• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - deam205

#3681


LH Bank ตอกย้ำบทบาทการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินแบบครบวงจร เปิดตัวผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยใหม่ ภายใต้แคมเปญ LH Bank The Premium Lives' Advisor คัดสรรทุกการคุ้มครอง ให้ครอบคลุมและตอบโจทย์ลูกค้าได้ในทุกมิติ นำร่อง 6 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ประกันภัยเชิร์ฟสเก็ต, ประกันภัยจักรยาน, ประกันภัยทิพยไซเบอร์, ประกันภัยสัตว์เลี้ยง, ประกันภัยบ้าน และประกันภัยคอนโด สอดคล้องกับทุกไลฟ์สไตล์กลุ่มเป้าหมาย พร้อมเตรียมแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ครบคลุมทุกความเสี่ยงทั้งประกันภัยรถยนต์และการเดินทางภายในปีนี้ กระตุ้นให้คนไทยตระหนักถึงการมีประกันภัยเพื่อคุ้มครองครอบคลุมทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

นายวุฒิชัย กมลสันติสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ Retail Product and Marketing ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank เปิดเผยว่า "ธนาคารมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่ครบวงจร การออกผลิตภัณฑ์ของเราจะเกิดจากความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก เมื่อไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเปลี่ยนไปเราจึงต้องทำการคัดสรรผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าในทุกจังหวะของชีวิต จึงเกิดแคมเปญ LH Bank The Premium Lives' Advisor เพื่อให้สามารถคุ้มครองครอบคลุมความเสี่ยงของเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน โดยแคมเปญนี้ LH Bank จะเน้นการขายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลักเพื่อให้ลูกค้าสามารถศึกษารายละเอียดเปรียบเทียบความคุ้มครองได้จากเว็บไซต์และทำการชำระได้ทันที เพิ่มความสะดวกไม่ต้องติดต่อสาขา ซึ่งในแต่ละผลิตภัณฑ์ภายใต้แคมเปญนี้จะมีจุดเด่นของความคุ้มครองที่แตกต่างกันไป นำร่องด้วย 6 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ประกันภัยสัตว์เลี้ยงสำหรับคนรักสัตว์ที่ต้องการความคุ้มครอง เมื่อสัตว์เลี้ยงเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุต่างๆ สำหรับคนที่ชื่นชอบการเล่นกีฬาก็จะมีประกันภัยจักรยาน, ประกันภัยเชิร์ฟสเก็ต คุ้มครองทั้งผู้เอาประกันและอุปกรณ์ ที่เกิดจากอุบัติเหตุต่างๆ และจากแนวโน้มพฤติกรรมการชื้อสินค้าออนไลน์ที่มีเพิ่มขึ้น อาจเกิดความเสี่ยงจากการโจรกรรมมากขึ้น โดยปัจจุบันคนไม่สามารถออกไปเดินห้างสรรพสินค้าก็หันมาชอปปิงออนไลน์ ธนาคารจึงเลือกผลิตภัณฑ์ประกันภัยไซเบอร์เพื่อช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการโจรกรรม อีกทั้งยังมีประกันภัยบ้าน, ประกันภัยคอนโดด้วย และพร้อมเตรียมแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ครบคลุมทุกความเสี่ยงทั้งประกันภัยรถยนต์และการเดินทางภายในปีนี้ เพราะภัยอันตรายรอบตัวเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทาง LH Bank จึงอยากให้คนไทยได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมในราคาที่เข้าถึงได้ และปลอดภัยจากความเสี่ยงของทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

รายละเอียดผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัย ทั้ง 6 ผลิตภัณฑ์มีดังนี้

ประกันภัยเซิร์ฟสเก็ต : เพิ่มความอุ่นใจให้ผู้ชื่นชอบการเล่นเซิร์ฟสเก็ต คุ้มครองครอบคลุมทั้งผู้เล่นและอุปกรณ์การเล่น อาทิ คุ้มครองผู้เล่นกรณีกระดูกแตกหัก อวัยวะภายในบาดเจ็บ คุ้มครองอุปกรณ์เซิร์ฟสเก็ตพังเสียหายจนไม่สามารถใช้ต่อได้ หรือโดนโจรกรรม

ประกันภัยจักรยาน: เพิ่มความมั่นใจให้นักปั่น ด้วยความคุ้มครองทั้งผู้เล่นและอุปกรณ์ คุ้มครองจักรยานได้สูงสุด 3 คัน ต่อ กรมธรรม์, เพิ่มความคุ้มครองการรักษาพยาบาลกระดูกแตกหัก เนื่องจากอุบัติเหตุขณะขับขี่จักรยาน พร้อมบริการพิเศษ ยก/ลากรถจักรยานฟรี

ประกันภัยไซเบอร์: หมดกังวลหากต้องเผชิญกับภัยไซเบอร์ ด้วยความคุ้มครองความสูญเสียของผู้เอาประกันภัยจากการถูกโจรกรรมเงิน ผ่านการใช้บัตรหรือเข้าบัญชีธนาคาร หรือ E-Wallet จากสถาบันการเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต และคุ้มครองความสูญเสียของผู้เอาประกันภัยจากการซื้อสินค้า หรือบริการแต่ไม่ได้รับการจัดส่ง โดยการโจรกรรมเงินส่วนบุคคลผ่านการเชื่อมต่อทางเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์

ประกันภัยสัตว์เลี้ยง: ตอบโจทย์คนรักสัตว์ช่วยแบ่งเบาภาระเมื่อสัตว์เลี้ยงเจ็บป่วยด้วยเบี้ยประกันราคาถูก รับความคุ้มครองง่าย ๆ อาทิ ค่ารักษาพยาบาลอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ ไม่ต้องฝังไมโครชิฟต่ออายุได้สูงสุดถึง 9 ปี ค่าโฆษณาติดตามสัตว์เลี้ยงสูญหาย ค่าจัดพิธีศพ และ คุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินบุคคลภายนอก

ประกันภัยบ้าน และประกันภัยคอนโด: ธนาคารพร้อมส่งมอบความคุ้มครองของที่อยู่อาศัย เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยลดภาระการซ่อมแซม โดยประกันภัยบ้าน จัดเต็มภัยธรรมชาติ (30% ของทุนประกันภัย) และราคาถูกกว่าปกติ (ราคาถูกกว่าแยกซื้อ) พร้อมประกันภัยคอนโดด้วยจุดเด่นคุ้มครองครอบคลุม ได้แก่ ค่าเช่าที่อยู่อาศัยชั่วคราว, การสูญเสียรายได้จากค่าเช่า และ Home Assistant

สำหรับลูกค้าที่สนใจ 6 ผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัย สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมของแต่ละผลิตภัณฑ์ได้ที่

Link : https:// www.lhbank.co.th/Person/Lists/ผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัย-LH_Bank_ประกันภัย_คัดสรรทุกการคุ้มครอง/2/133
#3682


ช่วงนี้กระแสของ NFT หรือ Non-Fungible Tokens กำลังมาแรงอย่างมากซึ่งแต่ละโทเคนจะมีความเป็นเฉพาะตัวของตัวเองหรืออาจจะมีมูลค่าที่แตกต่างกันซึ่งอาจจะมีโทเคนดังกล่าวเพียงชิ้นเดียวในโลกก็เป็นได้ ทำให้เกิดเป็นมูลค่าในตัวเองและยังทำให้เกิดเป็นสินทรัพย์การลงทุนรูปแบบใหม่ขึ้นอีกด้วย

เราลองมาดูกันว่า NFT ในตอนนี้มีสินทรัพย์อะไรบ้างที่เราจะเข้าไปลงทุนได้บ้างและอะไรคือปัจจัยการเปลี่ยนแปลงของราคางานศิลปะ

ถือเป็นผลงานที่มีการซื้อขายกันมากที่สุดบน NFT เนื่องจากการซื้อขายทำงานบนบล็อกเชนจึงสามารถแก้ไขปัญหาการปลอมแปลงผลงานซึ่งถือเป็น Painpoint สำคัญของการสร้างทรัพย์สินทางปัญญาบนโลกออนไลน์ ทำให้เกิดศิลปินหน้าใหม่ที่สร้างผลงานอย่างเช่นภาพเขียน งานดนตรี ฯลฯ ขึ้นมาและเปิดให้ซื้อขายกันได้ทั่วโลก โดยแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมที่สุดก็คือ OpenSEA

ทั้งนี้ราคาที่ซื้อขายงานศิลปะ NFT อาจจะยากในการประเมินมูลค่าเนื่องจากราคาขึ้นอยู่กับกระแสและความพึงพอใจของผู้ซื้อแบบเดียวกับการประมูลงานศิลปะ เราจึงอาจจะได้เห็นงานศิลปะบนตลาด NFT ที่ราคาสูง

Fan Token

เป็นโทเคนที่อ้างอิงกับชื่อเสียงหรือความนิยมของบุคคลที่มีชื่อเสียงหรือโปรดักต์ทางด้านความบันเทิงและสันทนาการไม่ว่าจะเป็นดารา อินฟูลเอนเซอร์ นักกีฬา ตลอดจนโทเคนที่ออกโดยทีมกีฬาอย่างฟุต. บาสเก็ต.

จุดประสงค์ของผู้ออกโทเคนจะให้สิทธิพิเศษต่างๆกับผู้ที่มีโทเคนเช่นสะสมจนถึงระดับหนึ่งก็จะมีโอกาสได้พบเจอกับดาราหรือคนดังที่เป็นเจ้าของโทเคนนั้นๆ ราคาโทเคนที่ขึ้นลงจึงมักจะผันแปรกับกระแสความนิยมของผู้ออกโทเคนนั้นๆจึงยากที่จะประเมินมูลค่าของ Fan Token นั้นๆได้สิ่งหายาก ของสะสมหรือทรัพย์สินทางปัญญา

สิ่งหายากหรือสิ่งที่มีอยู่ชิ้นเดียวบนโลกก็สามารถนำมาแปลงเป็น NFT และเปิดให้ประมูลเข้ามาได้เช่นกันโดยราคาและความนิยมของ NFT นั้น ๆ จะขึ้นอยู่กับว่าผลงานนั้นมีคุณค่าเพียงใด

ตัวอย่างเช่น Jack Dosey ซีอีโอของทวิตเตอร์ประกาศประมูลทวีตแรกของเขา "Just set up my twittr" ในรูปแบบ NFT และสามารถปิดการประมูลที่ราคา 2.9 ล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ยังมีพวกของสะสมต่างๆอย่างเช่นการ์ดเกมส์ต่างๆที่เคยต้องสะสมในรูปแบบ Physical ก็สามารถสะสมในรูปแบบของการ์ดอีเล็กทรอนิกส์แทนไอเท็มในเกมส์

ถือเป็นกระแสที่มาแรงที่สุดในตอนนี้อย่างเกมส์ Axie Infinity ที่เราสามารถซื้อโทเคนมาใช้ในการสร้างตัวละครในเกมส์ให้แข็งแกร่งขึ้นหรือจะนำโทเคนที่ได้รับจากการชนะเกมส์ไปขายเป็นเงินได้ หรือการซื้อที่ดินในเกมส์ Decentraland เพื่อเก็งกำไรในพื้นที่โฆษณาในเกมส์ โดยราคาโทเคนในเกมส์จะขึ้นอยู่กับความนิยมในเกมส์นั้นๆเป็นหลัก หากผู้สร้างทำระบบเศรษฐกิจในเกมส์ได้อย่างลงตัวกับความสนุกก็จะทำให้โทเคนนั้นได้รับความนิยม

นี่เป็นเพียงบางส่วนของการนำเทคโนโลยี NFT มาใช้ในการพัฒนาผลงานต่างๆและนำมาเป็นสินทรัพย์การลงทุนอย่างหนึ่ง ด้วยความพิเศษของบล็อกเชนที่สามารถแก้ไขปัญหาการปลอมแปลงผลงานและซื้อขายกันได้ทั่วโลกบนออนไลน์ อนาคตเราอาจจะได้เห็นสิ่งใหม่ๆที่ขึ้นไปซื้อขายบน NFT อย่างเช่นพระเครื่องก็เป็นได้

อย่างไรก็ตามการที่ราคาของโทเคน NFT ผันแปรตามความนิยมและชื่อเสียง ทำให้อาจเกิดปรากฎการณ์ที่ราคาซื้อขายสูงจนเกินความจริงได้เช่นกัน นี่เป็นความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนใน NFT ต้องรู้เอาไว้
#3683


วันนี้ (27 ส.ค.) ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นไปอย่างค่อนข้างหนักหน่วงในหลายประเทศ จำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดยังคงเป็นอินโดนีเซีย ตามด้วย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ไทย พม่า เวียดนาม กัมพูชา สิงคโปร์ ลาว และบรูไน  อินโดนีเซียนั้น มีจำนวนผู้ติดเชื้อถึงวันที่ 26 สิงหาคม 2564 มากกว่าสี่ล้านคนแล้ว ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตนั้น ก็ยังเป็นอินโดนีเซียที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ 129,293 ราย ตามด้วย ฟิลิปปินส์ พม่า มาเลเซีย ไทย เวียดนาม กัมพูชา สิงคโปร์ ลาว และบรูไน ก่อนหน้านี้หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ดีมาก หนึ่งในนั้นคือเวียดนาม แต่ขณะนี้สถานการณ์ในเวียดนามนั้นกลายเป็นตึงเครียดไปแล้วจากจำนวนผู้ติดเชื้อในแต่ละวันสูงกว่าจำนวนที่บันทึกไว้ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา

เวียดนามและไทยต่างก็เคยได้รับการชื่นชมและยกให้เป็นแบบอย่างของการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโควิด-19  ในรอบที่ผ่าน ๆ มา รัฐบาลเวียดนามประสบความสำเร็จในการเข้าไปจัดการอย่างเข้มงวด ดูได้จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดถึงหลักร้อย ก็สามารถควบคุมจนลดลงมาเป็นศูนย์ได้เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ และเปิดเศรษฐกิจได้เร็วกว่าใครในอาเซียน อย่างไรก็ตามการแพร่ระบาดระลอกใหม่นี้ ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตาเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาและจัดเป็นระลอกที่สี่ของเวียดนาม ทำให้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เคยเป็นศูนย์อย่างต่อเนื่องนั้น ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นทะลุหลักร้อย หลักพัน และหลักหมื่นในเวลาอันรวดเร็ว โดยในวันที่ 19 สิงหาคม 2564 มีผู้ติดเชื้อเกินหนึ่งหมื่นรายต่อวันเป็นครั้งแรก (10,654 ราย) และจำนวนผู้เสียชีวิตก็เพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ส่งผลให้รัฐบาลเวียดนามต้องประกาศมาตรการล็อคดาวน์ในนครโฮจิมินห์ พร้อมทั้งคุมเข้มมาตรการต่าง ๆ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ระบาดที่รุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ รัฐบาลได้ทบทวนแผนนโยบายวัคซีนอีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมาการจัดการวัคซีนของเวียดนามคล้ายแบบของไทย มีการทุ่มทุนวิจัยและทดลองผลิตวัคซีนเป็นของตัวเอง แม้ว่าวัคซีนที่ผลิตเองอาจจะช้ากว่าของต่างประเทศ แต่หากเวียดนามทำสำเร็จ การรอคอยวัคซีนที่ผลิตเองจะเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามากกว่า ต่างกับนานาประเทศที่นำเข้าวัคซีนจากต่างชาติ ตอนนี้วัคซีนของเวียดนามได้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการทดลองกับมนุษย์ แต่เนื่องจากระลอกนี้เป็นการระบาดของเชื้อโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา ที่แพร่กระจายเชื้อได้รวดเร็วและติดง่ายขึ้น ทำให้เวียดนามเริ่มพิจารณาการนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น

รมว.อว.กล่าวต่อว่า หากมองในมุมเปรียบเทียบระหว่างสถานการณ์ของไทยกับเวียดนามในฐานะที่เคยเป็นประเทศที่ได้รับคำชื่นชมในการบริหารจัดการการแพร่ระบาดนั้น พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันของไทยยังสูงกว่าเวียดนามอยู่มาก แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ของไทยนั้นมีแนวโน้มค่อย ๆ ลดลงมา ตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2564 และมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันต่ำกว่าสองหมื่นรายติดต่อกันเป็นวันที่สี่แล้ว แตกต่างจากเวียดนามที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันนั้นยังไม่นิ่งและมีแนวโน้มที่อาจจะสูงขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดนั้น ไทยยังสูงกว่าเวียดนามอย่างชัดเจน โดยไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมจนถึงปัจจุบัน (26 สิงหาคม 2564) จำนวน 1,120,869 ราย เป็นอันดับที่ 31 ของโลก ส่วนเวียดนามนั้นมีผู้ติดเชื้อสะสม จำนวน 392,938 ราย เป็นอันดับที่ 63  

แม้ไทยจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงกว่าเวียดนามกว่าสามเท่าตัวก็ตาม แต่จำนวนผู้เสียชีวิตนั้นต่างกันไม่มาก กล่าวคือไทยมีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสม (26 สิงหาคม 2564) จำนวน 10,314 ราย เป็นอันดับที่ 50 ของโลก ส่วนเวียดนามมีผู้เสียชีวิตสะสม 9,667 ราย เป็นอันดับที่ 52 ของโลก ใกล้ไทยมาก หากสังเกตจากกราฟจะเห็นว่า เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ไทยมีผู้เสียชีวิตสะสม 2,213 ราย แต่เวียดนามมีผู้เสียชีวิตสะสมเพียง 81 รายเท่านั้น ผ่านมาเกือบสองเดือน เวียดนามมีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มขึ้นมากจนเกือบจะเท่าไทย โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม จำนวนผู้เสียชีวิตนั้นพุ่งขึ้นอย่างน่าตกใจ และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลในวันที่ 26 สิงหาคม 2564 นั้น มีมากกว่าไทยแล้ว คือ 194,783 ราย และมีทีท่าว่าอาจจะเพิ่มขึ้นอีกด้วย ส่วนไทยมีผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล 186,934 ราย และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2564 มาแล้ว หากมองย้อนกลับไปดูจำนวนผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นั้น เวียดนามมีผู้ป่วยเพียง 10,248 ราย ส่วนไทยมีผู้ป่วยมากกว่าอย่างชัดเจนจำนวน 52,052 ราย

"จะเห็นได้ว่าการบริหารจัดการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แม้จะมีการล็อคดาวน์ และมาตรการต่าง ๆ เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อ รวมทั้งการระดมฉีดวัคซีนอย่างรวดเร็วและทั่วถึงแล้วก็ตาม แต่หลาย ๆ ประเทศที่เคยควบคุมสถานการณ์ได้ดี ต่างก็กำลังประสบปัญหาจากการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส โดยจะเห็นได้จากเวียดนามและไทย เป็นต้น ดังนั้น ความสามัคคีและการร่วมมือกันของทุกภาคส่วน ทั้งการปูพรมตรวจหาเชื้อ การทำโรงพยาบาลสนามหรือ Home/ Community Isolation การฉีดวัคซีนอย่างรวดเร็วและทั่วถึง รวมทั้งประชาชนในประเทศที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ก้าวข้ามสถานการณ์นี้ไปได้" ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าว
#3684

อินเตอร์ มิลาน ยักษ์แห่ง กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ร้อนแรงต่อเนื่องหลังบุกไปคัมแบ็กยิง เวโรน่า ชนะ 3-1 พร้อมขึ้นครองจ่าฝูง เมื่อคืนวันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา

เกมคู่วันศุกร์ เวโรน่า อันดับ 14 ไม่มีแต้ม เจอ อินเตอร์ มิลาน รองจ่าฝูงมี 3 แต้ม เกมนี้ เวโรน่า มี อันโตนิน บารัค กับ มัตเตโอ คานเซลเลรี ยืนหน้า ส่วน 'งูใหญ่' ใช้กองหน้าเป็น เอดิน เชโก้ กับ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ลงซัด

ครึ่งแรก นาที 11 อินเตอร์ เกือบนำ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ เติมมายิงทางซ้ายแต่ ลอเรนโซ่ มอนติโป เซฟทันการ แต่แล้ว นาที 14 เวโรน่า กลับได้เฮก่อน อิวาน อิลิซิช ปั๊มแย่ง.หน้าประตูแล้วชิพ.เข้าไปอย่างสวยงาม 1-0

นาที 23 อินเตอร์ จะตีเสมอจากจังหวะสวน ฮาคาน คัลฮาโนกลู เปิดเข้ามา นิโคโล บาเรลญ่า โหม่งแต่ก็ออกหลัง ถัดมา นาที 41 เวโรน่า อยากได้ลูกสอง มัตเตโอ คานเซลเลรี เงยหน้าแล้วลองยิงซ้ายแต่โด่งออกหลัง จบครึ่งแรก อินเตอร์ ตามหลังแบบเสียฟอร์ม

ครึ่งหลัง นาที 46 อินเตอร์ ตีเสมอสำเร็จ เอดิน เชโก้ โหม่งตั้งย้อยให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ โขกต่อเจ๊า 1-1 จากนั้น นาที 64 เวโรน่า ฮึดอยากได้ประตูนำอีก จานโคโม แม็กนานี สอดขึ้นมาแล้วยิงขวาแต่ไม่เข้ากรอบ

นาที 83 อินเตอร์ แซงนำจนได้ มัตเตโอ ดาร์เมียน สปีดกงล้อไปเปิด.ทางขวาเข้ากบาล เอดิน เชโก้ โขกย้อยเข้าสวยงาม 2-1 และสุดท้ายทดเจ็บ นาที 93 อินเตอร์ ตอกฝาโลง โจอาคิน คอร์เรียอา เติมมาหน้าประตูแล้วยิงไม่เหลือ 3-1 พา อินเตอร์ ขึ้นจ่าฝูง มี 6 แต้มเต็มจาก 2 นัด
#3685


นายเฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH เปิดเผยว่า บริษัทปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ปี 2564  เป็นเพิ่มขึ้น 80-100% จากเดิมคาดโต 10-15% เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่มีรายได้รวม 6,715.58 ล้านบาท เนื่องจาก รายได้ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เติบโตสูงกว่า 50% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และจากโควิด-19 ที่ระบาดหนัก ทำให้มีผู้ติดเชื้อเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลของบริษัทเพิ่มขึ้น  ล่าสุด จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโควิด-19 กับโรงพยาบาลในเครือ BCH รวมถึงโรงพยาบาลสนามและหอผู้ป่วยเฉพาะกิจที่บริษัทร่วมกับภาครัฐและโรงแรมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 14,207 เตียง จากเดือนที่ผ่านมา 9,801 เตียง 

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปัจจัยหนุนจากปริมาณการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวมาอยู่ที่ 7-8 แสนเคสในไตรมาส 3 ปี 2564 ซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์โควิด-19 ที่รุนแรงขึ้น และการรับตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้แก่ลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม ส่งผลให้ไตรมาส 3 ปี 2564 เป็นไตรมาสที่รายได้เติบโตโดดเด่นมากที่สุด และดีต่อเนื่องไปยังไตรมาส 4 ปี 2564 ทำให้บริษัทมั่นใจว่ารายได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก

ขณะที่การฉีดวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นา สำหรับล็อตแรกจำนวน 5 ล้านโดส บริษัทได้รับจัดสรร 1.06 หมื่นโดส ซึ่งจะทยอยนำเข้า 40% ในไตรมาส 4 ปี 2564 และอีก 60% ที่เหลือจะนำเข้าในไตรมาส 1 ปี 2565 คาดว่าจะเริ่มฉีดและรับรู้รายได้ทันทีภายในสิ้นปี 2564 ส่วนล็อตที่สองจำนวน 5 ล้านโดส บริษัทได้สิทธิรับจัดสรร 1-1.2 ล้านโดส ซึ่งจะเปิดจองในไตรมาส 4 ปี 2564 และให้บริการฉีดในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ส่วนล็อตที่สามจำนวน 5 ล้านโดส คาดว่าจะเข้ามาในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ซึ่งบริษัทจะแจ้งความคืบหน้าสิทธิจัดจำหน่ายต่อไป

เมื่อสอบถามถึงการนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ ภายหลังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) อนุมัติการใช้อย่างเต็มรูปแบบ นายเฉลิม กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลได้สั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์ล็อตใหญ่จำนวน 30 ล้านโดส เพื่อนำเข้ามาใช้ในกรณีฉุกเฉิน ส่วนการนำเข้าเพื่อใช้ในกรณีปกติปัจจุบันอำนาจอยู่ที่ไฟเซอร์ ประเทศไทย อ้างอิงจากที่สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดให้ไฟเซอร์ ประเทศไทย สามารถนำข้อมูลมายื่นขึ้นทะเบียนได้เพิ่มเติม

ทั้งนี้ ส่งผลให้โรงพยาบาลเอกชนไม่จำเป็นต้องสั่งซื้อโดยตรงจากไฟเซอร์ในต่างประเทศเพื่อนำเข้ามาจำหน่าย และสามารถสั่งซื้อจากไฟเซอร์ ประเทศไทย ได้โดยตรง อย่างไรก็ดี จากการสอบถาม อย.เพิ่มเติม คาดว่าการดำเนินการจริงจะกินระยะเวลาประมาณ 1 ปี และในมุมมองส่วนตัวคาดว่าไฟเซอร์ ประเทศไทย จะยังไม่พิจารณาดำเนินการในเร็วๆ นี้ เนื่องจากประเทศไทยมีข้อจำกัดทางด้านกฎหมายที่แตกต่างจากในสหรัฐ โดยไม่มีกฎหมายรองรับความเสี่ยงที่ชัดเจนในกรณีที่เกิดผลแทรกซ้อนภายหลังการฉีดวัคซีน
#3686


นางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
เปิดเผยว่า ตามที่ ธปท. และคณะทำงานเตรียมความพร้อมของธนาคารพาณิชย์เพื่อรองรับการยุติการใช้ London Interbank Offered Rate (LIBOR) ได้ร่วมมือกันพัฒนาอัตราดอกเบี้ย Thai Overnight Repurchase Rate (THOR) จากธุรกรรมจริงที่สามารถสะท้อนภาวะตลาดการเงินและมีความโปร่งใส เพื่อใช้เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในธุรกรรมทางการเงินทดแทนอัตราดอกเบี้ย Thai Baht Interest Rate Fixing (THBFIX) ที่จะถูกยุติการเผยแพร่หลังจากวันที่ 30 มิถุนายน 2566 พร้อมกับอัตราดอกเบี้ย LIBOR สกุลดอลลาร์สหรัฐฯ (USD LIBOR) นั้น

หลังจากที่ได้เริ่มเผยแพร่อัตราดอกเบี้ย THOR เมื่อเดือนเมษายน 2563 มาเป็นเวลากว่า 1 ปี
ตลาดการเงินไทยปัจจุบันถือว่ามีความพร้อมใช้อัตราดอกเบี้ย THOR เป็นอัตราอ้างอิงในสัญญาทางการเงินมากขึ้นในทุกด้าน ทั้งในแง่ของการมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย เป็นทางเลือกสำหรับการระดมทุนและการลงทุน เช่น การให้สินเชื่อธุรกิจระยะสั้นและระยะยาว การออกหุ้นกู้และหุ้นกู้อนุพันธ์ รวมถึงการมีตลาดอนุพันธ์ Overnight Indexed Swap (OIS) เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงและต้นทุนได้อีกด้วย สำหรับการออกพันธบัตร ธปท. ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย THOR ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากสถาบันการเงินและนักลงทุนสถาบันค่อนข้างมาก ขณะที่สภาพคล่องของตลาดมีพัฒนาการดีขึ้นเป็นลำดับ สะท้อนจาก bid/ask spread ของตลาด OIS ที่แคบลงโดยเฉพาะในอายุที่ไม่เกิน 5 ปี รวมทั้ง เริ่มมีการกำหนดราคา และทำธุรกรรมในระยะที่ยาวขึ้นมากถึง 20 ปี อีกด้วย

ธปท. ขอขอบคุณสถาบันการเงินและผู้ร่วมตลาดทุกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และทำธุรกรรมทางการเงินที่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย THOR ในช่วงที่ผ่านมา และขอแนะนำให้ผู้ร่วมตลาดทุกฝ่ายเร่งสร้างความคุ้นเคยและเริ่มใช้อัตราดอกเบี้ย THOR เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง เพื่อให้มีความพร้อมรองรับการยุติการเผยแพร่อัตราดอกเบี้ย THBFIX ภายในระยะเวลาอีกไม่ถึง 2 ปีข้างหน้านี้ เพราะหาก
ผู้ร่วมตลาดปรับเปลี่ยนมาใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง THOR ได้เร็ว จะทำให้ตลาดมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนผ่านอีกทางหนึ่ง และนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของตลาดการเงินไทยในอนาคต
#3687


Messenger จาก Facebook ฉลองครบรอบ 10 ปี พร้อมเปิดตัว 10 ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดบนแพลตฟอร์ม ซึ่งถูกออกแบบขึ้นเพื่อสร้างความตื่นเต้นแลสนุกสนานให้กับผู้คน ขณะที่เชื่อมต่อกันบนแพลตฟอร์ม

Messenger สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงช่วง 10 ปีที่ผ่านมาว่า ชุมชนบนโลกอินเทอร์เน็ตถือกำเนิดขึ้นในช่วงที่การแชทแบบเรียลไทม์เกิดขึ้น และ Messenger ได้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นมากมายนับแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์และนวัตกรรมรุ่นใหม่ๆ สำหรับการพูดคุยผ่านวีดิโอ และวิธีการอื่นๆ ในการเชื่อมต่อผู้คนขณะที่อยู่ห่างไกลกัน

รายงานด้านการตลาดประจำปี 2564 โดย SimpleTexting ระบุว่า 78% ของผู้บริโภคกล่าวว่าการเช็ค ส่ง และตอบกลับข้อความ เป็นกิจกรรมที่พวกเขาทำมากที่สุดในแต่ละวันบนสมาร์ทโฟน

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ใช้งานกลุ่มแรกๆ (early adopter) ที่เปิดรับเทคโนโลยีการส่งข้อความด้วยเสียงผ่านแอพพลิเคชั่นส่งข้อความ โดยได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในประเทศอันดับต้นๆ ที่ใช้งานฟีเจอร์การส่งข้อความเสียงมากที่สุด เช่นเดียวกับประเทศกัมพูชา บราซิล เม็กซิโก และสหรัฐ



Messenger ยังกลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีความสำคัญต่อภาคธุรกิจและชุมชนในประเทศไทย โดย 92% ของผู้บริโภคชาวไทยได้ติดต่อธุรกิจท้องถิ่นผ่านแอrพลิเคชั่นส่งข้อความ และ 4 ใน 5 กล่าวว่าการสนทนาผ่านการแชทช่วยให้พวกเขารู้สึกใกล้ชิดกับธุรกิจมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ โซลูชั่นตัวช่วยโฆษณาของธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะ Click-to-Messenger ads ก็เป็นหนึ่งในฟีเจอร์หลักที่ช่วยสร้างให้ธุรกิจเติบโตผ่านการค้นหากลุ่มเป้าหมาย (leads) เพื่อเปลี่ยนเป็นลูกค้าได้ในที่สุด 

Messenger ฉลองก้าวสำคัญในวันนี้ ด้วยการกำหนดแนวทางในการดำเนินงานในอนาคต ตามพันธกิจในการช่วยเชื่อมต่อผู้คนให้ใกล้ชิดกับคนที่มีความหมายสำหรับพวกเขาผ่านฟีเจอร์ต่างๆ 

แนวทางการดำเนินงานในครั้งนี้รวมไปถึงการสร้างแพลตฟอร์มด้านการสื่อสารที่สมบูรณ์แบบสำหรับอนาคต ด้วยการพัฒนาสู่การเป็นแพลตฟอร์มเพื่อให้ทั้งครีเอเตอร์และธุรกิจได้เชื่อมต่อกับแฟนๆ และลูกค้า รวมถึงสานต่อความมุ่งมั่นด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย พร้อมฉลองและขอบคุณผู้คนที่ให้ความไว้วางใจใช้งาน

เพื่อเป็นการขอบคุณทุกคนสำหรับการสนับสนุนตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา Messenger ได้เปิดตัว 10 ฟีเจอร์ใหม่ อย่างเป็นทางการสำหรับทุกคนที่ใช้งานแอพพลิเคชั่น ได้แก่

ชุดสติ๊กเกอร์ "ยอดนิยม" ("Greatest Hits" Sticker Pack) ชุดสติ๊กเกอร์ที่ถูกคัดเลือกจากสติ๊กเกอร์ยอดนิยมตลอดกาลของ Messenger
การแชร์ข้อมูลการติดต่อ (Contact Sharing) ผู้ใช้งานสามารถแนะนำเพื่อนของเพื่อนให้กันได้แล้วอย่างไร้รอยต่อผ่าน Messenger
เอฟเฟกต์ AR สำหรับวันเกิด (Birthday AR Effects) เอฟเฟกต์ AR ใหม่ล่าสุดสำหรับวันเกิดและการเฉลิมฉลอง
พื้นหลังแบบ 360 องศาสำหรับวันเกิด (Birthday 360 Background) พื้นหลังแบบ 360 องศารูปแบบใหม่เพื่อฉลองวันเกิด
ธีมแชทวันเกิด (Birthday Chat Theme) ฉลองวันเกิดของคุณและของเพื่อนด้วยธีมแชทใหม่
ซาวด์โมจิวันเกิด (Birthday Soundmoji) มีการเพิ่มซาวด์โมจิหรืออิโมจิมีเสียงในธีมวันเกิดในคอลเลคชัน (สหรัฐอเมริกา เท่านั้น)
เอฟเฟกต์คำ (Word Effects) ความสามารถในการตั้งค่าอิโมจิสำหรับคำและวลีที่ต้องการ โดยเมื่อคำหรือวลีนั้นถูกส่งในแชทก็จะมีอิโมจิโปรยลงมาบนหน้าจอ (สหรัฐอเมริกา เท่านั้น)
เอฟเฟกต์ข้อความ (Message Effects) เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ตกแต่งข้อความด้วยเอฟเฟกต์พิเศษต่างๆ เช่น พลุกระดาษหรือกล่องของขวัญผูกโบว์ เป็นต้น (สหรัฐอเมริกา เท่านั้น)
เกมส์โพลล์ (Poll Games) ฟีเจอร์ใหม่สำหรับการสร้างโพลล์ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถเล่นเกม "เป็นไปได้มากที่สุดที่จะ" (most likely to) ได้ (สหรัฐอเมริกา เท่านั้น)
การจ่ายเงินเป็นของขวัญวันเกิด (Birthday Gift Payments) ผู้ใช้สามารถส่งเงินเป็นของขวัญเพื่อฉลองวันเกิดผ่าน Facebook Pay บน Messenger ได้แล้ว (สหรัฐอเมริกา เท่านั้น)
#3688


ธปท. ประกาศสถานะ "ทีเอ็มบีธนชาต" จัดเข้ากลุ่ม D-SIBs หรือธนาคารพาณิชย์ที่มีความสำคัญต่อระบบในประเทศ หลังเสร็จสิ้นการรวมกิจการอย่างสมบูรณ์ได้ตามแผน ส่งผลให้ธนาคารมีขนาดสินทรัพย์ ฐานลูกค้า และธุรกรรมทางการเงินเกี่ยวข้องกับระบบเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยธนาคารพร้อมเดินหน้ายกระดับบริการและส่งมอบประสบการณ์ทางการเงิน เพื่อสร้างชีวิตทางการเงิน (Financial Well-being) ที่ดีขึ้นให้คนไทยทั้งวันนี้และอนาคต

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า จากการผสานจุดแข็งของสองธนาคารรวมเป็น "ทีเอ็มบีธนชาต" โดยมีพันธกิจหลักในการเดินหน้ายกระดับบริการและส่งมอบประสบการณ์ทางการเงิน เพื่อสร้างชีวิตทางการเงิน (Financial Well-being) ที่ดีขึ้นให้คนไทย ซึ่งจากความสำเร็จในการรวมกิจการได้อย่างสมบูรณ์ในครั้งนี้ ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศให้ทีเอ็มบีธนชาตเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีความสำคัญต่อระบบในประเทศ (Domestic systemically Important bank : D-SIBs) เนื่องจากประเมินแล้วว่าทีเอ็มบีธนชาตเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ มีธุรกรรมทางการเงินที่มีความเชื่อมโยงระหว่างสถาบันการเงินมาก รวมถึงเป็นผู้ให้บริการทางการเงินที่สำคัญต่อฐานลูกค้าจำนวนมาก ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของระบบการเงินและประเทศ

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาธนาคารให้ความสำคัญกับการเติบโตธุรกิจอย่างมีคุณภาพ เพื่อเป็นสถาบันการเงินที่มีความมั่นคงและสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและเสริมสร้างเสถียรภาพให้อุตสาหกรรมธนาคารและระบบการเงินไทย ดังนั้น นอกเหนือจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อให้คนไทยมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ธนาคารได้ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินมาโดยตลอด สะท้อนให้เห็นได้จากระดับเงินกองทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและอยู่ที่ 19.6% ในปัจจุบัน ซึ่งสูงเป็นอันดับต้นๆ ของกลุ่มธนาคาร D-SIBs และสูงกว่าเกณฑ์ปัจจุบันที่ ธปท. กำหนดอัตราขั้นต่ำที่ 11.0% ซึ่งเพียงพอต่อการรองรับการดำรงเงินกองทุนส่วนเพิ่มตามมาตรการที่กำหนดในการกำกับดูแล D-SIBs ที่ 12.0%

"นอกจากนี้ การรวมเป็นหนึ่งเดียวของทีเอ็มบีธนชาตเพื่อเป็นธนาคารที่แข็งแกร่งขึ้น ยังได้เพิ่มศักยภาพให้ทีมงานสามารถทำงานได้เต็มกำลังมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ที่ประชาชนได้รับผลกระทบ ธนาคารพร้อมส่งต่อแนวคิดและโซลูชันทางการเงินเพื่อช่วยเหลือลูกค้าให้ก้าวข้ามสถานการณ์โควิด-19 ไปด้วยกัน" นายปิติ กล่าวสรุป
#3689


นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผย ว่า  เดือนก.ค. 2564 มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่จำนวน 5,661 ราย ลดลง 0.11%  เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ก่อน  และลดลง 7% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิ.ย. 2564  ที่มีจำนวน 6,093 รายหรือ ลดลง 7% โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 13,543.18 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึง คนโดยสาร  

ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 1,140 ราย เทียบกับมิ.ย.2564 เพิ่ม 9% และเทียบกับก.ค.2563 ลดลง 10% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 4,152.42 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร
 

นายทศพล กล่าวว่า สำหรับยอดรวมธุรกิจตั้งใหม่ในช่วง 7 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-ก.ค.) มีจำนวน 46,683 ราย เพิ่มขึ้น 20% ทุนจดทะเบียน 146,751.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% ส่วนธุรกิจเลิกกิจการ 6,070 ราย ลดลง 19% ทุนจดทะเบียน 34,611.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% 

สาเหตุที่ทำให้การจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ และจดทะเบียนเลิกธุรกิจเพิ่มขึ้นนั้น มาจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด – 19 ที่ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ส่งผลให้รัฐบาลต้องมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในการจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เช่น การหยุดการก่อสร้าง การงดรับประทานอาหารในร้านอาหาร และมาตรการล็อคดาวน์ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ โดยมีผลใช้บังคับจนถึงวันที่ 31 ส.ค. 2564  

โดยในส่วนของการการลดลงของจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในเดือนก.ค.นั้น พบว่า การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในแต่ละภาคธุรกิจนั้น ส่วนใหญ่มีแนวโน้ม ลดลง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่มีจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างทั่วไป ลดลง 56 ราย คิดเป็น 9% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ลดลง 61 ราย คิดเป็น 20% และธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึงคนโดยสาร ลดลง 9 ราย คิดเป็น 4%  ซึ่งแนวโน้มที่ลดลงดังกล่าว เป็นไปในทิศทางเดียวกับดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย ในเดือนกรกฎาคม 2564 ซึ่งอยู่ที่ 41.4 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าถึง 10% ทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด - 19 ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อ ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบธุรกิจที่มีการชะลอตัวเพื่อติดตามสถานการณ์อยู่ในขณะนี้  

อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่เริ่มลดลง และจำนวนผู้ได้รับวัคซีนในประเทศที่เพียงพอจะเป็นปัจจัยที่สร้างความเชื่อมั่นที่ดีในช่วงครึ่งปีหลัง รวมทั้งการฟื้นตัวของการส่งออก และมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่อยู่ระหว่างการพิจารณา จะเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง 
#3690


เอริค ลาเมล่า ลงมาเป็นซูเปอร์ซับ สวมบทฮีโร่ ซัดประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ช่วยให้ เซบีย่า บุกเก็บชัยเหนือ เกตาเฟ่ 1-0 เก็บ 6 แต้มเต็มจาก 2 นัดแรก ผงาดจ่าฝูงของตาราง

ศึกฟุต.ลาลีกา สเปน ฤดูกาล 2021/22 นัดมันเดย์ไนท์ คืนวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา เกมที่น่าสนใจ เซบีย่า ยกพลไปเยือน เกตาฟ่ ที่สนามโคลีเซียม อัลฟอนโซ่ เปเรซ

เกตาเฟ่ ของกุนซือ มิเชล เกมที่แล้วบุกพ่าย บาเลนเซีย 0-1 ขณะที่ เซบีย่า ของเฮดโค้ชฆูเลน โลเปเตกี เกมที่แล้วเปิดบ้านต้อน ราโย่ บาเยกาโน่ 3-0

ปรากฎว่าเกมนี้ เซบีย่า เป็นฝ่ายที่ทำได้ดีกว่าทั้งการครอง. และจังหวะลุ้นประตู บุกมาเก็บชัยเหนือ เกตาเฟ่ ไปแบบหวุดหวิด 1-0 จากประตูชัยของ เอริค ลาเมล่า ในนาทีที่ 90+3

จากชัยชนะดังกล่าวทำให้ เซบีย่า คว้าสามคะแนน 2 เกมติดต่อกัน ขึ้นไปรั้งตำแหน่งจ่าฝูงของตาราง มี 6 แต้มเต็มเท่ากับ แอตเลติโก มาดริด แต่ลูกได้เสียดีกว่า ขณะที่ เกตาเฟ่ รั้งอันดับ 18 ของตาราง ยังไม่มีแต้ม
#3691



เพราะคนเรามีสภาพผิวแตกต่างกันไป การเลือกใช้ครีมบำรุงผิวแต่ละชิ้นจึงต้องเลือกอย่างพิถีพิถัน และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสูตรผสมที่ลงตัวเหมาะสมกับสภาพผิวพรรณของตนเอง 

"Ultra Facial Oil-Free Gel Cream" มอยส์เจอร์ไรเซอร์ทาหน้า ขึ้นชื่อเรื่องสามารถช่วยควบคุมความมัน สูตร Fresh Hydration ที่เหมาะสำหรับผู้มีผิวธรรมดาไปจนถึงผู้มีปัญหาผิวหน้ามันที่ต้องการครีมบำรุงสูตรล้ำลึกที่ไม่เพิ่มความมันหรือทำให้ใบหน้าเหนียวเหนอะหนะระหว่างวัน

รู้จักเจลครีมมอยส์เจอร์ไรเซอร์ผ่านส่วนผสมสำคัญ 
เจลครีมจาก Kiehl's กระปุกนี้ประกอบด้วยส่วนผสมสำคัญหลายชนิดที่มีคุณสมบัติเพื่อการบำรุงผิวหน้าและคุมความมันโดยเฉพาะ ซึ่งส่วนผสมหลักที่ต้องหยิบยกมาพูดถึงนั้นได้แก่ "สารสกัดจากกลัยโคโปรตีน" (Glacial Glycoprotein) เป็นโปรตีนที่พบได้ในเกลเซียร์หรือธารน้ำแข็งในทะเล (sea glacier) มีประสิทธิภาพช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ชั้นผิว มีส่วนประกอบจาก"สารสกัดหญ้าคา" (Imperata Cylindrica Root Extract) ช่วยควบคุมไม่ให้ผิวหน้าแห้งหรือมันจนเกินไป มี "อะมิโนแอซิดขนาดเล็ก" (Micronized Amino Acid) ช่วยลดน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าพร้อมมอบความรู้สึกเย็นสบายแสนสดชื่นให้แก่ผู้ใช้ได้ทันทีหลังทาเนื้อเจลลงบนผิว

ผลลัพธ์และประสิทธิภาพของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ 
หลังการใช้เป็นประจำติดต่อกัน คุณสามารถสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นโดยเจลครีมช่วยเสริมน้ำมาหล่อเลี้ยงผิวได้มากขึ้น ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นขึ้นกว่าเดิม ลดปัญหาผิวหน้าแห้งซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาหน้ามัน แม้ใช้ในช่วงกลางวัน หรือก่อนแต่งหน้าก็ไม่ได้ทิ้งความมันเยิ้มไว้ให้เป็นปัญหา หรือต้องคอยใช้กระดาษซับมันซับความมันส่วนเกินออกไป 

ทั้งนี้จากผลการทดสอบความพึงพอใจในผู้ใช้จริงพบว่า 95% รู้สึกว่าผิวดูมีความชุ่มชื้นมากขึ้น และกว่า 98% รู้สึกได้ว่าผิวมีความสมดุลโดยไม่มันหรือแห้งจนเกินไป

เนื้อเจลซึมซาบไว อ่อนโยนต่อผู้แพ้ง่าย
เนื่องจากปราศจากส่วนผสมของน้ำมัน และไม่มีพาราเบน รวมถึงวัตถุกันเสีย เมื่อทา Kiehl's Moisturizer ลงบนผิว เนื้อครีมจะซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างฉับไวไม่เหลือทิ้งไว้เป็นความมันเหนียวเหนอะหนะ นอกจากนี้ยังไม่มีการผสมน้ำหอม ทำให้ไม่อุดตันรูขุมขน และผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้จึงถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้มีผิวแพ้ง่ายสามารถเลือกใช้ได้

วิธีการใช้ — เกลี่ยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ทาหน้าให้ทั่วผิวหน้าที่ผ่านการทำความสะอาดและปรับสภาพแล้วในตอนเช้าและค่ำ หมั่นใช้เป็นประจำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น 
 
#3692


นายธนา สราญเวทย์พันธุ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด หรือเออาร์วี ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า เออาร์วี กับบริษัท โรโตเทค จำกัด  ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญบริการด้านหุ่นยนต์จากสิงคโปร์ ได้ร่วมมือพัฒนานวัตกรรมหุ่นยนต์ "โรโต ไคลม์เบอร์" (Roto Climber) เครื่องแรกของโลก เพื่อให้บริการตรวจสอบ และบํารุงรักษา รวมทั้งทําความสะอาดท่อประเภทต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ท่อส่งปิโตรเลียม ท่อขุดเจาะปิโตรเลียม ท่อสูบน้ำทะเลบนแท่นผลิตปิโตรเลียมนอกชายฝั่ง ท่อในท่าเทียบเรือ และหอกังหันลม เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาสำหรับท่อแนวตั้งครั้งแรกของโลก จากเดิมที่มีการพัฒนาหุ่นยนต์สำหรับท่อแนวนอนเท่านั้น

ปัจจุบันมีผู้ประกอบการหลายรายในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ความสนใจที่จะใช้บริการโรโต ไคลม์เบอร์

"ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการพลิกโฉมธุรกิจบริการด้านการตรวจสอบ และบำรุงรักษาโครงสร้าง สิ่งติดตั้งด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับท่อในแนวตั้ง สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ ด้วยนวัตกรรมและวิธีการแบบใหม่ ขณะนี้เออาร์วี และโรโตเทคกำลังเดินหน้าพัฒนาศักยภาพของโรโต ไคลม์เบอร์ไปอีกขั้น เพื่อให้บริการซ่อมแซม เจาะ และตัดโครงสร้างต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสามารถรองรับ ตอบโจทย์ และแก้ปัญหาของธุรกิจได้หลากหลายมากขึ้น" นายธนากล่าว

นายไซมอน ฮาร์ท็อก กรรมการผู้จัดการ โรโตเทค กล่าวว่า โรโต ไคลม์เบอร์ปฏิบัติงานด้วยการควบคุมจากระยะไกล โดยไม่ต้องอาศัยนักประดาน้ำและเรือสนับสนุน จึงลดความเสี่ยงของบุคลากรจากการทำงานในพื้นที่อันตราย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการทำงานได้เป็นอย่างมาก รวมทั้งช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อีกด้วย

โรโต ไคลม์เบอร์ปฏิบัติงานได้ทั้งในพื้นที่เหนือระดับน้ำ บริเวณระดับน้ำ และใต้ผิวน้ำลึกสุดถึง 200 เมตร หุ่นยนต์มีน้ำหนักเบาจึงติดตั้งได้ง่าย โรโต ไคลม์เบอร์ ทำงานโดยยึดเกาะและเคลื่อนที่ไปตามแนวตั้งของท่อเพื่อตรวจสอบโครงสร้างของท่อโดยละเอียด สามารถวัดความหนาของผนังเพื่อตรวจจับการสึกกร่อน และทําความสะอาดโครงสร้างภายนอกไปพร้อมกัน นอกจากนี้ ยังติดตั้งกล้องคุณภาพสูงเพื่อรายงานการทำงานในรูปแบบวิดีโอได้อย่างเรียลไทม์ สำหรับการติดตามและวิเคราะห์ผลอีกด้วย
#3693


เกรท วอลล์ (GWM) ผู้ผลิตรถรายใหญ่จากจีน ที่คนไทยรู้จักกันมากขึ้น หลังกำเงินกว่า 10,000 ล้านบาท เข้ามาลงทุนสร้างฐานการผลิตในไทย ด้วยการซื้อโรงงานต่อจาก เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) หรือจีเอ็ม และ เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) ที่ถอนการผลิต และการทำตลาดในไทยอย่างเป็นทางการ เหลือไว้แต่งานบริการเพื่อดูแลลูกค้าเท่านั้น

การเข้ามาลงทุนในไทย เป็นหนึ่งในแผนการขยายตลาดโลกของเกรทวอลล์ ที่วางแผนไว้ก่อนหน้านี้ หลังจากที่สร้างหลักปักฐาน สร้างความแข็งแกร่งให้ตลาดในประเทศเรียบร้อยแล้ว และหลังจากนี้ไป เราคงได้เห็นข่าวคราวการเปิดเกมรุกของค่ายกำแพงเมืองจีนอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด GWM เดินหน้ารุกตลาดอเมริกาใต้ ด้วยการเซ็นสัญญากับ เดมเลอร์ เอจี (Daimler AG) ซื้อโรงงานผลิตรถยนต์ Daimler ในเมืองอิราเซมาโปลิส ประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา

โดยสัญญานี้  Daimler จะโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดิน อาคาร เครื่องจักร ทรัพย์สินต่างๆ ยกเว้นบุคลากร ให้แก่ GWM โดยคาดว่ากระบวนการต่างๆ จะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้

GWM ระบุว่า หลังจากเข้าถือครองโรงงานแล้ว ก็จะเดินหน้ายกระดับโรงงาน โดยการนำแนวคิดการผลิตขั้นสูง การควบคุมคุณภาพ สิ่งแวดล้อม รวมถึงการจัดการข้อมูลที่สอดคล้องกับมาตรฐานการผลิตระดับโลกมาใช้ เป้าหมายของโรงงานนี้ จะเป็นฐานการผลิตรองรับตลาดบราซิล รวมถึงประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอเมริกาใต้


ในด้านการจ้างงาน GWM ระบุว่า โรงงานแห่งนี้จะสร้างงานเกือบ 2,000 ตำแหน่ง

ทั้งนี้ที่ผ่านมา อเมริกาใต้ถือเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญของ GWM โดยยักษ์ใหญ่ของจีนเริ่มต้นเข้าสู่ภูมิภาคนี้ ที่ประเทศชิลีเป็นแห่งแรกช่วงต้นปี 2550 และสามารถสร้างตลาดได้น่าพอใจ สำหรับการทำตลาดรถปิกอัพ และ เอสยูวี ฮาวาล ( HAVAL SUV)

สำหรับบราซิล GWM มองว่า โดดเด่นว่าทุกประเทศในอเมริกาใต้ ในด้านความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ขนาดพื้นที่ และจำนวนประชากร และยังเป็น 1 ใน 7 ตลาดยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

GWM ยังกำหนดให้บราซิลเป็นตลาดที่สำคัญต่อกลยุทธ์การยกระดับการดำเนินงานในอเมริกาใต้ โดยบริษัทมีแผนที่จะศึกษาความชอบของผู้บริโภคในท้องถิ่นและการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในตลาดยานยนต์ของประเทศ เพื่อรองรับการพัฒนาตลาด

ในภาพรวมธุรกิจ GWM ระบุว่า แม้ที่ผ่านมา ทั่วโลกจะเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรง แต่บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น

โดยช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาของ ปี 2564  ยอดขายต่างประเทศของ GWM เพิ่มขึ้น 176.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้บริษัทกล้าที่จะเดินแผนลงทุนต่อเนื่อง และในอนาคต ก็จะยังคงขยายงานไปทั่วโลก เพื่อสานเป้าหมายที่ท้าทาย คือ การสร้างยอดขายรถยนต์ให้ได้ 4 ล้านคันภายในปี 256

ปัจจุบัน GWM มีโรงงานครอบคลุมจีน รัสเซีย ไทย อินเดีย บราซิล มีเครือข่ายการขาย 500 แห่งทั่วโลก
#3694
เติมคอยส์ COINS เติมเงิน Kitty Live, Mico เติมเพชร Kitty Live, Mico

"ได้เยอะกว่าเติมผ่านแอป"
พร้อมรับสมัครวีเจ มีเงินเดือน+ค่าของขวัญ 





111Topup เปิดบริการ เติมคอยส์ เติม COINS เติมเพชร เติมรูบี้ วิธีการเติมเงิน เติมคอยส์ MICO, KittyLive เติม COINS เติมเพชรง่ายนิดเดียว เพียงแค่โอนเงินผ่านเลชบัญชีธนาคารของเรา แจ้งโอน พร้อมบอกเลขไอดี รอรับคอยส์ไม่เกิน 30 วินาที การันตีได้คอยส์ชัวร์ แถมเยอะกว่าเติมผ่านในแอป ไม่โกง ไม่หลอก แน่นอน โดยมีการเติมเงินแบบ 2 ช่องทางหลักคือ

1. เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เติมผ่านระบบธนาคาร ATM,ฝากเงินผ่านตู้, Mobile Banking ,ผ่านเว็บไซด์ธนาคาร


2. เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เติมเงินผ่านบัตรเติมเงิน ทรูมันนี่ 


111Topup รีบแอดไลน์เพื่อรับโปรโมชั่น แถมคอยส์เพิ่มขึ้น
เติมคอยส์ MICO, KittyLive




Add Line : @111Topup


วิธีการเติมเงิน Kitty Live, Mico คอยส์ COINS เพชร


1.     แอดไลน์ @111Topup (มี @ ด้วยนะคะ) เติมคอยส์ MICO, KittyLive 


2.     โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ตามที่ระบุไว้ หรือ ถ้าเติมผ่านบัตรทรูมันนี่ ให้ส่งหลักฐานบัตรมาที่ไลน์แอด @111Topup


3.     แจ้งเลขไอดี แอฟ Kitty Live, Mico ในไลน์


4.     เมื่อทีมงานรับเรื่องแล้วไม่เกิน 30 วินาทีคุณจะได้รับคอยส์ (COINS) ใน แอฟ Kitty Live, Mico


5.     เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เปิดบริการเติมเงินทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 02.00 น. (8โมงเช้า-ตี2 ทุกวัน)


 


 


รับสมัครวีเจ ไลฟ์ มีเงินเดือน + ค่าของขวัญ เงินเดือนขั้นต่ำ 6000 บาท 


 


สมัครวีเจ เข้า สังกัด 111 ทำงาน ขั้นต่ำ 20 วัน 30 ชั่วโมงต่อเดือน ทำงานที่บ้านไลฟ์ ออนไลน์ผ่านมือถือ 


มีการันตีเงินเดือน 6000-10000 บาท สำหรับวีเจใหม่ มีเทรนด์งานก่อนขึ้น ไลฟ์ดี ตั้งใจไลฟ์ สังกัดพร้อมซัพพอร์ต ในการหายูสให้แน่นอน รายได้หลักหมื่น - ถึงแสน บาทต่อเดือน


** วีเจที่เคยไลฟ์ BIGO VIBIE YAYA MCAT MLIVE มีการันตีพิเศษ คลิ๊กเลย


สนใจสมัครวีเจ คลิ๊กเลย  https://lin.ee/0apXPWf


 
#3695


ยอร์เดนิส อูกาส กำปั้นชาวคิวบา กล่าวด้วยความมั่นใจว่าจะโชว์ฟอร์มจัดการ แมนนี ปาเกียว นักชกรุ่นใหญ่จากฟิลิปปินส์ จนอีกฝ่ายไปไม่เป็น และเชื่อว่าจะไม่โดนนักชกรุ่นพี่น็อกคาสังเวียนแน่นอน

อูกาส มีคิวถือเข็มขัดรุ่นซูเปอร์ เวลเตอร์เวต ป้องกันแชมป์กับ ปาเกียว ที่สังเวียน ที โมบายล์ อารีน่า สหรัฐอเมริกา วันที่ 22 สิงหาคมนี้ ตามเวลาเมืองไทย ซึ่งก่อนขึ้นชกทั้งคู่ก็มาเผชิญหน้ากันในงานแถลงข่าว

ปาเกียว ห่างหายการขึ้นชกอาชีพไปนาน 2 ปีหลังเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ขณะเดียวกัน ด้วยความที่เจ้าตัวพิชิตคู่แข่งด้วยการชนะคะแนนในช่วงหลังหลายไฟต์ ทำให้ อูกาส วัย 35 ปี มั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่มีทางน็อกตนเองได้แน่

อูกาส เผยว่า "ผมมั่นใจ 100 เปอร์เซนต์เลยว่าเขาไม่มีทางน็อกผมได้แน่นอน ผมเตรียมงานของตัวเองเสร็จแล้ว และฝึกซ้อมมาอย่างดีตลอด 6 ปี และผมก็ไม่คิดว่า แมนนี ปาเกียว จะน็อกผมได้"

"ผมเตรียมตัวมาอย่างดีสำหรับการชก 12 ยก มันต้องออกมาสูสีแน่ ถ้านี่จะเป็นไฟต์สุดท้ายของตำนานที่ชื่อ แมนี ปาเกียว เขาก็จะได้เผชิญหน้ากับชายที่ทำให้เขาต้องเค้นทุกสิ่งทุกอย่างออกมาสู้ในฐานะยอดนักชกระดับโลก" อูกาส ระบุ

สำหรับ ปาเกียว น็อกคู่ต่อสู้คนสุดท้ายต้องย้อนกลับไปในปี 2018 ซึ่งครานั้นชนะน็อกใส่ ลูคัส มาธิสเซ่ จากอาร์เจนติน่าในยก 7 อย่างไรก็ตาม "แพ็คแมน" ก็ยังเชื่อว่าตัวเองพร้อมและมั่นใจกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

"ผมรู้สึกว่าตัวเองยังหนุ่มอยู่เลย อายุสัก 24 ได้ (ยิ้ม) ผมแฮปปี้กับสิ่งที่ทำ การชกมวยคือสิ่งที่ผมหลงใหล ผมสนุกกับการซ้อมและตื่นเต้นที่ได้ขึ้นเวที ผมไมใช่หมอดู แต่อยากให้มาดูกัน ผมจะทำให้ดีที่สุด" ปาเกียว ทิ้งท้าย
#3696


นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) เผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานของครึ่งปีแรกปี 2564 มีรายได้จากการขาย 1,401.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวด 6 เดือนแรกของ ปี 2563 ซึ่งมีรายได้จากการขาย 849.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 552.57 ล้านบาท หรือคิดเป็น 65.08% บริษัทมีรายได้รวม 522.29 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 51.99 ล้านบาท ในไตรมาส2/2564 ทำให้มีมีผลประกอบการ 6 เดือน กำไรสุทธิ 132.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีต้นทุนทางการเงินลดลง ร้อยละ 47.58 ด้วยปัจจัยสนับสนุนความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทโครงการแนวราบในระดับราคา 3-5 ล้านบาทอยู่ในระดับสูง บริษัทพร้อมเดินตามแผน เตรียมพัฒนาโครงการใหม่ตลาดระดับราคาบ้าน 3-5 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพหลัก อาทิโซนเหนือ และโซนตะวันออก ในไตรมาส 3 นี้ เพื่อเร่งหนุนรายได้ทั้งปีโตอย่างต่อเนื่อง

"เอ็น.ซี มีการปรับตัวได้ดี มีการควบคุมเข้มเรื่องการบริหารต้นทุนในองค์กร มีระบบบริการออกมาดูแลลูกค้า ให้ความสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยผนวกนวัตกรรม Smart Eco, Smart Care"

นายสมนึก กล่าวถึงสถานการณ์ COVID-19 ยังส่งผลให้อุปสงค์ของผู้บริโภคยังมีความไม่มั่นใจ อย่างไรก็ตามในไตรมาส 3 เอ็น.ซี มีความพร้อมที่จะเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนยอดขายให้เติบโต สำหรับยอดขาย เป็นที่น่าพอใจสามารถทำยอดขายได้กว่า 2,200 ล้านบาท

พร้อมยังกล่าวเสริมต่อ เอ็น.ซี คงมุ่งเดินหน้าเพื่อเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ในปี 2564 ตามเป้า 7 โครงการ มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท พัฒนาสินค้าทาวน์เฮาส์, บ้านแฝด, บ้านเดี่ยว ระดับราคา 3-5 ล้านบาท ด้วยราคาที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดบ้านแนวราบ โดยขยายทำเลเพิ่มครอบคลุมพื้นที่ 4 ทำเลศักยภาพ (โซนเหนือ , โซนตะวันตก,โซนใต้ และโซนตะวันออก ของกรุงเทพฯและปริมณฑล) เพิ่มกำลังการผลิตบ้านด้วยระบบเทคโนโลยีการก่อสร้างทันสมัยขยายฐานลูกค้าใหม่ในกลุ่มตลาดบ้านแนวราบ ทำให้ เอ็น.ซี มีความพร้อมที่จะเดินตามแผน ในตลาดศักยภาพใหม่ๆ รุกต่อด้วยเป้ายอดขาย 3,500 ล้านบาท และรับรู้รายได้ปีที่ 2,000 ล้านบาท.
#3697


วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2564 — Entrust ผู้ให้บริการชั้นนำด้านข้อมูลการระบุตัวตน การชำระเงิน และการป้องกันข้อมูลขั้นสูง ประกาศว่าบริษัทและ MK Group Joint Stock Company (MK Group) ประเทศเวียดนาม ได้ร่วมกันเปิดตัวโครงการบัตรประจำตัวประชาชนสมาร์ทการ์ดของเวียดนาม โดย Entrust และ MK Group จะนำเสนอโซลูชั่นเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูงพร้อมกับการสนับสนุนภาคสนามร่วมกันในการดำเนินการโครงการนี้ในประเทศเวียดนาม เพื่อให้สามารถออกบัตรประจำตัวสมาร์ทการ์ดได้ 50 ล้านใบแก่พลเมืองโดยเริ่มมาตั้งแต่กุมภาพันธ์ต้นปีนี้

ระบบการออกบัตรและโซลูชั่นซอฟต์แวร์ของ Entrust ร่วมกับ MK Group ประเทศเวียดนามซึ่งเป็นผู้บริหารจัดการงานภาคสนามและดูแลการออกบัตรในภูมิภาคต่างๆ ในประเทศ จะช่วยให้ประชาชนเวียดนามชุดแรกกว่า 50 ล้านคนมีบัตรประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ภายใต้การควบคุมดูแลข้อมูลส่วนบุคคลขั้นสูง บัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดใหม่นี้จะแทนที่และรวมบัตรประจำตัวประชาชนสามแบบหลังที่ทำการออกให้ประชาชน อันได้แก่ บัตรประชาชนแบบเลขประจำตัว 9 หลัก แบบเลขประจำตัว 12 หลัก และแบบบาร์โค้ด ซึ่งเปิดตัวในปี พ.ศ. 2542, 2555 และ 2559 ตามลำดับ ด้วยบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดใหม่นี้จะทำให้กระบวนการต่างๆ ในการตรวจสอบตัวตนของพลเมืองเวียดนามมีความปลอดภัยและเป็นมาตรฐานมากขึ้น

MK Smart ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ MK Group ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการของชิปบนสมาร์ทการ์ดและแอพพลิเคชั่นต่างๆ ตามมาตรฐาน ICAO และข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของประเทศเวียดนาม บัตรประจำตัวที่ฝังชิปนี้จะเก็บข้อมูล e-ID ตามมาตรฐาน ICAO โดยมีความสามารถในการลงลายมือชื่อแบบไบโอเมตริกซ์และดิจิทัล เพื่อใช้เข้าสู่ระบบเวปพอร์ทัลภาครัฐและเอกชนหลายหลายพันรายที่ให้บริการแก่ประชาชนในปัจจุบัน รวมถึงประชาชนยังสามารถใช้บัตรสมาร์ทการ์ดนี้เพื่อรับรองตัวตนกับหน่วยงานราชการและธนาคารได้

Entrust ได้ทำการส่งมอบระบบการออกบัตรที่มีคุณภาพสูงพร้อมทั้งให้บริการคำปรึกษาในด้านต่างๆ จากผู้เชี่ยวชาญได้อย่างครบถ้วน และโครงการสามารถเริ่มดำเนินการออกบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ด 50 ล้านใบแรกได้เรียบร้อยแล้ว
#3698


ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนลบ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในภูมิภาคยังสร้างความวิตกกังวลให้นักลงทุน นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเริ่มปรับลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปีนี้ ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,442.51 จุด ลดลง 23.04 จุด หรือ -0.66%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,238.45 จุด ลดลง 42.72 จุด หรือ -0.16% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,241.32 จุด ลดลง 75.01 จุด หรือ -0.30%

ภาวะการซื้อขายในภูมิภาคยังคงถูกกดดันจากปัจจัยลบเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 โดยเมื่อวานนี้ ออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่สูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่เมืองหลวงของรัฐบางแห่งยังคงอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3 ในประเทศ

รายงานระบุว่า ออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นอีก 754 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศนับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาดมีจำนวนมากกว่า 41,000 ราย

ขณะที่เขตเมืองหลวงของออสเตรเลีย (ACT) ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ได้ขยายมาตรการดังกล่าวออกไปจนถึงวันที่ 2 ก.ย. และพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 16 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาตัวอยู่ในกรุงแคนเบอร์ราขณะนี้อยู่ที่ 83 ราย มาตรการดังกล่าวส่งผลให้กรุงแคนเบอร์ราเป็นเมืองใหญ่อีกแห่งของออสเตรเลียที่บังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ เช่นเดียวกับซิดนีย์ และเมลเบิร์น

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาควันนี้ นักลงทุนยังจับตาธนาคารกลางจีน (PBOC) เตรียมประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี และประเภท 5 ปีในเช้าวันนี้ โดยตลาดคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปี ไว้ที่ระดับ 3.85% และตรึงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ไว้ที่ระดับ 4.65%

นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (PPI) ของเกาหลีใต้และอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นเดือน ก.ค.ในวันนี้ด้วย
#3699


หนึ่งในโครงการสำคัญในเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) คือโครงการพัฒนา "สนามบินอู่ตะเภา" และ"เมืองการบินภาคตะวันออก" ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมืองการบินรวมทั้งเริ่มต้นลงทุนระบบเติมน้ำมันอากาศยาน

การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มีการวางแผนแม่บทฉบับสมบูรณ์แล้ว และหลังจากนี้จะเป็นการพัฒนาในแต่ละส่วน รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานรองรับ โดยความคืบหน้า โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ที่มีการรายงานต่อคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2564 พบว่า

บริษัทอู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) ซึ่งรับหน้าที่พัฒนาสนามบิน ได้จัดทำแผนแม่บทสนามบินฉบับสมบูรณ์เสร็จแล้ว และมีการจ้างผู้ออกแบบระดับโลก

กองทัพเรือ (ทร.) ที่รับหน้าที่พัฒนาสนามบินได้ออกแบบทางวิ่ง 2 เสร็จแล้ว และมีการปรับถมดินทางขับระยะที่ 1 คืบหน้า 80.53%

บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ "อีสท์วอเตอร์" รับผิดชอบพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้เตรียมก่อสร้างระบบประปาและบำบัดน้ำเสีย

สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) รับผิดชอบวางแผนแม่บทการพัฒนาภายในสนามบินได้จัดทำแผนแม่บทศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) แผนแม่บทศูนย์บริการอุปกรณ์ภาคพื้น และแผนแม่บทศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรทักษะชั้นสูงด้านอุตสาหกรรมการบิน

บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่เคยมีแผนพัฒนา MRO ได้กันพื้นที่ให้การบินไทย 103 ไร่ หากต้องการลงทุนในอนาคต

ในขณะที่การวางระบบบริการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ซึ่งผู้ได้รับคัดเลือก คือ บริษัท โกลเบิลแอโร่แอสโซซิเอทส์ จํากัด (GAA) ซึ่งร่วมทุนระหว่าง บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ "BAFS" ถือหุ้น 55% และ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ "OR" ถือหุ้น 45% ภายใต้ทุนจะทะเบียน 600 ล้านบาท

สกพอ.ได้ลงนามการเช่าพื้นที่ราชพัสดุเพื่อพัฒนาโครงการพัฒนาระบบบริการน้ำมันเชื้อเพลิงและอากาศยานกับบริษัท โกลเบิลแอโร่แอสโซซิเอทส์ จํากัด เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2564 โดยเป็นการเช่าพื้นที่บริเวณสนามบินอู่ตะเภา 17 ไร่ สัญญาเช่า 14 ปี

สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานพิธีลงนามครั้งนี้ โดยระบุว่า โครงการในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) คืบหน้าเป็นลำดับแต่จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้โครงการที่เกี่ยวข้องกับการบิน 3 โครงการ สะดุดบ้าง แต่มั่นใจว่าเมื่อควบคุมการแพร่ระบาดได้ และมีการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้นจะทำให้การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานการบินในสนามบินอู่ตะเภาคืบหน้า โดยการลงทุนระบบการเติมเชื้อเพลิงอากาศยานที่เป็นการเตรียมความพร้อมสำคัญที่จะเดินหน้าโครงการต่างๆ ในอีอีซี โดยเฉพาะการขนส่งทางอากาศทั้งการขนส่งผู้โดยสารและการขนส่งสินค้า และระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานภายในสนามบินเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญของสนามบิน

คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ สกพอ.กล่าวว่า โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดย สกพอ.ร่วมกับกองทัพเรือคัดเลือกเอกชนพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ซึ่ง GAA มีประสบการณ์มานานและเชี่ยวชาญ ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่จากภาคเอกชน อีกทั้งลดภาระงบประมาณและบุคลากรภาครัฐ และเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนได้ทำธุรกิจมากขึ้น


หม่อมหลวงณัฐสิทธิ์ ดิศกุล ประธานกรรมการ GAA กล่าวว่า การเช่าที่ดินราชพัสดุดังกล่าวเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการลงทุน โดยโครงการมีมูลค่าการลงทุนเริ่มแรก 2,237 ล้านบาท ซึ่ง GAA จะเตรียมความพร้อมในด้านระบบบริการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ส่งเสริมศักยภาพสนามบินอู่ตะเภาที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 60 ล้านคนต่อปี เพื่อสร้างความมั่นคงด้านการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานรองรับการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ของสนามบินอู่ตะเภา ในปี 2568 และการเติบโตของอีอีซีตามนโยบายการพัฒนาประเทศ

รวมทั้ง พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง และการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสังคม ด้วยความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจด้านการบริหารจัดการและการให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานและธุรกิจด้านพลังงาน มามากกว่า 30 ปี โดย BAFS และ OR จะสนับสนุนให้ GAA มีศักยภาพ ด้วยความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้การบริหารจัดการและการให้บริการณสนามบินอู่ตะเภามีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการค้าน้ำมันเสรีแบบ Open Access ดูแลระบบท่อส่งน้ำมันใต้ลานจอด

ประกอบเกียรติ นินนาท กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ BAFS กล่าวว่า "BAFS" เป็นผู้นำในด้านการให้บริการระบบเติมน้ำมันอากาศยานแบบครบวงจรของประเทศ ที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทน้ำมันและสายการบินจากทั่วโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานและส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมการบินของประเทศ โดยการจัดตั้ง GAA จะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก และเป็นก้าวสำคัญในการรองรับการเติบโตของโครงการในอีอีซีและประเทศไทยต่อไปในอนาคต

จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ OR กล่าวว่า OR ในฐานะที่เป็นหนึ่งใน Flagship ของกลุ่ม ปตท. และเป็นผู้นำด้านพลังงาน OR ให้บริการเชื้อเพลิงอากาศยานที่มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานสากลด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย สามารถตอบสนองได้ทุกความต้องการของลูกค้าในอุตสาหกรรมการบิน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานภายในสนามบินอู่ตะเภา สอดคล้องเป้าหมายยกระดับสนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินนานานชาติเชิงพาณิชย์หลักแห่งที่ 3
#3700


นายกฤษณ มรกต รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ เล็งเห็นถึงความปลอดภัยและความสะดวกสบายของผู้บริโภคเป็นสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 เช่นนี้ จึงจัดทำแคมเปญของไหว้สารทจีน โดยสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพื่อช่วยกระตุ้นสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมได้อีกระลอก เพราะการไหว้สารทจีนเป็นอีกเทศกาลสำคัญของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน ด้วยการยกทัพสินค้ามงคลชั้นดีที่ใช้ในการไหว้มาอย่างหลากหลาย โดยไฮไลต์ชุดของไหว้ในปีนี้ ได้แก่ "เกี๊ยวกุ้งจักรพรรดิ" โฉมใหม่! มีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ เกี๊ยวกุ้งแพกสุดคุ้มและเกี๊ยวกุ้งดิบ อร่อยเต็มคำทำจากกุ้งทั้งตัว วางจำหน่ายที่แม็คโครเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมี "ไก่นางพญา" ไก่ต้มทั้งตัว เนื้อนุ่ม เพื่อความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน "เป็ดนางฟ้า" เป็ดพะโล้และเป็ดย่าง เสริมอำนาจและวาสนา มีเงินทองเหลือเก็บ "ขาหมูจักรพรรดิ" ขาหมูและคากิเนื้อแน่น ถึงรสเครื่องพะโล้พร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ด เสริมความมั่งคั่งและความอุดมสมบูรณ์ รวมทั้งขาหมูเยอรมัน หมูดำซีพี-คุโรบูตะ เสริมความมั่นคง เงินทอง และสินค้าไหว้มงคลอื่นๆ อีกมากมาย ตามความเชื่อที่ว่าไหว้ของดีชีวิตเป็นมงคล

"สถานการณ์โควิด-19 และการล็อกดาวน์อีกหลายพื้นที่ในขณะนี้อาจกระทบต่อพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค ดังนั้น สินค้าที่สด สะอาด ปลอดภัยได้มาตรฐาน ในราคาเหมาะสมและถูกต้องตามประเพณีของชาวไทยเชื้อสายจีนที่สืบทอดต่อกันมายาวนานเป็นสิ่งสำคัญ ซีพีเอฟจึงผลิตและพัฒนาสินค้าแช่แข็งในแพกที่บรรจุอย่างดี ปิดสนิท สะอาด ง่ายต่อการซื้อหาไว้ล่วงหน้า สามารถแช่แข็งไว้ได้โดยที่ยังคงคุณภาพที่ดี คงคุณค่าทางโภชนาการ และยังเตรียมสะดวกด้วยรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถต้มในน้ำเดือดได้ (Boiled-in Bag) ทำให้ง่ายต่อการปรุงและเตรียมของไหว้ ลดภาระและความยุ่งยากให้แก่ผู้บริโภค โดยเพิ่มทางเลือกด้วยการเปิดจองและจำหน่ายผ่านทุกช่องทาง ที่เน้นความสะดวก รวดเร็ว และครบครัน" นายกฤษณกล่าว

สำหรับโปรโมชันพิเศษที่ห้างแม็คโคร เพียงซื้อชุดไหว้ครบ 999 บาท รับฟรี! กระเป๋าเก็บความเย็น มูลค่า 399 บาท หากซื้อครบ 1,500 บาท รับอั่งเปาส่วนลด 80 บาท และโปรโมชัน ซื้อหมูกรอบชาชู พิเศษจากราคา 259 บาท ลดเหลือ 249 บาท เมื่อซื้อ 1 แพก แถมกระเป๋าคล้องแขน 1 ใบ มูลค่า 129 บาท เริ่มตั้งแต่วันนี้ จนถึง 21 สิงหาคม 2564 หรือจนกว่าของแถมจะหมด เฉพาะสาขาที่ร่วมกิจกรรมเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีส่วนลดในช่องทางออนไลน์ ซื้อของไหว้ครบ 990 บาท รับส่วนลดทันที 80 บาท ติดตามได้ที่ Makro Click : https:// www.makroclick.com/th/campaign/cpf

นอกจากนี้ ยังสามารถหาซื้อได้ที่ CP FreshMart โลตัส ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ พร้อมโปรโมชันพิเศษรับสารทจีนนี้เท่านั้น