ก.ล.ต. ร่วมกับสมาคมบลจ.ฮ่องกงจัด Hong Kong-Thailand Business

[Cindy700]

ก.ล.ต. ร่วมกับสมาคมบลจ.ฮ่องกงจัด Hong Kong-Thailand Business Matching Day ครั้งที่ 3

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมกับสมาคมบริษัทจัดการลงทุนฮ่องกง (Hong Kong Investment Funds Association : HKIFA) จัดงาน Hong Kong-Thailand Business Matching Day ครั้งที่ 3 เพื่อเปิดโอกาสทางธุรกิจและแลกเปลี่ยนมุมมองในการเสนอขายกองทุนรวมระหว่างกันภายใต้โครงการจัดการลงทุนระหว่างเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและไทย (Mutual Recognition of Funds between Hong Kong Special Administrative Region of the People's Republic of China and Thailand : HK-TH MRF)

งานจับคู่ธุรกิจในครั้งนี้ ซึ่งได้จัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมกองทุนรวมของฮ่องกงและไทยมีโอกาสได้พบปะและหารือ เพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจและแลกเปลี่ยนมุมมองในการเสนอขายกองทุนรวมระหว่างกันภายใต้โครงการ HK-TH MRF ซึ่งจะช่วยให้แต่ละฝ่ายเข้าใจถึงสภาพของตลาดและสถานการณ์ปัจจุบันในฮ่องกงและไทย เพื่อให้การเสนอขายกองทุนรวมระหว่างกันทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากที่สุด

โดยภายในงานยังได้จัดให้มีการบรรยายโดยผู้เชี่ยวชาญด้านกองทุนรวมในฮ่องกง มาร่วมแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับภาพรวมของอุตสาหกรรมกองทุนรวม บทบาทของตัวแทนโอนเงินระหว่างประเทศ และระบบภาษีของฮ่องกง ให้แก่ผู้แทนจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ผู้ดูแลผลประโยชน์ และตัวแทนขายหน่วยลงทุนของไทย รวม 29 แห่ง เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า "ก.ล.ต. ให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้ตลาดทุนไทยแข่งขันได้ รวมถึงการสร้างโอกาสจากความเชื่อมโยงระหว่างประเทศ โดยหนึ่งในแผนงานที่สำคัญของ ก.ล.ต. คือการยกระดับความร่วมมือระหว่างฮ่องกงกับไทย เพื่อผลักดันความเชื่อมโยงของทั้งสองตลาด อันจะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกอบธุรกิจในการขยายฐานผู้ลงทุน รวมทั้งเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ลงทุน ทั้งนี้ ก.ล.ต. มีความยินดีที่ได้ร่วมกับ HKIFA จัดงานจับคู่ธุรกิจในวันนี้ ต่อเนื่องจากครั้งก่อน และหวังว่าความร่วมมือนี้จะช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบธุรกิจฮ่องกงและไทยได้พบปะและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีเพื่อนำไปสู่การหารือในการทำธุรกิจ ซึ่งจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ของตลาดทุนฮ่องกงและไทยยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต"

Mrs. Sally Wong, Chief Executive Officer ของ HKIFA กล่าวว่า "HKIFA สนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจในการดำเนินการภายใต้โครงการ HK-TH MRF โดย HKIFA ยินดีที่ได้ร่วมมือกับ ก.ล.ต. อย่างต่อเนื่อง ในการสานต่อแผนการจัดงานเพื่อการแลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างผู้ประกอบธุรกิจฮ่องกงและไทย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการร่วมมือของทั้งสองหน่วยงาน จะช่วยแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของผู้ประกอบธุรกิจในทั้งสองตลาด รวมทั้งจะช่วยเพิ่มโอกาสทางการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนฮ่องกงและไทย"

โครงการ HK-TH MRF เป็นอีกหนึ่งกรอบความร่วมมือที่จะอำนวยความสะดวกแก่ บลจ. ในการเสนอขายหน่วยลงทุนในต่างประเทศ เพิ่มเติมจากโครงการ ASEAN Collective Investment Schemes (ASEAN CIS) และ Asia Region Funds Passport (ARFP) ซึ่งประกาศใช้ในปี 2557 และ 2562 ตามลำดับ