• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

“เน็กซ์” ปักธงฉะเชิงเทรา ลุยธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า

Started by Cindy700, October 07, 2021, 05:25:03 PM

Previous topic - Next topic

Cindy700

"เน็กซ์" ติดเครื่องยานยนต์ไฟฟ้าเต็มสูบ หลังโรงงานผลิตในไทยจ่อเปิด พ.ย.นี้ เร่งออเดอร์แรก 500 คัน หนุนรถร่วมขนส่ง และภาคเอกชน พร้อมปูพรมขยายตลาด ดันปีหน้า 6 พันคัน ลั่น 5 ปีไทยเปลี่ยนผ่านขับเคลื่อนด้วยอีวี
แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ในประเทศไทยจะขยายตัวมากขึ้น ซึ่งทำให้มีผู้ประกอบการหลายรายสนใจเข้ามาลงทุนในธุรกิจนี้ รวมถึงบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ที่เตรียมจะเปิดสายการผลิตโรงงานประกอบยานยนต์ไฟฟ้าที่ จ.ฉะเชิงเทรา  ซึ่งจะทำให้ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จะกลายเป็นฐานการผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่ทำคัญของประเทศไทย

บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) ได้เร่งทำการตลาดและตั้งเป้าหมายทำการผลิตในปี 2565 ให้ได้ถึง 6,000 คัน ซึ่งการผลักดันดังกล่าวจะทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านสู่อีวีภายใน 5 ปี

อ่านข่าว : ไทยเบฟ ปลดล็อก อาณาจักรอาหารเครื่องดื่ม ลุยซัพพลายเชน รถอีวี

คณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) และการดำเนินธุรกิจ โดยระบุว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยตื่นตัวกับการปรับเปลี่ยนมาใช้รถอีวีเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งเน็กซ์ประเมินว่าอาจจะมาจากการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของรถอีวี ที่ช่วยลดต้นทุนเชื้อเพลิงได้ถึง 50% หากเทียบกับน้ำมัน

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันเน็กซ์อยู่ระหว่างเตรียมพร้อมเปิดโรงงานผลิตและประกอบรถอีวีในไทยแบบ 100% เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเปิดโรงงานดังกล่าวภายในเดือน พ.ย.2564 พร้อมเริ่มกำลังการผลิตรถอีวีตามคำสั่งจองของลูกค้าที่ขณะนี้มีเข้ามาราว 500 คัน โดยส่วนใหญ่เป็นรถอีวีประเภทรถขนส่งสาธารณะ และรถขนส่งสินค้า ซึ่งคาดว่าจะเร่งการผลิตเพื่อทยอยส่งมอบให้แล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.นี้

"ปีนี้จะเป็นปีแรกที่เราเริ่มเปิดโรงงานผลิตชิ้นส่วน และประกอบรถอีวีในไทย จากที่ก่อนหน้านี้เรารับออเดอร์และนำเข้ารถมาจากต่างประเทศ ซึ่งหลังจากนี้รถอีวีของเน็กซ์ เรียกได้ว่าทำที่ไทย 100% ทั้งตัวรถ แบตเตอร์รี่ และชิ้นส่วนอื่นๆ มีเพียงบางชิ้นเท่านั้นที่ต้องนำเข้า"

"เน็กซ์" ปักธงฉะเชิงเทรา ลุยธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า

สำหรับโรงงานผลิตยานยนต์ในไทยนี้ มีกำลังการผลิตได้เฉลี่ยเดือนละ 250 คัน และสูงสุดถึง 500 คัน ซึ่งในปี 2565 เน็กซ์ตั้งเป้าว่าจะมียอดสั่งซื้อรถอีวีเข้ามาเต็มกำลังการผลิต หรือสูงสุด 6,000 คัน และจะสามารถสร้างรายได้ประมาณ 24,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการคำนวณจากราคายานยนต์เฉลี่ยราว 4 ล้านบาทต่อคัน โดยลูกค้ากลุ่มหลักยังประเมินเป็นรถสาธารณะ และขนส่งสินค้า

คณิสสร์ ยังเผยด้วยว่า เน็กซ์ถือเป็นบริษัทที่ริเริ่มเข้ามาทำธุรกิจรถอีวีในไทย และเป็นรายแรกที่ตั้งโรงงานการผลิต นอกจากนี้เรายังมีศูนย์ซ่อมบำรุง ศูนย์บริการ ช่องทางจัดจำหน่าย จึงเรียกได้ว่าเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถอีวีอย่างครบวงจรรายแรก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า อีกทั้งจากผลิตรถอีวีในไทยนั้นยังช่วยลดต้นทุนการนำเข้า ทำให้เน็กซ์สามารถขายยานยนต์ในราคาจับต้องได้

ขณะที่แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจนี้ในไทย จากความตื่นตัวของตลาด ประกอบกับราคารถอีวีที่ไม่สูงมาก และเน็กซ์เลือกเจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มรถกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีปริมาณมาก และมีการใช้งานสูง อาทิ รถบัสโดยสาร รถร่วมในระบบขนส่งสาธารณะ รถขยะ รถน้ำ และรถ 6 ข้อขึ้นไป ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีคู่แข่งในตลาดนี้ที่เป็นรถอีวี ดังนั้นเมื่อรถอีวีของเน็กซ์เป็นราคาที่จับต้องได้ และสามารถลดต้นทุนเชื้อเพลิงให้กับผู้ประกอบการ จึงทำให้เกิดจุดคุ้มทุนได้เร็ว เป็นอีกทางเลือกที่ผู้ประกอบการกลุ่มนี้กำลังให้ความสนใจ

"อยากให้เห็นภาพว่าปีแรกของการเปิดโรงงาน วันนี้เรามีออเดอร์อยู่ในมือแล้ว 500 คัน และเทรนด์รถอีวีในภาคอุตสาหกรรมกำลังได้รับการตอบรับดี ปีหน้าก็เชื่อว่าจะสามารถเพิ่มออเดอร์ได้เต็มกำลังการผลิตของโรงงาน"

นอกจากนี้ เน็กซ์ยังประเมินว่าแนวโน้มการเติบโตของรถอีวีในประเทศไทย อีก 5 ปีข้างหน้า จะเห็นการเปลี่ยนผ่านของอีวี ผู้บริโภคจะหันมาเลือกใช้รถอีวีเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งเชื่อว่าในช่วงดังกล่าวยอดการจดทะเบียนรถใหม่ ส่วนใหญ่จะเป็นรถอีวี ทำให้สัดส่วนรถอีวีจะเพิ่มขึ้นเป็น 50% ของรถยนต์ในประเทศ และรถยนต์ที่ใช้น้ำมันอีก 50% ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในปีที่ 10 ประเทศไทยจะก้าวไปสู่ประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยอีวี

ทั้งนี้ ในฐานะภาคเอกชนมองว่าหากประเทศไทยจะก้าวไปสู่การเปลี่ยนผ่านดังกล่าวอย่างสมบูรณ์นั้น ต้องเริ่มการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ขณะนี้ และภาครัฐเป็นส่วนสำคัญของการกระตุ้นอุตสาหกรรมได้ โดยเริ่มจากการสนับสนุนเงินทุนแก่ภาคเอกชนที่นำมาจากกองทุนเกี่ยวกับน้ำมัน เพราะหากต้องการกระตุ้นให้ใช้น้ำมันลดลง การนำเข้าก็จะลดลง และทำให้เหลือเงินส่วนดังกล่าวที่สามารถนำมาสนับสนุนธุรกิจอีวีได้

อีกทั้งภาครัฐยังมีขีดความสามารถในการออกนโยบายเปลี่ยนรถขนส่งสาธารณะจากการใช้เชื้อเพลิงน้ำมันให้มาใช้พลังงานไฟฟ้า โดยหากรัฐมีนโยบายดังกล่าว จะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมอีวีได้เป็นอย่างดี อีกทั้งจะช่วยลดต้นทุนให้กับรถโดยสารสาธารณะด้วย เนื่องจากรถประเภทนี้จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุสูง ทำให้ไม่ต้องสร้างจุดชาร์จไฟฟ้าหลายแห่ง ดังนั้นนอกจากลดต้นทุนเชื้อเพลิงแล้ว ยังลดต้นทุนการสร้างสถานีชาร์จ

สำหรับปัจจุบันเน็กซ์มีลูกค้ารถอุตสาหกรรมที่ส่วนใหญ่เป็นภาคเอกชน อาทิ บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด รถร่วมบริการ ขสมก. ล่าสุดได้รับมอบรถบัสอีวีเพื่อทดแทนรถโดยสารคันเก่า ให้บริการ 10 เส้นทาง รวมไปถึงบริษัท ล็อตเต้ เรนท์-อะ-คาร์ (ไทยแลนด์) จำกัด จัดซื้อบัสอีวี 87 คัน เพื่อให้บริการเส้นทางระหว่างจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

"ธุรกิจรถอีวีในกลุ่มรถอุตสาหกรรมยังเรียกว่าเป็น Blue Ocean ลูกค้าในตลาดนี้ถือเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ อีกทั้งในพื้นที่อีอีซีซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิต ยังมีนโยบายในการส่งเสริมให้รถที่ใช้ในอีอีซี ต้องเป็นรถอีวี นับเป็นอีกโอกาสที่กำลังจะเกิดขึ้น"