• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

GUNKUL ทุ่มงบ 3 ปี 2 หมื่นลบ.ขับเคลื่อนธุรกิจติดปีก ปักธงรายได้โตเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 20%

Started by Cindy700, March 10, 2022, 12:41:49 PM

Previous topic - Next topic

Cindy700

GUNKUL ทุ่มงบ 3 ปี 2 หมื่นลบ.ขับเคลื่อนธุรกิจติดปีก ปักธงรายได้โตเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 20%

บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) อัดงบลงทุน 3 ปี (2565-2567) ประมาณ 20,000 ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจพลังงานทดแทน- ธุรกิจกัญชง-กัญชา และงานก่อสร้างโรงงาน และคลังสินค้า (Built-to-Suit) หนุนการเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต ฟาก "สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย" ระบุตั้งเป้ารายได้โตเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 20% เผยงบลงทุนส่วนใหญ่ยังคงเน้นลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน เล็งซื้อโรงไฟฟ้า ขนาดกำลังผลิต 400-500 เมกะวัตต์ สนับสนุนกำลังผลิตไฟฟ้าในมือแตะระดับ 1,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2566

ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยว่า กลุ่ม GUNKUL เล็งเห็นการเติบโตและการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต ได้วางงบลงทุนในระยะเวลา 3 ปี (2565-2567) ไว้ที่ 20,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าเฉลี่ยประมาณ 7,000-8,000 ต่อปี โดยแบ่งลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนประมาณ 15,000 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนขนาด 400-500 เมกะวัตต์ รวมทั้งลงทุนในธุรกิจกัญชง 2,000 ล้านบาท ถือเป็นการเตรียมความพร้อมในการเติบโตของกลุ่มบริษัท โดยวางเป้าหมายการเติบโตไว้ไม่ต่ำกว่าปีละ 20%

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปีนี้ ในส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนตั้งเป้าหมายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 700 เมกะวัตต์ และเพิ่มกำลังการผลิตไปแตะระดับ 1,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2566 จากปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตในมือรวมทั้งสิ้น 642 เมกะวัตต์

ส่วนธุรกิจงานรับเหมาก่อสร้างและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) ปีนี้มีแผนเตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ ที่จะเปิดให้ประมูลกว่า 50,000 ล้านบาท และคาดว่าบริษัทมีโอกาสได้รับงานประมาณ 7-10% ของมูลค่างานทั้งหมด โดยปัจจุบันมีงานในมือ(Backlog) ประมาณ 4,500 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในอีก 1-3 ปีข้างหน้า พร้อมกันนี้ยังมีแผนจะนำ บริษัท กันกุล พาวเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (GPD) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ GUNKUL และถือหุ้นใน บริษัท ฟิวเจอร์ อีเล็คทริคอล คอนโทรล จำกัด (FEC) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภาย ไตรมาส 1 ปี 2566

ขณะที่ธุรกิจกัญชง-กัญชา การเพาะปลูกและโรงสกัดยังดำเนินการได้ตามแผน ซึ่งประมาณต้นเดือนเมษายนนี้ บริษัทจะเตรียมเปิดคลินิกแพทย์แผนไทยเพื่อให้บริการลูกค้า และจำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชง กัญชาปลายน้ำ ครบวงจร ณ อาคาร Pearl Bangkok ชั้น 2 ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชม และเข้ารับบริการได้ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2565

ด้านธุรกิจ "โกดังไฟฟ้าดอทคอม" ตลาดออนไลน์ของอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าและโซลาร์ร่วมมือกันระหว่าง GUNKUL SPECTRUM หน่วยนวัตกรรมธุรกิจพลังงานของ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) กับ เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) ด้วยแนวคิด Add Energy To Cart จากการเปิดตัวมาเป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน มียอดขายเป็นที่น่าพอใจเกินเป้าและคาดว่าจะเป็นช่องทางการจำหน่ายที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต

"นับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 ทุกอุตสาหกรรมต้องเผชิญกับความท้าทายและต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตและธุรกิจต่อไปได้ ในส่วนของ GUNKUL ก็เผชิญกับความท้าทายเช่นกัน แต่สิ่งที่พิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจคือสามารถขับเคลื่อนและเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ ผลประกอบการของกลุ่มบริษัทฯ ในปี 2564 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564) ถือได้ว่าแข็งแกร่งมากโดยมีผลกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่มีกำไรสุทธิ 2,229.27 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 9,868.13 ล้านบาท"

อย่างไรก็ตามหากพิจารณาเฉพาะกำไรสุทธิที่ไม่รวมกำไรพิเศษจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย และกำไรจากการต่อรองราคาซื้อ ในปี 2563 บริษัทฯมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1,063.10 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 90 ซึ่งถือว่ากำไรปกติของธุรกิจเติบโตขึ้น 90% โดยหากนับรวมกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนจะแสดงจำนวน 3,425 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังสามารถจ่ายปันผลสำหรับงวดครึ่งหลังปี 2564 จากกำไรในปีและกำไรสะสม ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท ซึ่งบริษัทได้จ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีแรกไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท รวมจ่ายเงินปันผลงวดปี 2564 ในอัตรา 0.18 บาทต่อหุ้น