• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

ส.ค้าปลีก ชงแผนฟื้นเศรษฐกิจ พิษไวรัสมรณะพัง 8 แสนล้าน

Started by Shopd2, November 01, 2021, 05:39:43 PM

Previous topic - Next topic

Shopd2

สมาคมผู้ค้าปลีกไทยเผยโควิดส่งผลกระทบหนัก คนไทยติดเชื้อรวม 1.85 ล้านราย ส่งผลให้มูลค่าค้าปลีกและบริการสูญหายกว่า 8 แสนล้านบาท มีคนว่างงานเพิ่มขึ้น3.2 ล้านคน หนี้ภาคธุรกิจและครัวเรือนเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เสนอแผน 7S Recoveryเร่งฟื้นฟูประเทศ หวังปลุกเศรษฐกิจไทยโค้งแรกปี 65 ฟื้น 1.5 ล้านล้านบาท

เมื่อวันที่ 31 ต.ค.64 นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า ไทยเป็นหนึ่งในประเทศภูมิภาคอาเซียนที่เศรษฐกิจขยายตัวต่ำสุด และยังมีแผลเป็นทางเศรษฐกิจที่ลึกและกว้าง เมื่อเทียบกับประเทศอื่นที่ได้รับผลกระทบจากโควิด รัฐบาลจึงต้องเร่งเครื่องเพื่อผลักดันให้ฟื้นตัวโดยเร็วจากปัจจุบันที่จีดีพีติดลบอย่างต่อเนื่องด้วยการวางกลยุทธ์และแผนรองรับในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาว แนวทางของการฟื้นฟูจึงควรต้องเริ่มจากการกระตุ้นการบริโภคภาคเอกชนไปจนถึงการวางรากฐานเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืน

ทั้งนี้ สมาคมฯ ขอนำเสนอแนวทาง 7 S Recovery เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยโดยเร่งด่วน ดังนี้ 1.Stimulus Consumption ประเทศไทย ณ ขณะนี้ต้องการการฟื้นฟูเศรษฐกิจทั้งระบบไม่ใช่แค่เยียวยา แต่ต้องเป็นการฟื้นฟูให้ลุกขึ้นมาเดินหน้าธุรกิจ ก้าวแรกคงต้องเป็นหน้าที่ภาครัฐที่ต้องอัดฉีดเม็ดเงิน เข้าสู่ระบบอย่างรวดเร็ว ตรงเป้า และมีประสิทธิภาพเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ ส่งเสริมให้คนไทย เที่ยวไทย ใช้ของไทยในช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องถึงไตรมาสหนึ่งของปีหน้า (พ.ย.64-มิ.ย.65)

ขณะเดียวกัน ต้องเพิ่มวงเงินโครงการคนละครึ่ง และยิ่งใช้ยิ่งได้ รวมทั้งนำโครงการช้อปดีมีคืนกลับมาใช้โดยเพิ่มวงเงินเป็น 2 แสนบาท จากเดือนธันวาคมข้ามปีจนถึงเดือนก.พ.65 รัฐบาลจะต้องมีนโยบายลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน เพื่อเพิ่มกำลังซื้อแก่ผู้บริโภค ด้วยการลดค่าสาธารณูปโภค ค่าอินเตอร์เน็ต นับจากเดือนธ.ค.64-มิ.ย.65โดยรวมแล้ว S แรก จะสามารถสร้างเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ จากนี้ไปจนถึงเดือนมิ.ย.65 ไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านล้านบาท หรือราว 10% ของ GDP

2.Support Employment การแพร่ระบาดของโควิดส่งผลกระทบต่อการจ้างงานโดยเฉพาะภาคการค้าและบริการที่มีการจ้างงานกว่า 11.2 ล้านคน และส่วนใหญ่ก็เป็นแรงงานนอกระบบ ซึ่งคาดว่าแรงงานในกลุ่มนี้จะมีคนว่างงานและผู้เสมือนว่างงาน (ผู้ที่ทำงานไม่ถึง 4 ชั่วโมงต่อวัน) ไม่น้อยกว่า 3.2 ล้านคน ภาครัฐต้องมีนโยบายมาตรการรักษาการจ้างงาน ลดภาระค่าใช้จ่ายด้วยมาตรการภาษี เพื่อไม่ให้มีการลดพนักงานหรือเลิกจ้าง ทดลองใช้การจ้างงานแบบรายชั่วโมง เพื่อให้สอดคล้องกับการบริการต่อผู้บริโภคที่มาเป็นช่วงเวลา โดยให้ใช้กับธุรกิจค้าปลีกและร้านอาหารเป็นการเฉพาะก่อน มาตรการ Upskill Reskill และ New Skill แก่แรงงานเพื่อให้ทักษะตรงตามความต้องการ และส่งเสริมการเรียนรู้ทางออนไลน์บนแพลตฟอร์มของกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

3.Strengthen SME จากข้อมูลของ สสว. พบว่า จำนวน SME ทั่วประเทศ มีกว่า 3,070,177 ราย ซึ่ง 44.58% อยู่ในภาคการค้าปลีก และ 35.73% อยู่ในภาคบริการ อาหารและเครื่องดื่ม รัฐต้องจัดหาแหล่งเงินทุนอย่างเร่งด่วน เพื่อพยุง SME เหล่านี้ ให้อยู่รอด โดยเฉพาะ SME ขนาดย่อมที่เข้าถึงแหล่งทุนได้ยากกว่ารายใหญ่ รวมทั้งควรมีมาตรการพักทรัพย์พักหนี้ให้กับ SME ราย ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพื่อให้ธุรกิจกลับมาฟื้นตัวโดยเร็ว รักษาระดับการจ้างงาน ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจไทยกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้ง