• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

ราคาข้าวเปลือกจ่อปากเหว 3 เดือนร่วง 20%ลุ้นส่งออกช่วยพยุง

Started by Thetaiso, September 01, 2021, 01:23:30 AM

Previous topic - Next topic

Thetaiso



จากข้อมูลของกรมศุลกากร การส่งออกข้าวในช่วง 7 เดือนแรกของปี (ม.ค.-ก.ค. 2564) มีปริมาณ 2,587,170 ตัน  ลดลง 22.4%เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 ที่มีการส่งออกปริมาณ 3,332,200 ตัน ด้านมูลค่า 48,973 ล้านบาท  หรือ 1,608.4 ล้านดอลลาร์  ลดลง 30.1% เทียบดับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี มูลค่า 70,031.4 ล้านบาท  หรือ 2,240.4 ล้านดอลลาร์  


รังสรรค์ สบายเมือง นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า สถานการณ์ราคาข้า่วมีแนวโน้มทรงตัวหลังจากก่อนหน้านี้ปรับตัวลดลงประมาณ 20% เทียบจากช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา หรือ ราคาลดลงจากเฉลี่ยราคาข้าวเปลือกเจ้า ที่ตันละ 10,000 -10,500 บาท มาอยู่ที่ 7,000-8,000บาท  

สาเหตุสำคัญมาจากไทยผลิตข้าวได้มากกว่าปริมาณความต้องการบริโภคในประเทศเท่าตัวทำให้การส่งออกเป็นเงื่อนไขสำคัญประการหนึ่งต่อราคาข้าวเปลือกในประเทศที่ก่อนหน้านี้ ราคาข้าวไทยสูงเมื่อเทียบกับผู้ส่งออกข้าวจากประเทศอื่นๆทำให้แข่งขันไม่ได้ ปริมาณการส่งออกจึงลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อราคาภายในประเทศ ประกอบกับช่วงนี้เป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวออกสู่ตลาดมาก 

อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกันยังพบปัจจัยที่เอื้อต่อการส่งออกในขณะนี้คือ เงินบาทอ่อนค่า และราคาข้าวไทยที่อ่อนตัวลงทำให้ปัจจุบันสามาถแข่งขันได้และพบว่าไทยมีคำสั่งซื้อข้าวมากขึ้นเพราะมีศักยภาพในการส่งออกที่ดีอยู่แล้ว

ทั้งนี้ ราคาข้าวที่ลดลงอย่างมากแม้ไม่กระทบต่อชาวนาโดยตรงเพราะมีโครงการประกันรายได้ซึ่งกำหนดรายได้ชาวนาจากการขายข้าวไว้ที่ ตันละ 10,000 บาท (ข้าวเปลือกเจ้า)ทำให้ชาวนาสามารถได้รับส่วนต่างจากราคาตลาดกับราคาประกันจากรัฐบาลได้ทำให้ผลกระทบไม่สูงมากแม้ปีนี้ชาวนาจะเผชิญกับปัญหาปัจจัยการผลิตที่สูงขึ้นตามทิศทางราคาโลก ทั้ง ปุ๋ยเคมี ยาปราบศัตรูพืช และปัจจัยอื่น 


จากสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกลดลงขณะนี้ ทำให้ภาครัฐต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายในโครงการประกันรายได้ที่เพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยโครงการประกันรายได้ปีนี้  คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ(นบข.) ที่ีมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน กำหนดงบประมาณไว้ที่ 89,000 ล้านบาท เพื่อจ่ายชดเชยส่วนต่างราคาข้าว พร้อมช่วยปัจจัยการผลิตให้ชาวนา ที่ไร่ละ 1,000 บาท จำนวน 20 ไร่ ต่อ 1 ครัวเรือน คิดเป็นเงินประมา 59,000 ล้านบาท 

เบื้องต้นปีนี้เชื่อว่าจะมีปริมาณข้าวออกสู่ตลาดจำนวนมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา จากจำนวนชาวนาและพื้นที่ปลูกข้าวที่มากขึ้น ประมาณ 4.6 ล้านครัวเรือน ในพื้นที่รวมประมาณ 60 ล้านไร่  แต่ปริมาณน้ำฝนที่ค่อนข้างมากในขณะนี้ก็เป็นอีกหัวเลี้ยวหัวต่อว่า หากน้ำฝนมากเกินไปก็อาจทำให้น้ำท่วมนาข้าวจนผลผลิตไม่ได้ตามที่ตั้งใจไว้ ดังนั้น สถานการณ์ราคาข้าวจึงยังมีความผันผวนได้อีกจากนี้ 

รายงานข่าวจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุว่า การส่งออกข้าวในเดือนก.ค. 2564 มีปริมาณ 419,578 ตัน มูลค่า 7,466 ล้านบาท โดยปริมาณและมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น 7.6% และ 4.9% เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. 2564 ที่มีการส่งออกปริมาณ 389,331 ตัน มูลค่า 7,115 ล้านบาท        เนื่องจากในช่วงนี้ราคาข้าวของไทยปรับลดลงตามภาวะตลาดและค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ทำให้สามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งที่สำคัญโดยเฉพาะอินเดียได้ ส่งผลให้การส่งออกข้าวนึ่งมีปริมาณเพิ่มขึ้นมากจากเดือนก่อน 

โดยในเดือนก.ค. 2564 มีการส่งออกข้าวนึ่งปริมาณ 175,522 ตัน เพิ่มขึ้น 107.4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ส่วนใหญ่ส่งไปยังตลาดหลัก เช่น แอฟริกาใต้ เยเมน เบนิน ไนเจอร์ แคเมอรูน เป็นต้น อย่างไรก็ตามในส่วนของข้าวขาวมีการส่งออกลดลง 33.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยมีปริมาณ 136,501 ตัน ส่วนใหญ่ส่งไปประเทศจีน ญี่ปุ่น แองโกล่า แคเมอรูน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นต้น ขณะที่การส่งออกข้าวหอมมะลิ (ต้นข้าว) มีปริมาณ 74,850 ตัน เพิ่มขึ้น 21.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่งไปยังตลาดหลักคือ สหรัฐฯ ฮ่องกง แคนาดา ฝรั่งเศส สิงคโปร์ จีน เป็นต้น

สมาคมฯคาดว่าในเดือนส.ค. 2564 ปริมาณส่งออกข้าวจะมีมากกว่า 600,000 ตัน เนื่องจากราคาข้าวของไทยปรับลดลงมาอยู่ในระดับที่ไม่ห่างจากคู่แข่งมากนัก ขณะที่ความต้องการข้าวในตลาดต่างประเทศ ทั้งที่แอฟริกา ตะวันออกกลาง และเอเชียยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะยังคงมีปัญหาด้านลอจิสติกส์อยู่บ้างในบางเส้นทางเดินเรือ เช่น อเมริกา และยุโรป ที่ค่าระวางเรือยังคงอยู่ในระดับที่สูงมากเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้คาดว่าการส่งออกข้าวขาวและข้าวนึ่งจะมีปริมาณเพิ่มขึ้น จากช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยให้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ปริมาณส่งออกจะอยู่ที่ประมาณเดือนละ 600,000-700,000 ตัน ซึ่งจะทำให้ในปีนี้ประเทศไทยสามารถส่งออกได้ตามเป้าหมายที่ 6 ล้านตัน

ด้านราคาข้าวในช่วงนี้ข้าวขาว 5% ของไทยราคาอยู่ที่ 409 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่ราคาข้าวขาว 5% ของเวียดนาม อินเดีย และปากีสถาน อยู่ที่ 398-402, 368-372 และ 353-357 ดอลลาร์ต่อตัน ตามลำดับ ส่วนข้าวนึ่งของไทยราคาอยู่ที่ 415 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่ราคาข้าวนึ่ง ของอินเดีย และปากีสถาน อยู่ที่ 348-352 และ 396-400 ดอลลาร์ต่อตัน ตามลำดับ