• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - iammu

#101

คงเป็นเรื่องแอบกังวลของคนชอบดื่มกาแฟไม่น้อย กับการเลือกซื้อเลือกหาแคปซูลกาแฟโดยเฉพาะในช่วงโควิด - 19 ที่ทุกคนไม่อยากออกจากบ้านไปไหน จึงเลือกสั่งผ่านออนไลน์แทน กระนั้นก็อาจมีความเสี่ยงได้รับสินค้าที่ไม่น่าพึงพอใจได้ แล้วจะเลือกซื้อเลือกหาผ่านร้านค้าออนไลน์อย่างไรให้ปลอดภัย ไร้กังวล? มีวิธีดี ๆ มาฝากกันแล้ว เอาไปใช้ตามสะดวก ได้ของดีแน่นอน
วิธีเลือกซื้อแคปซูลกาแฟผ่านร้านค้าออนไลน์ได้ปลอดภัย ไร้กังวล
1. เลือกร้านค้าที่ดูมีความน่าเชื่อถือ ไว้ใจได้
เริ่มต้นเลยคือควรเลือกร้านที่ดูแล้วมีความน่าเชื่อถือ สถานที่ตั้งร้านค้าสามารถหาได้อย่างง่ายดาย มีระบุที่อยู่ชัดเจน โดยที่สินค้าควรมีฉลากความปลอดภัยที่รับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และสามารถค้นหาเลขทะเบียนได้ด้วยเช่นกัน
2. บอกรายละเอียดสินค้าได้ชัดเจน
ร้านขายกาแฟแคปซูลที่ดีต้องระบุรายละเอียดต่าง ๆ ของสิ่งที่ขายอยู่ได้อย่างชัดเจน ถูกต้อง อาทิ กาแฟแคปซูล nespresso ราคา ... บาท ปริมาณ ... กรัม รสชาติ ส่วนผสม ที่มาที่ไป ฯลฯ ช่วยให้เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกได้เป็นอย่างดี หรือคนขายเองเมื่อสงสัยสามารถตอบเราได้อย่างกระจ่าง ทำให้รู้สึกว่ามีความเข้าใจแท้จริง
3. ราคาควรเหมาะสม
"อย่าเห็นแก่ของถูก" คำพูดที่มักจะพูดเตือนหลาย ๆ คนอย่างนี้อยู่เสมอ ทั้งนี้เพราะบางครั้งราคาถูกมากก็อาจได้คุณภาพต่ำมาแทน กลับกันราคาที่สูงเกินไป จริง ๆ คุณภาพอาจเทียบเท่าราคาถูกกว่าของยี่ห้ออื่นได้เหมือนกัน ดังเช่น กาแฟแคปซูล nespresso ร้าน A ราคา 249 บาท แต่คุณภาพเท่ากาแฟแคปซูลร้าน B ที่ราคาเพียง 199 บาท เป็นต้น ดังนั้น เราจึงควรหารายละเอียดเยอะ ๆ แล้วเลือกราคาที่เหมาะสม ไม่สูงหรือต่ำเกินไป
4. ส่งสินค้าได้ตรงเวลา
เราต้องศึกษาเรื่องการส่งสินค้าของทุก ๆ ร้านที่ขายกาแฟแคปซูลด้วย โดยให้อ่านรายละเอียดการส่งสินค้า จัดส่งเมื่อไหร่ วันไหน ช่วงเวลาประมาณกี่โมง แล้วลองดูรีวิวจากผู้เคยใช้งานก็ได้ว่าสินค้าถูกส่งตรงตามเวลาที่กำหนดไว้หรือไม่ สินค้าภายในเป็นอย่างไร การห่อพัสดุ สินค้าตรงปกหรือไม่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นมากขึ้น
5. การดูแลหลังการขาย
บางครั้งหลาย ๆ ร้านก็มีบริการดูแลหลังการขายให้ด้วย หลังจากได้รับสินค้าแล้วใช้งานร่วมกับเครื่องชงกาแฟเป็นอย่างไร ก็จะมีทักมาสอบถาม นับเป็นการใส่ใจผู้บริโภค และหากเกิดมีปัญหาจริง ๆ ก็บอกเพื่อรับการแก้ไขทันเวลา ดังนั้นจึงควรดูแต่ละร้านให้ดี
ยุคปัจจุบันมีตัวช่วยให้การทำกาแฟที่ง่าย ใช้เวลาน้อย อย่างเครื่องทำกาแฟ ซึ่งมีความสำคัญในชีวิตประจำวันของใครหลายคน เพื่อให้กระปรี้กระเปร่า ทำงานต่อได้อย่างสดชื่นแจ่มใส โดยแคปซูลกาแฟเป็นปัจจัยสำคัญ มีรสชาติ ปริมาณก็แตกต่างกันออกไป แต่การจะได้สิ่งที่ดีที่สุดก็ต้องเลือกอย่างรอบคอบ เพื่อความปลอดภัย หวังว่าคำแนะนำข้างต้นจะช่วยได้ 
ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP080202
#102


เมื่อใช้งานทีวีไปสักระยะ ต้องมีสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไปจนถึงรอยข่วนเกิดขึ้นที่หน้าจอ พาให้รำคาญตาเวลาดูเป็นอย่างมาก แต่กระนั้นก็สามารถทำความสะอาดด้วยวิธีไม่ยาก ราวกับว่าเพิ่งซื้อTVใหม่มาไม่กี่วันก่อนหน้า แล้วจะมีวิธีทำความสะอาดเช่นไร? บอกเลยเทคนิคที่จะเสนอแนะต่อไปนี้ไม่ยุ่งยาก แม้มีเวลาเล็กน้อยก็จัดการให้โทรทัศน์เครื่องโปรดดูใหม่ได้จริง
3 วิธีหลักทำความสะอาด TV ที่ใครก็ทำได้ง่าย ๆ
1. เลือกใช้น้ำส้มสายชู + น้ำ
วิธีแรกที่จะช่วยทำความสะอาดได้เป็นอย่างดีก็คือการเลือกใช้น้ำส้มสายชูนำไปผสมกับน้ำสะอาดในอัตราส่วน 1:1 โดยทั่วไปน้ำส้มสายชูจะมีฤทธิ์เป็นสารซักฟอกทางธรรมชาติ แถมราคาไม่แพง เริ่มต้นให้ปิดทีวีก่อน จากนั้นใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์มาชุบส่วนผสมแล้วบิดให้แห้งหมาด ๆ เช็ดจนทั่วไปในทิศทางเดียวกัน ลงน้ำหนักโดยเฉพาะบริเวณคราบที่สกปรกมาก
ทั้งนี้เนื่องด้วยราคา ทีวีตั้งแต่หลักพันปลาย ๆ ไปจนถึงหลักหลายหมื่น แนะนำว่าไม่ควรใช้สารเคมี ได้แก่ แอมโมเนีย เอทิลคลอไรด์ เอทิลแอลกอฮอล์ หรือแอสซิโทน เนื่องจากจะทำลายหน้าจอ อีกสิ่งสำคัญไม่ควรฉีดหรือเทส่วนผสมน้ำส้มสายชูลงไปบนหน้าจอโดยตรง จะทำให้จอเสียหาย และถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดโดยเฉพาะ แนะนำให้หาซื้อที่ร้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
2. ใช้แค่ผ้าไมโครไฟเบอร์
ต่อมาเลือกใช้แค่ผ้าไมโครไฟเบอร์เท่านั้น เริ่มต้นเหมือนกันคือปิด TV ก่อน เพื่อให้พิกเซลหยุดทำงาน และยังมองเห็นฝุ่น สิ่งสกปรกมากขึ้น ต่อจากนั้นก็เอาผ้าไมโครไฟเบอร์ที่มีลักษณะคล้ายผ้าเช็ดแว่นมาเช็ดอย่างหมดจด แต่ต้องเป็นผ้าแห้งเท่านั้นเพื่อไม่ทำให้มีขุยผ้าติดจอ ทั้งนี้ไม่ควรใช้กระดาษทิชชู เศษผ้าเก่า หรือกระดาษอเนกประสงค์ใด ๆ มาเช็ด เพราะว่าสิ่งเหล่านี้มีผิวสัมผัสหยาบ ทำให้เกิดทั้งรอยและขุยขึ้นได้ ที่สำคัญไม่ควรเช็ดหน้าจอรุนแรง ถ้าสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไม่ออกให้กลับไปใช้วิธีแรก
3. กำจัดรอยขีดข่วนต่าง ๆ บนจอ
การกำจัดรอยขีดข่วนนั้นก็สามารถทำได้ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ใช้สำลีชุบวาสลีนแล้วป้ายบริเวณที่รอย หรือใช้น้ำมันเคลือบเงา แลคเกอร์ฉีดตรงรอย รอให้แห้ง สุดท้ายเลือกใช้อุปกรณ์กำจัดรอยขีดข่วนบนหน้าจอโดยเฉพาะที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขาย - ซ่อม TV บางแหล่ง 
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทีวี ราคามีหลากหลาย ตามฟังก์ชัน ตามแบรนด์ รุ่น ขนาดหน้าจอ ดังนั้นเมื่อซื้อมาใช้งานแล้วควรดูแลรักษาทำความสะอาดสม่ำเสมอ ด้วยการใช้วิธีที่เหมาะสม เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานให้คงอยู่ เหมือนเพิ่งซื้อมาใหม่เมื่อวาน หวังว่าวิธีทำความสะอาดทีวีทั้ง 3 นี้จะช่วยหลายคนได้ เลือกไปปรับใช้กันดู เห็นผลลัพธ์น่าประทับใจแน่นอน
เชิญรับชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/TVA07
#103

"ไดร์เป่าผม" อุปกรณ์ช่วยทำผมเองที่บ้าน อย่างไรก็ตามเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าคนจำนวนไม่น้ิยต้องกำลังมีความเชื่อเกี่ยวกับการใช้งานแบบผิด ๆ ที่เป็นอันตรายสร้างปัญหาที่ทำให้ผมเสียก่อนเวลาอันควร จึงอยากนำข้อมูลดี ๆ มาแชร์เรื่องต้องทราบกับข้อห้ามของการใช้งานอุปกรณ์ทำผมชนิดนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจใหม่ ไม่มีปัญหาเรื่องผมเสียกวนใจในอนาคต
5 ข้อห้ามเมื่อจะเลือกใช้งานไดร์เป่าผม เรื่องของผมที่สาว ๆ ต้องทราบ
1. เลือกเป่าผมทั้งที่ยังเปียก
เป็นข้อห้ามแรกที่หลายคนต้องรู้ก่อนเลย ไม่ควรเป่าผมขณะที่ยังเปียก เพราะตอนนั้นผมจะมีความอ่อนแอมาก การนำความร้อนไปสัมผัสยิ่งทำให้เสียความชุ่มชื้นของเส้นผมเข้าไปใหญ่ แนะนำว่าเช็ดผมจนแห้งหมาด ๆ แล้วค่อยเป่า ช่วยรักษาความชุ่มชื้นไว้ในระดับหนึ่ง ถึงกระนั้นก็ตาม ปัจจุบันไดร์หลายยี่ห้อมีนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น ไดร์เป่าผม dyson ที่มีระบบควบคุมความร้อนอัจฉริยะ อ่อนโยนต่อเส้นผม และหนังศีรษะ ช่วยให้การเป่าผมปลอดภัยขึ้น
2. หลังสระผมมาใหม่ ๆ ก็เป่าผมทันที
หลาย ๆ ท่านไม่รู้คิดว่าต้องรีบเป่าผมให้แห้ง หลังสระผมมาแล้วก็ใช้ไดร์เป่าทันที ทั้งที่จริงแล้วผมของเราจะพันกันยุ่งไปหมด ใช้ความร้อนทันทีจึงไม่ดีแน่นอน แนะนำว่าให้เช็ดผมแห้งหมาดแล้วสางผมออกเบา ๆ ให้ผมเรียงเส้นเป็นระเบียบ หลังจากนั้นจึงค่อยเป่าผมให้แห้งง่ายขึ้น 
3. เป่าผมเสร็จแล้วไม่บำรุงเส้นผม
นี่ก็เป็นอีกข้อห้ามที่หลังจากเป่าผมเสร็จก็ปล่อยละเลย ทั้งที่จริงเราควรบำรุงเส้นผมอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเลือกใช้ไดร์เป่าผม dyson ไดร์เป่าผม Philips หรือแบรนด์อื่น ๆ ที่มีนวัตกรรมช่วยเส้นผมสุขภาพแข็งแรงอย่างไรก็ตาม แนะนำว่าให้ทาเซรั่มหรือครีมบำรุงเส้นผม เป็นการเพิ่ม / ล็อกความชุ่มชื้น 
4. ขณะเป่าไม่แบ่งผมออกเป็นช่อ
สุดท้ายคือการที่เราเป่าผมไปดื้อ ๆ โดยไม่มีการแบ่งผมเป็นช่อ จะทำให้ผมแห้งไม่สม่ำเสมอ แนะนำว่าควรแบ่งเป็นช่อ ๆ แล้วเป่า เริ่มจากด้านในออกมาด้านนอก เป่าจนเส้นผมแห้งสนิท หากผมจุดไหนแห้งไม่สนิทเมื่อทำผมต่อ เช่น ใช้เครื่องหนีบ หรือม้วนผม พอความร้อนไปถูกตรงที่แห้งไม่สนิทก็ทำผมเสีย ผมไหม้ได้
นอกจากนี้ ควรเลือกหวีที่เหมาะสมต่อการใช้ไดร์เป่าผมด้วย โดยหวีที่อยากแนะนำควรมีลักษณะเป็นม้วนกลม หรือ Round Bush ช่วยจัดทรงผมได้ดี ไดร์ผมตรงจุด อยากลอนช่วงปลายก็ไม่มีปัญหา ทั้งนี้ประเทศไทยเรามีหลายแบรนด์ ดังเช่น ไดร์เป่าผม dyson ไดร์เป่าผม Philips หรือยี่ห้ออื่น ๆ อยากให้ลองศึกษารายละเอียด ฟังก์ชันการทำงานก่อนสั่งซื้อเสมอ
สามารถรับชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP160101
#104


สภาพอากาศอันแสนอบอ้าวของเมืองไทย ทำให้หลายบ้านจำเป็นจะต้องต้องติดตั้งแอร์เพื่อเพิ่มความเย็นให้ร่างกาย แต่คุณ ๆเคยประสบปัญหาเปิดแล้วไม่เย็นกันบ้างหรือไม่? แท้จริงเป็นเพราะอะไร สามารถสังเกตอาการได้เพื่อลดความผิดพลาดดังกล่าวได้ยังไง เอาเป็นว่าเรื่องนี้ไม่ยุ่งยาก ขอนำเสนอข้อมูลมาช่วยไขข้อสงสัยให้การใช้งานของคุณเย็นฉ่ำโดนใจ ไม่ว่าอากาศจะร้อนร้อนเท่าใดก็หมดห่วง
เหตุใดแอร์ที่ใช้งานอยู่ถึงไม่เย็น?
ที่จริงแล้วสาเหตุที่เครื่องปรับอากาศที่ใช้งานอยู่ไม่เย็น มีหลายปัจจัยด้วยกัน อาจมาจากผู้ใช้เปลี่ยนโหมดใช้งานผิดเพี้ยนไป กลายเป็นเปิดแบบใช้พัดลมบ้าง หรืออื่น ๆ ซึ่งปกติแล้วก็แค่เปิด - ปิด และเพิ่ม - ลดอุณหภูมิเท่านั้น แนะนำว่าให้ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับระบบการทำงานให้ชัวร์ 
ทั้งนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ดังเช่น เครื่องมีรอยรั่ว คอมเพรสเซอร์ทำงานผิดปกติ หรือน้ำยาหมด เป็นต้น และหากระดับความเย็นลดลงจากปัจจัยเหล่านี้ควรเรียกผู้เชี่ยวชาญมาช่วยแก้ไข เพราะด้วยราคาแอร์แต่ละเครื่องค่อนข้างสูง จึงไม่ควรเสี่ยงแก้ไขเอง
พาไปสังเกตสาเหตุที่เครื่องปรับอากาศไม่เย็น
1. ให้ตรวจสอบโหมดหรือฟังก์ชันใช้งาน
อย่างที่บอกว่าการเปลี่ยนโหมดของผู้ใช้งานเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เครื่องไม่เย็น จึงควรสังเกตโหมด หรือฟังก์ชันที่ใช้งานอยู่ ดูว่าตอนนี้เครื่องอยู่ในโหมดปกติหรือไม่ โดยสังเกตที่รูปไอคอน กรณีไม่เย็นจะอยู่ในรูปไอคอนพัดลม ก็ให้เปลี่ยนกลับให้อยู่ในโหมดเย็น โดยจะเป็นรูปไอคอนเหมือนหิมะ มีแฉก ๆ รับรองว่ากลับมาเย็นฉ่ำเหมือนเดิม
2. ให้ตรวจสอบที่คอมเพรสเซอร์
ด้วยกลไกของเครื่องปรับอากาศในบางรุ่นป้องกันเวลาไฟตก เมื่อไฟตกขึ้นมาเครื่องจะยังสามารถทำงานได้ปกติ แต่ก็มีบ้างที่ความเย็นลดลง และเมื่อยกเบรกเกอร์ขึ้นความเย็นก็จะกลับมา นอกจากนี้ยังอาจมีสาเหตุอื่น ๆ อาทิ เครื่องมีเสียงดังแปลก ๆ หรือตัวเครื่องคอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน ควรเรียกผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดีกว่า 
3. ให้ตรวจสอบที่ฟิลเตอร์ หรือแผ่นกรอง
สุดท้ายให้ลองไปตรวจสอบฟิลเตอร์ หรือแผ่นกรองดู เปิดหน้ากากของเครื่องออก ดูว่ามีสิ่งสกปรก ฝุ่น เส้นผม เส้นขนเกาะตามแผงหรือไม่ หากพบว่ามีเป็นจำนวนมาก หรืออุดตันการไหลเวียนให้ถอดออกแล้วทำความสะอาดใส่กลับเข้าไปใหม่ ทำให้อากาศไหลเวียนดีขึ้นได้ อุณหภูมิก็จะกลับมาเย็นฉ่ำเหมือนเดิม ซึ่งผู้ใช้งานควรตรวจสอบเรื่องนี้อย่างสม่ำเสมอ
เมื่อรู้ว่าสาเหตุที่แอร์ไม่เย็นเป็นเพราะอะไรแบบนี้แล้ว ต่อไปเมื่อเกิดปัญหาขึ้นรับรองว่าผู้ใช้งานทุก ๆ คนจะสามารถตั้งรับ และตรวจสอบด้วยตนเอง พร้อมแก้ไขได้หากไม่เหนือบ่ากว่าแรง แต่ถ้าไม่ได้จริง ๆ ต้องเรียกผู้เชี่ยวชาญมาช่วยทันที ทั้งนี้ บ้านเราก็มีขายอยู่หลายแบรนด์ ราคาแอร์ก็มีตั้งแต่ราคาเริ่มต้นที่หลักหมื่นต้น ๆ ไปจนถึงหลายหมื่นเลยทีเดียว อย่าลืมเลือกที่ตอบโจทย์กันนะ
สามารถดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP01
#105


กลายเป็นไอเท็มสำคัญที่ต้องพกพาไปด้วยเมื่อออกจากบ้านสำหรับ "หน้ากากอนามัย" ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกหลายประเภท ไม่ว่าจะแบบผ้า แบบทางการแพทย์ N95 ฯลฯ แต่อย่างไรแล้วแต่ละประเภทย่อมมีประสิทธิภาพด้านการป้องกันที่แตกต่างกัน จึงจะมานำเสนอให้อย่างหมดเปลือก พร้อมแถมวิธีสวม - ถอดที่ถูกต้องเพิ่มเติมให้ด้วย
หน้ากากอนามัยแต่ละประเภทมีประสิทธิภาพการป้องกันอย่างไร?
1. หน้ากากทางการแพทย์
หรือที่รู้จักกันดีว่ามาสก์สีเขียว ผลิตจากพลาสติกพอลิโพรไพลีน มีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัส เชื้อแเบคทีเรีย ละอองเกสร และฝุ่นขนาดเล็ก หาซื้อได้ง่าย สนนราคาไม่แพงมากเฉลี่ย 2.5 บาทขึ้นไป ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อที่มาจากสารคัดหลั่งคนสู่คน แต่หากขนาดไม่พอดีกับหน้ามีโอกาสเลื่อนหลุดง่าย ต้องใช้มือมาสัมผัส ทำให้เสี่ยงติดเชื้อมากขึ้น
2. หน้ากาก หน้ากาก N95
ต่อมาเป็นหน้ากากชนิด N95 ที่สามารถป้องกันไวรัสได้ถึง 95% ทำจากโพลีโพรพีลีน มีประสิทธิภาพการป้องกันเกี่ยวกับไวรัส เชื้อแบคทีเรีย ละอองเกสร และฝุ่นละอองขนาดเล็กไปจนถึงเชื้อโควิด - 19 ได้ดี แต่จะกระชับหน้ามาก เพิ่มความอึดอัดเวลาใส่ ใส่แล้วพับเก็บยาก เนื่องจากลักษณะเป็นฝาครอบ
3. หน้ากากแบบผ้า
สำหรับหน้ากากผ้าใช้วัสดุทำหลากหลาย ทั้งใยสังเคราะห์ ผ้าฝ้าย ฯลฯ ราคาจึงแตกต่างกันออกไป สามารถนำมาซักใช้งานซ้ำได้ มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อแบคทีเรีย ละอองเกสร และฝุ่นเท่านั้น มีหลายสีหลายลายให้เลือกใช้ แต่จะไม่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 หรือฝุ่นที่มีขนาดเล็ก ๆ ได้ 
4. หน้ากากแบบคาร์บอน
ปิดท้ายด้วยหน้ากากแบบมีชั้นกรองคาร์บอนที่ประสิทธิภาพจะเหมือนกับหน้ากากทางการแพทย์ คือความสามารถการป้องกันเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส ละอองเกสร และฝุ่นละอองขนาดเล็ก แต่ที่ต่างคือสามารถป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดี ต้องสังเกตว่าสีที่เห็นเป็นการเสริมชั้นกรองคาร์บอน หรือแค่สีสันที่คล้ายหน้ากากทางการแพทย์ เพราะไม่อย่างนั้นประสิทธิภาพการป้องกันจะต่ำลงกว่าเดิม
สอนวิธีใส่ - ถอดหน้ากากที่ถูกต้อง
ในส่วนของการใส่และถอดที่ถูกวิธีนั้นไม่ว่าจะ หน้ากาก N95 หน้ากากผ้า หรือหน้ากากใด ๆ ก็ตาม ต้องเริ่มต้นจากการล้างมือให้สะอาด หลังจากนั้นให้สวมหน้ากากปิดทั้งปาก จมูก โดยดึงลงให้ถึงใต้คาง กรณีเป็นหน้ากากทางการแพทย์ หรือหน้ากากคาร์บอน ให้กดเหล็กดามลงที่สันจมูกด้วย 
สำคัญมากคือพยายามไม่สัมผัสโดยตรงกับหน้ากากระหว่างวัน หากต้องสัมผัสให้ล้างมือด้วยเจล/สเปรย์แอลกอฮอล์ สบู่+น้ำทุกครั้ง หากชื้นต้องถอดออกและใส่อันใหม่ทันที การถอดออกต้องถอดจากด้านหลัง แล้วทิ้งในถังขยะแบบปิด
ในยุคที่เราทุกคนต้องดูแลรักษาตัวเองอย่างดีที่สุดให้ห่างไกลจากความเสี่ยงแพร่ - รับเชื้อโควิด - 19 เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งหน้ากากอนามัยเป็นสิ่งจำเป็นอีกอย่างที่สำคัญ ดังนั้น การเรียนรู้เกี่ยวกับเลือกสวมใส่ - ถอดอย่างถูกต้องจึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามไปได้
สามารถชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/TOO020106
#106

ยุคปัจจุบันด้วยสภาพอากาศที่ไม่ปลอดภัย มีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจไม่ว่าจะเป็น ควัน มลภาวะต่าง ๆ ไปจนถึงฝุ่น PM 2.5 ทำให้ "เครื่องฟอกอากาศ" กลายเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นต้องใช้งานอย่างมากกับคนในยุคนี้ แต่จะว่าไปเหตุผลที่ควรมีไว้ช่วยสร้างความอุ่นใจเรื่องสุขภาพอย่างไรบ้าง? จะพาไปเจาะลึกในบทความนี้เพื่อคลายข้อสงสัยดังกล่าว
เหตุผลที่เรานั้นต้องมีเครื่องฟอกอากาศไว้ใช้งานที่บ้าน
1. เครื่องกรองอากาศ "ช่วยปกป้องร่างกายไม่ให้เกิดโรคภัย"
แน่นอนว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้จะช่วยให้อากาศมีความเป็นบริสุทธิ์มากขึ้น กรองสิ่งต่าง ๆ ให้ออกไปในบริเวณที่อยู่ ช่วยให้ระบบทางเดินหายใจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น ไม่มีโรคภัยเกิดตามมาง่าย ๆ 
2. เครื่องช่วยกรองอากาศ "ช่วยให้การทำงานของปอดดีขึ้น"
ในแต่ละวันทุกคนต้องพบเจอกับมลพิษทางกาศทั้ง ฝุ่น ควัน มลภาวะต่าง ๆ อย่างแสนสาหัส เมื่อกลับมาบ้านก็ควรมีอากาศที่ดีสูดหายใจเข้าปอดไปบ้าง แน่นอนว่าเครื่องช่วยกรองอากาศจะทำให้ปอดทำงานได้ดียิ่งขึ้น ร่างกายไม่เป็นอันตราย ส่งผลถึงสุขภาพที่แข็งแรงใน ซึ่งปัจจุบันแต่ละแบรนด์ก็มีฟังก์ชันน่าสนใจ อาทิ เครื่องฟอกอากาศ sharp ที่สามารถพ่นอนุภาคไฟฟ้าแบบประจุบวกและลบมาฆ่าเชื้อรา เชื้อโรค หรือเชื้อแบคทีเรีย ไปจนถึงเชื้อไข้หวัดนก ฝุ่น PM 2.5 ได้ 
3. เครื่องกรองอากาศ "ช่วยลดอาการภูมิแพ้"
ใครที่มีโรคประจำตัวเป็นภูมิแพ้โดยเฉพาะภูมิแพ้อากาศ แนะนำว่าต้องมีเครื่องนี้ติดตั้งไว้เลย เพราะจะช่วยดักจับบรรดาไรฝุ่น ละอองฝุ่น สาเหตุหลักทำให้คนเป็นโรคภูมิแพ้เกิดอาการระคายเคือง เมื่อเปิดใช้งานอุปกรณ์ด้วยฟังก์ชัน นวัตกรรม ของแต่ละแบรนด์ก็จะช่วยจัดการได้อย่างดี อาการภูมิแพ้ทุเลาลง เช่นอย่างที่บอกเครื่องฟอกอากาศ sharp มีฟังก์ชันที่น่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซ็นเซอร์ตรวจจับกลิ่น ละออง ความชื้น สลายบรรดากลิ่นอับที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้จากไรฝุ่นในห้อง
4. เครื่องกรองอากาศ "ช่วยให้เราพักผ่อนนอนหลับสบายใจ"
ใครที่มีปัญหานอนไม่หลับ หรือนอนหลับไม่สนิท หลับยาก หลับ ๆ ตื่น ๆ อ่อนเพลียอยู่ตลอด ความจริงแล้วอีกสาเหตุก็มาจากสภาพอากาศ และฝุ่นละออง ดังนั้นควรมีเครื่องนี้ไว้เพื่อให้ทำหน้าที่ดูแลปัญหาในอากาศ และปรับระดับความบริสุทธิ์ดียิ่งขึ้น ช่วยให้คุณ ๆพักผ่อนนอนหลับสบายใจ ส่งผลต่อสุขภาพแข็งแรงยิ่งกว่าเดิม
ด้วยเหตุผลข้างต้นนี้คงจะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกซื้อเลือกหาเครื่องฟอกอากาศอย่างไม่ลังเล เพื่อช่วยสร้างสุขภาพร่างกายที่ดี กับช่วงเวลาของสภาพอากาศไม่ปลอดภัยเช่นนี้ อย่างไรก็ตามบ้านเราเรามีตัวเลือกหลายยี่ห้อ หลากหลายรุ่น ควรทำความเข้าใจฟังก์ชันการใช้งานให้ละเอียด พร้อมเปรียบเทียบหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ตนเองเท่านั้น
สามารถชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/APP02
#107


ด้วยสภาพอากาศในประเทศไทยที่ร้อนจัดทำให้เกิดไอเท็มพัดลมน่าสนใจอย่างพัดลมไอเย็นขึ้น แต่เรื่องนี้จำเป็นต้องทำความเข้าใจทั้งนี้เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทดังกล่าวไม่เหมือนพัดลมแบบไอน้ำที่หลาย ๆ คนกำลังเข้าใจอยู่ แล้วพัดลมแบบไอเย็นมีลักษณะอย่างไร จะดูแลรักษาความสะอาดยากหรือเปล่า? อยากรู้ต้องไปหาคำตอบโดยด่วน 
ความแตกต่างของพัดลมไอเย็น VS พัดลมแบบไอน้ำ
ความแตกต่างที่ต้องรู้ คือ พัดลมแบบไอเย็นจะส่งความเย็นเป็นลมผ่านแผ่นทำความเย็นที่อยู่ภายในเครื่อง แต่ถ้าเป็นพัดลมไอน้ำระหว่างที่เปิดใช้งานจะมีละอองน้ำออกมาด้วย และเป่าให้ละอองกระจายไปทั่วด้วยลม จึงจัดได้ว่าพัดลมแบบไอเย็นเหมาะกับการใช้งานภายในห้องต่าง ๆ ที่ลมพัดผ่าน ถ่ายเทสะดวก ขณะที่พัดลมแบบไอน้ำจะเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่โล่งแจ้ง
หากอธิบายให้เข้าใจถึงหลักการทำงานของพัดลมแบบไอเย็นต้องบอกว่าเป็นการระเหยของน้ำผ่านแผงเปลี่ยนความร้อน หรือ Cooling Pad, Evaporation Pad แล้วถูกส่งขึ้นไปในระบบจ่ายน้ำให้ถูกปล่อยผ่านแผง จากลมที่ร้อนก็จะเย็นขึ้นและเป่าออกมา กรณีแลกเปลี่ยนความร้อนเป็นความเย็นไม่พอ สามารถนำ Cooling Pack ไปแช่เย็นแล้วเอามาใส่ในถังเก็บน้ำได้ ก็จะทำให้เย็นขึ้น อาทิเช่น พัดลมไอเย็น hatari หรือยี่ห้ออื่น ๆ ที่มี Cooling pack อย่างดีให้ใช้งาน
แล้วเราจะดูแลรักษาหลังใช้งานอย่างไร?
หลังจากทราบเรื่องความต่างของพัดลมแบบไอเย็น และพัดลมไอน้ำ ถึงเวลาต้องดูแลรักษากันหน่อย เริ่มต้นหลังจากเลิกใช้งานแล้วทุกครั้งให้กดปุ่มทำงานเครื่องแบบไม่ทำความเย็น ไล่ความชื้น ลดการเกิดเชื้อราบน Cooling Pad ออก นำน้ำที่เหลือไปเททิ้ง ต่อจากนั้นถอดแผ่นกรองออกมา ฉีดน้ำเบา ๆ ไล่ฝุ่น แล้วไปตากในที่อากาศถ่ายเท ลมพัดผ่าน (ห้ามตากแดดจัด) 
เสร็จแล้วก็เปิดแผ่นกรองออก นำแผงทำความเย็นมาล้างเปิดน้ำให้ไหลผ่านไล่ฝุ่น ไม่จำเป็นต้องผสมกับน้ำยาใด ๆ บางแบรนด์อาจมีแผงทำความเย็นมากกว่า 1 แผง เช่น พัดลมไอเย็น hatari ก็ถอดออกมาล้างให้หมด ส่วนถังเก็บน้ำยี่ห้อไหนถอดได้ก็ถอดออกมาล้าง แต่หากไม่ได้ก็เปิดช่องระบาย ใช้ฟองน้ำชุบน้ำแล้วบิดให้แห้งหมาด ๆ มาเช็ดภายใน รวมถึงเช็ดใบพัดด้วย
หลังจากทุก ๆ อุปกรณ์ที่ถอดออกมาดูแลรักษาความสะอาดแห้งหมดแล้ว ให้ประกอบชิ้นส่วนพัดลมไอเย็นเข้าไปให้เหมือนเดิมตามลำดับ ที่สำคัญต้องระวังแผงควบคุมความเย็นด้วยเพราะทำจากกระดาษ เสียหายง่าย เท่านี้สิ่งสกปรกก็จางหาย ใช้งานได้ความเย็นเหมือนเดิม 
เชิญรับชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP0507
#108


หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังประสบปัญหาพัดลมตั้งโต๊ะที่ใช้งานอยู่ดี ๆ กลับไม่หมุนขึ้นมาดื้อ ๆ แล้วตกลงใจจะไปเลือกซื้อเลือกหาเครื่องใหม่ อยากให้ใจเย็นแล้วลองเรียนรู้บทความนี้ดู ทั้งนี้เพราะมีวิธีการซ่อมเองง่าย ๆ ไม่ต้องง้อช่างมาบอกต่อ รับรองไม่เปลืองเงิน ได้กลับมาใช้งานให้ความเย็นดังเดิม เพิ่มเติมคือลดความหงุดหงิดจากสภาพอากาศ
พัดลมตั้งโต๊ะไม่หมุนจัดการได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้
1. ให้ทำความสะอาดอย่างหมดจด
แท้จริงแล้วการที่พัดลมเกิดปัญหาไม่หมุนมีปัจจัยมาจากสิ่งสกปรก ฝุ่น เส้นผม หรือเส้นขนสัตว์ไปสะสมแล้วติดพันจนมอเตอร์ไม่สามารถหมุนต่อไปได้ การทำความสะอาดจึงสำคัญมาก ไม่ว่าจะพัดลมตั้งพื้น หรือประเภทติดตั้งเพดาน โดยวิธีการทำความสะอาดแบบตั้งโต๊ะ ได้แก่ 
-    ให้เตรียมอุปกรณ์ช่วยอย่าง ผ้าแห้ง แปรงสีฟัน น้ำสะอาด และน้ำยาทำความสะอาด
-    เริ่มแกะอุปกรณ์ออกไปตามลำดับ ได้แก่ ตัวล็อกใบพัด แล้วค่อยหมุนเอาใบพัดออก ต่อจากนั้นถอดตัวล็อกตะแกรง พร้อมถอดฝ้าตะแกรงหลังออก
-    ทำความสะอาดอุปกรณ์ทุกชิ้นที่ถอดออกมา โดยใช้แปรงสีฟันขัดคราบสกปรก แล้วนำผ้าแห้งมาเช็ดจนกว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ จะแห้ง 
-    นำไปผึ่งแสงแดดต่อเพื่อป้องกันการชื้นจนเกิดสนิม แล้วทาน้ำมันหล่อลื่นให้เรียบร้อย (น้ำมันหล่อลื่น ได้แก่ น้ำมันหยอดจักร หรือน้ำมันเครื่องเก่า)
-    ประกอบอุปรกณ์ต่าง ๆ ตามลำดับ ได้แก่ ตะแกรงด้านหลัง ตัวล็อกตะแกรง สวมใบพัด ล็อกใบพัด แล้วใส่ตะแกรงหน้า อย่าลืมล็อกทุกชิ้นส่วนของพัดลมให้แน่น
2. ต้องเปลี่ยน BUSH ที่เสื่อมสภาพ
อีกสิ่งที่สามารถซ่อมพัดลมเองได้ก็คือการเปลี่ยน BUSH ที่เสื่อมสภาพ เริ่มต้นให้เตรียมไขควงแฉก ตะกั่วบัดกลี คัตเตอร์หัวแร้ง แล้วเริ่มถอดอุปกรณ์ด้วยการไขนอตที่หลังพัดลม โดยตัว  BUSH จะคล้ายกล่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ให้ปลอกสายไฟฟ้าแล้วทำการบัดกลี ซึ่งต้องระวังมากอย่าให้โดนส่วนอื่นของสายไฟ กรณีที่ไม่มีหัวแร้งสามารถใช้มือพันเองได้แต่ต้องแน่น ๆ แล้วพันด้วยเทปสายไฟ สุดท้ายใส่อุปกรณ์ทั้งหมดกลับเข้าที่ นำ BUSH ใส่ตรงจุดเดิมด้วย แล้วขันนอตจนแน่น กรณีที่มอเตอร์เสีย แนะนำว่าให้ดูดี ๆ ระหว่างค่าซ่อม กับซื้อตัวใหม่แบบไหนดีกว่า เหตุเพราะราคามอเตอร์พัดลมตั้งพื้นอยู่ที่ 200 - 300 บาท 
ปกติแล้วปัจจัยที่ทำให้พัดลมตั้งโต๊ะไม่หมุนนอกจากสิ่งสกปรก ฝุ่น เส้นผม หรือเส้นขนสัตว์ติดอยู่ที่แกนหมุนใบพัด เรื่องของมอเตอร์ที่มีปัญหา ก็ยังมีเรื่องแกนหมุนเสื่อมสภาพด้วยเช่นกัน โดยบุชเป็นอุปกรณ์วงกลมครอบแกนหมุนใบพัดที่อยู่ด้านหน้ามอเตอร์ หากเสื่อมสภาพก็ต้องซื้อมาเปลี่ยนใหม่ หวังว่าใครที่มีปัญหานี้จะสามารถแก้ไขได้ด้วยตนเองอย่างราบรื่น
เข้ารับชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP0508
#109


การซักผ้าคือสิ่งที่ต้องทำเป็นกิจวัตรประจำวันอยู่แล้ว แน่นอนว่าใครที่ไม่อยากเปลืองเวลา หรือเปลืองแรงแขนก็อยากเลือกใช้เครื่องซักผ้าโดยเฉพาะเครื่องซักผ้า 2 ถัง แต่กระนั้นจะรีบตกลงใจเลือกซื้อเลยเห็นทีคงไม่ดีแน่ เนื่องด้วยมีโอกาสเสี่ยงใช้งานสินค้าไม่ตอบโจทย์ ดังนั้น การศึกษาเกี่ยวกับสิ่งที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกซื้อจึงสำคัญมาก
4 สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกซื้อเลือกหาเครื่องซักผ้า 2 ถัง
1. ความจำเป็นในการใช้งาน
แน่นอนว่าราคาเครื่องซักผ้า 2 ถังเป็นอีกประเภทที่ได้รับความนิยม สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาคือความจำเป็นในการใช้งาน ว่าในทุกวัน ทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือนซักผ้ากันกี่ครั้ง ซักบ่อยหรือไม่ หรือท่านไหนที่ต้องการประหยัดเวลา ต้องการเอาเวลาไปทำอย่างอื่นพร้อมกับการซักผ้าด้วย ไม่อยากออกแรงแขนมาก แบบนี้คือมีความจำเป็นต้องใช้งานจริง ๆ
2. เปรียบเทียบแบรนด์หาความคุ้มค่าที่สุด
ปัจจุบันเครื่องซักผ้าประเภท 2 ถังมีหลายยี่ห้อออกแบบมาให้ใช้งาน ที่สำคัญมีฟังก์ชันการทำงานที่แตกต่างกันออกไป จึงควรทำความเข้าใจข้อมูลต่าง ๆ ของแต่ละเครื่อง เพื่อเทียบหาความคุ้มค่าที่สุดให้กับตนเอง ดูว่าชนิดไหนที่จะตอบโจทย์มากที่สุด หมดห่วงความสงสัยเครื่องซักผ้า 2 ถัง ยี่ห้อไหนดีไปได้
3. ศึกษาฟังก์ชันการใช้งาน
อย่างที่บอกว่าหลากหลายยี่ห้อผลิตออกมาและมีฟังก์ชันการใช้งานที่เยอะ จนหลาย ๆ ท่านอาจเกิดอาการสงสัยเครื่องซักผ้า 2 ถัง ยี่ห้อไหนดี แต่จริง ๆ เราควรศึกษาเรื่องฟังก์ชันเป็นสำคัญด้วย เพื่อดูว่าฟังก์ชันไหนทำงานอย่างไร สร้างความเข้าใจในการใช้งานแต่เนิ่น ๆ ทั้งนี้จะไปสอดคล้องกับเรื่องของความจำเป็นในการใช้งาน เพราะหากไม่จำเป็นซื้อมาก็เปล่าประโยชน์ แถมราคาอาจสูงกว่าอุปกรณ์อื่นที่ตอบโจทย์กว่าก็ได้
4. หากจะสั่งซื้อออนไลน์ต้องเลือกแหล่งที่ไว้ใจได้
ในการเลือกซื้อเลือกหาสินค้าปัจจุบันเราสามารถกดสั่งผ่านออนไลน์ได้ ซึ่งมีหลากหลายแหล่งให้เลือกอีกเช่นกัน จึงอยากบอกว่าให้เลือกดูแหล่งที่น่าเชื่อถือไว้ใจได้จะดีกว่า อาจดูจากระยะเวลาการขายสินค้าผ่านออนไลน์ การลงรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งฟังก์ชัน ขนาด ความจุถัง ราคาเครื่องซักผ้า 2 ถัง หรือจะเป็นรีวิวจากลูกค้าคนก่อน ๆ ที่ซื้อสินค้าจากร้านไป แล้วมารีวิวว่าได้รับสินค้ารวดเร็วแค่ไหน เพื่อให้การกดสั่งเป็นไปอย่างสบายใจ ราบรื่น
ทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกซื้อเลือกหาเครื่องซักผ้า 2 ถังมาใช้งาน สร้างความเหมาะสม ตอบโจทย์ต่อตัวเอง และหากท่านใดมีความต้องการอยากส่งต่อข้อมูลดี ๆ เหล่านี้ก็สามารถทำได้ทันที เรายินดีเป็นอย่างมาก เพื่อเสื้อผ้าที่สะอาด ประหยัดเวลาตนเอง
เชิญดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP130304
#110

"หม้อทอดไร้น้ำมัน" ถือว่าเป็นอีกไอเท็มเด็ดในครัวไปโดยปริยาย เนื่องด้วยใช้งานง่ายมาก ๆ และยังช่วยให้สุขภาพดีขึ้น ห่างไกลจากโรคอันตรายหลากหลายแบบ ด้วยมีนวัตกรรมดูดซับเอาน้ำมันออกจากอาหาร ลดระดับไขมันเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งใครที่ไม่รู้ว่าจะทำเมนูอะไรดีแต่มีหม้อทอดแล้ว ไม่ต้องไปหาสูตรที่ไหนไกล เพราะขอบอกต่อกับ 4 เมนูง่าย ๆ แค่จับใส่หม้อ ตั้งไฟ ก็อิ่มอร่อยได้สบาย
4 เมนูทำไม่ยาก อิ่มอร่อยสบายท้องเพียงใช้หม้อทอดไร้น้ำมัน
1. อิ่มอร่อยกับเฟรนช์ฟรายทอด
ทุกคนสามารถทอดได้ทั้งแบบไร้น้ำมัน หรือมีน้ำมันคลุกเล็กน้อยตามความชอบ ซึ่งหากเป็นแบบไร้น้ำมันเลยก็จะต้องวอร์มหม้อรอก่อนทอด ด้วยอุณหภูมิที่ 200 องศาฯ ราวๆ 3 นาที ต่อไปจึงใส่เฟรนช์ฟรายลงไปในอุณหภูมิเดิม คือ 200 องศาเซลเซียส แต่ให้เวลานานขึ้นคือ 12 นาที กรณีทอดแบบมีน้ำมันคลุกเล็กน้อยให้วอร์มหม้อในอุณหภูมิและระยะเวลาเดียวกัน แล้วใส่เฟรนช์ฟรายลงไปโดยใช้ความร้อนที่ 180 องศาฯ พอ ทิ้งไว้ 18 นาที
2. เกี๊ยวซ่าไส้หมู สไตล์ญี่ปุ่น
ปัจจุบันมีหม้อทอดให้เลือกหลากแบรนด์ หลายการทำงาน ไม่ว่าจะ หม้อทอดไร้น้ำมัน tefal หม้อทอดไร้น้ำมัน Philips หรืออื่น ๆ แต่กระนั้นไม่ว่าจะแบรนด์ไหนก็สามารถทำเมนูเกี๊ยวซ่าไส้หมูได้หมด โดยวิธีการไม่ว่าต้องการทอดแบบไร้น้ำมัน หรือแบบมีน้ำมันคลุกเล็กน้อยให้วอร์มหม้อด้วยอุณหภูมิที่ 200 องศาฯ ประมาณ 3 นาที แล้วใส่อาหารลงไปจากนั้นตั้งอุณหภูมิที่ 180 องศาฯ ใช้เวลาทอดราว 5 นาที 
3. ไก่ป๊อป กรุบกรอบยวนใจ
สำหรับท่านไหนที่ซื้อไก่ป๊อปมาแล้วเก็บไว้ค้างคืน สามารถหยิบออกมาอุ่นในหม้อทอดได้สบาย ๆ ด้วยนวัตกรรมสุดล้ำของหม้อทอดไร้น้ำมัน tefal ไม่ต้องหมุนหาความร้อน แค่กดเพิ่มความร้อน และเลือกประเภทอาหารที่อุ่นก็เสร็จสรรพแล้ว โดยให้วอร์มหม้อด้วยอุณหภูมิที่ 200 องศาเซลเซียส ราว 3 นาที แล้วใส่ไก่ป๊อปลงไป ก่อนตั้งไฟที่ 180 องศาเซลเซียส
4. น่องไก่ทอดก็อร่อยไม่แพ้กัน
ปิดท้ายที่น่องไก่เมนูง่าย ๆ ที่ไม่ว่าจะอุ่นหรือทำสดใหม่แค่ใส่น่องเรียงกันให้สวยงามก็เพียงพอ ไม่ต้องกลัวน้ำมันกระเด็น เริ่มต้นให้วอร์มหม้อในอุณหภูมิที่ 200 องศาฯ เป็นเวลาเวลา 3 นาที แล้วนำน่องไก่ใส่เรียงไว้ อย่าทับกัน จากนั้นก็ทอดอุณหภูมิที่ 180 องศาฯ ใช้เวลา 5 นาที กลับด้านน่องไก่ ใส่เข้าหม้อใหม่อีกรอบใช้อุณหภูมิที่ 180 องศาเซลเซียส ระยะเวลา 5 นาที จะหม้อทอดไร้น้ำมัน Philips หรือยี่ห้อไหนก็ใช้งานง่าย อร่อยชัวร์
เป็นยังไงกันบ้างกับเมนูอาหารต่าง ๆ ที่ใช้หม้อทอดไร้น้ำมันทำได้ง่าย ๆ พร้อมอิ่มอร่อยสบายท้อง สุขภาพดีไม่มีไขมันส่วนเกิน หลังจากนี้คงไม่มีใครบ่นเรื่องเมนูอาหารทำเองที่บ้านอีกต่อไป ส่วนท่านไหนยังไม่มีก็รีบหาซื้อมาใช้งานด่วน ๆ เลย
สามารถชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP080503
#111


ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคอนโดมีเนียมคือที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมมาก แน่นอนว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าสำคัญต้องมีเพื่อทำความสะอาดเสื้อผ้า ชุดต่าง ๆ คงหนีไม่พ้น "เครื่องซักผ้า" แต่ถึงกระนั้นหลายท่านอาจสงสัยว่าควรจะเลือกอย่างไรให้เหมาะสม ตอบโจทย์กับพื้นที่ และการใช้งานมากที่สุด ขอพาไปเรียนรู้ในบทความนี้กันเลย
เครื่องซักผ้าใช้งานในคอนโดมีเนียม เลือกอย่างไรให้เหมาะสม ตอบโจทย์
1. ขนาดและจำนวนถัง
ด้วยความที่คอนโดมีพื้นที่จำกัดการเลือกจึงควรเป็นเครื่องขนาดเล็ก น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 4 - 5 กก. ส่วนของถังต้องเข้าใจว่ามีให้เลือกแบบถังเดี่ยวคือระบบ 2 in 1 ที่ทั้งซักและปั่นแห้งได้ พอเหมาะกับซักผ้าขนาดเล็ก เคลื่อนย้ายไปที่อื่นได้ และถังคู่ที่ใช้งานได้เหมือนเครื่องซักผ้ารุ่นใหญ่ แต่น้ำหนักก็จะเยอะ เคลื่อนที่ลำบาก ซึ่งราคาเครื่องซักผ้าระบบ 2 in 1 ก็จะถูกกว่า
2. เลือกจากความเร็วรอบหมุน 
โดยทั่วไปแล้วหากเป็นเครื่องขนาดเล็กก็จะมีความเร็วหมุนที่เหมาะสม 400 รอบต่อนาที ซึ่งความเร็วรอบเท่านี้ถือว่าตอบโจทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน หรือตัว เครื่องซักผ้า lg ก็ออกแบบมาช่วยเรื่องประหยัดไฟฟ้า แต่ต้องเข้าใจว่าความเร็วหมุนไม่ได้ช่วยให้เสื้อผ้าสะอาด ต้องอาศัยโหมดการซักเพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกให้หมดจดด้วย
3. ดูเรื่องกำลังไฟ
เครื่องที่มีขนาดเล็ก กำลังไฟ (วัตต์) จะต่ำ ซึ่งมาตรฐานควรอยู่ที่ 90 วัตต์ขึ้นไป แต่เรื่องของกำลังไฟก็จะสัมพันธ์กับประสิทธิภาพการทำงาน กำลังไฟน้อยรอบหมุนก็จะน้อย มีผลต่อความสะอาดของเสื้อผ้า เมื่อลองเทียบความประหยัดไฟแล้วเครื่องขนาดเล็กใช้ในคอนโดฯใช้งานต่อวัน 30 นาที ค่าไฟ 116.48 บาท หรือประมาณ 32.4 ยูนิต ซึ่งตรงนี้เครื่องซักผ้า lg เหมาะกับการใช้งาน ด้วยเหตุว่ามีกำลังไฟที่เหมาะสม และมีโหมดช่วยประหยัดไฟได้
4.  ฟังก์ชันการใช้งาน
ปัจจุบันยี่ห้อต่าง ๆ ได้ดีไซน์ให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายขึ้น นอกจากเรื่องของระบบ 2 in 1 หรือถังเดียวแล้ว ก็ยังมีเรื่องของการแยกซัก ปั่นแห้ง อบแห้ง หรือบางรุ่นมีช่องใส่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับ ใช้งานได้สะดวก แนะนำว่าควรเลือกตามที่ชื่นชอบ เหมาะสมกับการใช้งาน และมีความเหมาะสมกับราคาเครื่องซักผ้าที่ต้องเสียไป
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราจะเลือกเครื่องซักผ้าที่เหมาะสมกับการใช้งานในคอนโดฯแล้ว ก็อย่าลืมเรื่องของผงซักฟอก หรือน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ควรต้องใส่ใจ เอาที่ใช้แล้วไม่เกิดการแพ้ ระคายเคือง หรือกำจัดสิ่งสกปรกได้เต็มประสิทธิภาพ ที่สำคัญต้องหมั่นดูแลรักษาให้ดีเพื่อยืดอายุการใช้งาน ไม่ต้องเสียเงินเสียทองซ่อมหรือซื้อใหม่บ่อย ๆ
สั่งซื้อเครื่องซักผ้าได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/APP1303
#112


แอพพลิเคชั่น ซื้อลอตเตอรี่ออนไลน์ ผ่านมือถือ รางวัลที่ 1 ทุกงวด มังกรฟ้า ที่เดียว ตัวแทนจำหน่ายมังกรฟ้า
เว็บไซต์ : https://www.bluedragonbkk.com
เฟสบุ๊ค : มังกรฟ้า ลอตเตอรี่ BKK
IG : มังกรฟ้า ล็อตเตอรี่ Bkk
ไลน์ : @bdbkk

มังกรฟ้า ลอตเตอรี่ออนไลน์ ,สลากกินแบ่งรัฐบาล
#113


บ่อยครั้งเวลาใช้งานเครื่องซักผ้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งแบบฝาหน้ามักมองข้ามการล้างทำความสะอาด ทั้งที่จริงแล้วถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก เพื่อช่วยให้เครื่องคงทน ไม่ต้องหาซื้อเปลี่ยนบ่อย คำถามคือจะล้างอย่างไร? นี่คงเป็นเรื่องที่หลายท่านต้องการคำตอบ เราจึงขอรวบรวมรายละเอียดการล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้ามาให้อย่างครบครัน
เผยวิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้า เรื่องง่าย ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม
ในการล้างเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าจะแบ่งการล้างออกเป็น 2 กรณี คือล้างส่วนที่เป็นขอบยาง และล้างส่วนถังซักผ้า โดยสามารถทำได้ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น ไม่ว่าจะ เครื่องซักผ้าฝาหน้า Electrolux หรือเครื่องซักผ้าฝาหน้า lg มีวิธีการล้าง ดังนี้
1. วิธีล้างส่วนที่เป็นขอบยาง
-    สำหรับการล้างส่วนที่เป็นขอบยางให้เริ่มต้นเปิดฝาเครื่องออกมากว้าง ๆ จากนั้นง้างขอบยางรอบ ๆ ออกมา (ซึ่งต้องบอกว่าขอบยางนี้จะยึดกับเครื่อง ไม่สามารถถอดออกมาได้ แต่สามารถง้างกว้าง ๆ ได้) ทั้งนี้ ควรเก็บขยะที่กรอกเอาไว้ในช่องมุมซ้ายของเครื่องออกเดือนละ 1 ครั้งด้วย ไม่ทำให้มีเศษผ้าหรือก้อนผงซักฟอก ก้อนน้ำยาซักผ้าหลงเหลือตกค้าง
-    เก็บสิ่งสกปรกออก ไม่ให้หลงเหลือใด ๆ ซึ่งสิ่งที่อยากแนะนำ คือบรรดาของมีคมเป็นอันตรายต่อขอบยางเวลาซักหมุน จึงควรเช็คตามเสื้อผ้าให้ดี ไม่ให้มีสิ่งแปลกปลอมนี้ติดอยู่ ได้แก่ ตะปู กิ๊บติดผม คลิปหนีบกระดาษ เหรียญ ฯลฯ
-    ล้างทำความสะอาดอย่างหมดจด ด้วยการเช็ดที่ขอบยาง อาจเป็นเส้นผม หรือขนสัตว์ที่เลี้ยง เก็บอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง
-    อย่าลืมจัดการเชื้อราที่เห็นเป็นจุดดำ ๆ ด้วยการฉีดพ่นขอบยางด้วยน้ำอุ่นที่ผสมน้ำยากำจัดเชื้อโรคโดนเฉพาะ หรือน้ำยาล้างจาน แล้วเช็ดทำความสะอาด
2. วิธีล้างถัง
ไม่ว่าจะเครื่องซักผ้าฝาหน้า Electrolux หรือเครื่องซักผ้าฝาหน้า lg สามารถล้างได้โดยการโรยเบคกิ้งโซดา 1/3 ถ้วยตวงลงด้านในของถัง หรือใช้น้ำยาฟอกขาว 2 ถ้วยตวงเทใส่ในช่องจ่ายน้ำยา แล้วเปิดเครื่อง wash และ rinse cycle จนจบ ไม่ต้องใส่อะไรอีกแต่ให้เปิด rinse ทิ้งไว้ ที่สำคัญคือการลางถาดใส่น้ำยา ให้ดึงออกมาแล้วนำไปแช่น้ำอุ่น จากนั้นใช้น้ำยาทำความสะอาดฉีดพ่น เช็ดให้สะอาดแล้วสอดกลับที่เดิม และอย่าลืมเช็ดเครื่องซักผ้าด้านนอก ขจัดฝุ่นผ้า ขี้ผง หรือขน / เส้นผมที่เกาะด้วย
จะเห็นได้ว่าวิธีการล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้ามีด้วยกันหลากหลายวิธี และต้องตั้งอกตั้งใจล้างให้ครอบคลุมทั้งตัวขอบยางและตัวถังเครื่อง ซึ่งหลังจากนี้เชื่อว่าหลายคนจะทำได้อย่างดีเยี่ยม พยายามทำเป็นประจำ ช่วยให้เสื้อผ้าสะอาด ยืดอายุการใช้งานไปในตัว
สั่งซื้อเครื่องซักผ้าฝาหน้าได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP130301
 
#114

หลาย ๆ คนที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าควรซื้อเครื่องอบผ้ามาใช้งาน หรือจะเอาผ้าไปตากกับแสงแดด ไม่ต้องเปลืองไฟ เปลืองเงิน เอาเป็นว่าใครที่กำลังสับสนเช่นนี้ อยากให้ลองมาเรียนรู้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อดี - ข้อเสีย ของการใช้เครื่องอบ VS ตากกับแสงแดดที่เราจะพูดถึงนี้ดู รับรองว่าการตกลงใจจะง่ายขึ้น
ข้อดี - ข้อเสียของเครื่องอบผ้า VS ตากกับแสงแดด 
1. การตากกับแสงแดด
ข้อดี
ขอเริ่มต้นกันที่การตากกับแสงแดด แน่นอนว่าหากเราตากผ้ากับแสงแดดที่จัดก็จะทำให้เสื้อผ้าแห้งเร็วมาก แถมยังได้กลิ่นหอมธรรมชาติของแดดเพิ่มเติม ช่วยให้แขนได้ออกกำลังกาย รวมถึงประหยัดพลังงาน ไม่หมดเปลืองค่าไฟฟ้า 
จุดด้อย
แต่เสื้อผ้าที่มีสีสันมาก ๆ เมื่อถูกแสงแดดจัดก็จะทำให้เนื้อสีซีดลง ผ้ากรอบ รีดยาก เพราะสีและเนื้อผ้าด้านนอกถูกทำลาย ที่สำคัญฝนตกก็ต้องรีบวิ่งมาเก็บ และยังเจอกับฝุ่น ควัน แฝงในเส้นใยผ้า ใครอยู่คอนโดฯพื้นที่น้อยก็คงทำให้การอยู่อาศัยแคบลงไปอีก 
2. การใช้เครื่องอบผ้า
จุดแข็ง
เมื่อใช้เครื่องประเภทนี้ก็หมดกังวลกับสภาพอากาศที่ 1 วันเปลี่ยนแปลงบ่อย เช้าแดดออก บ่ายฝนตก คุณสามารถวางแผนการซักได้ ไม่ต้องรอแสงแดด นอกจากนี้ยังเหมาะสมกับบ้านไม่มีพื้นที่ตาก รวมถึงช่วยให้เสื้อผ้าไม่กักเก็บฝุ่น ควัน มลพิษทางอากาศ บ้านไหนมีคนที่เป็นภูมิแพ้ เด็กเล็กตอบโจทย์มาก ลดเสี่ยงผ้าเกิดเชื้อรา หรือสะสมเชื้อแบคทีเรีย ไม่ต้องเปลืองแรงแขน ได้เสื้อผ้าที่นุ่มกว่าตากแสงแดด แถมปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ หลายรุ่น ฟีเจอร์ครบครัน เช่น เครื่องอบผ้า Electrolux ไม่ต้องรอนานใช้เวลา 1 - 2 ชั่วโมง ก็พร้อมใส่ทันที 
จุดอ่อน
อย่างไรก็ตามการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้ต้องเปลืองค่าไฟฟ้าอยู่บ้าง และเครื่องอบผ้า มีราคาค่อนข้างสูง (แต่ถ้าเทียบกับความคุ้มค่าก็ได้อยู่เหมือนกันนะ)
สำหรับเครื่องอบผ้ายุคใหม่มีให้เลือกทั้งแบบเครื่องเป่าร้อน และระบบควบแน่น หลายรุ่นก็มีฟีเจอร์พิเศษ อาทิ เครื่องอบผ้า Electrolux ที่สามารถตั้งเวลาล่วงหน้าได้, ระบบตรวจวัดความชื้นผ้า, ระบบการหมุนสลับไปมาช่วยถนอมเนื้อผ้า, ไม่ทำให้เสียทรง, ลดรอยยับ, มีสัญญาณเตือนทำความสะอาดตัวกรอง ฯลฯ สามารถใช้งานในพื้นที่แคบอย่าง คอนโด ทาวน์เฮาส์ ได้ดี
มาถึงตรงนี้ จะเห็นได้ว่าทั้งการตากกับแสงแดด และใช้เครื่องช่วยอบผ้ามีความแตกต่างกันอยู่ ท่านสามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการและความเหมาะสมจากปัจจัยต่าง ๆ โดยท่านใดที่สนใจเลือกใช้เครื่องช่วยอบผ้า อยากทราบว่าเครื่องอบผ้า ราคาเป็นอย่างไร จริง ๆ แล้วสนนราคาจะแตกต่างกันไปตามฟีเจอร์ ขนาดถัง ความจุรอบผ้า ฯลฯ แนะนำให้ทำความเข้าใจข้อมูลและเปรียบเทียบให้ดีก่อนตัดสินใจสั่งซื้อ
สามารถรับชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP1302
 
#115

หลาย ๆ คนที่กำลังจะซื้อตู้เย็น คงสงสัยว่าตู้เย็น 2 ประตูยี่ห้อไหนดี? ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด แต่ก่อนจะไปทำความเข้าใจเรื่องนี้ ควรรู้ถึงสิ่งที่ต้องพิจารณารอบด้านเพื่อให้ได้สิ่งที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง ๆ แล้วจึงค่อยไปเลือกยี่ห้อ เป็นการเพิ่มความแน่ใจและการันตีความคุ้มค่าในการลงทุนของทุกคน ลองใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นตัวเปรียบเทียบได้เลย
สิ่งที่ต้องพิจารณา เรื่องต้องทราบก่อนเลือกซื้อเลือกหาตู้เย็นมาใช้งาน
1. คุณสมบัติพื้นฐานของตู้เย็นที่มีให้
ก่อนซื้อตู้เย็น 2 ประตูยี่ห้อไหนดี? ขอเริ่มต้นถึงสิ่งที่ต้องพิจารณานั่นคือการออกแบบ คุณสมบัติต่าง ๆ ที่ตู้เย็นมีให้ใช้งานก่อน ได้แก่
-    ช่องใส่ผักและผลไม้ ที่ตู้เย็น 2 ประตูควรมีความเย็นหมาะสม เพื่อผักหรือผลไม้ที่ใส่ไปจะได้รับความเย็นอย่างสม่ำเสมอ เต็มที่ คงความสดของผัก ผลไม้ได้นาน
-    ชั้นวางควรต้องถอดเข้า - ออกได้อย่างไหลลื่น เพื่อให้เราสามารถปรับขนาดช่องแช่ รวมทั้งทำความสะอาดได้เป็นอย่างดี
-    นอกจากชั้นวางปกติแล้ว ก็ควรพิจารณาถึงชั้นวางข้างประตูด้วย ต้องมีขนาดกว้างเหมาะสม แช่ทั้งขวดน้ำ ขวดนม หรือกระป๋อง ฯลฯ ได้อย่างดี
-    ลิ้นชักช่องแช่ควรต้องชั้นแยกภายใน ช่วยให้อุณหภูมิปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมกับอาหาร หรือเครื่องดื่มที่เราแช่
2. ฟีเจอร์เสริมต่าง ๆ ที่มี
เรื่องของฟีเจอร์เสริมต่าง ๆ ก็สำคัญ เป็นคุณสมบัติเพิ่มเติมในการใช้งาน แต่ละแบรนด์ก็จะแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ ราคา ตู้เย็น 2 ประตูจะขึ้นอยู่กับฟีเจอร์เสริมด้วย ได้แก่ 
-    ระบบกรองอากาศ จะมีช่องให้กรองอาการเป็นพิษที่เพิ่มกลิ่นอับในตู้เย็นอย่างคาร์บอน
-    ระบบทำความเย็นแบบคู่ ที่ช่องแช่ของตู้เย็น 2 ประตูจะสามารถกระจายลมเย็นออกมาจากช่องแช่ธรรมดาได้ อุณหภูมิช่องแช่ต่าง ๆ ก็จะมีประสิทธิภาพ
-    แผงควบคุมการทำงาน สามารถตั้งค่าอุณหภูมิได้ รวมไปถึงระดับน้ำต่าง ๆ ล็อกความเย็น หรือเช็กตัวกรอง เป็นต้น
-    ระบบประหยัดไฟฟ้า ที่จะช่วยงดใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น ทำให้ค่าไฟในแต่ละเดือนลดลง 
3. ขนาดความจุที่เหมาะกับสมาชิกในครอบครัว
ปกติหน่วยของตู้เย็นคือลูกบาศก์ฟุต หรือคิว ซึ่งแต่ละครอบครัวควรเลือกดังนี้ กรณีมีสมาชิก 2 คน ให้เลือกอย่างต่ำสุด 3 คิวขึ้นไป หากมีสมาชิกตั้งแต่ 3 - 4 คนให้เลือกที่เหมาะสมเป็น 7-12 คิว ส่วนครอบครัวใหญ่ที่สมาชิกมากกว่า 5 คน ให้เลือกเหมาะสมเป็น 15 คิวขึ้นไป แน่นอนว่าราคา ตู้เย็น 2 ประตูก็จะสูงขึ้นตามความจุ
และทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนรู้ตู้เย็น 2 ประตูยี่ห้อไหนดี เพื่อให้เราเข้าใจถึงสิ่งที่ต้องการ รู้ถึงความเหมาะสม และสามารถเลือกยี่ห้อที่ตอบโจทย์ได้ที่สุด ใช้งานมีประสิทธิภาพ สบายใจไร้กังวล อยากแช่สิ่งของชนิดไหนจัดไปเลย
เลือกซื้อเลือกหา ตู้เย็น 2 ประตู หลากหลายแบรนด์ ได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP0905
 
#116

"ตู้เย็น" ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นในบ้าน แต่ถึงกระนั้นเราจะใช้งานโดยไม่ดูแลเห็นทีได้ซื้อเครื่องใหม่เร็ว ๆ นี้แน่ และหากคุณ ๆเป็นคนนึงที่ต้องการดูแลยืดอายุการใช้งานให้คงอยู่ แต่ไม่รู้จะทำเช่นไร เรามี 5 เคล็ดลับมาบอกต่อ แถมขอเน้นเลยว่าช่วยประหยัดไฟ ไม่ต้องเปลืองเงินจ่ายตอนสิ้นเดือนให้ตัวเบาด้วยนะ
บอกต่อเคล็ดลับยืดอายุการใช้งานตู้เย็น และยังประหยัดไฟไม่เปลืองเงิน
1. ควรแยกปลั๊กไฟใช้งานให้ชัดเจน
ด้วยความที่ตู้เย็นจำเป็นต้องเสียบปลั๊กใช้งานตลอดเวลา เราจำเป็นต้องป้องกันทำปลั๊กร้อน แนะนำว่าให้ใช้ปลั๊กที่ติดผนังไปเลย เพื่อให้ได้รับกระแสไฟฟ้าได้เต็มที่ แต่หากไม่มีจริง ๆ สามารถใช้ปลั๊กพ่วงได้ แต่ขอให้มีแค่เครื่องใช้ไฟฟ้านี้เครื่องเดียวพอ และควรเลือกที่ได้มาตรฐาน
2. ไม่ใส่อาหารหรือเครื่องดื่มต่าง ๆ เข้าไปในตู้เย็นมากเกิน
ถึงแม้ว่าจะถูกดีไซน์มาเพื่อเก็บรักษา ถนอมอาหาร แต่หากเราใส่ทั้งอาหาร และเครื่องดื่มที่จำนวนมากเกินไปก็จะทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้านี้ทำงานหนัก ทั้งนี้เพราะต้องคอยกระจายความเย็นไปให้ทั่ว สม่ำเสมอ ความเย็นไปไม่ถึงกันบ้าง หรือการใส่อาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำหนักตรงบานประตูก็จะส่งผลให้ขอบยาง และส่วนของประตูเสื่อมสภาพไว การไม่ใส่อาหาร เครื่องดื่มตามที่บอกช่วยให้ใช้งานยาว ๆ ไม่ต้องซื้อใหม่ ราคาตู้เย็นไม่ใช่ถูก ๆ
3. ไม่งัดหรือแงะน้ำแข็งที่เกาะในอยู่
เมื่อปล่อยตู้เย็นไว้นาน ๆ มักมีน้ำแข็งมาเกาะโดยเฉพาะในช่องแช่แข็ง ทำให้ปิดฝาไม่สนิท บางคนอาจไปงัดแงะเอาน้ำแข็งออกทั้งที่จริงแล้วจะยิ่งทำให้เกิดปัญหา ทำพลาดของมีคมไปกระแทก รั่ว ชำรุดเสียหาย แนะนำว่าหมั่นกดละลายน้ำแข็งอย่างต่อเนื่องในระยะเวลาที่เหมาะสมดีกว่า สังเกตหากมีน้ำแข็งมากก็กดได้เลย
4. ไม่เปิดตู้เย็นบ่อย หรือเปิดค้างไว้นาน
เราควรเลือกหยิบของทีละน้อย ๆ แล้วนำออกมาให้ไวที่สุด อย่าเปิดบ่อยหรือค้างไว้นาน ไม่ว่าจะตู้เย็นยี่ห้อไหนดีก็ตาม เพื่อไม่ให้ได้ดูดความร้อนเข้าไปแทนภายในห้องแช่ หรือกล่าวง่าย ๆ ว่าให้ห้องแช่มีอุณหภูมิคงเดิมมากที่สุด ไม่ทำให้ใช้ไฟฟ้าสูงมากขึ้น
5. อาหารร้อนต้องรอให้เย็นก่อนค่อยแช่
สุดท้ายแล้วหากอาหารที่กำลังจะใส่ร้อนอยู่ แนะนำว่าให้เอาวางข้างนอกจนเย็นลง ด้วยเหตุว่าการใส่อาหารร้อนเข้าไปมีผลให้ตู้เย็นต้องปรับอุณหภูมิเพื่อเอาความร้อนของอาหารออก ใช้ความเย็นมากกว่าปกติ เครื่องใช้ไฟฟ้านี้ก็จะทำงานหนักมากขึ้น เสื่อมสภาพไวแถมเปลืองไฟ
เมื่อทราบอย่างนี้แล้วก็หวังว่าเพื่อน ๆจะเกิดความเข้าใจ และสามารถดูแลรักษาเพื่อยืดอายุการใช้งาน พร้อมประหยัดไฟฟ้าไปในตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนท่านใดอยากรู้ตู้เย็นยี่ห้อไหนดี? ปัจจุบันบ้านเรามีให้เลือกหลากหลาย อย่างเช่น SAMSUNG, LG, HITACHI, MITSUBISHI, SHARP, TEKA, WHIRLPOOL ฯลฯ และราคาตู้เย็นก็จะแตกต่างออกไปด้วย

เลือกซื้อ ตู้เย็น หลากหลายแบรนด์ ได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/APP09 

 
#117
TS.Stainless ผลิต จำหน่าย ขายส่งสแตนเลส
สแตนเลส แผ่น ท่อ ฉาก เพลา ท่อกลมสแตนเลส สแตนเลสกล่องสี่เหลี่ยมและก็สแตนเลสกล่องแบน
ฉากรีดสแตนเลส เส้นแบน-เส้นแบนรีดสแตนเลส เพลากลม เพลาสี่เหลี่ยม เพลาทรงหกเหลี่ยม
รางพับสแตนเลส รางรีดสแตนเลส
✔️ ราคาโรงงานครบครัน ส่งเร็ว มีครบจบในที่เดียว
✔️ เรื่องสแตนเลสนึกถึงเรา คุณภาพมาตรฐานระดับสากล
✔️ ครอบคลุมเรื่องสแตนเลส ขายปลีก-ส่งสแตนเลส
✔️ ไม่มีขั้นต่ำในการสั่งซื้อ ส่งฟรีกทมและปริมณฑล

Website : http://tstrading8.blogspot.com/
FAcebook : https://www.facebook.com/SuphakitPhitirat/
Line : ts2gether
https://line.me/ti/p/qt38ZqP3OD
Tel : 0824827916
Map : https://maps.app.goo.gl/REyyBRid588KTRTb7

ร้านขายส่งสแตนเลส    ร้านขายสแตนเลส





 
#118
HONDA CIVIC FC 1.5 RS TURBO ปี 2018 สีแดง
รถมือเดียว สภาพป้ายแดง เข้าเช็คศูนย์ตลอด บางเดิมทั้งคัน ไม่เคยชน ไม่เคยทำสี
เครื่อง /เกียร์ / ช่วงล่าง ดีเยี่ยม การันตี มาดูแล้วรับรองไม่ผิดหวัง
ราคาเพียง 799,000 บาท(พูดเลยว่าสุดคุ้ม)
ผ่อน 15,xxx x 72 งวด
ฟรีเงินดาวน์ 
✔️ดอกพิเศษ 2.79
✔️พวงมาลัย multifunction
✔️กล้องมองหลัง
✔️ภายในภายนอกสภาพสวยดูแลอย่างดี
✔️ฟิล์ม ceramic
✔️สีเครือบแก้วมา 2x,xxx กม.
✔️book service กุญแจครบ2 ดอก
✔️รับประกันไม่มีชน พลิกคว่ำ น้ำท่วม เช็คเจอให้รถใช้ฟรีๆไปเลย
เลือกรับโปรพิเศษ
 ✔️แถมฟรีประกันภัย 1 ปี**(เงื่อนไขตามธนาคาร)
 ✔️ฟรีถ่ายน้ำมันเครื่อง
 ✔️ฟรีน้ำมันมูลค่า 1,000 บาท 
✔️ รายได้เกิน 30,000 ไม่ต้องค้ำ
✔️ รายได้เพียง 2เท่าซื้อคนเดียวจบกู้เต็ม รายได้ไม่พอสามารถกู้ร่วมกันได้
✔️ ภาระหนี้เยอะ ออกได้
✔️ติดล่าช้า หรือติดเครดิต สามารถออกได้** (ตามเงื่อนไขของไฟแนนซ์กำหนด)
⭐️⭐️⭐️สอบถามเพิ่มเติมได้ที่⭐️⭐️⭐️
ไลน์ ไอดี : 13-dec
Tel : 096-604-5408
เข้าชม รถมือสองสภาพดี อีกหลายคันได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/cartodayclub











#119
HONDA HRV 1.8 EL TOP SUNROOF ปี2017
สีขาวมุก เกียร์ออโต้ ขนาด 1800 ซีซี
สวยสุดในรุ่น รถมือเดียว สภาพป้ายแดง วิ่งน้อยเพียง 80,*** กม. แท้ๆ ตรวจสภาพที่ศูนย์บริการทุกระยะ บางเดิมทั้งคัน ไม่เคยชน ไม่เคยทำสี ราคาคุ้มสุด ๆ

ราคา 689,000 บาท
ผ่อน 13,***/72 งวด
เครดิตดี อัตราดอกเบี้ยเริ่ม2.79%

✔️เงินเดือนเริ่มต้น 27,000 บาทออกคนเดียว
✔️รายได้เกิน 2เท่า ไม่ต้องค้ำ
✔️รายได้เพียง 2เท่าซื้อคนเดียวจบกู้เต็ม รายได้ไม่พอสามารถกู้ร่วมกันได้
✔️ภาระหนี้เยอะ ออกได้
✔️ติดล่าช้า หรือติดเครดิต ออกรถได้*(ตามเงื่อนไขของไฟแนนซ์กำหนด)
✔️อยู่ต่างจังหวัด สามารถโอนจอง เข้าบริษัทได้ มีเจ้าหน้าที่ไฟแนนท์นำเอกสารไปให้เซ็นต์ถึงที่
✔️ไม่ผ่านไฟแนนซ์ คืนเงิน 100%

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ไลน์ : 13-dec
Tel : 096-604-5408
เข้าชม รถมือสองราคาถูก ได้ที่
เว็บไซต์ : http://car-today.com/13-dec.php




















#120
❤️ มีเงิน 0 บาท ก็สามารถทำได้ ‼  ออนไลน์คือทางรอด ❤️
#ใครตกงาน  #ว่างงาน  #อยากหารายได้เสริม
⭐️⭐️ ทำงานอยู่บ้าน‼สมัครฟรี‼ย้ำฟรี‼ เงินเข้าทุกวัน ⭐️⭐️
✔️ ไม่มีค่าใช้จ่าย 
✔️ ไม่ต้องสต๊อกสินค้า หมดยุคโพสต์ขายของเเล้วนะครับ 
✔️ ไม่ต้องจัดส่งสินค้าเอง
✔️ ไม่มีความรู้หรือไม่เคยทำ ไม่ต้องกังวล ใครๆก็ทำได้แน่นอน  เรามีทีมอบรมให้ฟรี
✔️ รับรายได้คูณ 2 และสิทธิประโยชน์อื่น ๆอีกมากมาย 
มีตัวอย่างท่านที่ทำเพียง 3 เดือน  มีรายได้มากกว่าแสนบาทแล้วหลายสิบคน และคุณคือคนต่อไป 

⭐️⭐️ สนใจสมัคร  พร้อมรับสินค้าตัวอย่างฟรี ภายในวันนี้เท่านั้น  คลิก ⭐️⭐️
https://app.droprich.co/agent/register/xfPiHfXd5U
สอบถามเพิ่มเติมแอด L I N E
https://line.me/ti/p/~kenkan13
http://www.thaidroprich.com