• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Joe524

#3761


เกาะติดธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค คุมเข้มบริหารซัพพลายเชน หวั่นโควิด ทำธุรกิจสะดุด พร้อมงัดแผนงานต่อเนื่อง รองรับวิกฤติ 'ไอ.ซี.ซี.ฯ' เครือสหพัฒน์ เผยโรคระบาดลากยาวฉุดยอดขาย ไร้วี่แววจุดต่ำสุดอยู่ตรงไหน ต้องปรับกำลังการผลิตให้สอดคล้องดีมานด์ ห่วงกลางน้ำ กระเทือนขนส่งกระจายสินค้า 'เบทาโกร' ตั้งวอร์รูม ดูแลสุขอนามัยพนักงานใกล้ชิด 'ส.ขอนแก่นฟู้ดส์' วาง 6 แผนงานต่อเนื่อง รับมือวิกฤติ 

นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน)ในเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้รัฐต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ปัจจัยเหล่านี้กระทบต่อห่วงโซ่การผลิตสินค้าหรือซัพพลายเชนอย่างมาก แต่สิ่งที่ต่างกันคือปีนี้ผู้ติดเชื้อตัวเลขพุ่งสูงขึ้น ผลกระทบเกิดยาวนาน เทียบปีก่อนล็อกดาวน์ 3 เดือน ตัวเลขติดเชื้อน้อย ทำให้การผลิตและจำหน่ายสินค้ามีช่วงฟื้นตัวเดือนสิงหาคมและปลายปี

ทั้งนี้ ตราบที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสสูงขึ้น การบริหารจัดการซัพพลายเชนของบริษัทต้องเข้มข้นอย่างมาก เนื่องจากเครือสหพัฒน์มีบริษัทที่ทำงานภายใต้ห่วงโซ่การผลิตจำนวนมาก เฉพาะบริษัท ไอ.ซี.ซี.ฯ มี 7 กลุ่มบริษัทที่ผลิตสินค้าให้ เช่น บริษัท ธนูลักษ์, บริษัท ประชาอาภรณ์, บริษัท ไลอ้อนฯ, บริษัท ไทยวาโก้ เป็นต้น ซึ่งครอบคลุมทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น สินค้าอุปโภค แบรนด์ เอสเซ้นส์ ฯ

สำหรับทั้ง 7 กลุ่มบริษัทเกี่ยวข้องพนักงานหลัก "หมื่นราย" เช่น ไทยวาโก้ พนักงานกว่า 4,000 คน, ไอ.ซี.ซี.ฯ พนักงานทุกส่วนรวมถึงหน้าร้านกว่า 5,000 คน ส่วนโรงงานอื่นมีพนักงาน 1,000 คน และ 800 คนบ้าง ดังนั้นจึงต้องมีมาตรการดูแลด้านสุขอนามัยตามที่หน่วยงานสาธารณสุขให้คำแนะนำอย่างเข้มข้น

ด้านผลกระทบห่วงโซ่การผลิตเกิดขึ้แตกต่างกัน โดยปลายน้ำ หรือหน้าร้านขายสินค้า การล็อกดาวน์ทำให้ยอดขายหดตัวอย่างรุนแรง ปัจจุบันยังคาดการณ์ยากว่า "จุดต่ำสุด" อยู่ตรงไหน ทำให้บริษัทต้องปรับใช้กำลังการผลิตซึ่งเป็นต้นน้ำให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค เพื่อไม่ให้กระทบปริมาณสินค้าคงเหลือหรือสต๊อกมากจนเกินไป

"หน้าร้านกระทบ เพราะยอดขายดิ่ง จะไปถึงไหนมองไม่ออกจริงๆ ไม่เห็นก้นเหว แต่หน้าที่เราต้องหาทางทำให้ธุรกิจรอด มีเงินจ่ายพนักงาน เมื่อยอดขายตก บริษัทจึงปรับตัวด้านการใช้กำลังการผลิต ผลิตสินค้าให้เหมาะสมกับการขาย เบรกต้นน้ำ ซึ่งทำมาระยะหนึ่งแล้วในการบริหารจัดการซัพพลายเชนได้ค่อนข้างทันเวลา ทำให้ปริมาณสต๊อกมีเพียงเล็กน้อย เมื่อคลายล็อกดาวน์ เปิดร้านได้เชื่อว่าจะกระจายสินค้าได้หมดใน 1-2 สัปดาห์"

ทั้งนี้ สิ่งที่น่าเป็นห่วงสุดคือการขนส่งและกระจายสินค้า เพราะหากเกิดมีผู้ติดเชื้อ อาจส่งผลกระทบสินค้าถึงมือผู้บริโภคต้องชะงักลง เหมือนกับผู้ประกอบการโลจิสติกส์บางรายเผชิญ และสร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาล โดยซัพพลายเชนด้านกลางน้ำของไอ.ซี.ซี.ฯ มีการใช้บริการคลังสินค้าของไทเกอร์ ดิสทริบิวชั่น แอนด์ โลจิสติคส์ ของเครือสหพัฒน์ ซึ่งมีพนักงานราว 200 คน และเพิ่มมาตรการดูแลด้านสุขอนามัยให้พนักงานอย่างเข้มข้น ขณะเดียวกันบริษัทยังใช้การส่งสินค้าจากพันธมิตรอื่นๆด้วย

นอกจากนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านธุรกิจ บริษัทจึงทำแผนความต่อเนื่องของธุรกิจ(Business Continuity Plan:BCP)หากเกิดกรณีไม่มีผู้ติดเชื้อ พนักงานออฟฟิศต้องทำงานที่บ้าน ทีมงานสินค้า ทีมงานขาย ทีมหลังบ้าน เช่น บัญชีต่างๆ มีกระบวนการทำงานรองรับแตกต่างกันไป ส่วนคลังสินค้าหากต้องปิดให้บริการ จะต้องย้ายสินค้าออก แล้วทำการฉีดยาฆ่าเชื้อไวรัส แล้วย้ายสินค้ากลับมา หรือต้องย้ายสินค้าไปยังคลังสินค้าของโรงงานในห่วงโซ่การผลิตแต่ละแห่ง ซึ่งคลังเดิมยังไม่มีระบบ เทคโนโลยี ฟังก์ชั่นการหยิบจับสินค้าให้สอดคล้องกับอีคอมเมิร์ซ

ที่ผ่านมา บริษัทมีอุปสรรคในการส่งสินค้าถึงผู้บริโภคล่าช้าบ้าง จากเดิมส่งภายใน 1 วัน ขยายเป็น 2-3 วัน อย่างไรก็ตาม หากเกิดกรณีเช่นบางบริษัทที่คลังหรือศูนย์กระจายสินค้ามีผู้ติดเชื้อโควิด จนเกิดวิกฤติส่งสินค้า มองว่าการแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นเร็วภายใน 1-3 วันได้

"หากเกิดวิกฤติการส่งสินค้า คาดว่าใช้เวลาไม่นานก็แก้ไขได้ อาจจะ 3 วัน หรือบางกรณี 1 วัน ยุติปัญหาได้"

นายธรรมรัตน์ กล่าวอีกว่า ห่วงโซ่การผลิตส่วนปลายน้ำหรือหน้าร้านถูกปิด แต่บริษัทปรับตัวลุยทำตลาดออนไลน์ ซึ่งปีนี้คาดว่ายังสร้างยอดขายเติบโตกว่า 100% ต่อเนื่อง แต่ยอมรับว่าพฤติกรรมผู้บริโภคในการช้อปออนไลน์ไม่หวือหวา คึกคักเหมือนโควิดระบาดครั้งแรก ประกอบกับปัจจุบันกำลังซื้อกลุ่มเป้าหมายลดลงอย่างมาก

นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือเบทาโกร กล่าวว่า ธุรกิจอาหารจะไปต่อได้ต้องดูแลบริหารจัดการซัพพลายเชนไม่ให้ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด แต่ตลอดระยะเวลา 14 เดือนที่เกิดวิกฤติโควิด-19 การระบาดเกิดขึ้น 3-4 ระลอกแล้ว ทำให้โรงงานอาหารขนาดใหญ่หลายประเภทมีผู้ติดเชื้อ เช่น โรงงานผลิตสับปะรดกะป๋อง โรงงานผลิตไก่ ฯ ซึ่งแต่ละแห่งมีพนักงานหลายพันคน บางแห่ง 5,000-6,000 คน

ทั้งนี้ ในระบบซัพพลายเชนการผลิตอาหารหมวดโปรตีน มีการใช้ระบบการส่งมอบวัตถุดิบ ส่งสินค้าให้ทันเวลา( Just-in-time) ในระบบการผลิตทั้งหมู ไก่ หลายแสนตัวต่อโรงงาน หากสะดุด จะกระทบต้นน้ำถึงปลายน้ำอย่างมาก โดยวิธีการป้องกันของบริษัทคือการตั้งห้องประชุมเชิงยุทธศาสตร์(War room) สำรวจสุขภาพพนักงานตลอดเวลา ทำงานร่วมกับรัฐอย่างใกล้ชิด และต้องมีแผนงานต่อเนื่องหรือBCP ไว้สำคัญมาก

"แม้ดูแลป้องกันอย่างดี สุดท้ายก็ประสบปัญหาโรงงานผลิตไก่ที่มีพนักงานเกือบหมื่นคนมีผู้ติดเชื้อ สถานการณ์เหมือนกรุงแตก เพราะเอาไม่อยู่ ใน 3 สัปดาห์ เราทำงานร่วมกับรัฐ เพื่อให้ฟื้นตัว นี่เป็นบทเรียนสำคัญ ระยะสั้นองค์ความรู้สามารถนำไปดูแลหากเกิดกรณีเดียวกันในจังหวัดอื่น"

นายจรัญพจน์ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ในห่วงโซการผลิตสินค้า ต้นน้ำคือโรงงานบริษัทมีการดูแลสุขอนามัยพนักงานอย่างใกล้ชิด และตนเป็นคนรับรายงานตัวเลขระบบสุขภาพของทุกคนโดยตรงทุกวันเพื่อให้รู้ว่ามีใครป่วยหรือไม่ป่วยบ้าง

นอกจากนี้ เพื่อป้องกันการติดเชื้อมีการสั่งให้พนักงานพักอาศัยที่ฟาร์ม เพราะนอกจากโรคโควิด-19 ยังมีโรคระบาดของหมูเกิดขึ้นด้วย ส่วนฝ่ายอื่นๆทั้งการผลิต ฝ่ายขาย รวมถึงธุรกิจร้านอาหาร ต้องมีการทำแผนงานต่อเนื่องรองรับ ซึ่งปัจจุบันทำถึง 6 แผน เช่น ฝ่ายผลิตหากบรรจุสินค้าไม่ได้ ฝ่ายขายพร้อมไปช่วย มีการหาแหล่งวัตถุดิบผลิตอาหารจากทั่วโลก ไม่แค่ไทย เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น ส่วนการขายเมื่อช่องทางห้างค้าปลีกปิด ได้ปรับตัวไปรุกร้านค้าทั่วไป โดยเฉพาะร้านธงฟ้า ซึ่งมีอยู่นับแสนแห่งทั่วประเทศ
#3762


น.ส.ลัดดา แซ่ลี้ รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลให้หน่วยงานด้านเศรษฐกิจเสนอมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ให้ได้มากที่สุด และ ครม.ได้ให้การเห็นชอบมาตรการในการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 13 ก.ค.64 และ 20 ก.ค.64

โดยมีรายละเอียดในส่วนของผู้ประกอบอาชีพอิสระมาตรา 40 คือ รัฐบาลจะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้ 5,000 บาท ต่อคน และยังให้สิทธิผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม. 40 ภายในเดือนเดือนกรกฎาคม 2564 เพื่อรับค่าช่วยเหลือ 5,000 บาท เช่นกัน

สมัครผ่อนของ 0% 40 เดือนกับ Citi คลิกเลย

'อาชีพอิสระ' ชำระเงินม.40 รอบสุดท้าย 10 ส.ค.นี้
ปรากฏว่าจนถึงวันที่ 31 ก.ค.มีผู้ขึ้นทะเบียนสมัครเป็นผู้ประกันตนม.40 เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งสมัครด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ www.sso.go.th และเครือข่ายประกันสังคม แต่ยังไม่ได้ชำระเงินสมทบงวดแรก ทำให้สถานะความเป็นผู้ประกันตนของท่านยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งจะส่งผลต่อการรับเงินเยียวยา

ถึงแม้ข้อมูลการสมัครจะส่งมาที่สำนักงานประกันสังคมแล้ว แต่หากยังไม่มีการชำระเงินงวดแรก สถานะของท่านก็จะยังไม่มีผลตามกฎหมาย จึงขอแจ้งให้ผู้สมัคร ม.40 ได้ทราบว่า โปรดรีบดำเนินมาชำระเงินสมทบงวดแรกให้ทันภายในวันที่ 10 ส.ค. 2564 นี้ 

เช็คสิทธิ 'ประกันสังคม' www.sso.go.th ม.33 ม.39 ม.40 เช็ควันรับเงินเยียวยา ที่นี่
เช็คเงิน 'เยียวยาประกันสังคม' ม.33 พื้นที่สีแดงเข้ม โอนเข้า 'พร้อมเพย์' วันแรก
ด่วน! ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ทะลุ 2หมื่น! พบเสียชีวิต 188 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 20,200 ราย ยังไม่รวม ATK อีก 522 ราย

ย้ำไม่ชำระเงินสมทบ ไม่ได้เงินเยียวยา 5,000 บาท
โดยสามารถชำระเงินผ่านช่องทางที่สะดวก ได้แก่ เคาน์เตอร์เซอร์วิส (7-11) เคาน์เตอร์เทสโก้โลตัส เคาน์เตอร์บิ๊กซี เคาน์เตอร์ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัดมหาชน หรือผ่าน Mobile Application ShoppyPay และตู้บุญเติม ฟรีค่าธรรมเนียมทุกช่องทาง

รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวย้ำว่า นอกจากการชำระเงินสมทบมาตรา 40 เพื่อรับเงินเยียวยาในพื้นที่เยียวยา 13 จังหวัด แล้ว การชำระเงินสมทบมาตรา 40 อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ทุก ๆ เดือน ก็จะทำให้ท่านได้รับสิทธิประโยชน์อย่างครบถ้วนทุกกรณี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 ให้บริการไม่เว้นวันหยุดราชการตลอด 24 ชั่วโมง
#3763


ตามกระแส อีก1เคสหลังจาก แวดวงอสังหาฯ ร้อนฉ่าจากกรณี คำพิพากษาของศาลปกครองกลาง เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างโครงการ "แอชตัน อโศก" เมื่อ"กรณ์ จาติกวนิช" หัวหน้าพรรคกล้า ยื่นหนังสือถึงผู้ว่า กทม. ร้องโครงการ "ควินทารา ซิงค์ เย็นอากาศ"ให้ระงับการออกใบอนุญาต

จากเพจของ กรณ์ จาติกวณิช - Korn Chatikavanijเมื่อวันที่ 3 ส.ค.2564 ได้เขียนชี้แจงว่า


วันนี้ผมขอทำหน้าที่ในฐานะ "ประชาชนคนหนึ่งที่ได้รับความเดือดร้อน" ครับ

ผมได้ยื่นขอระงับออกใบอนุญาตก่อสร้างคอนโดหรู เขตยานนาวา แก่ผู้ว่าฯ กทม.อัศวิน ขวัญเมือง ซึ่งเราได้คุยกันว่า "คุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯ ต้องมีค่ามากกว่ากำไรของเอกชน"

เนื้อหาในจดหมายขอให้ระงับการออกใบอนุญาตก่อสร้างคอนโดโครงการ ควินทารา ซิงค์ เย็นอากาศ ของบริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) ในซอยประสาทสุข ถนนเย็นอากาศ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ

ผล EIA ของกทม.ที่ให้ความเห็นชอบประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อ 'โครงการควินทารา ซิงค์ เย็นอากาศ' ของบริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 เป็นการพิจารณาที่ไม่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะปัญหาจราจรที่ประชาชนได้ชี้แจงไปแล้วหลายรอบ ทั้งเป็นซอยแคบ หน้ากว้างถนนไม่ถึง และใกล้โรงเรียนอีกหลายแห่ง

แต่ EIA ของกทม.กลับให้น้ำหนักเอื้อต่อข้อเสนอของบริษัทพัฒนาที่ดิน ซึ่งไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในสภาพการจราจรและความเป็นอยู่ของประชาชน

ข้อเท็จจริงคือ กทม.อนุมัติให้โครงการนี้ผ่าน EIA ทั้งๆ ที่ถนนหน้าโครงการมีความกว้างตํ่ากว่าเกณฑ์กฎหมายอย่างชัดเจน และขัดกับหลักการวินิจฉัยของศาลปกครองในอดีตที่ความกว้างของถนนต้องเป็นความกว้างที่ "ใช้ได้จริง" ตามเกณฑ์ตลอดเส้นทาง

ผมและเพื่อนบ้านของเรา จึงขอให้ผู้ว่าฯ กทม. ใช้อำนาจปฏิเสธการออกใบอนุญาตก่อสร้าง แต่หากยังมีการดึงดันเดินหน้า เราจะดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมายต่อไป ทั้งในศาลปกครอง ศาลแพ่งและศาลอาญา

วันนี้ท่านผู้ว่าฯ ได้กรุณารับฟังและรับไปพิจารณาทบทวนข้อเท็จจริง ซึ่งผมได้เน้นว่าการก่อสร้างนอกจากจะสร้างความเสียหายให้กับผู้อยู่อาศัยเดิม แต่จะเป็นทำให้ประชาชนที่จะมาซื้อโครงการในอนาคตอาจจะต้องรับความเสียหายอย่างมาก ตามที่เพิ่งปรากฎเป็นข่าวในกรณีโครงการในย่านอโศก ความเสียหายนี้หลีกเลี่ยงได้ และไม่ควรเป็นความเสียหายซ้ำซาก


"อยากให้ผู้ว่าฯ กทม. ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯ มากกว่าการทำกำไรของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทางผู้ว่าฯ กทม. รับปากว่าจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผลการทำงานของสำนักงานเขตยานนาวา และคณะกรรมการพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมถึงทบทวนนโยบายการพิจารณาโครงการลักษณะนี้ในทั่วทุกพื้นที่ โดยการยึดหลักความสุขของประชาชนเป็นหลัก ด้วยการส่งเสริมการพัฒนาที่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในการใช้ชีวิตในแต่ละพื้นที่"

วันนี้ต้องขอบคุณประชาชนเกือบ 70 ครัวเรือนที่ได้รวมตัวกันเพื่อรักษาสิทธิและคุณภาพชีวิตในฐานะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการนี้ และหวังว่าทางผู้ประกอบการจะทบทวนนโยบายเพื่อเปลี่ยนรูปแบบของโครงการในลักษณะที่เป็นที่ยอมรับของประชาชนในพื้นที่


ขณะเดียวกันนั้น ทางเพจของโอภาส ใหญ่ HI - Happy Investor ได้โพสต์ว่า ได้รับข้อมูลอธิบาย จาก ดร.ต่อศักดิ์ เลิศศรีสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ ESTAR ชี้แจงต่อประเด็นดังกล่าว เบื้องต้น ดังนี้

ดร.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า "ทาง ESTAR เราก่อนซื้อที่ดินแปลงนี้ เราก็กังวลเรื่องความกว้างเขตทางอยู่ เราเลยไปตรวจสอบให้แน่ใจ ซึ่งปกติเราก็ต้องเช็คทุกแปลงก่อนซื้ออยู่แล้ว และร้องขอให้ทางเขตมาทำการรังวัดจนได้เอกสารรับรองแล้ว จึงมั่นใจว่าพัฒนาโครงการได้ จึงได้ตกลงซื้อที่ดินแปลงนี้มาเพื่อพัฒนาต่อ

เมื่อซื้อแล้วได้รับทราบถึงข้อห่วงกังวลจากทั้งคุณกรณ์ และชุมชน เรามีการจัดประชุมไป 2 รอบ ไม่รวมการหารือนอกรอบอีกหลายครั้ง เรื่องประเด็นความกว้างเขตทาง เราก็ได้มีการทำการรังวัดใหม่ ตรวจสอบใหม่ทั้งหมดอีกรอบ โดยเพิ่มหน่วยงานที่ตรวจสอบเพื่อความมั่นใจ ก็ได้คำตอบยืนยันตามเดิมว่าทำได้

พร้อมกันนั้นเพื่อลดผลกระทบอื่นๆ เราก็ได้ทำการปรับแบบโครงการ โดยลดจำนวนอาคารพักอาศัย ลดจำนวนห้อง เพิ่มสัดส่วนที่จอดรถ เพื่อลดความห่วงกังวล ว่าจะเป็นสาเหตุปัญหาการจราจรเพิ่ม ในขอบเขตรูปแบบโครงการที่เรายังพอทำธุรกิจได้

จนมาถึงขั้นตอน EIA ก็พิจารณากันหลายครั้ง ทางคุณกรณ์และคนในชุมชนบางส่วนก็เข้ามามีส่วนร่วม ได้เข้าพบคณะผู้ชำนาญการด้วยตนเอง ทางกรรมการหรือชุมชนมีข้อห่วงกังวลอะไร เราก็ดำเนินการและปรับทั้งหมดที่ทำได้ อะไรที่ไม่ชัดเจนทางกฏหมายเราพร้อมทำการตรวจสอบใหม่ทั้งหมด พร้อมขอจดหมายยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะเราไม่อยากให้เกิดปัญหากับชุมชน

เราเข้าใจเขา เข้าใจชุมชน เราอยากทำธุรกิจกันยาวๆ เราอยากพัฒนาให้ดีขึ้น แต่ก็ยอมรับครับว่าการพัฒนาก็เหมือนศัลยกรรม มันต้องมีผลกระทบบ้างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เรามองลึกลงไปว่าปัญหาหลักจริงๆ คือ การจราจร ที่ชุมชนเป็นห่วง เพราะทำเลนี้เป็นทำเลที่ดีมาก อยู่ใจกลางเมือง และเป็นที่อยู่อาศัยชั้นดี เราจึงพยายามระดมสมองทั้ง จากภายในบริษัทและผู้เชี่ยวชาญภายนอก เพื่อหาทางแก้ไขให้ตรงจุด และเสนอมาตรการต่างๆที่เราพอทำได้ ภายใต้การร่วมมือของชุมชน เช่น

1. เราเสนอ ตัดแบ่งที่ดินบางส่วนด้านหน้าโครงการให้เกิดการสัญจรสวนกันบริเวณหัวโค้งได้สะดวกขึ้น และทำเป็นสวน ให้ทัศนียภาพในซอยตรงนั้นดูสวยงาม ร่มรื่น

2. เราเสนอว่าเราจะปรับปรุงสภาพถนน มีการตีเส้นจราจรเพื่อความปลอดภัย ตีเส้นห้ามจอด หรืออะไรก็แล้วแต่เพื่อให้การไหลของจราจรในซอยสะดวกขึ้น โดยเราจะทำภายใต้ความร่วมมือและการยอมรับของชุมชน เพราะเราทำโดยพละการไม่ได้

หรือแม้แต่เสนอทำแอพพลิเคชั่นช่วยเรื่องการรับส่งนักเรียน ซึ่งน่าจะเป็นปัญหาหลักของซอยนั้น ไปถึงการหารือกับสถานีตำรวจว่าเราจะช่วยอะไรเรื่องการจราจรได้บ้าง ฯลฯ

จนแม้กระทั่ง โครงการผ่านการพิจารณาแล้ว เราก็ยังไม่ได้สร้างทันที เพราะอยากจะให้ทุกฝ่ายเกิดความสบายใจมากที่สุด ค่อยๆสร้างความเข้าใจกับชุมชน และพร้อมจะดำเนินการในสิ่งที่ทำให้สภาพแวดล้อมโดยรวมดีขึ้น หรือปัญหาที่เคยมีบรรเทาลงไป พร้อมกับการพัฒนาเมืองและชุมชน ที่คงจะต้องเกิดขึ้น ไม่ช้าก็เร็ว ซึ่งผมและทีมงานทุกคน เชื่อมั่นว่าทางเราและชุมชน น่าจะมีทางออกที่ดีร่วมกันได้ครับ"

ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางผู้บริหารและทีมทำงานของ ESTAR กำลังเร่งจัดเตรียมรายละเอียด เพื่อชี้แจงต่อทุกภาคส่วนต่อไปโดยเร็วที่สุด โดยยึดถือหลักการว่า ทางโครงการจะพยายามทำทุกอย่าง อย่างถูกต้องและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกฝ่ายต่อไป
#3764


ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนยังวิตกกังวลว่ารัฐบาลจีนจะยังคงเดินหน้าเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้นโยบายควบคุมบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ รวมถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,442.94 จุด ลดลง 5.05 จุด หรือ -0.15%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,612.90 จุด ลดลง 28.93 จุด หรือ -0.10% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,161.83 จุด ลดลง 32.99 จุด หรือ -0.13%

นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดสหรัฐฯ หลังปรับตัวลง เนื่องจากมีรายงานว่าธุรกิจเกมออนไลน์อาจกลายเป็นเป้าหมายต่อไปที่รัฐบาลจีนจะเข้ามากำหนดกฎระเบียบใหม่ในด้านการลงทุน

ขณะเดียวกัน ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์โควิด-19 โดยเมื่อวานนี้ เมืองอู่ฮั่น ในมณฑลหูเป่ยของจีนได้ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่บางส่วนของเมือง หลังเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาเพิ่มอีก 3 ราย โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเมืองอู่ฮั่นระบุว่า จะดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้ประชาชนทุกคน โดยใช้วิธีการทดสอบกรดนิวคลิอิก

นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาคซึ่งจะเปิดเผยวันนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือน ก.ค. ของจีนจากไฉซิน และทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือน ก.ค.ของเกาหลีใต้
#3765


เลือดนักสู้เกินร้อยไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ สำหรับสาวหมวยอารมณ์ดี ลี่-พรชนัน พัฒนาปัญญาสัตย์ กับลุคฟรุ้งฟริ้ง "ผ้าโพกหัว" หลากสีสัน งัดไม้เด็ดกับคอนเซปต์ "รัก 3 ระยะ" จนถูกใจกรรมการคว้าแชมป์ "มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ ซีซัน 4" มาครอง

สาว ลี่ เล่าความในใจหลังได้แชมป์ด้วยว่า "ตื่นเต้นมากค่ะ ตอนแรกไม่คิดว่าตัวเองชนะ เพราะดูจากคำติชมจานแรก ลี่โดนเยอะมาก ตอนแรกลี่ก็คิดแหละน้องเตอร์น่าได้แชมป์ พอได้จริงๆ ก็ตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ออก"

ข่าวแนะนำ

ก่อนการแข่งขันรอบไฟนอลลี่มีความกดดันมากน้อยขนาดไหน

"ไม่กดดันค่ะ เพราะเป็นเมนูที่ลี่เตรียมเอาไว้นานแล้วก่อนลี่เข้ามาแข่งขันมาสเตอร์เชฟ ถ้าเข้ารอบจะทำเมนูนี้ คอนเซปต์ความรัก อาหาร 3 จานเหมือนความรัก 3 ระยะ อยากสื่อว่า...ลี่คบใครก็ต้องใช้หัวใจมองเหมือนกัน เหมือนการทำอาหารต้องใส่ใจและให้หัวใจทำอาหารทุกขั้นตอน อยากสื่อคอนเซปต์นี้ให้กรรมการทั้ง 3 ท่าน ให้รู้ว่าเรารักการทำอาหารจริงๆ แต่จานแรกโดนติเยอะก็เสียใจ รสชาติที่วางมาไม่ถูกปากเค้าเหรอ แต่เราเสียใจได้ไม่นานต้องทำต่อ"

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากแข่งขันในครั้งนี้

"ที่จริงมาสเตอร์เชฟให้อะไรกับลี่เยอะมาก กว่าลี่มาถึงจุดนี้ไม่ใช่ง่ายๆ ต้องรู้จักจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ดีที่สุดเวลาเจอโจทย์หรือความตื่นเต้น บางทีเจอโจทย์บางทีเราสติหลุด พยายามหาทางควบคุมสติ ไม่งั้นสิ่งที่เราฝึกฝนมาตั้งนานสูญเปล่า มาสเตอร์เชฟทำให้เราโตขึ้น"


ได้ฉายาเจ้าหญิงขนมหวาน กลายเป็นพลังบวกต่อการแข่งขันกับตัวเราขนาดไหน

"จะฉายาเจ้าหญิงขนมหวานหรืออะไรก็แล้วแต่เป็นกำลังใจที่ดี ลี่รู้สึกเป็นกำลังใจสำคัญเหมือนกัน พูดถึงแง่ดี แง่ไม่ดีค่อนข้างเยอะ เราก็น้อมรับนำมาปรับปรุง"

คอมเมนต์แรงบั่นทอนเราขนาดไหน

"จากคอมเมนต์ เราไม่สมควรได้มาอยู่ในตำแหน่งนี้ ไม่เก่งจริง เป็นคนบ้าๆเป็นคนพูด อะไรไม่รู้เรื่อง มีคำพูดว่าไม่สมประกอบหรือเปล่า? เวลาพูดต้องหัวเราะตลอดเวลา ลี่รู้สึกว่าลี่จะแคร์คำวิจารณ์มากไม่ได้ บางทีเรานิ่งๆ คนไม่ชอบเรายังไงก็ไม่ชอบ ลี่คิดเสมอเราทำดีที่สุดไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ทำไปเหอะ คนรักลี่ก็รักในความเป็นลี่"

แล้วตัวตนจริงๆลี่เป็นคนแบบไหน

"เป็นคนตลกโก๊ะๆ บ้าๆ (หัวเราะ) ถ้าลี่ไม่สนิทจะนิ่งๆ แต่ถ้าสนิทลี่จะเป็นคนพูดเยอะ เป็นคนงงๆ (ยิ้ม)"


ตอนนี้กลายเป็นที่รู้จัก กับชีวิตเปลี่ยนแปลงมากน้อยขนาดไหน

"ก็เปลี่ยนนะคะ มองง่ายๆ ออกไปข้างนอกมีคนจำได้ก็จะเข้ามาทักเรา รู้สึกแปลกดี ยังไม่ค่อยคุ้น ปกติไม่มีคนรู้จัก พอออกรายการไปมีคนรู้จักมากขึ้น ทักทาย ชีวิตส่วนตัวหายไปนิดนึง คนตามไอจีเยอะขึ้น ก็ขอบคุณมากๆ หน้าที่การงานก็มีคนสั่งขนมเรามากขึ้น อีกไม่นานความฝันเปิดร้านขนมของเราก็คงจะเป็นจริง ตอนนี้พยายามเก็บสตางค์ให้มากที่สุด ต้องไปให้ถึงฝันที่เราอยากได้ และเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆที่ชอบทำอาหารกับคนรักในเส้นทางนี้ได้ทำตามลี่ในแบบอย่างที่ดี"

ก้าวมาถึงจุดนี้เหมือนชนะใจตัวเองเหมือนกันนะ

"พิสูจน์อะไรหลายๆ อย่าง การแข่งขันลี่ก็แข่งมาบางรายการ บางรายการไม่สำเร็จ เมื่อ 2 ปีที่แล้วตกรอบในเรื่องของหวานด้วย มาที่นี่ รายการนี้อยากมาตั้งแต่ซีซันแรกแต่ลี่ยังไม่พร้อม"

ก้าวหลังจากนี้ล่ะ

"ตอนเด็กๆอยากแพลน 10-20 ปี ทำโน่นทำนี่แต่ตอนนี้ทำทุกวันให้ดีก่อน การประคองชีวิตในแต่ ละวันมันยากแล้ว แค่เราทำชีวิตเราให้ดี มีเงินใช้ มีงานทำมันเป็นอะไรที่สำคัญ ลี่ตั้งใจเก็บสตางค์ มีร้านมีครอบครัว อยากมีชีวิตที่ดีไม่อยากไปลำบากเหมือนเก่า อยากทำทุกวันให้ดีเพื่อจะได้ส่งผลถึงอนาคต"


ลี่มาเทรนด์โพกผมโดนแซวเยอะรู้ใช่มั้ย

"ใช่ค่ะ ทำไมต้องโพกหัวตลอดเวลา จะบอกว่าลี่ผมบาง เป็นคนโพกอยู่แล้วเวลาทำอาหารเพราะเป็นคนผมร่วงเยอะ หัวล้านค่ะ"

เกิดจากอะไรถึงผมบาง

"อาจจะเป็นเพราะว่าตอนเด็กๆ เรียนรำนาฏศิลป์ ต้องเกล้าผมเยอะ บวกกับรากผมไม่แข็งแรง จุดนี้มากกว่าทำให้ผมร่วงไปเรื่อยๆ เลยผมบาง และเป็นคนหน้าจืดๆ ถ้าใส่อะไรบนหัวจะทำให้หน้าเราสว่างยิ่งขึ้น ผ้าเด่นกล้าหน้า"

เบ็ดเสร็จผ้าโพกหัวมีทั้งหมดกี่ผืน

"ประมาณ 150 ผืนค่ะ มีบางผืนไม่ชอบใส่ บางผืนผ้าผืนเก่ง รอบไฟนอลเป็นผ้าผืนที่ใส่ตั้งแต่รอบออดิชัน เหมือนเป็นเครื่องราง เราใส่สีนี้นะจะพาเราไปถึงชัยชนะได้"

สายมูกับเค้าด้วยเหรอเนี่ย

"มูตลอดค่ะ (หัวเราะ) เดี๋ยวต้องไปแก้บนเพราะบนไว้เยอะมาก บนเพราะไม่คิดว่าชนะก็เลยบนเหนือ ใต้ ออก ตกเลยค่ะไปนครศรีธรรมราช, เชียงใหม่ พิษณุโลกและนครปฐม ดวงก็สำคัญกับการแข่งขันวันไหนสติไม่อยู่ก็ทำไม่ได้ มันต้องมาประกอบกันเป็น ความเชื่อของลี่ค่ะ"


กับความรักล่ะเป็นยังไงบ้าง

"ดีค่ะ จริงๆก็เปิดเผยแค่ไม่ได้เปิดเผยออกสื่อมากนักเพราะลี่อยากให้มีชีวิตส่วนตัว แฟนลี่เป็นคนนอกวงการ ไม่ได้ทำอาหาร รู้จักกันเพราะเป็นเพื่อนของรุ่นพี่เป็นคนแนะนำให้รู้จัก และรุ่นพี่ลี่คนนี้เค้าเสียชีวิตไปนานแล้ว อยากพูดถึงเค้านิดนึงชื่อพี่เบิร์ด เพราะเค้าเป็นคนอยากให้ลี่มาแข่งรายการนี้ หนึ่งแรงบันดาลใจของลี่เหมือนกัน เค้าบอกว่าทำไมไม่ลองไปแข่งดู รู้สึกเราสำเร็จได้เพราะเค้าเชียร์ให้เรามาแข่งเหมือนกัน ฝ่ายซัพพอร์ต ก็มีรูปเค้าในไอจีแค่ลี่อยากไปไหนกับเค้าโดยไม่ได้เป็นจุดสนใจมากนัก อยากให้เค้ามีชีวิตส่วนตัวของเค้า"

คบกันนานหรือยัง "4 ปีแล้วค่ะ" มั่นคงพร้อมแต่งแล้วหรือยัง

"ก็พร้อมค่ะ รอเค้าขออยู่แต่ไม่มา (หัวเราะ) สงสัยต้องไปขอเองแล้วมั้ง"

จริงๆมีการพูดคุยเรื่องแต่งงานบ้างมั้ย

"มีค่ะ บางทีแท็กไปหาเลยเมื่อไหร่จะมาขอ เค้าก็บอกรอไปก่อน (หัวเราะ)"

แท็กไปหาแบบนี้เป็นการกดดันแฟนให้มาขอเร็วๆเหรอ

"กดดันค่ะ ตั้งใจ (หัวเราะ) ก็แท็กขำๆไป ให้มีคนไปกดดันเค้าด้วยจะได้รีบๆ มาขอแต่ไม่มีผล รอต่อไป แต่จริงๆ ตอนนี้ก็ยังไม่พร้อมขนาดนั้นเพราะเรายังสนุกกับงาน อยากให้งานมั่นคง เงินมั่นคง ความรู้มั่นคงก่อนที่ลี่จะมีครอบครัวค่ะ".
#3766


เผยรัฐประกาศเพิ่มล็อกดาวน์ 29 จังหวัดมีความจำเป็น ประมาณการความเสียหายอสังหาฯ ไตรมาส 3 กว่า 40,000 ล้านบาท พฤกษาฯ คาดลูกค้าเยี่ยมโครงการหาย 20% มั่นใจดิจิทัลมาร์เกตติ้ง-แคมเปญกระตุ้นลูกค้าตัดสินใจช่วยรักษารายได้ตามเป้า ชี้ปลดล็อกดาวน์แคมป์ก่อสร้าง หนุนรายได้ หลัง 7 คอนโดรอโอนปี 64 กลับมาก่อสร้างตามกำหนด ด้าน "ฟินิกซ์" ชี้ล็อกดาวน์เพิ่มไม่กระทบอสังหาฯ มากกว่าในปัจจุบัน แค่ตอกย้ำความเลวร้ายสถานการณ์โควิด-19

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทพฤกษาเรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS กล่าวว่า การล็อกดาวน์เพิ่มเป็น 29 จังหวัด เป็นสถานการณ์ที่จำเป็น แม้ว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค โดยคาดว่าผลกระทบจากการประกาศล็อกดาวน์เพิ่มอีก 1 เดือน จะส่งผลต่อจีดีพีของไตรมาสที่ 3 ให้หดตัวค่อนข้างมาก ขณะที่ตลาดรวมอสังหาริมทรัพย์น่าจะได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ในครั้งนี้คิดเป็นมูลค่าประมาณ 40,000 ล้านบาท ส่วนผลกระทบต่อพฤกษาฯ นั้น คาดว่าจะมีผลต่อยอดการเข้าเยี่ยมชมโครงการลดลงกว่า 20%

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาพฤกษาฯ มีการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้ผลกระทบดังกล่าวไม่มีผลต่อยอดขายในไตรมาสนี้มากนัก ส่วนผลกระทบที่ค่อนข้างหนักในช่วงนี้ คือ การชะลอการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ซึ่งเป็นผลกระทบด้านจิตวิทยาที่มีต่อความเชื่อมั่น ทำให้มีการเลื่อนการตัดสินใจออกไปในระยะนี้ แต่อย่างไรก็ตาม พฤกษาฯ ได้มีการจัดแคมเปญกระตุ้นการตัดสินใจลูกค้าด้วยแคมเปญใหม่ๆ ซึ่งทำให้ลูกค้าที่มีความพร้อมตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น เพราะการซื้อในช่วงนี้จะได้บ้านในราคาที่ดี และช่วยพฤกษาฯ สามารถรักษาเป้ายอดขายได้

ส่วนกรณีการปลดล็อกดาวน์การปิดแคมป์คนงานก่อสร้างนั้นจะส่งผลดีต่อภาคการก่อสร้างของผู้ประกอบการโดยรวม ขณะที่พฤกษาฯ จะได้อานิสงส์จากการปลดล็อกดาวน์ ทำให้งานก่อสร้างกลับมาเดินหน้าตามกำหนด ซึ่งจะช่วยให้มีกระแสเงินสดจากการทยอยโอนห้องชุดจาก 7 โครงการ ซึ่งครอบคลุมทุกแบรนด์ ทุกเซกเมนต์ในตลาดคอนโดที่กำลังจะก่อสร้างเสร็จและทยอยส่งมอบในปี 64 นี้ โดยจะทำให้มีรายได้จากการโอนใน 7 โครงการดังกล่าว 5,000-6,000 ล้านบาท หรือกว่า 50% ของโครงการทั้งหมด

ขณะเดียวกัน ในกลุ่มสินค้าแนวราบซึ่งพฤกษาฯ มียอดขายล่วงหน้าไปแล้วกว่า 2,000 ล้านบาทนั้น จะสามารถกลับมาเร่งงานก่อสร้างเพื่อให้สามารถส่งมอบบ้านให้ลูกค้าได้ทันตามกำหนด ซึ่งจะช่วยให้พฤกษาฯ มีรายได้จากการโอนในกลุ่มสินค้าเข้ามาเพิ่มในไตรมาสนี้อีกส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การเร่งงานก่อสร้างนั้น พฤกษาฯ จะต้องดำเนินภายใต้การมาตรการ "บับเบิล แอนด์ ซีล" (bubble and seal) ซึ่งเป็นการควบคุมแรงงานก่อสร้าง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดการติดเชื้อ โดยแรงงานต้องควบคุมการเดินทางระหว่างที่ทำงานกับที่พักอาศัยตามข้อกำหนดที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กำหนดไว้

"เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในแคมป์คนงาน พฤกษาฯ ได้เตรียมวัคซีนไว้ฉีดให้แรงงานก่อสร้างกว่า 10,000 คน นอกจากนี้ ยังวางมาตรการควบคุมดูแลแรงงานก่อสร้างเพื่อให้สอดรับกับมาตรการภาครัฐด้วย"

ด้าน นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด กล่าวว่า การประกาศเพิ่มพื้นที่ล็อกดาวน์เพิ่มเป็น 29จังหวัดนั้นไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาฯ มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเพราะตลาดในขณะนี้ค่อนข้างแย่อยู่แล้ว แต่จะกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทำให้เกิดการชะลอตัดสินใจซื้อเพิ่มขึ้นเพราะเป็นการตอกย้ำว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดในขณะนี้เลวร้ายจริงๆ และยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่างๆ อย่างหนักไม่ใช่เพียงแค่การวิตกมากเกินไปเหมือนกับช่วงปีก่อนหน้า

"กลุ่มคนที่กำลังจะซื้อที่อยู่อาศัยอาจจะชะลอซื้อไปไม่รีบร้อนซื้อที่อยู่อาศัยในขณะนี้ แต่กลุ่มที่ผ่านขั้นตอนขอสินเชื่อและได้รับการอนุมัติแล้วน่าจะไม่มีการยกเลิกการตัดสินใจซื้อ"

ส่วนการปลดล็อกดาวน์แคมป์คนงานก่อสร้างนั้นน่าจะส่งผลดีต่อโครงการที่มีแผนจะโอนในปีนี้ ซึ่งหลังการปลดล็อกดาวน์คาดว่าจะทำให้ผู้รับเหมาก่อสร้างเร่งระดมแรงงานตามไซต์งานต่างๆ เร่งงานก่อสร้างโครงการที่จะส่งมอบหรือโอนในปีนี้เพื่อให้งานก่อสร้างแล้วเสร็จตามกำหนดซึ่งจะทำให้ได้รับค่างวดงานก่อสร้างเข้ามาใช้เป็นกระแสเงินสดในการดำเนินธุรกิจได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการล็อกดาวน์แคมป์ก่อสร้างในช่วงที่ผ่านมาทำให้แรงงานก่อสร้างในระบบหายไปค่อนข้างมาก ดังนั้น แม้จะปลดล็อกดาวน์แล้ว สถานการณ์ขาดแคลนแรงงานในตลาดก็จะยังไม่ดีขึ้น

https:// m.mgronline.com/stockmarket/detail/9640000075602
#3767


นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน และประธานคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (บอร์ด กฟผ.) กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานเปิดตัวธุรกิจ "EGAT EV Business Solutions" ภายใต้ชื่องาน The Next Future Journey EGAT EV Business Solutions โดยระบุว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ของโลกในหลายร้อยปีที่ผ่านมา ได้พัฒนาจากเครื่องยนต์สันดาปไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า(อีวี) ซึ่งเครื่องยนต์สันดาปเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ถึง 72.5% สร้างมพิษทางอากาศและเป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5

ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกตระหนักถึงปัญหานี้ และประกาศเป้าหมายชัดเจนที่จะลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์เป็นศูนย์ (Carbon neutrality) ซึ่งหนึ่งในแนวทางดังกล่าว คือ การส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า(อีวี) โดยคาดการณ์ว่าปี 2568 ราคารถอีวีจะเท่ากับรถยนต์สันดาป และในปี 2583 จำนวนรถอีวีจะมีมากกว่ารถยนต์สันดาป เพื่อก้าวสู่เป้าหมายการปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์เป็นศูนย์(Carbon neutrality)

อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทยได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ซึ่งมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน เพื่อผลักดันการใช้รถอีวีตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง โดยคณะกรรมการฯ จะมีการประชุมในช่วงปลายเดือน มี.ค.นี้ เพื่อกำหนดเป้าหมายการส่งเสริมให้ชัดเจนขึ้น

ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ได้กำหนดเป้าหมายปี 2573 จะมีการผลิตรถอีวี 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมด หรือประมาณ 750,000 คัน และภายในปี 2583 จำนวนรถอีวีจะเพิ่มเป็น 2.5 ล้านคัน

"การประชุมคณะกรรมการฯครั้งนี้ ก็คงต้องมาคุยกันให้ชัดเจนว่าจะกำหนดเป้าหมาย Carbon neutralityในปีไหน และจำนวนรถอีวี ปีไหนจะเป็นเท่าไหร่ ส่วนที่เอกชนเสนอให้เพิ่มจำนวนรถอีวีเป็น 50% ในปี 2573 ก็มีความเป็นไปได้ เพราะทั่วโลกตอนนี้เร่งส่งเสริมอีวีเร็วขึ้น แต่ก็ต้องรอความชัดเจนจากการประชุม"


นอกจากนี้ ในส่วนของ กฟผ. ที่เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ เตรียมส่งเสริมการขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.) เมื่อวันที่ 10 มี.ค.64 ได้อนุมัติให้จัดตั้งบริษัท Egat Innovation Holdings มี กฟผ.ถือหุ้น 40%, บริษัท ราช กรุ๊ป ถือหุ้น 30% และบริษัท ผลิตไฟฟ้า (เอ็กโก กรุ๊ป) ถือหุ้น 30% เพื่อขับเคลื่อนใน 2 เรื่องหลัก คือ 1.ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยายนต์ไฟ้ฟา เช่น รถอีวี แบตเตอรี่ เทคโนโลยี5G 

2. การเทรดดิ้งไฟฟ้า ซึ่งกฟผ.จะเป็นตัวกลางรับ-ส่งไฟฟ้า ไปขายในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ กฟผ.ได้เปิดตัวธุรกิจให้บริการซื้อขายเครดิตการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate : REC) รวมทั้งการให้บริการรับรอง REC เพื่อสนับสนุนการลงทุนใหม่ๆในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(EEC) เพื่อตอบโจทย์บริษัทที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่มีทางเลือกในการใช้พลังงานสะอาดเป็นคอมเมอร์เชียล

วานนี้(11มี.ค.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ได้เปิดตัวธุรกิจ EGAT EV Business Solutions ภายใต้ชื่องาน The Next Future Journey EGAT EV Business Solutions" ภายใต้ชื่องาน The Next Future Journey EGAT EV Business Solutions พร้อมลงนามความร่วมมือ EV Charging Station & Platform co creation for Electric Vehicles Project ระหว่าง กฟผ. และพันธมิตรจาก 6 บริษัทรถยนต์ชั้นนำ ได้แก่ Audi, BMW, Mercedes-Benz, MG, Nissan และ Porsche เพื่อให้ความร่วมมือกันในด้านสถานีอัดประจุไฟฟ้า Application เชื่อมโยงข้อมูล และการส่งเสริมการขาย

นายวฤต รัตนชื่น ผู้อำนวยการฝ่ายแผนยุทธศาสตร์ กฟผ. กล่าวว่า กฟผ.เตรียมจัดโปรโมชั่นกระตุ้นการใช้บริการชาร์จรถอีวี ซึ่งคาดว่า ราคาค่าบริการชาร์จไฟสำหรับรถอีวีจะไม่เกิน 1 บาทต่อกิโลเมตร โดยอยู่ระหว่างหารือในรายละเอียด ขณะที่ค่าบริการชาร์จไฟรถอีวี ตามต้นทุนการลงทุนในปัจจุบัน เบื้องต้นมีอัตราอยู่ที่ประมาณ 7-8 บาทต่อหน่วย 
#3768


กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ทั้งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ YEC หอการค้าไทย แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ เครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club สถาบันการศึกษา และผู้เชี่ยวชาญด้านอีคอมเมิร์ซ เตรียมจัดอบรมออนไลน์ให้แก่ผู้ประกอบการฐานราก ทั่วประเทศผ่านแอปพลิเคชัน Zoom ด้วยหลักสูตร 'ปั้นร้านค้าออนไลน์ขั้นเทพ : Online Marketing Genius' รุ่นที่ 1 (OMG#1) ภายใต้คอนเซปต์ 'บุกตลาดออนไลน์ สร้างยอดขายทะลุล้าน' เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าออนไลน์ให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หวังกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วประเทศให้กลับมาฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ ณ ขณะนี้ทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจ การดำเนินชีวิตทำให้ขาดรายได้  ทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า  จึงร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร เช่น สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สถาบันการเงิน สถาบันการศึกษา หอการค้าจังหวัด สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย e-Marketplace และโลจิสติกส์ฯ เตรียมจัดอบรมออนไลน์หลักสูตร 'ปั้นร้านค้าออนไลน์ขั้นเทพ : Online Marketing Genius' รุ่นที่ 1 (OMG#1) ขึ้น ระหว่างวันที่ 2-31 สิงหาคม 2564 

โดยหลักสูตรดังกล่าว กำหนดจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Zoom  จำนวน 2 วัน วันละ 6 ชั่วโมง พร้อมฝึกปฏิบัติ (Workshop) ทดลองขายสินค้าบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำอย่าง Shopee, Lazada, JD Central และ Amvata เพื่อกระตุ้นยอดการซื้อ-ขายสินค้า การทำโปรโมชัน และการส่งเสริมการขาย เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับความรู้ เกิดความเข้าใจ และสามารถใช้เครื่องมือต่างๆ ที่อยู่บนแพลตฟอร์มได้อย่าง มีประสิทธิภาพแบบมืออาชีพ 

หลังจากนั้น กรมฯ และหน่วยงานพันธมิตรจะร่วมกันคัดเลือกผู้ประกอบการจำนวน 3 ราย เพื่อเป็นผู้แทนของแต่ละกลุ่มจังหวัด เข้าร่วมการแข่งขันนำเสนอผลงานการพัฒนาสินค้าชุมชนเข้าสู่ช่องทางออนไลน์ (Pitching) ในงานมหกรรม Thailand e-Commerce Expo 2021 เพื่อเป็น 'สุดยอด e-Commerce Genius แห่งปี' รวมถึงจะได้รับสิทธิในการเข้ารับคำปรึกษาเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ แบบตัวต่อตัว ทั้งด้านการนำเสนอเรื่องราว (Story Telling) ด้านการนำเสนอสินค้า (Product Presentation) ด้านการทำตลาดออนไลน์ (Digital Marketing) และด้านการนำเสนอผลงาน (Pitching) และจะได้รับสิทธิพิเศษจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และหน่วยงานพันธมิตรอีกด้วย

ผู้สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร.0 2547 5961 และสายด่วน 1570 หรือดูรายละเอียดทางเว็บไซต์ www.dbd.go.th
#3769


พร้อมหรือยัง.. เปิดให้ขึ้นฟรีวันนี้ "รถไฟชานเมืองสายสีแดง" บางซื่อ-รังสิตและบางซื่อ-ตลิ่งชัน
ช่วงเช้าวันนี้ เปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการระบบ รถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ - ตลิ่งชัน (soft opening) วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม 2564 เวลา 9.30 น. ที่สถานีกลางบางซื่อ โดยมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิด

"รถไฟชานเมืองสายสีแดง"

การรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมแล้วที่จะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-ตลิ่งชัน โดยจะให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

และจะเปิดให้บริการในเชิงพาณิชย์ในช่วงปลายปี 2564 เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนที่ต้องการจะเดินทางจากปริมณฑล พื้นที่ชานเมืองเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร


สำหรับตารางการเดินรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง มีดังนี้

เส้นทาง บางซื่อ-รังสิต เที่ยวแรกจากบางซื่อ เริ่มเดินรถเวลา 06.00 น. ส่วนเที่ยวแรกจากรังสิต เริ่มเดินรถเวลา 06.00 น. เช่นกัน

เส้นทาง บางซื่อ-รังสิต เที่ยวสุดท้ายจากบางซื่อ เวลา 19.30 น. ส่วนสุดท้ายจากรังสิต เวลา 19.30 น.

เส้นทาง บางซื่อ-ตลิ่งชัน เที่ยวแรกจากบางซื่อ เริ่มเดินรถเวลา 06.00 น. ส่วนเที่ยวแรกจากรังสิต เริ่มเดินรถเวลา 06.06 น.

เส้นทาง บางซื่อ-ตลิ่งชัน เที่ยวสุดท้ายจากบางซื่อ เวลา 19.30 น. ส่วนสุดท้ายจากรังสิต เวลา 19.36 น.

ทั้งนี้ เฉพาะวันที่ 2 สิงหาคม 2564 จะเริ่มเดินรถ เวลา 10.30 น.
#3770


วิกฤติชิพเกิดจากในช่วงที่โควิด-19 ระบาด ทั่วโลกออกข้อจำกัดควบคุมการเดินทางการใช้รถใช้ถนนน้อยลง ผู้ผลิตชิพให้ความสำคัญกับสินค้าประเภทสมาร์ทโฟนและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่จำเป็นมากกว่าก่อน

ชิพถูกประดิษฐ์ขึ้นเมื่อ 60 ปีก่อนเพื่อใช้ในคอมพิวเตอร์ จากนั้นพัฒนามาใช้ในรถยนต์จนกลายเป็นส่วนประกอบสำคัญที่สุดและราคาแพงสำหรับอุปกรณ์ทันสมัยที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ การที่อุปทานชิพมีไม่พอทำให้ขาดแคลนไปทั้งโลกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากความต้องการสมาร์ทโฟนและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สูงเกินคาดในช่วงโควิด

เป็นที่ทราบกันดีว่า ระยะหลังชิพหรือเซมิคอนดักเตอร์ ถูกออกแบบมาให้ซับซ้อนยิ่งขึ้น การผลิตก็ยากขึ้น นี่คือเหตุผลเบื้องต้นที่ทำให้ซัพพลายโลกขาดแคลน หากจะตั้งโรงงานใหม่ต้องใช้เวลาและเงินหลายพันล้านดอลลาร์ ความต้องการที่เพิ่มขึ้นเนื่่องจากโควิด-19 ระบาดทำให้ซัพพลายชิพน้อยลง ปัจจัยหลักมาจากมาตรการกักตัวเปิดทางให้ผู้คนทำกิจกรรมที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน หรือความบันเทิง ซึ่งต้องกระทำผ่านคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แทบเล็ต แม้แต่เครื่องเล่นเกม

โควิดยังบีบให้หลายๆ บริษัทพัฒนาระบบการทำงานทางไกล และติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์หรือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งชิพนั้นเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับเทคโนโลยีทุกด้าน ตั้งแต่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบสวมใส่ได้ไปจนถึงในระบบรถยนต์ไฟฟ้า ปัญหาคอขวดช่วงโควิดจึงเริ่มที่อุตสาหกรรมรถยนต์ก่อน

สำนักข่าวอนาโดลูของตุรกีรายงานอ้างข้อมูลจากสมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (เอสไอเอ) ยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกปี 2563 เพิ่มขึ้น 6.5% จากปี 2562 ทะลุ 4.39 แสนล้านดอลลาร์ หากเทียบเป็นรายภูมิภาคยอดขายในตลาดสหรัฐเพิ่มขึ้น 19.8% ขณะที่ยอดขายในจีน ตลาดชิพใหญ่สุดของโลกเพิ่มขึ้น 5%

ดีมานด์สูงเกินคาด

ความต้องการที่สูงมากชนิดไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุตสาหกรรมรถยนต์เป็นอุตสาหกรรมแรกที่รู้สึกได้ถึงวิกฤติขาดแคลนชิพทั่วโลก รายงานจากบริษัทที่ปรึกษา "ดีลอยต์" เผยว่า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์ซึ่งหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่จอแอลซีดีไปจนถึงระบบภายในจะมีสัดส่วนถึง 45% ของต้นทุนการผลิตรถหนึ่งคันภายในปี 2573

ต้นทุนส่วนประกอบที่มีเซมิคอนดักเตอร์เป็นพื้นฐานสำหรับใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้คาดว่าเพิ่มเป็น 475 ดอลลาร์ในปี 2563 และ 600 ดอลลาร์ในปี 2573

แม้ความต้องการชิพเพื่อใช้กับระบบคอมพิวเตอร์ในรถเพิ่มสูงขึ้น แต่ด้วยความกังวลว่ามาตรการจำกัดการเดินทางช่วงโควิดจะส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์ ทำให้ผู้ผลิตยกเลิกคำสั่งซื้อชิพ กลายเป็นว่าความต้องการจากบริษัทอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มสูงขึ้นแทน ผู้ผลิตรถยนต์จะมาซื้อชิพทีหลังย่อมทำได้ยาก

ความยากลำบากในการหาซื้อชิ้นส่วนที่ต้องใช้ชิพและไมโครชิพทำให้ฟอร์ด เจนเนอรัลมอเตอร์ส โตโยต้า โฟล์คสวาเกน ฮอนด้า สเตลแลนติส และบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า "นีโอ" ต้องลดการผลิตหรือปิดโรงงาน

ความปั่นป่วนนี้ก่อให้เกิดความเสียหายหลายพันล้านดอลลาร์บีบให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องแข่งกับยักษ์ใหญ่อิเล็กทรอนิกส์อย่างแอ๊ปเปิ้ลซื้อชิพที่มีอุปทานจำกัด

บริษัทที่ปรึกษาอลิกซ์พาร์ทเนอร์สคาดว่า การขาดแคลนชิพอาจบั่นทอนรายได้อุตสาหกรรมรถยนต์โลกลงมากถึง 6.06 หมื่่นล้านดอลลาร์

เท่านั้นยังไม่พอ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นวิกฤติชิพอาจเป็นสาเหตุให้การผลิตหลายสาขาปั่นป่วนตามไปด้วย เช่น การผลิตสมาร์ทโฟน

เมื่อโควิดกระจายไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง อุตสาหกรรมชิพกำลังเตรียมการสำหรับช่วงหลังโควิดด้วยการลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อรับมือวิกฤติ


ขณะนี้ชิพถูกมองว่าเป็นปัจจัยการแข่งขันระหว่างประเทศต่างๆ เมื่อบริษัทและนานาประเทศต่างพยายามกำหนดความเป็นไปในอุตสาหกรรมชิพผ่านการลงทุนมหาศาล เช่น อินเทล หนึ่งในผู้ผลิตชิพรายใหญ่สุดของโลก ประกาศแผนสร้างโรงงานผลิตชิพใหม่อีกสองโรงในรัฐแอริโซนาด้วยเม็ดเงินลงทุน 2 หมื่นล้านดอลลาร์

ซัมซุง ยักษ์อิเล็กทรอนิกส์จากเกาหลีใต้ก็กำลังวางแผนใช้งบประมาณ 1.16 แสนล้านดอลลาร์ ตั้งเป้าเป็นบริษัทผลิตชิพรายใหญ่สุดของโลกภายในปี 2573 เพื่อให้เป็นไปตามเป้าซัมซุงกำลังก่อสร้างโรงงานใหญ่แห่งหนึ่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในปีนี้

ด้านไต้หวันเซมิคอนดักเตอร์แมนูแฟคเจอริง (ทีเอสเอ็มซี) ผู้รับจ้างผลิตรายใหญ่สุดของโลก ก็กำลังก่อสร้างโรงงานแห่งหนึ่งมูลค่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในแอริโซนาเหมือนกับอินเทล คาดว่าเริ่มผลิตได้ในปี 2567

ในจีนที่ต้องการลดการพึ่งพาชิพจากต่างประเทศ กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติสองรายให้เงินทุนราว 2.25 พันล้านดอลลาร์แก่เอสเอ็มไอซี ผู้ผลิตชิพชั้นนำของจีน เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตที่โรงงานในเซี่ยงไฮ้ คาดว่าโรงงานแห่งนี้จะมีศักยภาพการผลิตเพิ่มเป็นสามเท่าในอนาคต

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า อุตสาหกรรมชิพกำลังเตรียมตัวรับระเบียบใหม่จากการที่เศรษฐกิจโลกเปิดดำเนินการอีกครั้ง และนักออกแบบเซมิคอนดักเตอร์ก็มีงานใหญ่รออยู่ข้างหน้าในการกำหนดระเบียบโลกใหม่หลังโควิด-19

จ่อลากยาวถึงปีหน้า

คาร์ลอส ทาวาเรส ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ)สเตลแลนติส บริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 4 ของโลก กล่าวในงานสมาคมสื่อรถยนต์ที่เมืองดีทรอยต์ของสหรัฐ เมื่อกลางเดือน ก.ค.ตอกย้ำความเห็นของเดมเลอร์เอจีที่กล่าวไว้ก่อนในวันเดียวกันนั้นว่า การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ที่เล่นงานผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกส่งผลให้การผลิตรถยนต์ติดขัด อาจลากยาวไปถึงปี 2565

"วิกฤติเซมิคอนดักเตอร์เท่าที่ผมเห็นตอนนี้ ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าเห็นได้ทุกอย่าง กำลังลามเข้าสู่ปี 2565 ได้ไม่อยาก เพราะผมยังไม่เห็นสัญญาณการผลิตเพิ่มเติมจากแหล่งผลิตในเอเชีย เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับโลกตะวันตกในอนาคตอันใกล้" ทาวาเลสกล่าวและว่า สเตลแลนติสกำลังตัดสินใจเปลี่ยนชิพที่ใช้ให้หลากหลาย ซึ่งการปรับไปใช้ชิพที่แตกต่างออกไปต้องใช้เวลาราว 18 เดือน เนื่องจากต้องใช้เทคโนโลยีอันซับซ้อน

ทั้งนี้ การที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวจากโควิดทำให้ความต้องการรถยนต์เพิ่มมากขึ้น ช่วยหนุนราคารถยนต์ใหม่และรถมือสองต่อเนื่องมาถึงความต้องการชิพ ผู้ผลิตบางรายรับมือปัญหาขาดแคลนชิพด้วยการลดบางฟีเจอร์ในรถยนต์ลง บางรายใช้วิธีผลิตโดยไม่ต้องใส่ชิพก่อนรอให้ทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมแล้วค่อยประกอบทีหลัง

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952271
#3771



สงครามต่อสู้กับโควิด-19 เปลี่ยนไป สืบเนื่องจากตัวกลายพันธุ์เดลตาที่แพร่เชื้อได้ง่ายมาก จากคำกล่าวของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ(ซีดีซี) ส่งสารอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการบังคับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขฉีดวัคซีนและกลับมาสวมหน้ากากโดยทั่วไป ท่ามกลางข้อมูลที่พบว่ามีเคสฉีดวัคซีนครบแล้วแต่ยังติดเชื้อ(breakthrough cases) จำนวนมาก ในนั้นติดเชื้ออาการหนักและเสียชีวิตแล้วกว่า 6,500 ราย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างอิงเอกสารภายในของซีดีซีระบุว่าตัวกลายพันธุ์เดลตา ซึ่งพบครั้งแรกในอินเดียและตอนนี้กลายเป็นสายพันธุ์หลักทั่วโลก สามารถติดต่อได้ง่ายพอ ๆ กับ โรคอีสุกอีใส และสามารถแพร่กระจายได้รวดเร็วและง่ายกว่าไข้หวัด มันสามารถแพร่กระจายเชื้อได้แม้กระทั่งจากคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว และอาจเป็นต้นตอของอาการป่วยหนักกว่าสายพันธุ์อื่นๆก่อนหน้านี้

เอกสารที่มีชื่อว่า "ปรับปรุงการสื่อสารเกี่ยวกับเคสฉีดวัคซีนครบแล้วแต่ยังติดเชื้อและประสิทธิภาพของวัคซีน (Improving communications around vaccine breakthrough and vaccine effectiveness)" ระบุว่าด้วยตัวกลายพันธุ์นี้ จำเป็นต้องใช้แนวทางใหม่เพื่อช่วยให้ประชาชนตระหนักถึงอันตราย ในนั้นรวมถึงส่งสารอย่างชัดเจนว่าบุคคลที่ยังไม่ฉีดวัคซีนมีโอกาสป่วยหนักหรือเสียชีวิตมากกว่าคนที่ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 10 เท่า

"ยอมรับว่าสงครามเปลี่ยนไปแล้ว" เอกสารระบุ "ปรับปรุงการสื่อสารเกี่ยวกับความเสี่ยงรายบุคคลในหมู่คนฉีดวัคซีนแล้ว"

ในคำแนะนำด้านมาตรการป้องกันไว้ก่อนต่างๆนานานั้น รวมไปถึงการบังคับฉีดวัคซีนสำหรับผู้ประกอบอาชีพด้านสาธารณสุข เพื่อปกป้องกลุ่มคนอ่อนแอ และหวนกลับมาสวมหน้ากากป้องกันโดยทั่วไป

ซีดีซียอมรับว่าเอกสารฉบับนี้เป็นของจริง หลังจากหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์นำเสนอรายงานข่าวนี้เป็นแห่งแรก

แม้คนที่ฉีดวัคซีนแล้วมีความเป็นไปได้น้อยที่จะติดเชื้อ แต่ครั้งที่พวกเขาติดเชื้อตัวกลายพันธุ์เดลตาในลักษณะ breakthrough cases เวลานี้พวกเขาก็เหมือนๆกับคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ที่สามารถแพร่เชื้อสู่คนอื่นๆได้เช่นกัน ซึ่งต่างจากตัวกลายพันธุ์อื่นๆก่อนหน้านี้

กรณีนี้นับว่าน่ากังวลมาก เพราะผู้ที่ได้รับวีคซีนแล้วติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา คือกลุ่มที่เป็นตัวแปรสำคัญในการแพร่เชื้อโดยไม่รู้ตัว ทำให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน แล้วได้รับเชื้อจากคนกลุ่มนี้ ยิ่งเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยรุนแรง

เมื่อวันศุกร์(30ก.ค.) ซีดีซีเผยแพร่ข้อมูลจากผลการวิจัยหนึ่งซึ่งศึกษาการแพร่ระบาดในรัฐแมสซาชูเซตส์ พบว่า 3 ใน 4 ของผู้ติดเชื้อ เป็นกลุ่มคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว ซึ่งผลการศึกษาดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญยิ่งในการตัดสินใจของซีดีซีเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่แนะนำให้บุคคลที่ฉีดวัคซีนแล้วกลับมาสวมหน้ากากในบางสถานการณ์ จากการเปิดเผยของโรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการซีดีซี

ซีดีซีรายงานว่าจนถึงวันที่ 26 กรกฎาคม มีเคสฉีดวัคซีนครบแล้วแต่ยังติดเชื้อ(breakthrough cases)อาการหนักหรือเสียชีวิต 6,587 ราย ในขณะที่ซีดีซีหยุดรายงานเคสฉีดวัคซีนครบแล้วแต่ยังติดเชื้ออาการเล็กๆน้อยๆมาตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม แต่ในรายงานล่าสุด พวกเขาประมาณการว่าน่าจะมีผู้ติดเชื้อแบบแสดงอาการราวๆ 35,000 รายต่อสัปดาห์ในสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตามตัวเลขของซีดีซียังชี้ให้เห็นว่า วัคซีนนั้นยังมีความสามารถในการป้องกันอาการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิตจากโควิดสายพันธุ์เดลตา โดยที่นายจอห์น มัวร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาจากนิวยอร์ก กล่าวว่า "โดยรวมแล้ว โควิดสายพันธุ์เดลตานั้นคือสายพันธุ์ที่สร้างความลำบากให้เรามากที่สุดเท่าที่เห็นมา แต่ฟ้าก็ยังไม่ถล่มเสียทีเดียว และวัคซีนนั้นก็ยังสามารถป้องกันไม่ให้สถานการณ์มันแย่ไปมากกว่านี้"

เวลานี้มีประชากรวัยผู้ใหญ่สหรัฐฯเกือบ 1 ใน 3 ที่ฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว แต่พื้นที่ต่างๆที่มีอัตราการฉีดวัคซีนระดับต่ำ พบเห็นเคสผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่เกรงว่าอีกไม่นานจำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและเสียชีวิตจำเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว

นายแพทย์แอนโธนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อระดับสูงของสหรัฐฯ เปิดเผยกับรอยเตอร์ คาดหวังว่าวัคซีน ซึ่งเวลานี้เพิ่งอยู่ในขั้นได้รับอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉิน จะเริ่มได้รับอนุมัติจากคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบโดยสมบูรณ์ในเดือนสิงหาคม ซึ่งมันน่าจะช่วยโน้มน้าวให้ประชาชนเข้าฉีดวัคซีนกันมากขึ้น

(ที่มา:รอยเตอร์/วอชิงตันโพสต์) https:// m.mgronline.com/around/detail/9640000075092
#3773



ผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 80 เปอร์เซนต์มีอาการน้อย หรือไม่มีอาการใดๆ โรคนี้กว่าจะแสดงอาการ มักเป็นช่วงที่เชื้อจะอยู่ในตัวเราแล้ว 5-6 วัน จนกระทั้ง 1 สัปดาห์แรก ผู้ป่วยรับเชื้ออาจจะรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นหวัดเล็กๆ น้อยๆ แต่แท้จริงแล้ว หลังจากรับเชื้อประมาณ 5-7 วัน เชื้อจะลงปอดอย่างรวดเร็ว นำพามาสู่ปัญหาปอดติดเชื้อ


ผู้ป่วยส่วนหนึ่งอาการทรงตัวดี แต่อาจแย่ลงอย่างรวดเร็ว เรียกว่า 3 วันอันตราย ถ้าคนไข้อยู่ในความดูแลของหมอ หมอจะดูในวันที่ 5, 6 และ 7 ว่ามีอาการปอดติดเชื้อหรือไม่

จากคำถามที่ว่าปอดของผู้ติดเชื้อจะกลับมาเป็นปกติหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความหนักเบา ถ้าพบอาการปอดติดเชื้อเล็กน้อยไม่มีอะไร ตรงนี้สามารถกลับมาเป็นปกติได้ แต่อาจจะใช้ระยะเวลาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน แล้วแต่ความหนักเบา แต่ถ้าถึงขั้นการหายใจล้มเหลว สภาพปอดถูกทำลายไปเยอะแล้ว ก็อาจกลับมาไม่เป็นปกติ

ใครคือกลุ่มเสี่ยงโควิด-19

กลุ่มเสี่ยงที่น่าเป็นห่วงที่สุดของการติดเชื้อโควิด-19 อันดับแรก คือ ผู้สูงอายุ ทางการแพทย์นับที่อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มต่อมาคือผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะเบาหวาน เพราะผู้ป่วยที่มีโรคโควิด-19 และเบาหวานร่วมด้วยจะมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงกว่าโรคอื่นๆ โรคประจำตัวอื่นๆ ที่น่าเป็นห่วงก็จะพวกโรคเรื้อรัง โรคปอด โรคหัวใจ ไต ตับ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมถึงภาวะอ้วนด้วย

ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 แล้วหายได้เองมีหรือไม่
มีโอกาสที่เป็นไปได้ เพราะจากที่กล่าวข้างต้นว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อมีอาการน้อยหรือไม่แสดงอาการ ถ้าผู้ติดเชื้อไม่ได้ตระหนักว่าตัวเองมีความเสี่ยงก็อาจจะไม่ได้ไปตรวจ แต่จะกลายเป็นผู้แพร่เชื้อ (Super Spreader) ให้แก่คนอื่นได้

บทความโดย : พญ.พิมฑิราภ์ สุจริตวงศานนท์ ศูนย์ทางการแพทย์ อายุรกรรม โรคทางเดินหายใจ โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์
#3774

  

แรงบันดาลใจที่เปลี่ยนแปลงชีวิตคน หรือสร้างอนาคตให้ใครสักคน อาจมีที่มาหลากหลายแหล่ง หนังสือสักเล่ม เพลงสักเพลง หรือหนังสักเรื่อง เช่นเดียวกับแรงบันดาลใจที่ทำให้เด็กชายคนหนึ่งเติบโตมาเป็นศิลปินระดับซูเปอร์สตาร์ของโลก มาจากฉากเดียวในหนังดังเรื่องหนึ่ง

จอห์น เมเยอร์ ในวัย 8 ขวบ หลงใหลเสน่ห์ของกีตาร์จากการดู ไมเคิล เจ. ฟ็อกซ์ ในบท มาร์ตี แม็คฟลาย เล่นกีตาร์ในหนัง Back to the Future แต่กว่าจะได้จับกีตาร์จริงจังก็ตอนอายุ 13 ปี และไม่นานหลังจากนั้น เขาก็เริ่มฟังเพลงบลูส์จากศิลปินระดับตำนาน อย่าง บี.บี. คิง, บั๊ดดี กาย, อัลเบิร์ท คิง, โอทิส รัช, เฟร็ดดี คิง, ไลก์ทนิน' ฮ็อปกินส์ จนถึง สตีวี เรย์ วอห์น

เมเยอร์ เริ่มเรียนกีตาร์พื้นฐานจากเจ้าของร้านขายกีตาร์ในบริดจ์พอร์ท, คอนเนตทิคัต บ้านเกิด และเหมือนเด็กวัยรุ่นที่ดิ่งลึกกับดนตรี เขาตั้งวงเล่นดนตรีร็อกกับเพื่อนร่วมโรงเรียนมัธยม ก่อนจะเข้าเรียนที่วิทยาลัยดนตรีเบิร์คลี แต่เพียง 2 ภาคเรียน เมเยอร์ ก็ตัดสินใจทิ้งการเรียนมุ่งหน้าสู่อาชีพดนตรีเต็มตัว

หลังจากตระเวนเล่นหาเลี้ยงชีวิตตามผับบาร์ เมเยอร์ ก็ได้ทำผลงานชุดแรกเป็นอีพี.ออกขายอิสระชื่อ Inside Wants Out ซึ่งเป็นที่มาของการได้เซ็นสัญญากับบริษัทเพลงยักษ์ใหญ่ โคลัมเบีย เรคคอร์ดส์ ในเวลาต่อมา

Room for Squares เป็นอัลบั้มแรก ออกในปี 2002 ไม่เพียงเป็นอัลบั้มขายดี ยังได้รับคำวิจารณ์เชิงบวก และทำให้ เมเยอร์ ได้รางวัล แกรมมี่ สาขานักร้องชายยอดเยี่ยมจากเพลง "Your Body Is a Wonderland"

Heavier Things อัลบั้มที่ 2 ออกในปีถัดมา แม้ยอดขายจะไม่เท่าอัลบั้มแรก แต่ผลลัพธ์ด้านอื่นเหนือกว่าทุกด้าน ติดอันดับ 1 บนตาราง บิลล์บอร์ด 200, คำวิจารณ์บวกจากสื่อยักษ์ใหญ่ทุกแห่ง และเพลง "Daughters" ได้รางวัลใหญ่สุดของ แกรมมี่ คือรางวัลเพลงแห่งปี

เมเยอร์ ไม่เพียงได้การยอมรับจากผู้ฟัง บรรดาศิลปินอาวุโสในทางบลูส์และแจ๊ซมากมายก็ให้ความชื่นชมเขา โดยเฉพาะในฐานะมือกีตาร์ฝีมือเยี่ยม ทำให้ เมเยอร์ ได้ร่วมเล่นกับศิลปินเหล่านั้นมากมาย ขณะเดียวกันเขาเองก็ขยายขอบเขตดนตรีของตนด้วยการร่วมงานกับศิลปินร่วมรุ่นต่างแนวทาง ทั้งป็อป, ร็อค, ฮิป-ฮอป ฯลฯ



ในปี 2005 เมเยอร์ ตั้งวง จอห์น เมเยอร์ ทริโอ เพื่อออกตระเวนทัวร์คอนเสิร์ต เป็นวงที่ฮือฮากันมากเพราะสมาชิกอีก 2 คนนั้น จัดเป็นสุดยอดนักดนตรีที่ฝากฝีมือไว้ในการบันทึกเสียงให้ศิลปินนับพันๆ นั่นคือ พิโน พาลลาดิโน มือเบส และ สตีฟ จอร์แดน มือกลอง ทั้งสามออกอัลบั้มแสดงสด Try! มาชุดหนึ่งก่อนแยกย้ายกัน

เมเยอร์ ยังคงทำงานต่อเนื่อง ออกอัลบั้ม, ออกทัวร์ และรับเชิญไปบันทึกเสียงหรือขึ้นคอนเสิร์ทจากเพื่อนศิลปินมากหน้าหลายตา อัลบั้มที่ตามติดมา Continuum (2006), Where the Light Is (2007) และ Battle Studies (2009) ยังรักษาระดับความสำเร็จทุกด้านไว้ได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องยากมากที่ศิลปินดนตรีจะรักษาความต่อเนื่องได้ขนาดนี้

หลังจากอัลบั้ม Born and Raised ออกในปี 2012 เมเยอร์ ก็ประสบปัญหาส่วนตัว ซึ่งมีผลทำให้ต้องยกเลิกการทัวร์ทั้งหมด แต่ระหว่างที่หยุด เขาก็ไม่ได้อยู่เฉย เพราะกลางปี 2013 เขาออกอัลบั้มใหม่ Paradise Valley ซึ่งพลิกแนวดนตรีไปเป็นโฟล์ค-ร็อคและคันทรี่-ร็อค จากนั้นก็ออกทัวร์เพื่อสนับสนุนอัลบั้มทั้งสองควบกัน ยาวไปจนถึงปี 2015

ปี 2016 ขณะที่เริ่มทำเพลงสำหรับอัลบั้มใหม่ เมเยอร์ ก็ไปรวมตัวกับอดีตสมาชิกวง เกรทฟูล เดด ตั้งวงขึ้นมาเพื่อออกแสดงคอนเสิร์ทในนาม เด๊ด แอนด์ คอมพานี ซึ่งมีเป็นระยะๆจากปี 2016-2018 ระหว่างช่วงเวลานี้ เมเยอร์ ก็ออกอัลบั้ม The Search for Everything (2017)

และกลางเดือนกรกฎาคม 2021 นี้ เมเยอร์ ออกอัลบั้มล่าสุด Sob Rock เป็นอัลบั้มจากสตูดิโอชุดที่ 8 ของเขา โดยพลิกแนวอีกครั้งไปเป็นซอฟท์-ร็อคแบบเวสต์โคสต์ที่นิยมกันในทศวรรษ 1970-1980

เมเยอร์ ไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ เขาเป็นคนที่มีปัญหาสุขภาพและด้านจิตใจตั้งแต่วัยรุ่น แต่มีคนไม่น้อยพยายามวิเคราะห์ถึงปัจจัยแห่งความสำเร็จของเขา ถ้ามองภาพกว้างๆจะพบว่า เมเยอร์ มีคุณสมบัติครบเครื่องของการเป็นดารา รูปร่างหน้าตาหล่อเหลา, ทักษะทางดนตรีชั้นเลิศ และเสียงร้องที่ไพเราะ

แต่ถ้ามองลึกลงไป เพลงของ เมเยอร์ จับความรู้สึกของผู้ฟังได้ดี เขาไม่พยายามเขียนเพลงที่เข้าถึงยากเกินไป เป็นอารมณ์ที่มีอยู่ในคนทั่วไป และที่สำคัญ ผลงานทุกชิ้นของเขาไม่ถูกปล่อยผ่านออกมาสู่สาธารณะอย่างลวกๆ ผ่านกระบวนความคิดที่แน่นอนมาแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในแนวร็อคอเมริกัน, บลูส์ หรือคันทรี่-ร็อค และด้วยท่วงทำนองฟังไม่ยาก นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่เปิดกว้างกับการรับดนตรีแนวต่างๆ และพร้อมหาประสบการณ์จากการร่วมงานกับคนอื่นๆทุกครั้งที่พร้อม

ยิ่งกว่านั้น ใครที่ติดตามมาพอสมควรและช่างสังเกต จะพบว่า จอห์น เมเยอร์ ใช้สื่อเก่งมาก โดยที่ไม่เสียความเป็นตัวของตัวเอง

ดนตรี / ทิวา สาระจูฑะ https:// siamrath.co.th/n/266350
#3775



โดย ดร.อรุณ ศิริจานุสรณ์ (นักวิชาการอิสระ / ผู้อำนวยการสถาบันพรีโม่ อะคาดิมี่) 40

คลัสเตอร์...เป็นคำที่ติดหูของผู้คนในแวดวงอุตสาหกรรมมาช่วงระยะหนึ่งแล้ว จากนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่มิติใหม่ หรือประเทศไทย 4.0

คลัสเตอร์...เป็นคำที่ติดหูของผู้คนในแวดวงอุตสาหกรรมมาช่วงระยะหนึ่งแล้ว จากนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่มิติใหม่ หรือประเทศไทย 4.0 โดยมีการดำเนินงานก้าวหน้าเป็นลำดับ ตั้งแต่ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2558 เห็นชอบนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในรูปแบบคลัสเตอร์ พร้อมเพิ่มเติมการกำหนดกลุ่มอุตสาหกรรมศักยภาพเป้าหมาย หรือ 10 S-curve ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2558 เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่มูลค่าทางเศรษฐกิจใหม่ โดยล่าสุดได้มีการมุ่งเป้าสู่การพัฒนาในเชิงพื้นที่ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor Development: EEC) ผลักดันให้พื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา เป็นพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์สาคัญในการพัฒนา 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

ซึ่งไม่น่าแปลกใจเพราะเขตพื้นที่ดังกล่าว เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศ ที่มีความพร้อมทั้งด้านเครือข่ายอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่เดิมที่มีการพัฒนามาเป็นระยะเวลามากกว่า 30 ปีแล้ว อย่างไรก็ตาม อาจมีหลายท่านสงสัยว่า หากมีการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจแห่งที่สอง หรือสาม หรือสี่ ..... ในเขตพื้นที่ภูมิภาคอื่น ๆ ควรจะส่งเสริมให้มีการพัฒนาคลัสเตอร์อุตสาหกรรมใด และควรมีแนวทางการพัฒนาคลัสเตอร์อย่างไรจึงจะเหมาะสม แต่ก่อนที่จะไขปัญหาที่เราสงสัยกันต่อไป การเริ่มต้นที่การทำความเข้าใจแนวคิดพื้นฐานว่าจริง ๆ แล้วคลัสเตอร์ คือ อะไรกันแน่

คลัสเตอร์คืออะไร?

ทำไมบริษัทของประเทศหนึ่ง ถึงมีขีดความสามารถสูงกว่าบริษัทของประเทศอื่น ๆ ในสาขาอุตสาหกรรมเดียวกัน เป็นคำถามที่มีนักเศรษฐศาสตร์ และนักวิชาการหลาย ๆ ท่านได้ทำการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง โดยข้อสรุปหนึ่ง ที่ได้รับการยอมรับ นอกเหนือจากทฤษฎีความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ (Comparative Advantage) ซึ่งให้ความสำคัญไปที่ปัจจัยพื้นฐานสำคัญทางเศรษฐกิจ อาทิ ทรัพยากร ทุน และแรงงานแล้ว คือ การระบุถึงความสำคัญของพื้นที่ที่ตั้งของบริษัท ต่อขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากพื้นที่นั้น

โดยองค์ประกอบของปัจจัยแวดล้อมที่เอื้อต่อการรวมกลุ่มของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในธุรกิจสาขาเฉพาะในพื้นที่ใกล้เคียงกันอย่างเหมาะสม โดยการรวมกลุ่มของกิจกรรมทางเศรษฐกิจดังกล่าว มีชื่อเรียกที่ติดหูกันว่า "คลัสเตอร์" ซึ่งหมายถึง การรวมตัวกันของกลุ่มบริษัทในสาขาเฉพาะ ซัพพลายเออร์ที่มีความเฉพาะ ธุรกิจให้บริการ บริษัทในอุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวเนื่อง และสถาบันสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง (อาทิ สถาบันการศึกษา และฝึกอบรม สถาบันวิจัยพัฒนา ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ) มาร่วมดำเนินกิจการอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ในระดับที่เพียงพอต่อการพัฒนาความเชี่ยวชาญ การบริการ ทรัพยากร การจัดหาวัตถุดิบ รวมถึงทักษะ และความสามารถของกำลังแรงงาน ที่มีความพิเศษ ความหมายของคลัสเตอร์ ในหลาย ๆ งานศึกษา ได้นิยามไว้แตกต่างกันบ้าง หากแต่มีแนวคิดที่เห็นพ้องร่วมกันในความเป็นคลัสเตอร์ใน 3 ประเด็น ซึ่งมีความหมายลึก กว่าการรวมกลุ่มของเครือข่ายผู้ประกอบการดังที่ใช้กันโดยทั่วไป

ประเด็นแรก คลัสเตอร์ถูกมองว่าเป็นการกระจุกตัวทางภูมิศาสตร์ของบริษัท ที่มีความเฉพาะ แรงงานที่มีทักษะสูง และสถาบันสนับสนุน ซึ่งช่วยก่อให้เกิดการประหยัดจากการอยู่เป็นกลุ่ม และเพิ่มการกระจายตัวขององค์ความรู้ จากการอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน สร้างเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดขีดความสามารถการแข่งขันพื้นที่ได้

ประเด็นที่สอง คลัสเตอร์เป็นโครงสร้างเชิงระบบที่ช่วยสนับสนุนและจัดหาบริการที่มีลักษณะเฉพาะและจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับบริษัทเฉพาะกลุ่ม ตัวอย่างเช่น การช่วยจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานที่มีความเฉพาะและซับซ้อนสูง บริการทางการเงิน บริการด้านการวิจัย และพัฒนาเฉพาะด้าน รวมถึงบริการสนับสนุนการประกอบธุรกิจ หรือการพัฒนาฝึกอบรมบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ เป็นต้น

ประเด็นที่สาม คลัสเตอร์มีลักษณะเป็นโครงสร้างเชิงสถาบัน หรือกาวทางสังคม ที่เชื่อมประสานระหว่างผู้เล่นด้านนวัตกรรมทั้งมหาวิทยาลัย กลุ่มธุรกิจ และหน่วยงานภาครัฐ หรือเครือข่ายระหว่าง 3 ฝ่าย (Golden triangle หรือ Triple Helix) ที่มีความแตกต่างเข้าไว้ด้วยกัน

คลัสเตอร์ จึงมีความสำคัญในแง่ที่ช่วยสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ สร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นประโยชน์ต่อการตั้งอยู่ของกลุ่มบริษัท และดึงดูดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญให้เข้ามาสู่พื้นที่ ก่อให้เกิดการจ้างงาน และการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค และเป็นกิจกรรมที่ส่งผลให้เกิดผลกระทบทางบวกต่อการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันแก่บริษัท หรืออุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ได้ถึง 3 ทาง คือ ช่วยเพิ่มผลิตภาพของบริษัท หรืออุตสาหกรรม ส่งเสริมการยกระดับศักยภาพด้านนวัตกรรม รวมถึงกระตุ้นให้เกิดรูปแบบทางธุรกิจใหม่ที่สนับสนุนการเกิดนวัตกรรมและการขยายตัวของคลัสเตอร์ ซึ่งทาให้บริษัทสามารถหาแนวทางใหม่ หรือแนวทางที่ดีกว่าในการแข่งขันภายในอุตสาหกรรม และสร้างนวัตกรรมได้เร็วกว่าตลาด

ติดตามตอนที่ 2 ว่าด้วย คลัสเตอร์อะไรที่ควรพัฒนาในภูมิภาค ???

เอกสารอ้างอิง:
Bresnahan, T., Gambardella, A., and Saxenian A. (2001). Old economy' inputs for 'new economy' outcomes: cluster formation in the new Silicon Valleys. Industrial and Corporate Change, Oxford University Press, No.4 Vol.10, 2001.
Dzisah, J. and Etzkowitz, H. (2008). Triple helix circulation: the heart of innovation and development. International Journal of Technology Management & Sustainable Development, Vol 7, No 2, Sep 2008, pp. 101-115(15).
Europe INNOVA. (2008). The concept of clusters and cluster policies and their role for competitiveness and innovation: main statistical results and lessons learned. Commission staff working document SEC (2008) 2637.
International Trade Department. (2009). Clusters for competitiveness. A practical guide and policy implications for developing cluster initiatives. 2009.

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/951739
#3776



โบรกฯ มองแนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงตามภูมิภาค วิตกจีนแทรกแซงกลุ่มเทคโนฯ และโควิดระบาดหนัก ทำให้ต้องจับตาการขยายมาตรการล็อกดาวน์หลังผ่าน 14 วันไปแล้ว จะออกมาเป็นอย่างไร

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างติดลบกันทั่วหน้า หลังจากที่ได้ตอบรับผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไปแล้วในระดับหนึ่ง แต่นักลงทุนยังมีความกังวลการแพร่ระบาดโควิด-19 และกังวลจีนแทรกแซงกลุ่มเทคโนโลยี ส่งผลให้ตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นจีนยังปรับตัวลงนำตลาดอื่นในภูมิภาค

นอกจากนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ก็ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจในภูมิภาคลงด้วย นักลงทุนจึงโยกเงินไปเล่นที่ฝั่งสหรัฐฯ และยุโรปกัน ทำให้ตลาดสหรัฐฯ และยุโรปเวลานี้ถือว่าดีมาก

ส่วนบ้านเรายังคงได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อยู่ จากที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันยังอยู่ในระดับสูง ทำให้ต้องจับตาการขยายมาตรการล็อกดาวน์หลังผ่าน 14 วันไปแล้ว จะออกมาเป็นอย่างไร พร้อมให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป ซึ่งอาจมีแรงเก็งกำไรหุ้นที่งบฯออกมาดี และให้ปันผลดีที่ด้วย อย่างหุ้น SCC ให้ปันผลดี รวมถึงอาจมีแรงเก็งกำไรประเด็น M&A แม้จะยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนออกมา

ทั้งนี้ ดัชนีฯไม่ควรหลุดแนวรับ 1,530 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,545-1,550 จุด
URL
 34
 
#3777


โฮมโปร ในฐานะผู้นำเรื่องบ้านครบวงจร TOTAL HOME SOLUTION รับมือกับภาวะวิกฤติ COVID-19 ปรับสินค้าตอบโจทย์ ในช่วงมาตรการล็อกดาวน์ รองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเรื่องบ้านที่ตอบสนองเรื่องความสะอาดภายในบ้านครบวงจร ตลอด 24 ชม. เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส เหมือนยกโฮมโปรมาไว้ที่บ้านคุณ

น.ส.เสาวณีย์ สิราริยกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ "โฮมโปร" เผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการช่วยกันหยุดการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 และสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้โดยเร็วที่สุด จึงทำให้ต้องงดการเดินทางที่ไม่จำเป็น และอาจไม่สะดวกในการใช้ชีวิต โฮมโปรเข้าใจถึงปัญหาของลูกค้าทุกคน เห็นความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเราได้วางแผนตั้งรับสถานการณ์ดังกล่าวเอาไว้แล้ว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าเตรียมสินค้า เพื่อให้มีเพียงพอ เข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าที่เป็นกลุ่มผู้ประกอบการSME และลูกค้าทั่วไป จากการที่ เกิดความกังวลเรื่องการแพร่ระบาด ส่งผลให้ คนส่วนใหญ่ไม่ออกนอกบ้าน คนทำงานก็ทำงานที่บ้านมากขึ้น เราจึงคัดสรรสินค้าที่สนองตอบไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป สามารถช้อปเรื่องบ้าน ผ่านทุกช่องทางออนไลน์ของโฮมโปร เพื่อเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าตลอด 24 ชม.



"โฮมโปร ในฐานะผู้นำเรื่องบ้านครบวงจร TOTAL HOME SOLUTION ได้เตรียมรับมือกับปัญหาวิกฤติไวรัสโควิด 19 ( COVID-19 ) จึงได้เตรียมสต็อกสินค้าไว้รองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น โดยแบ่งกลุ่มสินค้าเป็น Stay Safe Stay Home อยู่บ้านให้ปลอดภัย กลุ่มสินค้าเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID -19 ของใช้ส่วนตัวที่ทุกคนต้องมี กระดาษอเนกประสงค์ , หน้ากากอนามัยการแพทย์ , เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ , ถุงมือยาง , สบู่เหลวล้างมือ, สเปรย์ทำความสะอาดฆ่าเชื้ออเนกประสงค์ , ตะกร้าผ้า , ผ้าขนหนู,อุปกรณ์จำเป็น ตู้ลิ้นชัก 4 ชั้น ,โต๊ะอเนกประสงค์เหลี่ยม , เก้าอี้พลาสติก , มุ้งชุดผ้าปูที่นอนหมอนข้าง, หมอนหนุน , ราวพาดผ้าสแตนเลสและเครื่องใช้ไฟฟ้า รางปลั๊กไฟ , พัดลมตั้งโต๊ะ , ตู้เย็น 1 ประตู , กาต้มน้ำไฟฟ้า , ไมโครเวฟ หม้อหุงข้าว , เครื่องซักผ้าฝาบน , เครื่องปิ้งขนมปัง



ทั้งนี้โฮมโปรพร้อมมอบประสบการณ์การซื้อของที่สะดวกสบาย และไร้รอยต่อให้แก่ลูกค้า ตอบโจทย์ทุกความต้องการ และทุกไลฟ์สไตล์จากที่บ้านตลอด 24 ชม. เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส เหมือนยกโฮมโปรมาไว้ที่บ้านคุณ บริการ CHAT SHOP4YOU เพียงทักมาเราช่วยช้อปแทนลูกค้า เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัว ทั้งยังช่วยเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เพียง สั่ง > จ่าย > ส่ง แค่ 3 ขั้นตอนง่ายๆ สั่งได้ที่ช่องทาง Line @HomePro,Facebook HomePro Thailand, จ่ายง่ายสะดวกหลากหลายช่องทางการชำระเงิน ผ่านเงินโอน / โอนเงิน / พร้อมเพย์ / อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง / คิวอาร์เครดิต / บัตรเครดิต /
เดบิตกับธนาคารชั้นนำ ช้อปออนไลน์สะดวก24 ชั่วโมงที่ www.homepro.co.th หรือดาวน์โหลด Mobile Application HomePro APP แอปเดียวครบ จบทุกเรื่องบ้าน โดยลูกค้าสามารถเลือก
ดูสินค้าเรื่องบ้านมากมาย ครบทุกหมวดหมู่ พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้ม จะเลือกรับด้วยตนเองที่สาขากับบริการ Click &Collect หรือบริการส่งถึงหน้าบ้าน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบัน เราพร้อมให้บริการด้วยมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเต็มกำลัง
#3778



อุรกวัยจะฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์ เป็นเข็มกระตุ้น ให้แก่ประชาชนที่ฉีดวัคซีนทีมีประสิทธิภาพน้อยกว่าของซิโนแวคครบ 2 เข็มแล้ว ราว 2 สัปดาห์หลังจากประเทศในอเมริกาใต้แห่งนี้ตรวจพบผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์เดลตา

90 วันหลังจากฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 2 ประชาชนในอุรุกวัยสามารถเข้าฉีดวัคซีนชนิด mRNA ของไฟเซอร์ จากการเปิดเผของกราเซียลา เปเรซ หัวหน้าฝ่ายภูมิคุ้มกันของกระทรวงสาธารณสุข พร้อมระบุว่ารัฐบาลจะฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 แก่ประชาชนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันต้านทานตัวกลายพันธุ์ต่างๆของโควิด-19 ในนั้นรวมถึงเดลตา และโครงการดังกล่าวในเดือนสิงหาคม

"การฉีดวัคซีนจะไม่ใช่การบังคับ" เธอบอกกับผู้สื่อข่าวในกรุงมอนเตวิเดโอ และบอกว่าอุกรุกวัยสั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์มากพอสำหรับฉีดแก่ประชาชนเกือบ 1.5 ล้านคนที่เข้าเกณฑ์ฉีดเข็มกระตุ้น

อุรุกวัยกลายเป็นชาติล่าสุดในหลายประเทศ ในนั้นรวมถึงสาธารณรัฐโดมินิกัน ไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่มีแผนฉีดวัคซีน mRNA ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในคนฉีดวัคซีนสัญชาติจีน ด้วยความหวังว่ามันจะมอบประสิทธิภาพการป้องกันที่ดีขึ้นต่อตัวกลายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายเชื้อได้ง่ายมาก

ทั้งนี้ อุรุกวัย ซึ่งมีประชากรราว 3.5 ล้านคน ฉีดวัคซีนประชาชนไปแล้วมากกว่า 61% โดยใช้วัคซีนของทั้งซิโนแวค ไฟเซอร์และแอสตร้าเซนเนก้า จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ตามวัคซีนซิโนแวค คิดเป็นเกือบ 2 ใน 3 ของประชาชนมากกว่า 5.9 ล้านคนที่ฉีดวัคซีนแล้วในอุรุกวัย

(ที่มา:บลูมเบิร์ก) https:// m.mgronline.com/around/detail/9640000074435
#3779



กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ รายงาน การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเดือนมิถุนายน 2564 มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่จำนวน 6,093 รายเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ก่อน (มิถุนายน 2563) และการจดทะเบียนนิติบุคคล จัดตั้งธุรกิจใหม่ในครึ่งปีแรกของปี 2564 มีจำนวน 41,022 ราย เพิ่มขึ้นถึง 23% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ก่อน (มกราคม - มิถุนายน 2563)  ในขณะที่การจดทะเบียนเลิกธุรกิจในเดือนมิถุนายน มีจำนวน1,048 ราย ลดลง จากช่วงเดียวกันของเดือนก่อนหน้า 22% และการจดทะเบียนเลิกในครึ่งปีแรกของปี 2564มีจำนวน 4,930 ราย เทียบช่วงเวลาเดียวกันปี 2563 ลดลง ถึง 21%


ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของจำนวนการจดทะเบียนนิติบุคคลจัดตั้งใหม่ และการลดลงของจำนวนการจดทะเบียนเลิกธุรกิจในครึ่งปีแรกนั้น อาจมีผลมาจากปัจจัยหนุนด้านเศรษฐกิจ เช่น การฟื้นตัวของตัวเลขการส่งออกจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว และมาตรการการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ อย่างไรก็ตามดัชนีความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจในเดือนมิถุนายน 2564 ของธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ที่ 46.5 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเพียงเล็กน้อย และยังอยู่ต่ำกว่า 50 สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่ยังมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 ที่อาจยืดเยื้อและมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น

เมื่อพิจารณาการเพิ่มขึ้นของจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในครึ่งปี 2564 ส่วนหนึ่งสอดรับกับพฤติกรรมของประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไปจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่น ธุรกิจสร้างแม่ข่ายมีจำนวนจัดตั้งใหม่ทั้งสิ้น 262 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 28 เท่า และ ธุรกิจปลูกพืชประเภทเครื่องเทศ เครื่องหอม ยารักษาโรค และพืชทางเภสัชภัณฑ์มีจำนวนจัดตั้งใหม่ทั้งสิ้น 112 รายเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 10 เท่า รวมถึงนโยบายการผลักดันให้วิสาหกิจชุมชนจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลของภาครัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลให้การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตามการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงมีแนวโน้มกระจายเป็นวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและธุรกิจ อาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการทั้งความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจและสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ซึ่งจะต้องมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
#3780



ราคาทองวันนี้พฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม 2564 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.27 น. ปรับขึ้น 200 บาท เมื่อเทียบกับประกาศราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของวันพุธ ที่แม้ตลอดทั้งวันมีการประกาศราคาทองทั้งหมด 3 รอบ แต่รวมแล้วคงที่ไม่เพิ่มไม่ลดจากราคาซื้อขายเมื่อวันอังคาร

ราคาซื้อขายทองคำในประเทศชนิด 96.5% วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม2564 (ประกาศครั้งที่ 1)

ราคาทองรูปพรรณ ขายออกบาทละ 28,750 บาท รับซื้อบาทละ 27,636.68 บาท

ราคาทองแท่ง ขายออกบาทละ 28,250 บาท
รับซื้อบาทละ 28,150 บาท

ราคาทองคำ Spot เช้านี้ปรับตัวขึ้นสู่บริเวณ 1,815 ดอลลาร์ หลังจากราคาทองคำโคเม็กซ์ปิดตลาดเมื่อคืนที่ผ่านมาลดลงเล็กน้อย 10 เซนต์ สู่บริเวณ 1,799.7 ดอลลาร์ ก่อนที่จะทราบผลการประชุมคณะกรรมการ FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม และคงมาตราการผ่อนคลายทางการเงินต่อไป นอกจากนี้ ยังส่งสัญญาณไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าตลาดแรงงานสหรัฐจะแข็งแกร่ง

ราคาทองคําฮ่องกงเปิดตลาดเช้านี้เพิ่มขึ้น 80 ดอลลาร์ฮ่องกง สู่ระดับ 16,790 ดอลลาร์ฮ่องกง