• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Jessicas

#3841
111-Lotto 111  ตัวแทนจำหน่าย ล็อตเตอรี่ออนไลน์ รายใหญ่ของ มังกรฟ้าล็อตเตอรี่ออนไลน์  ปรับเปลี่ยนรูปแบบการซื้อล็อตเตอรี่แบบใหม่  ยุค new normal




ไม่ต้องไปหน้าแผง ไม่ต้องเสียเวลาก้มหาเลข ไม่ต้องไปลุ้นว่าจะมีเลขที่อยากได้มั้ย แค่แอดไลน์ หาเรา บอกเลขที่ต้องการ เลขเด็ด เลขดัง แจ้งโอนเงิน จะได้รับ SMS ยืนยัน




ถ้าถูกรางวัลสามารถขึ้นเงินได้จริง ได้รับเงินจริงไม่เกิน 24 ชม โดยปกติใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงหลังผลสลากกินแบ่งรัฐบาลออกเท่านั้น 

ขั้นตอนการซื้อ ล็อตเตอรี่ออนไลน์ กับเรานั้น ง่ายๆ มาก มี 2 แบบให้เลือกแล้วแต่สะดวก

1. แอดไลน์ @111-lotto หรือคลิกทีนี่ เพื่อ คุยกับแอดมินโดยตรงและทำการสั่งซื้อและโอนเงินผ่านไลน์ มีเจ้าหน้าที่แนะนำทุกขั้นตอน 

111-lotto รีบแอดไลน์เพื่อเลือกเลขรางวัลก่อนใคร

Add Line : @111-lotto





2. สั่งซื้อผ่านระบบ 111-lotto ล็อตเตอรี่ของของมังกรฟ้าล็อตเตอรี่ออนไลน์ ด้วยตัวเอง จะทำที่ไหน เมื่อไหร่ เวลาไหนก็ได้ Add Line : @111-lotto


 


 
#3842


นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทขยายความร่วมมือใหม่ ในกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ ภายใต้บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ด้วยการร่วมทุนกับบริษัท โตคิว แลนด์ เอเชีย จำกัด ในเครือโตคิว แลนด์ คอร์เปอเรชั่น หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของญี่ปุ่น ในสัดส่วน 51:49 เพื่อพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส "วันพญาไท" มูลค่า กว่า 3,600 ล้านบาท

"โตคิว แลนด์ เอเชีย เป็นพันธมิตรรายใหญ่ที่มีวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกับเราในการพัฒนาอสังหาฯ ครบวงจร เพื่อสร้างอีโคซิสเท็มแห่งการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดเพื่อผู้บริโภค"

นายมาซาโอกิ คาเนมัตซึ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตคิว แลนด์ เอเชีย จำกัด กล่าวว่า การร่วมทุนพัฒนาโครงการวัน พญาไท เป็นการเข้ามาลงทุนในไทยเป็นครั้งแรกของบริษัทหลังจากพิจารณามองหาพันธมิตรที่เหมาะสมและมีชื่อเสียงในไทยมายาวนาน บริษัทหวังว่าการร่วมทุนครั้งนี้จะก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกัน และเป็นรากฐานสำคัญสู่โอกาสสร้างความร่วมมือในธุรกิจด้านอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจพลังงานทดแทน รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ที่สามารถสร้างการเติบโตในอนาคตในตลาดที่กำลังเติบโตอย่างประเทศไทย

โครงการวัน พญาไท เป็นโครงการมิกซ์ยูส สูง 31 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่ 1-3-0 ไร่ ตั้งอยู่ติดกับโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่พาร์ค ออริจิ้น พญาไท พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด 'ONE STEP JOURNEY' เป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตจากส่วนคอนโดที่พักอาศัย ห่างจากรถไฟฟ้าบีทีเอส และแอร์พอร์ต เรลลิงก์ สถานีพญาไทย 200 เมตร

และยังเป็นโครงการแรกในไทยที่จะมีแบรนด์โรงแรมระดับโลก 2 แบรนด์ภายในอาคารเดียวกัน คือ โฮเทล อินดิโก โรงแรมในแนวคิดบูทีคโฮเทล มีห้องพัก 210 ห้อง และ ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส มีห้องพัก 202 ห้อง โดยทั้ง 2 แบรนด์ภายใต้เครือ IHG Hotels & Resorts จะช่วยตอบสนองความต้องการที่แตกต่างให้กับทั้งนักเดินทางที่มาท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจย่านใจกลางเมือง

นอกจากนี้ ภายในอาคารยังมีพื้นที่เชิงพาณิชย์สำหรับร้านค้าและอาคารสำนักงาน 2,200 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมพื้นที่ใช้สอยกว่า 26,880 ตารางเมตรโดยจะเริ่มก่อสร้างไตรมาส 3 ปีนี้ และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2566 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คาดว่าสถานการณ์โควิด-19 น่าจะคลี่คลายแล้ว

สำหรับโตคิว แลนด์ เอเชียเป็นบริษัทพัฒนาและลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเครือโตคิว แลนด์ คอร์เปอเรชั่น หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาฯ จากประเทศญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์ 67 ปี ภายใต้การดำเนินธุรกิจของโตคิว ฟูโดซัง โฮลดิ้ง คอร์เปอเรชั่น บริษัทยักษ์ใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น ซึ่งติดหนึ่งในบริษัทดัชนี นิกเคอิi 225 มีมูลค่าทรัพย์สิน ณ สิ้นปีงบการเงินล่าสุดของญี่ปุ่น (31 มี.ค.2564) ประมาณ 2,652,000 ล้านเยน หรือราว 790,000 ล้านบาท
#3843


กสศ. เดินหน้า Reskill – Upskill ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาส ผ่านทุนพัฒนาอาชีพและนวัตกรรมที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน สร้างกระบวนการให้เกิดการยกระดับความรู้ ความสามารถ ในการประกอบอาชีพตามความถนัดและศักยภาพของตนเอง

ศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ ประธานอนุกรรมการกำกับทิศทางโครงการพัฒนาทักษะอาชีพสำหรับผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาสที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน ปี 2563 และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ภาคประชาสังคม) ในคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)

กล่าวตอนหนึ่งในเวทีเสวนาออนไลน์ เรียนให้รู้...อยู่ให้รอด ภายใต้วิกฤตโควิด 19 บทเรียนการทำงานทุนพัฒนาอาชีพและนวัตกรรมที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน ปี 2563 ในหัวข้อ "ทุนพัฒนาอาชีพที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน  ทางรอด ทางเลือกในยุค New Normal" เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมาว่า โครงการพัฒนาทักษะอาชีพสำหรับผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาสที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน ปี 2563 หรือ ทุนพัฒนาอาชีพและนวัตกรรมที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน ภายใต้การสนับสนุนของ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เริ่มดำเนินโครงการฯ มาตั้งแต่ปี 2562  กสศ. เล็งเห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริม สนับสนุน และให้ความช่วยเหลือประชากรวัยแรงงานที่เป็นผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาส ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยใช้ชุมชนเป็นฐานสร้างกระบวนการให้เกิดการยกระดับความรู้ ความสามารถ ในการประกอบอาชีพตามความถนัดและศักยภาพของตนเองให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ เพิ่มทักษะใหม่ที่จำเป็น (Reskill) เสริมทักษะใหม่ในบริบทใหม่ (Upskill) พัฒนาทักษะอาชีพรายบุคคล โดยใช้ทุนชุมชนในการพัฒนาอาชีพ

"เรากำลังเปิดพื้นที่การเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน สร้างนิเวศแห่งการเรียนรู้ใหม่ การเรียนรู้รูปแบบนี้เป็นการปฏิรูปการศึกษาครั้งใหญ่ของประเทศ ที่น่าจะเป็นคำตอบให้กับสังคมไทยได้ และที่สำคัญกำลังรอให้คนนำไปขยายผลต่อ"ศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ กล่าว

ดร.สมคิด แก้วทิพย์ ผู้จัดการโครงการพัฒนาทักษะอาชีพสำหรับผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาสที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน ปี 2563 กล่าวว่า องค์ประกอบที่สำคัญของโครงการฯ นี้ คือ "ระบบการจัดการร่วม" ที่ กสศ.มี "อนุกรรมการกำกับทิศทางโครงการฯ" และจัดให้มีเจ้าหน้าที่ดูแลการดำเนินโครงการฯ ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ มีการทำงานร่วมกับ "พี่เลี้ยง" ที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศทำหน้าที่ กระตุ้น หนุนเสริมองค์ความรู้ต่าง ๆ ให้แก่ "หน่วยพัฒนาอาชีพ" ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการเข้าไปทำงานและร่วมเรียนรู้กับ "ผู้เข้าร่วมโครงการฯ" ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการฯ องค์ประกอบเหล่านี้เกิดขึ้นภายใต้แนวคิดการบริหารจัดการร่วมเชิงบูรณาการบนฐานพื้นที่ ทำงานเชื่อมประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีจุดร่วมคือการนำปัญหาของพื้นที่เป็นตัวตั้ง

ศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ ชี้ว่า เรากำลังสร้าง "ต้นแบบ" การพัฒนาทักษะอาชีพบนฐานทุนชุมชนในมิติใหม่ ที่ตอบโจทย์เรื่องการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ และการเรียนรู้ตลอดชีวิตโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน ด้วยการเข้าไปดูว่าเขาต้องการแก้ปัญหาอะไร ชุมชนมีต้นทุนอะไร และสุดท้ายเรานำข้อมูลมาวิเคราะห์ออกแบบเป็นหลักสูตรเฉพาะร่วมกับชุมชนที่เหมาะสม เพื่อคลี่คลายปัญหาของชุมชน

ตลอดการทำงาน 2 ปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดกลุ่มแรงงานนอกระบบ แรงงานที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาส ที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นแรงงานที่มีฝีมือ จำนวน 14,414 คน จาก 194  โครงการ ใน 51 จังหวัด ครอบคลุม 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ  เกิดหลักสูตรการยกระดับการประกอบอาชีพที่ตอบโจทย์ท้องถิ่นและตลาดแรงงาน นำไปสู่การเป็นผู้ประกอบการและแรงงานที่มีฝีมือในชุมชน เกิดเครือข่ายคนทำงานรุ่นใหม่ที่เข้ามามีบทบาทในการร่วมพัฒนา อีกทั้งยังเกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานวิชาการ สถาบันการศึกษาในการพัฒนากลไกเสริม เครื่องมือ และชุดความรู้ร่วมกับหน่วยพัฒนาอาชีพ และเกิดเป็นนวัตกรรมการพัฒนาอาชีพในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การพัฒนาส่งเสริมการเป็นผู้ประกอบการ การรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน และเกิดผลิตภัณฑ์ งานบริการที่ถูกยกระดับให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นผ่านการใช้เทคโนโลยีออนไลน์

"การใช้ชุมชนเป็นฐานเป็นต้นแบบหนึ่งของ กสศ. ถือเป็นมิติใหม่ของการทำงานเชิงพื้นที่ที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน โดย กสศ.เข้าไปหนุนเสริมทักษะความรู้และงบประมาณบางส่วน ทำให้เกิดการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นความสุขมากขึ้น ผมคิดว่ารูปแบบการทำงานแบบบนี้น่าจะเป็นทางเลือกทางรอดของประเทศได้"


ขณะที่ ดร.สมคิด กล่าวเสริมว่า ผลจากการทำโครงการ 2 ปีที่ผ่านมา วันนี้ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น คือ เห็นระบบของการดึงโครงสร้างความรู้ มาร่วมปฏิบัติการในพื้นที่ เป็นระบบการศึกษาใหม่ในการพัฒนาอาชีพโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน สร้างทักษะและองค์ความรู้ที่จะนำมาประกอบอาชีพให้เกิดรายได้แล้ว ความรู้ที่เกิดขึ้นยังเป็นเกราะกำบังให้คนในชุมชนเอาตัวรอดได้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และที่สำคัญคือ เกิดความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ระหว่างคนในชุมชน คือ "หาได้" และ "ให้ได้" สร้างสังคมแห่งการดูแลกันและสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้

ดร. สมคิด กล่าวสรุปว่า การสร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้ โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เป็นการยกระดับทักษะความรู้ให้กลุ่มแรงงานสามารถประกอบอาชีพ มีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว ถือเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุณภาพการศึกษา สังคม วัฒนธรรม ให้ค่อย ๆ เกิดขึ้นอย่างเข้าใจ อันจะนำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขในชุมชน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการลดความเลื่อมล้ำในสังคมโดยใช้ชุมชนเป็นฐานได้อย่างแท้จริง
#3844


เมื่อวันที่ 3 ส.ค.64 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมขอบคุณกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และไปรษณีย์ไทย ที่จัดโครงการ "เกษตรกรแฮปปี้" เพื่อส่งเสริมการขายผลไม้ไทย

โดยเช้านี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งซื้อมังคุด เงาะ ลำไยกับสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธกส. ผ่านเพจไปรษณีย์ไทย จำนวน 1 ตัน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และให้จัดส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปมอบต่อเจ้าหน้าที่และจิตอาสาด่านหน้า พร้อมเชิญชวนคณะรัฐมนตรีร่วมอุดหนุน ช่วยเกษตรกรชาวสวนผลไม้ด้วย

 
นางสาวรัชดา ฯ  ยังเปิดเผยว่า ในที่ประชุม ครม. นายกรัฐมนตรีชื่นชมการจัดทำการส่งเสริมการขายผลไม้ไทย โครงการ "เกษตรกรHappy"  ซึ่งเป็นอีกมาตรการหนึ่งในการช่วยเหลือเกษตรกรทั้งภาคเหนือและภาคใต้ ที่ประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาด ราคาตกต่ำในขณะนี้ สาเหตุสำคัญมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้การกระจายผลไม้ทำได้ยากขึ้น ขาดแรงงาน รวมทั้งการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ เช่น จีน ก็ติดขัดจากการตรวจเข้มและปัญหาการข้ามแดน 

ดังนั้น กระทรวงพาณิชน์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และไปรษณีย์ไทย ได้จัดโครงการส่งเสริมการขายสินค้าเกษตรออนไลน์บนแพลตฟอร์มของไปรษณีย์ไทย ทาง facebook : Thailandpostmart และเว็บไซต์ของไปรษณีย์ไทย www.Thailandpostmart.com ได้แก่ มังคุด จ.นครศรีธรรมราช เงาะ จ.สุราษฎร์ธานี และลำไย จ.พะเยา ด้วยการการตลาดแบบใหม่ใช้ช่องทาง  Line My Shop และ QR Code ให้ผู้ซื้อ/ลูกค้า ทราบข้อมูลเกี่ยวกับผลไม้และราคาที่นำมาขายและสามารถสแกนซื้อที่ QR Code ของโครงการได้เลย โดยกระทรวงพาณิชย์ จะสนับสนุนค่าขนส่งและค่ากล่องให้กับประชาชนที่สั่งซื้อผลไม้ออนไลน์ผ่าน Thailandpostmart ของไปรษณีย์ซึ่งไปรษณีย์ไทยจัดส่งให้ฟรีทั่วไทยด้วย 


"โครงการเกษตรกรHappy" ยังเป็นการเดินหน้าตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรไทยเรียนรู้และใช้ประโยชน์จากการค้าออนไลน์สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และพฤติกรรมผู้บริโภค รวมทั้งเพิ่มความปลอดภัยทั้งผู้จำหน่าย และผู้บริโภคในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดด้วย 
#3845


แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป เดินหน้าขยายการให้บริการแกร็บเพย์ วอลเล็ต (GrabPay Wallet) สนองตอบการใช้ชีวิตแบบสังคมไร้เงินสด เพิ่มความสะดวกสบายให้พาร์ทเนอร์คนขับและร้านค้า พร้อมมอบความคุ้มค่าและบริการชำระเงินที่ปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการภายในอีโคซิสเต็มของแกร็บ ผ่านการเปิดใช้งานและเติมเงินเข้า แกร็บเพย์ วอลเล็ต ง่ายๆ ผ่าน 3 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงศรีอยุธยา

นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการ แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป กล่าวว่า แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป มุ่งขยายการบริการแกร็บเพย์ วอลเล็ต อย่างต่อเนื่องในยุคแห่งสังคมไร้เงินสด เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย และปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานในอีโคซิสเต็มส์ของแกร็บ ทั้งผู้ใช้บริการ พาร์ทเนอร์คนขับ และพาร์ทเนอร์ร้านค้า

โดยล่าสุดได้ร่วมมือกัน 3 ธนาคารชั้นนำ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงศรี ในการให้บริการเติมเงินเพื่อใช้ชำระค่าบริการในอีโคซิสเต็มของแกร็บได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้บัตรเดบิต หรือเครดิต ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบายและเพลิดเพลินกับสิทธิประโยชน์ของการชำระเงินแบบไร้เงินสด

เพื่อเพิ่มความมั่นใจ และความปลอดภัยในทุกๆ การชำระเงิน ลูกค้าของทั้ง 3 ธนาคารสามารถยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) ทุกครั้งก่อนใช้บริการด้วยตนเอง ผ่านแอปพลิเคชันแกร็บ นอกจากนี้ แกร็บยังมอบความคุ้มค่า ด้วยโปรโมชันสุดพิเศษเพื่อผู้ใช้งาน แกร็บเพย์ วอลเล็ต โดยเฉพาะ ผู้ใช้บริการสามารถรับส่วนลดสูงสุด 1,000 บาทต่อเดือนทุกบริการ Grab เมื่อใส่รหัส WALLET ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564
#3846


ส.อ.ท.เปิดเผยผลสำรวจปัญหาแรงงานในช่วงวิกฤติโควิด-19 พบแรงงานติดเชื้อในโรงงานผสมกับภาวะการขาดแคลนแรงงานส่งผลให้กำลังการผลิตลดลงและเริ่มกระทบส่งออกไทย วอนรัฐเร่งฉีดวัคซีนให้แรงงานม.33 เร่งด่วน ขณะที่การจ้างงาน ลดลง 10 – 20% คิดเป็น 31.3% ส่วนการจ้างงานลดลงมากว่า 50% คิดเป็น 4.8 %

       นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 8 ในเดือนกรกฎาคม 2564 ภายใต้หัวข้อ "การจัดการปัญหาแรงงานในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19" พบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่ มองว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อแรงงานในภาคอุตสาหกรรมทั้งปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในโรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งปัญหาขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมที่มีการใช้แรงงานเข้มข้น จนส่งผลทำให้กำลังการผลิตลดลงและกระทบต่อการส่งออกของไทย ซึ่งถือเป็นเครื่องยนต์หลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 นี้ จึงเสนอให้ภาครัฐเร่งฉีดวัคซีนให้แก่แรงงาน ม.33 เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดโควิด-19 ในสถานประกอบการ รวมทั้ง รักษาศักยภาพในการผลิตและการส่งออกของประเทศ

จากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 166 ท่าน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 75 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด พบว่า อัตราการจ้างงานในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดนั้น ส่วนใหญ่ภาคอุตสาหกรรมยังสามารถคงอัตราการจ้างงานเท่าเดิม คิดเป็น 53.6% มีการจ้างงานลดลง 10 – 20% คิดเป็น 31.3% มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 10 – 20% คิดเป็น 10.3% และมีการจ้างงานลดลงมากว่า 50% คิดเป็น 4.8 %

ในส่วนของผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนแรงงานที่เกิดขึ้นในขณะนี้ พบว่า โรงงานอุตสาหกรรมบางส่วนได้รับผลกระทบทำให้ต้องลดกำลังการผลิตลง น้อยกว่า 30% คิดเป็น 45.2% โรงงานที่ไม่ได้รับผลกระทบ คิดเป็น 26.5% โรงงานที่กำลังการผลิตลดลง 30 – 50% คิดเป็น 20.5% และโรงงานที่กำลังการผลิตลดลงมากกว่า 50% คิดเป็น 7.8% เมื่อถามถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรม พบว่า 3 อันดับแรก ได้แก่ แรงงานบางส่วนต้องเข้าสู่กระบวนการรักษาโรค หรือกักตัว รวมทั้ง การปิดโรงงานชั่วคราวตามข้อกำหนด คิดเป็น 51.8% รองลงมา สถานประกอบการไม่สามารถหาแรงงานสัญชาติไทยได้เพียงพอต่อความต้องการ คิดเป็น 49.4% และมาตรการควบคุมการเดินทางเข้าออกพื้นที่ของแรงงานข้ามจังหวัด คิดเป็น 41.6%

สำหรับมาตรการที่ภาครัฐควรนำมาดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรม พบว่า 3 อันดับแรก ได้แก่ การสนับสนุนเงินอุดหนุนในการจ้างแรงงานไทย และขยายโครงการจ้างงานเด็กจบใหม่ คิดเป็น 50% รองลงมา เป็นการส่งเสริมการใช้เครื่องจักรในภาคอุตสาหกรรมทดแทนการใช้แรงงาน คิดเป็น 48.8% และการอนุญาตให้นำเข้าแรงงานต่างด้าวภายใต้ MOU เฉพาะแรงงานที่ได้รับการฉีดวัคซีน 2 เข็มแล้ว มีการทำประกันสุขภาพ และต้องผ่านการกักตัว 14 วัน เข้ามาทำงาน คิดเป็น45.8%

กรณีที่ภาครัฐจะมีการเปิดให้มีการนำเข้าแรงงานต่างด้าวตาม MOU ควรมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องใด พบว่า 3 อันดับแรก ได้แก่ การเตรียมความพร้อมระบบคัดกรอง ติดตาม และประเมินสถานประกอบการที่ใช้แรงงานต่างด้าว คิดเป็น 69.9% รองลงมา การจัดตั้งศูนย์ One Stop Service สำหรับนายจ้างที่ต้องการจ้างแรงงานต่างด้าว คิดเป็น 66.9% และการปรับลดขั้นตอน เอกสารที่ไม่จำเป็น และปรับมาดำเนินการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ คิดเป็น 65.1 %

ทั้งนี้ FTI Poll ยังได้เจาะลึกถึงมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการปิดสถานประกอบการอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดโควิด-19 พบว่า 3 อันดับแรก ได้แก่ การเร่งจัดหาวัคซีนและเร่งฉีดให้กับแรงงาน ม.33 คิดเป็น 92.8๔ รองลงมา การสนับสนุนด้านการรักษาพยาบาลแรงงานที่ติดเชื้อ และสนับสนุนยา อาหาร และเวชภัณฑ์ให้แก่แรงงานที่ติดเชื้อในการรักษาตัวที่บ้าน (Home isolation) คิดเป็น 69.9% และการลดเงินสมทบประกันสังคม เหลือ 1% ถึงสิ้นปี 2564 คิดเป็น 66.9 %

นอกจากนี้ ผู้บริหาร ส.อ.ท. ยังมองว่ามาตรการที่ภาคเอกชนมีความพร้อมและสามารถที่จะดำเนินการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในสถานประกอบการได้ พบว่า 3 อันดับแรก ได้แก่ การมีระบบคัดกรองแรงงานก่อนเข้าโรงงาน และการเฝ้าระวังผู้ปฏิบัติงานที่เป็นกลุ่มเสี่ยงตามมาตรการ Bubble & Seal คิดเป็น 83.1% รองลงมา การจัดหาวัคซีนทางเลือกให้แก่แรงงานในสถานประกอบการ คิดเป็น 68.1% และการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด (D-M-H-T-T-A) คิดเป็น 65.7%
#3847


วันที่ 1 สิงหาคม 2564 นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า ในภาวะวิกฤติการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 เช่นนี้ ที่มียอดผู้ป่วยโควิดในประเทศวันนี้ 18,027 ราย ยอดเสียชีวิตสูง 133 คน ซึ่งถือว่า คนไทยทุกคนได้รับผลกระทบอย่างหนัก เรื่องสุขภาพ ความเจ็บป่วย โดยเฉพาะการดำรงชีพ ปากท้องประชาชน ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้  และยังไม่อาจรู้ได้ว่า สถานการณ์แพร่ระบาดในเวฟล่าสุดนี้ จะคลี่คลายในระยะเวลายาวนานเพียงใด

"แต่ในวิกฤตเช่นนี้ เรายังได้เห็นน้ำใจของทุกภาคส่วน เราได้เห็นมูลนิธิ ภาคประชาชน สื่อมวลชน ศิลปินดารา ประชาชน ออกมาช่วยเหลือซึ่งกันและกันมาโดยตลอด ทั้งนี้ในส่วนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) มีความตั้งใจในการร่วมแรงคนละไม้คนละมือเพื่อก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน โดยจะจัดทำ 2 โครงการ คือ โครงการ "ครัวปันอิ่ม" แจกอาหาร 2 ล้านกล่องและโครงการ"ปลูกฟ้าทะลายโจร"100 ไร่ ผลิต 30 ล้านแคปซูลพร้อมแจกฟรีในอีก 100 วัน"

โครงการ "ครัวปันอิ่ม" ผนึกกำลังบริษัทในเครือและพันธมิตรทุกภาคส่วน ร่วมแจกอาหาร 2 ล้านกล่อง ใน 40 จุด ทั่วกรุงเทพฯ ตลอดช่วงเวลา 2 เดือน นับจากนี้ โดยแบ่งออกเป็น การซื้ออาหารจากร้านอาหารขนาดเล็กและขนาดกลาง จำนวน 1 ล้านกล่อง มาแจกจ่าย เพื่อเป็นการช่วยเหลือด้านรายได้ให้กับร้านอาหารรายย่อย และ อาหารของเครือซีพีสมทบอีก 1 ล้านกล่อง รวมเป็น 2 ล้านกล่อง โดยครัวปันอิ่มนี้เปิดกว้างสำหรับเพื่อนๆ ผู้มีจิตสาธารณะที่จะมาร่วมสมทบ เพิ่มเติม และยังต้องผนึกกำลังกับมูลนิธิ กลุ่มจิตอาสา ภาคประชาสังคม เพื่อระดมกำลังด้านการแจกจ่ายให้ถึงชุมชนที่มีความเดือดร้อน

ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ ทุกภาคส่วน ที่ยินดีเข้ามาร่วมไม้ร่วมมือกัน ซึ่งโครงการครัวปันอิ่มนี้ จะมีการประสานไปยังร้านอาหารรายย่อยเพื่อจัดเตรียมอาหาร และควบคุมคุณภาพ โดยคำนึงถึงความสะอาด และความปลอดภัย ทั้งนี้คาดว่า จะพร้อมดำเนินการแจกจ่ายภายในสัปดาห์หน้า โดยจะเน้น 40 จุดที่ใกล้ชุมชน เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทาง และลดโอกาสการแพร่เชื้อ

โครงการที่สอง คือ โครงการปลูกฟ้าทะลายโจรบนที่ดิน 100 ไร่ และผลิตเพื่อแจกฟรี 30 ล้านแคปซูล ซึ่งในสถานกาณ์ปัจจุบัน สิ่งสำคัญคือ การป้องกันโรค และ การควบคุมโรค การกักตัวอยู่บ้านเพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อ การดูแลตัวเองถือเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะสมุนไพรไทยนั้น ถือได้ว่า มีคุณค่าอย่างมาก จะเห็นได้ว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ฟ้าทะลายโจรเริ่มขาดแคลน ทำให้คนไทยหลายส่วนไม่สามารถเข้าถึงได้ เครือซีพี จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมแก้ปัญหาดังกล่าว โดยจะริเริ่มโครงการปลูกฟ้าทะลายโจร ในพื้นที่ 100 ไร่ที่ จ.สระบุรี และใช้เวลา 100 วัน นับจากวันนี้จะพร้อมแจกจ่ายฟ้าทะลายโจร จำนวน 30 ล้านแคปซูล ฟรีให้กับพี่น้องประชาชนและชุมชน

โดยจะดำเนินการแบบปลอดสารพิษทั้งกระบวนการ และมีการใช้เทคโนโลยีเพื่อให้เกิดความปลอดภัยและมีคุณภาพ ซึ่งเครือซีพีจะนำความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการเกษตรมาช่วยในสถานการณ์นี้ ส่วนในด้านการแจกจ่าย จะดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่มีความรู้ด้านสมุนไพรและสาธารณสุข เพื่อให้การแจกจ่าย และการรับประทาน เป็นไปอย่างถูกต้องและเหมาะสม นอกจากนี้จะมีการส่งเสริมเกษตรกรให้ปลูกฟ้าทะลายโจร และ มีการจ้างงานเกษตรกรในการเพาะกล้าไม้ และส่งเสริมให้ขยายผลไปในชุมชน เพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไป

"ในยามวิกฤตแบบนี้ กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด สิ่งที่ช่วยสู้กับไวรัส จริงๆแล้วคือภูมิคุ้มกันของตัวเราเอง ซึ่งหากเรามีร่างกายและกำลังใจที่แข็งแกร่งแล้ว ย่อมผ่านวิกฤตนี้ไปได้ ขอชื่นชมทุกภาคส่วนที่ทำงานอย่างหนัก ขอบคุณคุณหมอ และบุคลากรทางการแพทย์ที่ยังคงไม่ย่อท้อ ขอบคุณทุกคนที่ออกมาเป็นต้นแบบ และแรงบันดาลใจในการช่วยเหลือสังคม สุดท้ายนี้เครือซีพีขอขอบคุณเพื่อนๆ พันธมิตรจิตอาสา ทุกภาคส่วนอีกครั้ง ที่มาร่วมกันร้อยเรียงความดีผ่านทั้ง 2 โครงการนี้ ผมเชื่อว่า เราจะก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปได้ด้วยกัน" นายธนินท์ กล่าว

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952316
#3848


โรงพยาบาลบุษราคัม Big Cleaning ทำความสะอาดจุดแรกรับผู้ป่วย พร้อมปรับระบบจัดทางด่วนสำหรับกลุ่มเปราะบาง เด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยติดเตียง พิการ ให้เข้ารับการประเมินก่อน และจัดโซนผู้ป่วยเพื่อง่ายต่อการดูแล

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุษราคัม ให้สัมภาษณ์ว่า โรงพยาบาลบุษราคัม ได้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 ข้อมูลถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ให้การดูแลผู้ป่วยแล้วจำนวน 13,275 ราย โดยในเช้าวันนี้ได้จัด Big cleaning ทำความสะอาดครั้งใหญ่ในบริเวณจุดแรกรับผู้ป่วย ทั้ง 2 จุด พร้อมปรับระบบประเมินผู้ป่วยแรกรับ โดยเพิ่มทางด่วน Fast Track สำหรับผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้ป่วยที่ต้องให้ออกซิเจน เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ เป็นต้น ให้ได้รับการประเมินอาการก่อน และจัดโซนผู้ป่วยให้ง่ายต่อการดูแลรักษา เนื่องจากระยะหลังพบผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มเปราะบางเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้เตรียมนำเก้าอี้รถเข็นเข้าไปยังหอผู้ป่วยจำนวน 231 ตัว และเก้าอี้นั่งสำหรับขับถ่ายข้างเตียงผู้ป่วย จำนวน 62 ตัว เก้าอี้อาบน้ำ จำนวน 5 ตัว เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ป่วย และกำลังจัดหาเตียงลมสำหรับผู้ป่วยติดเตียงและผู้ป่วยวิกฤติเพิ่มเติม ต้องขอขอบคุณทหารจิตอาสาที่ให้ความร่วมมือ สนับสนุนในการเข้าไปอำนวยความสะดวกเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและเปลี่ยนเตียงที่ชำรุด รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากผู้ป่วยที่ไม่มีอาการเป็นจิตอาสา วัดความดันโลหิต วัดค่าออกซิเจนในเลือด ประสานงานเจ้าหน้าที่กับผู้ป่วย ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ช่วยลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี

สำหรับสถานการณ์เตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลบุษราคัมวันนี้ มีผู้ป่วยที่นอนรักษาอยู่ 3,233 ราย เป็นกลุ่มสีเหลืองอ่อน 2,771 ราย สีเหลือง 287 ราย สีแดง 175 ราย โดยมีมาตรฐานการรักษาตามแนวทางของกรมการแพทย์ ซึ่งผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อย ที่รักษาหายแล้วครบ 7 - 10 วัน สามารถให้กลับไปกักตัวที่บ้านต่อได้เพื่อที่จะมีเตียงไว้สำหรับผู้ป่วยรายอื่นๆ ต่อไป
#3849


ตลท. กำหนด "GL -MAX- NOK' ส่งงบการเงินงวดปี63ภายใน1ก.ย.นี้ หากไม่สามารถทำได้จะประกาศให้เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน และขึ้นเครื่องหมายNC จนกว่าบริษัทจะสามารถดำเนินการให้เหตุเพิกถอนกลับมาซื้อขายได้

ตามที่บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือGL บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือMAX และบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือNOK ยังไม่นำส่งงบการเงินปี 2563 มายังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ภายในระยะเวลาที่กำหนด (ภายในวันที่ 1 มี.ค.2564)


ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอให้ทั้ง 3 บริษัทเร่งนำส่งงบการเงินดังกล่าวเพื่อเผยแพร่แก่ผู้ลงทุนได้รับทราบ


ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอเรียนว่าในกรณีที่ GL MAX และ NOK ยังไม่นำส่งงบการเงินปี 2563 ภายใน 6 เดือนนับแต่วันครบกำหนดระยะเวลานำส่งงบการเงิน กล่าวคือ ภายในวันที่ 1 ก.ย. 2564

ตลาดหลักทรัพย์ฯจะประกาศว่าทั้ง 3 บริษัทข้างต้นเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน และขึ้นเครื่องหมายNC (Non-Compliance)จนกว่าบริษัทจะสามารถดำเนินการให้เหตุเพิกถอนหมดไปและดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายได้
#3850


กระทรวงสาธารณสุข เผยการทำ Home Isolation , Community Isolation ในผู้ติดเชื้อโควิด 19 กลุ่มสีเขียว ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย ซึ่งพบร้อยละ 85 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด ช่วยลดการใช้เตียงในโรงพยาบาล ช่วยผู้ติดเชื้อที่มีอาการปานกลางและรุนแรง หรือกลุ่มสีเหลือง สีแดงได้รับการดูแลเต็มที่

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ปรับมาตรการดูแลผู้ติดเชื้อโควิดให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค จากสายพันธุ์เดลต้าที่ระบาดได้รวดเร็ว ทำให้พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ความต้องการเตียงจึงมีมากขึ้น อย่างไรก็ตาม พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด มีประมาณร้อยละ 15 ที่มีอาการปานกลางหรืออาการรุนแรง ต้องรับไว้ในโรงพยาบาลและต้องการใช้เครื่องมือแพทย์ ซึ่งส่วนมากอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง รวมถึงคนอ้วน ซึ่งส่วนใหญ่อีกร้อยละ 85 จะมีอาการเล็กน้อยหรือไม่มีอาการเลย ไม่จำเป็นต้องอยู่โรงพยาบาล ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกัน ทำลายเชื้อโรคได้ดี สามารถทำ Home Isolation อยู่ที่บ้านได้ และต้องทำการกันป้องกันไม่ให้มีการติดเชื้อสู่คนในครอบครัวรวมทั้งพี่น้องที่อยู่ด้วย แต่หากไม่สามารถอยู่ที่บ้านได้ จะนำมาอยู่รวมกันเป็น Community Isolation โดยให้ชุมชนช่วยกันดูแล เพื่อจะได้มีเตียงเพียงพอสำหรับให้ผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเหลือง สีแดงได้รับการดูแลอย่างเต็มที่

นายแพทย์ธงชัยกล่าวต่อว่า หลังทราบผลการติดเชื้อ ให้ตรวจสอบอาการตนเอง หากไม่มีไข้ หรือมีไข้ต่ำๆ ไม่มีอาการหายใจเร็ว หายใจลำบาก เหนื่อยหอบ สามารถอยู่ที่บ้านได้ ให้โทรไปได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 กด 14 จะได้รับการติดต่อกลับพร้อมนำชุดเซ็ตในการดูแลตัวเองที่บ้านไปให้ เช่น ปรอท ที่วัดออกซิเจน ยาฟ้าทะลายโจร หรือยาฟาวิพิราเวียร์ทานที่บ้านได้เลย และจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อประสานติดตามอาการวันละ 2 ครั้ง หากเริ่มมีอาการที่หนักขึ้น เช่น หายใจติดขัด ไอ แน่นหน้าอก ออกซิเจนต่ำ ก็จะมีรถไปรับ มารักษาที่โรงพยาบาล
#3851



นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการระบาดโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าที่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้ตลาดโลกมีความต้องการสินค้าอาหารที่ปลอดภัย ได้คุณภาพ และมุ่งตอบโจทย์ข้อกังวลทางด้านสุขภาพมากยิ่งขึ้น เรื่องนี้นายจุรินทร์นทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เสนอการสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของอาหารไทยให้กับผู้ซื้อและผู้บริโภคทั่วโลก ในรูปแบบหนังสือรับรอง COVID-19 Prevention Best Practice สำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการส่งออกสินค้าอาหารซึ่งเมื่อเดือนก.ย.2563 ที่ผ่านมานายจุรินทร์เป็นประธานสักขีพยานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือของ 4 หน่วยงานหลัก ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย


ล่าสุดกรมประมงได้ออกหนังสือรับรองดังกล่าวให้แก่โรงงานอาหารทะเลแช่เย็นและแช่แข็ง และโรงงานผลิตอาหารทะเลกระป๋อง ให้กับโรงงานผู้ส่งออกแล้ว กว่า 237 โรงงานแล้ว สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการขอหนังสือรับรองดังกล่าวเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ สามารถติดต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องก่อนส่งออกไปยังผู้นำเข้าในประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้


นอกจากนี้นายจุรินทร์ยังติดตามการสร้างการตระหนักรับรู้ และตอกย้ำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าสินค้าอาหารไทยมีคุณภาพ และปลอดภัยในทุกๆ ขั้นการผลิตและการจัดส่งถือมือผู้บริโภคภายใต้แคมเปญ 'Thailand Delivers with Safety' ผ่านทูตพาณิชย์ที่เป็นเซลส์แมนประเทศ ซึ่งประจำการในประเทศต่างๆ ทั่วโลกอีกด้วย

สำหรับภาพรวมการส่งออกสินค้าอาหาร ไม่รวมน้ำตาล โดยในช่วงครึ่งปีแรกตั้งแต่ม.ค. – มิ.ย. 2564 มูลค่ากว่า 441,014 ล้านบาท  โดยมีสินค้าประเภทผัก ผลไม้สด แช่เย็น แช่เข็ง และแห้ง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง อาหารทะเลสด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋อง และแปรรูป ไก่สดแช่แข็ง และแปรรูป และเครื่องดื่มทุกชนิด ที่ส่งออกมากที่สุดตามลำดับ

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952206
#3852



นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ตอบคำถามสื่อมวลชนกรณีที่มีข่าวระบุถึงวัคซีนโควิด-19 ในสต็อกคงเหลือของสหรัฐที่ไทย อาจเจรจาขอเพิ่มจากสหรัฐได้ ว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ได้ตรวจสอบข้อมูลทั้งกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ และทำเนียบขาว ซึ่งได้รับแจ้งว่า วัคซีนส่วนเกินที่อยู่ในสต็อกของรัฐต่างๆ ยังไม่มีนโยบาย "ส่งวัคซีนเพื่อบริจาค หรือขาย" ต่อกับประเทศอื่นๆ 

"สถานทูตไม่ได้ละความพยายาม โดยกำลังประสานกับบุคคลต่างๆ เพื่อย้ำสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทย และขอรับการสนับสนุนการส่งมอบวัคซีนที่หน่วยราชการไทยได้สั่งซื้อจากบริษัทต่างๆ โดยเร็ว" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุ 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ อยู่ในระหว่างการติดต่อทำเนียบขาว กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ และประสานงานกับมิตรประเทศที่สถานทูตใกล้ชิด และมีความเห็นในทางเดียวกัน ตลอดจนประธานสมาคม ชุมชนไทยที่คอยสนับสนุนสถานทูต เพื่อช่วยผลักดันการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ที่สหรัฐไม่ได้ใช้ต่อไป
#3853



สัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นวีคของสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 5 ซีโมน-ปุณณาสา ต้นวิชา จากรายการ "Last Idol Thailand Presented by True 5G" (ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์) ทางช่อง 7 HD เลยก็ว่าได้ เพราะออร่าความบลิ้งค์ประกายซะจนไปนั่งใจหัวใจแฟน ๆ ไอดอลไทยหลายต่อหลายคน

ล่าสุดความฮอตของสาวซีโมนแผ่กระจายไปถึงประเทศญี่ปุ่น เพราะที่ผ่านมาทางรายการ "Last Idol Thailand Presented by True 5G" (ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์) ได้จัดทำซับไทเทิ้ลภาษาญี่ปุ่นเพื่อเอาใจแฟนคลับจากแดนปลาดิบให้พวกเขาได้อรรถรสในการรับชมอย่างเต็มที่ ซึ่งหลังจบ EP.8 ปุ๊บก็มีชาวญี่ปุ่นแสดงความเห็นเกี่ยวกับความน่ารักสดใสของซีโมน-ปุณณาสา ผ่านช่องทางโซเชียลอย่างคึกคัก



"ซีโมนจัง" โดนท้าแล้วก็จริงแต่พอได้ดูเพอร์ฟอร์มละ คงไม่มีคู่แข็งปรากฏตัวแล้วมั้ง คือมันสุดยอดมากจริง ๆ แถมน่ารักขึ้นด้วย"



"ซีโมน" นี่อายุ 14 จริง ๆ ใช่ไหม การแสดงเหมาะกับการเป็นดารานักแสดงมากเลย พอบวกกับออร่าเซนเตอร์ของ "ต้นน้ำ" กับความเป็นไอดอลของ "ม่านมุก" 3 คนนี้ผู้ท้าชิงน่าจะเริ่มหนีกันแล้วมั้ง



"อายจัง" น่าจะเลือกท้าผิดคนไปหน่อย พอ "อายจัง" เดินออกมานึกว่าจะท้า "ตาล" ซะอีก แต่กลายเป็น "ซีโมน" ซะงั้น เพอร์ฟอร์ม "ซีโมน" คือมันสุดยอดมาก เหมือนทำให้ทั้งสตูกลายเป็นคอนเสิร์ตของตัวเองเลย เท่มาก



เพอร์ฟอร์มนี้เหมือนโดนดูดเข้าไปในโลกของ "ซีโมน" เลย คงไม่น่าจะตกแล้วมั้ง

- (คอมเม้นตอบ) พอดูเพอร์ฟอร์ม "ซีโมน" ละกลัวเลย ไม่น่ามีผู้ท้าชิงมาท้าแล้วแหละ ดูมีของและอะไรซ่อนอยู่อีก สุดยอด



ไม่ใช่แค่คนญี่ปุ่นที่ชื่นชอบลีลาการร้องเพลง "นักมายากล" ของ ซีโมน ปุณณาสา เท่านั้น แต่วงดนตรีฝีมือเก๋าเจ้าของบทเพลง "นักมายากล" อย่าง "พาราด็อกซ์" ได้แชร์คลิปการแสดงของซีโมนผ่านเฟสบุ๊คของวง เช่นเดียวกับวงร็อคชื่อดังอย่าง "เคลียร์" แชร์คลิปที่ ต้นน้ำ-บัณฑิฏา สันตยารมณ์ สมาชิกชั่วคราวหมายเลข 1 ร้องเพลง "กระโดดกอด" ของวง "เคลียร์" ผ่านเฟสบุ๊คของวงด้วย

และในวันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคมนี้ ห้ามพลาดกับการลงสนามชิงชัยครั้งแรกของสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 6 เก๋-พรรณิภา วงษาชัย กับผู้ท้าชิงคนที่ 11 ศึกครั้งนี้ใครจะอยู่ใครจะไป ติดตามได้ทางช่อง 7 HD เวลา 12.30-13.30 น.

และพิเศษสุดสามารถรับชมเอ็กซ์คลูซีฟคอนเท้นต์ผ่านทางแอพพลิเคชั่น True ID นอกจากนี้ยังสามารถโหวตผู้เข้าแข่งขันที่คุณชื่นชอบที่สุด 5 อันดับ ตลอดรายการ เพื่อเดบิวต์เป็นยูนิตพิเศษ True 5G Special Unit ง่ายๆ เพียงกด *472* ตามด้วยหมายเลขของผู้เข้าแข่งขันที่คุณชื่อชอบ ตามด้วย # แล้วกดโทรออก หรือโหวตผ่านแอพพลิเคชั่น True Money Wallet และยังสามารถใช้ทรูพอยท์ร่วมโหวตได้อีกด้วย สามารถโหวตได้ตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย. 64 จนถึงวันที่ 3 ต.ค. 64 เวลา 24.00 น. เท่านั้น
#3854



น้ำตาล เป็นสารให้ความหวานที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้านการให้พลังงาน โดยเฉพาะน้ำตาลกลูโคสที่มีหน้าที่สำคัญในการให้พลังงานแก่สมอง ช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเคมีในสมองทำให้รู้สึกสดชื่นและช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น จึงนิยมผสมน้ำตาลในเครื่องดื่ม น้ำผลไม้แทบทุกชนิด

เครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มอีกชนิดที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่ใช้พลังงานมากๆ เช่น นักกีฬา หรือผู้มีอาชีพที่ต้องใช้พลังในการทำงาน เครื่องดื่มชูกำลังมีส่วนผสมหลักๆ คือ คาเฟอีน ที่ทำหน้าที่ให้ความรู้สึกสดชื่น เพิ่มเรี่ยวแรงให้กับผู้ดื่ม และน้ำตาลที่ให้พลังงาน และความสดชื่นแก่สมอง

องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้คำแนะนำว่าใน 1 วัน เด็กและผู้ใหญ่ควรได้รับน้ำตาลไม่เกิน 25 กรัม หรือประมาณ 6 ช้อนชา ปริมาณเพียงเท่านี้ร่างกายจะนำไปใช้ประโยชน์ได้เพียงพอ และไม่ทำให้เกิดโทษ

ท่านที่ชื่นชอบการดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง วันนี้สถาบันอาหารทำการสุ่มตัวอย่างเครื่องดื่มชูกำลังจำนวน 5 ตัวอย่าง จาก 5 ยี่ห้อ เพื่อนำมาวิเคราะห์หาปริมาณน้ำตาลทั้งหมด ผลการวิเคราะห์พบว่า


ตัวอย่างเครื่องดื่มชูกำลังมีปริมาณน้ำตาลทั้งหมดอยู่ในช่วง 7.74-14.04 กรัม ต่อเครื่องดื่ม 100 มิลลิลิตร

หรือหากคิดต่อเครื่องดื่มชูกำลัง 1 ขวด พบมีปริมาณน้ำตาลทั้งหมดอยู่ในช่วง 7.74-23.87 กรัมต่อขวด

ก็สูงอยู่นะ อย่าลืมว่าใน 1 วัน เราทานอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายชนิด ที่อาจมีส่วนผสมของน้ำตาล ในปริมาณมากน้อยต่างกันอยู่แล้ว ทำให้ใน 1 วัน เราอาจได้รับน้ำตาลเกินปริมาณที่ WHO แนะนำ หากร่างกายขับออกไม่หมดจะเกิดการสะสมในร่างกาย หากสะสมมากๆ เป็นเวลานานจะส่งผลเสียในระยะยาว และอาจทำให้เกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคที่เกี่ยวกับเมตาบอลิกอื่นๆได้

หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรลดการเติมน้ำตาลที่ใช้ปรุงอาหารที่ทำทานเอง การเลือกซื้อ เลือกทานอาหาร หรือเครื่องดื่มสำเร็จรูปให้ดูปริมาณน้ำตาลที่ระบุไว้บนฉลากโภชนาการเป็นหลักว่ามีเท่าใด หรือเลือกซื้อสูตรที่ระบุว่าหวานน้อย เพื่อให้ร่างกายปลอดภัยจากโรคภัยต่างๆ จะดีกว่า.

ไทยรัฐ+สถาบันอาหารโครงการอาหารปลอดภัย
https:// www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2135845
#3856
วันนี้ ChatStick มี 5 คำถามก่อนสร้าง "ภาพจำ" มาฝากค่าาาาา
https://www.chatstickmarket.com/single-post/5questionsbeforecreatinga-memory

#3858



แฟลช เอ็กซ์เพรส ประกาศเปิดให้บริการรับส่งพัสดุทุกพื้นที่ตามปกติเที่ยงคืนของวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ หลังเคลีย์พัสดุคงค้างในศูนย์กระจายพัสดุสาขาวังน้อยเรียบร้อย ยืนยันลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจะได้รับการชดเชยอย่างแน่นอน พร้อมยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อ COVID-19 ในทุกสาขาทั่วประเทศเพื่อให้ลูกค้าผู้ใช้บริการทุกคนมั่นใจในความปลอดภัย

บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ผู้ให้บริการขนส่งแบบครบวงจร พร้อมเปิดให้บริการรับส่งพัสดุทุกพื้นที่ทั่วประเทศนับตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 ภายหลังก่อนหน้าได้รับคำสั่งปิดศูนย์กระจายพัสดุสาขาวังน้อยจากคณะกรรมการโรคติดต่อ ในส่วนพัสดุตกค้างที่อยู่ในศูนย์ฯวังน้อยจะสามารถเคลีย์ได้ทั้งหมดภายในวันที่ 30 กรกฎาคมเช่นเดียวกัน พร้อมยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อ COVID-19 ภายในศูนย์กระจายพัสดุ และในสาขาอื่นๆทั่วประเทศ โดยเฉพาะสุขอนามัยของพนักงานที่เข้ารับส่งพัสดุถึงหน้าบ้านลูกค้าผู้ใช้บริการเพื่อลดความเสี่ยงต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดโดยไม่คิดค่าบริการเพิ่ม

ทั้งนี้มาตรการชดเชยให้กับลูกค้าผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบจากกรณีปิดศูนย์ฯ มีรายละเอียด ดังนี้
1) ตามประกาศของบริษัทฯ ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 พัสดุที่ถูกจัดส่งระหว่างวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ถึงเที่ยงคืนวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ระบบจะดำเนินการคำนวณพัสดุที่มีระยะเวลาอยู่ที่ศูนย์กลางกระจายพัสดุ (Hub) นานเกินกว่า 3 วัน ทางบริษัทฯ ยินดีคืนเงินค่าขนส่ง 100% สำหรับพัสดุที่ลูกค้าปลายทางปฏิเสธการรับพัสดุเนื่องจากความล่าช้าของปัญหาจากศูนย์กลางกระจายพัสดุ ทางบริษัทฯ รับผิดชอบค่าตีกลับไปยังผู้ส่งต้นทาง และสำหรับพัสดุบางส่วนที่ถูกรับฝากส่งในวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 และบริษัทฯ ทำการตีกลับคืนผู้ส่ง ทางบริษัทฯ จะคืนเงินค่าขนส่ง 100%

2) ค่าชดเชยรวมทั้งหมดตามข้างต้น หากเกินกว่า 500 บาท จะทำการชดเชยในรูปแบบของเงินสดผ่านแอพพลิเคชั่น แฟลช เอ็กซ์เพรส โดยสามารถทำการถอนเงินสดจากแอพไปยังธนาคารใดก็ได้ หากน้อยกว่า 500 บาทจะชดเชยในรูปแบบของคูปอง 20 บาท ซึ่งมีอายุการใช้งาน 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่บริษัทฯ ดำเนินการส่งคูปองให้ สำหรับคูปองและเงินสดจะถูกโอนเข้าไปยังบัญชีผู้ใช้ในแอพพลิเคชั่น แฟลช เอ็กซ์เพรสของท่านก่อนเที่ยงคืนของวันที่ 1 สิงหาคม 2564

3) คูปองและเงินสดจะถูกโอนเข้าไปยังบัญชีผู้ใช้ที่ใช้ในการจัดส่งพัสดุ (ท่านสามารถใช้บัญชีลูกค้าทั่วไปหรือบัญชีลูกค้าธุรกิจในการเข้าสู่แอพพลิเคชั่น แฟลช เอ็กซ์เพรส และตรวจสอบที่แอพพลิเคชั่น แฟลช-โปรไฟล์) หากบัญชีผู้ใช้เป็นของแพลตฟอร์มจะดำเนินการโอนเข้าเบอร์โทรศัพท์ของผู้ส่งที่ผูกไว้กับบัญชีผู้ใช้ของแฟลช เอ็กซ์เพรส (ท่านสามารถใช้เบอร์โทรศัพท์ผู้ส่งเข้าสู่แอพพลิเคชั่น แฟลช เอ็กซ์เพรสเพื่อตรวจสอบ)

4) ผู้รับปลายทางที่พัสดุได้รับผลกระทบข้างต้น จะได้รับคูปองมูลค่า 10 บาท จำนวน 5 ใบ ต่อจำนวนพัสดุที่ได้รับผลกระทบ 1 ชิ้น ซึ่งมีอายุการใช้งาน 6 เดือน (ท่านสามารถใช้เบอร์โทรศัพท์ของผู้รับพัสดุเข้าสู่ระบบแอพพลิเคชั่น แฟลช เอ็กซ์เพรส เพื่อตรวจสอบ)

5) ตั้งแต่ที่บริษัทฯได้มีการออกประกาศ เราได้ดำเนินการเคลมสินค้าเสียหายอย่างเร็วที่สุด สำหรับพัสดุที่เสียหายหรือสูญหายทั้งหมดที่ยังไม่ได้ดำเนินการในช่วงเวลาประกาศที่ผ่านมา บริษัทฯจะดำเนินการทั้งหมดในวันที่ 30 และ 31 กรกฎาคม 2564 โดยในช่วงระยะเวลาดังกล่าว บริษัทฯจะทำการแจ้งเตือนให้มีการเคลมพัสดุ (ท่านสามารถยื่นเคลมได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่น แฟลช เอ็กซ์เพรส)

6) การใช้งานคูปองทั้งหมดไม่มีเงื่อนไขข้อจำกัดของจำนวนพัสดุขั้นต่ำและมูลค่าขนส่งขั้นต่ำ เมื่อมีการส่งพัสดุจะถูกใช้เป็นส่วนลดโดยอัตโนมัติ โดย 1 พัสดุต่อ 1 คูปองส่วนลด ระยะการใช้งานภายใน 6 เดือน
หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ call center 1436 และทาง FaceBook Fanpage: Flash Express และดูรายละเอียดได้ทางเว็บไซต์ www.flashexpress.co.th และแอพพลิเคชั่น แฟลช เอ็กซ์เพรส
#3859



นายอุทัย  อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาฯ เมืองท่องเที่ยวยังมีดีมานต์ความต้องการในโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้จริง พิสูจน์จากความสำเร็จในการ Sold out ปิดการขายโครงการ "1517 NIMMAN" (1517 นิมมาน) เชียงใหม่ จากความโดดเด่นของโครงการ ดีไซน์การออกแบบ สุดยอดทำเลที่ตั้งไข่แดงใจกลางย่านนิมมานฯ ราคาและศักยภาพโครงการที่ลูกค้าเชื่อมั่น ให้การตอบรับเพื่อลงทุนในอนาคต โดยโครงการ 1517 นิมมาน เป็น Co - Business I Living Space พื้นที่ที่รวมธุรกิจ และการอยู่อาศัยเป็นหนึ่งเดียว ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท บนพื้นที่ขนาด 2 ไร่ จำนวน 23 ยูนิต


บนสุดยอดทำเลไข่แดงใจกลางย่านนิมมานเหมินท์ จังหวัดเชียงใหม่ ที่นับเป็นย่านศูนย์รวมธุรกิจและไลฟ์สไตล์ ที่มีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ คาเฟ่ บูทีคโฮเทล รวมถึงยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลกและแหล่งเศรษฐกิจที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจในแง่การลงทุนและการมองหาบ้านหลังที่สองในไทยที่มีความปลอดภัยและมีระบบสาธารณสุขที่ดี โดยเฉพาะชาวจีน และตอบโจทย์ผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี ที่มองหาโลเคชั่นศักยภาพในราคาที่เข้าถึงได้เพื่อประกอบธุรกิจและ ผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยเองในย่านชั้นนำของเชียงใหม่ ตลอดจนกลุ่มผู้ลงทุนทั้งภาคเหนือ และกรุงเทพฯ ที่มีความมั่นใจในเรื่องทำเลและผลตอบแทนการลงทุนที่คุ้มค่าและมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี โดยมีอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า หรือ Yield สูงถึง 6 - 7% ต่อปี เทียบจากอัตราค่าเช่าอาคารพาณิชย์ในย่านนิมมานฯ ในปี 2564 ซึ่งมาจากความเชื่อมั่นจากสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดเมืองท่องเที่ยวและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจังหวัดเชียงใหม่ ที่คาดว่าจะกลับมาในเร็วๆ นี้ ส่งผลให้ทำเลย่านถนนนิมมานฯ มีแนวโน้มราคาอสังหาฯ เติบโตพุ่งสูงขึ้นในทุกๆ ปี และส่งผลให้โครงการ 1517 นิมมาน Sold out ปิดการขายอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เปิดตัวโครงการได้เพียง 3 สัปดาห์เท่านั้น ตอกย้ำผู้นำอสังหาฯ รายใหญ่ในตลาดเชียงใหม่ หลังจากประสบความสำเร็จในปีที่ผ่านมาจากการปิดการขาย Sold out รวดทั้งดีคอนโด ริน และ ดีคอนโด พิงค์ รวมถึงการพัฒนาทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวมาแล้วกว่า 10 โครงการในจังหวัดเชียงใหม่ สร้างยอดขายแนวราบล่าสุดเป็น 13,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 70% จากเป้ายอดขายแนวราบ 20,000 ล้านบาท พร้อมแผนการรุกตลาดเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ในปี 2565


ขณะที่ตลาดท่องเที่ยวในภูเก็ต มีทิศทางที่ดีจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในโมเดล "ภูเก็ต แซนด์บ๊อกซ์" ทำให้ตลาดเริ่มกลับมาคึกคัก โดยล่าสุดมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมรวม 9,358 คน สร้างรายได้ 534 ล้านบาท ขณะที่ภาคเอกชนในธุรกิจต่างๆ ก็เร่งพลิกฟื้นธุรกิจภายหลังจากที่ประเทศต้องฝ่าวิกฤตโควิด–19 มามากกว่า 1 ปี ภาคธุรกิจโรงแรมเดินหน้าต่อ พนักงานเอกชนเริ่มมีรายได้กลับมา 100% และความต้องการที่อยู่อาศัยเริ่มฟื้นตัว ยังรวมถึงสัญญาณที่ดีจากเมืองท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นๆ อาทิ พัทยา ที่เริ่มเดินหน้าโครงการ "พัทยา มูฟ ออน" เปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศพื้นที่สีเขียว 61 ประเทศ วันที่ 1 กันยายนนี้ และ "หัวหิน แซนด์บ็อกซ์" ที่ดีเดย์เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติวันที่ 1 ตุลาคมนี้

แสนสิริมองถึงทิศทางข้างหน้า ที่ต้องปรับตัวให้เร็ว รองรับความต้องการลูกค้าและการกลับมาของตลาดก่อนการเปิดประเทศและเศรษฐกิจเริ่มฟื้น เพื่อพร้อมวิ่งก่อนใคร ภายใต้ "ความพร้อมในการปรับแผนรองรับในทุกสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา" โดยบริษัทมีแผนรองรับดีมานต์ที่อยู่อาศัยในตลาดต่างจังหวัด อาทิ  

ช่วงเวลาที่ดีในการซื้อที่อยู่อาศัย  #โปรSAVEทั้งเกาะ

ขณะที่กลยุทธ์ในการรุกตลาดภูเก็ต รองรับ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หมดห่วงเรื่องผ่อน สบายใจเรื่องกู้ เข้าอยู่แบบมีเงินติดกระเป๋า กับ แพ็คเกจโปรโมชันพิเศษ ที่พร้อมเซฟคนภูเก็ตทุกทาง   #โปรSAVEทั้งเกาะ  2 โครงการบ้านและทาวน์โฮมภูเก็ต อณาสิริ ป่าคลอก โครงการใหม่ล่าสุดจากแสนสิริ ในทำเลศักยภาพใหม่และแบบบ้านใหม่ สไตล์ European Cottage ฟังก์ชันครบ 4 ห้องนอน 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5 - 8 ล้านบาท และ สิริ เพลส แอร์พอร์ต ทาวน์โฮม สไตล์ LOFT ใกล้สนามบินและหาดไม้ขาว ราคาเริ่มต้น 1.99 - 3 ล้านบาท ไม่ต้องผ่อนสูงสุดถึง 12 เดือน พร้อมเงินติดกระเป๋าสำหรับการแต่งบ้านให้อีกสูงสุด 300,000 บาท* แถมโปรพิเศษ อีก 3 ต่อ* รับแพ็คเกจช่วยโอน* ค่าส่วนกลาง* ค่าจดจำนอง*

ขณะที่เดอะ เบส เซ็นทรัล – ภูเก็ต คอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมโอน ที่มียอดโอนไปแล้วกว่า 80% สวยงามด้วยกลิ่นอายการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมเพอรานากันแห่งภูเก็ต จองเพียง 999 บาท* ไม่ต้องผ่อน อยู่ฟรี 1 ปี ได้คืนสูงสุดถึง 350,000 บาท* มีเงินนำไปแต่งห้อง ทำธุรกิจ หรือเก็บเป็นเงินสำรอง ได้ตามใจคุณ เป็นเจ้าของห้องวิวดี ยูนิตสวยได้ง่ายๆ ในราคาเริ่มเพียง 2.09 ล้าน* ฟรีเฟอร์นิเจอร์ครบเซ็ตและเครื่องใช้ไฟฟ้า*

สำหรับโครงการ "ลา ฮาบานา" (La Habana) หัวหิน คอนโดมิเนียมตากอากาศสุดชิค พร้อมเข้าอยู่ สีสันใหม่ใจกลางหัวหิน ที่ประสบความสำเร็จด้วยยอดขายโครงการไปแล้วถึง 80% จากความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริในทำเลหัวหิน มีโปรโมชั่นที่ช่วยให้ลูกค้าเป็นเจ้าของโครงการได้ง่ายขึ้น ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.39 ล้านบาท ฟรีโอนและค่าส่วนกลาง 10 ปี ฟรีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้แสนสิริยังเตรียมโอน EDGE Central Pattaya (เอดจ์ เซ็นทรัล – พัทยา) คอนโดไลฟ์สไตล์สุดพีคใจกลางพัทยา ดีไซน์โดดเด่นในธีม ดิน น้ำ ลม ไฟ แต่งให้ครบ ฟรีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า เริ่ม 3.99 ล้านบาท* ในวันที่ 4 - 5 กันยายนนี้ ตอกย้ำความมั่นใจถึงดีมานต์การเปิดตัวโครงการใหม่ในอนาคตอีกด้วย


"แสนสิริมองว่าตลาดอสังหาฯ เมืองท่องเที่ยวยังมีดีมานต์ในที่อยู่อาศัยคุณภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการได้จริง ทั้งนี้จากแบรนด์ที่แข็งแกร่งของแสนสิริในตลาดต่างจังหวัดและความเชื่อมั่นของลูกค้า ทั้งในด้านทำเลที่ตั้งโครงการ ดีไซน์ที่โดดเด่น ราคาที่เข้าถึงง่าย สะท้อนความเชื่อมั่นในการเป็น "แบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน" ด้วยมาตรฐานการออกแบบและคุณภาพโครงการ ตลอดจนบริการหลังการขายหรือ Sansiri Service ที่สามารถครองใจผู้บริโภค จากการเป็นผู้นำด้านการบริการในที่อยู่อาศัยและความมั่นใจสูงสุดด้านความปลอดภัย จึงเชื่อมั่นว่ากลุ่มลูกค้าเมืองท่องเที่ยวยังคงให้ความเชื่อมั่นแสนสิริในการเปิดโครงการในอนาคต

นอกจากนี้ แสนสิริยังให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าสูงสุด ทั้งความมั่นใจ ปลอดภัย และอุ่นใจในการเข้าเยี่ยมชมโครงการภายใต้มาตรการดูแลความสะอาดและนวัตกรรมความปลอดภัยสูงสุดในทุกสำนักงานขายคอนโดฯ บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรือเลือกซื้อและจองโครงการแบบออนไลน์ได้ทุกช่องทางกับ Sansiri Multi-Channel ครบทุกช่องทาง


ตั้งแต่การเลือกซื้อและเยี่ยมชมโครงการง่ายแค่ปลายนิ้ว ด้วย "Sansiri Virtual Sales Gallery" เยี่ยมชมโครงการเสมือนจริงแบบ Online บน www.sansiri.com ได้ทุกที่ ทุกเวลาที่สะดวก ในรูปแบบ PRIVATE TOUR ชมบรรยากาศแบบ 360 องศา พร้อมพนักงานที่คอยแนะนำโครงการและตอบทุกคำถามเหมือนมาเยี่ยมชมโครงการจริงด้วยตัวคุณเอง ชมโครงการได้ทั้งบนมือถือ, คอมพิวเตอร์, แท็บเล็ต ทุกที่ทุกเวลาที่สะดวก พร้อมแชร์ VIRTUAL TOUR ชมโครงการไปพร้อมกับครอบครัวหรือเพื่อนได้แบบ REAL TIME แม้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน นอกจากนี้ยังสามารถจองคอนโดออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน 24 Hrs. Online Booking  

เกาะติดทุกข่าวสารที่ www.sansiri.com สนใจโครงการไหน แชทคุยได้ตลอดที่ แสนสิริ ไลน์ ออฟฟิเชียล @Sansiriplc, หรือ Inbox ผ่านเฟซบุค Sansiri PLC. รวมถึง อยากรู้เรื่องไหน แสนสิริพร้อมดูแล ที่โทร. 1685 หรือเลือกนัดหมายเยี่ยมชมโครงการแบบ "Private Tour" เฉพาะครอบครัวคุณได้ที่โครงการที่ให้ความเชื่อมั่นด้วย "WE ARE VACCINATED" ทีมงานแสนสิริทุกคน รวมทั้งพนักงานขาย แม่บ้าน พนักงานรักษาความปลอดภัย ฯลฯ ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว พร้อมการเดินหน้าช่วยประเทศไทยฝ่าวิกฤติ COVID-19 ก้าวไปพร้อมกันด้วย "แสนสิริและสังคม..คนละครึ่ง" ภายใต้ "Sansiri Care...เพราะเราห่วงใย" ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญ ภายใต้ความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือสังคมของแสนสิริในปีนี้" นายอุทัย กล่าว
#3860



"มาร์ก กูดดิ้ง" ว่าที่เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร ประจำประเทศไทย ทวีตข้อความในค่ำวานนี้ (28 ก.ค.) @markgooding ระบุว่า  สหราชอาณาจักรประกาศบริจาควัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า 415,000 โดสแก่ประเทศไทย

"วันนี้ สหราชอาณาจักรมีวัคซีนบริจาคให้ประเทศไทย จำนวน 415,000 โดส ผลิตโดสบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าในสหราชอาณาจักร และจัดส่งถึงประเทศไทยในอีก 1 - 2 สัปดาห์ข้างหน้า" ว่าที่ทูตกูดดิ้งกล่าว และระบุว่า ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโควิด-19 สหราชอาณาจักรได้หาทางนำทั่วโลกต่อสู้เพื่อป้องกันโรคร้าย กว่าหนึ่งปีมาแล้วที่เราได้ให้ทุนสนับสนุนพัฒนาวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า - ออกซ์ฟอร์ด โดยยึดหลักต้องแจกจ่ายให้คนทั่วโลกในราคาทุน โดยไม่หาผลกำไร มีเป้าหมายเดียวคือ ขอให้กระจายวัคซีนนี้ไปทั่วโลกอย่างเท่าเทียม และเป็นธรรม 

ว่าที่เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร กล่าวอีกว่า วัคซีนนี้มีประสิทธิภาพสูง จนถึงวันนี้มีการฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า 500 ล้านโดสใน 160 ประเทศทั่วโลก และเนื่องจากโครงการวัคซีนโควิด-19 ในสหราอาณาจักรประสบความสำเร็จอย่างมาก ขณะนี้เรามีวัคซีนเพียงพอส่งต่อให้กับประเทศอื่นๆ เพื่อแสดงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักร และไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศทั่วโลกที่ได้รับวัคซีนเหล่านี้ ในช่วงที่ไทยเผชิญกับการระบาดสาหัสเช่นนี้ ผมอยากให้ทุกคนรู้ว่าสหราชอาณาจักรอยู่เคียงข้างประเทศไทยเสมอ


ในเรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศ มีข้อความระบุว่า ขอขอบคุณในไมตรีจิตของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ที่ประกาศมอบวัคซีนโควิด-19 จากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 415,000 โดส ให้แก่ประชาชนชาวไทย เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาด สะท้อนถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นระหว่างไทย-สหราชอาณาจักร