-วิตกโอไมครอน

Started by Prichas, December 04, 2021, 07:21:15 PM

Previous topic - Next topic

Prichas


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (3 ธ.ค.) โดยถูกกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาด

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,580.08 จุด ลดลง 59.71 จุด หรือ -0.17%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,538.43 จุด ลดลง 38.67 จุด หรือ -0.84% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,085.47 จุด ร่วงลง 295.85 จุด หรือ -1.92%

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 0.92% โดยปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน, ดัชนี S&P500 ลดลง 1.2% โดยลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน และดัชนี Nasdaq ลดลง 2.62% โดยลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เพิ่มขึ้นเพียง 210,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 581,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงาน ปรับตัวลงสู่ระดับ 4.2% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.5%

ตลาดยังถูกกดดัน เนื่องจากบรรดานักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งถอนมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจ แม้ตัวเลขจ้างงานเดือนพ.ย.ของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาดก็ตาม และนักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับความไม่แน่นอนที่เกิดจากไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนด้วย

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวอย่างซบเซาเกือบตลอดทั้งวันหลังจากเปิดตลาด และดัชนีความผันผวนที่เพิ่มขึ้นบ่งชี้ถึงความวิตกของนักลงทุนโดยดัชนีความผันผวน CBOE Market Volatility ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท พุ่งขึ้นเหนือระดับ 35 ในการซื้อขายช่วงบ่ายวันศุกร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายเดือนม.ค. และปิดตลาดเพิ่มขึ้น 9.7 จุด สู่ระดับ 30.67

บรรดานักลงทุนวิตกว่า เฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยในสัปดาห์นี้ว่า เฟดจะพิจารณาเร่งลดโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกว่า ไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนดูเหมือนจะแพร่ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดลตา โดยจำนวนประเทศที่รายงานการพบไวรัสโอไมครอนยังคงเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ แต่ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับความรุนแรงของโรค และประสิทธิภาพของวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้

หุ้นบวกในดัชนี S&P500 ได้แก่หุ้นกลุ่มปลอดภัย อาทิ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค บวก 1.4%, กลุ่มสาธารณูปโภค เพิ่มขึ้น 1% และกลุ่มเฮลธ์แคร์ เพิ่มขึ้น 0.25%

หุ้นลบมากที่สุดนำโดยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ร่วงลง 1.8% รองลงมาได้แก่กลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งร่วงลง 1.65%

หุ้นตัวใหญ่ฉุดตลาดลงด้วย โดยหุ้นเทสลา ร่วงลง 6%, หุ้นอินวิเดีย ร่วง 4% ขณะที่หุ้นแอปเปิลและหุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลงมากกว่า 1%

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่เปิดเผยในวันศุกร์ยังรวมถึงการที่ไอเอชเอส มาร์กิต บริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงินรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 58.0 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 58.7 ในเดือนต.ค.

อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคบริการของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจพุ่งสูงสุดในรอบ 5 เดือน