• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

คลัง เผยศก.ไทย ก.พ.ได้ปัจจัยหนุนจากบริโภคภาคเอกชน-ส่งออก-ท่องเที่ยว

Started by Fern751, March 31, 2022, 04:34:50 PM

Previous topic - Next topic

Fern751

คลัง เผยศก.ไทย ก.พ.ได้ปัจจัยหนุนจากบริโภคภาคเอกชน-ส่งออก-ท่องเที่ยว
 
.นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ว่า เศรษฐกิจไทยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชน โดยเฉพาะในหมวดสินค้าคงทน การส่งออกสินค้า และภาคการท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนอย่างใกล้ชิด

โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 27.7% และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล 1.1% สอดคล้องกับการบริโภคสินค้าคงทน สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่ง และปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 19.1% และ 14.4% และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล 0.2% และ 7.8% ตามลำดับ และรายได้เกษตรกรที่แท้จริง ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ขยายตัวเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 3.2%

อย่างไรก็ดี ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลดลงมาที่ระดับ 43.3 จากระดับ 44.8 ในเดือนมกราคม 2565 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ Omicron และผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ส่งผลให้ราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น

เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 29.8% และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ 8.2% สำหรับการลงทุนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 0.6% แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ -0.7% ขณะที่ภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 5.2% และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ 4.1%

มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 อยู่ที่ 23,483 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันที่ 16.2% โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกไปประเทศคู่ค้าหลักของไทยที่ขยายตัวต่อเนื่องในเกือบทุกตลาด อาทิ อาเซียน 5 ฮ่องกง เกาหลีใต้ สหรัฐฯ และอินเดีย

เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยภาคเกษตร สะท้อนจาก ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 8.5% และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ 3.4% จากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตสำคัญ เช่น ข้าวเปลือก ยางพารา ไข่ไก่ และสินค้าในหมวดประมง เป็นต้น

สำหรับด้านบริการด้านการท่องเที่ยว ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวม จำนวน 152,954 คน โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากรัสเซีย เยอรมนี ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 จำนวน 15.28 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 72.4% และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ 17.6%

ขณะที่ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 86.7 จากระดับ 88.0 ในเดือนมกราคม 2565 เนื่องจากมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron ที่พบผู้ติดเชื้อมากขึ้น และความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้ราคาพลังงานเพิ่มขึ้น และส่งผลต่อต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการสูงขึ้น

เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้มีปัจจัยกดดันจากระดับราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 อยู่ที่ 5.28% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 1.8% ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2565 อยู่ที่ 59.9% ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 อยู่ในระดับสูงที่ 245.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ