• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Panitsupa

#8716


รอยเตอร์ - กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 9,690 คนในวันอาทิตย์ (8) นับเป็นยอดติดเชื้อรายวันที่สูงเป็นประวัติการณ์ และเพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่พบในวันเสาร์ (7) ที่ 7,334 คน

กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ผู้ป่วยติดเชื้อส่วนใหญ่พบในนครโฮจิมินห์ ศูนย์กลางการระบาด และ จ.บิ่งเซวือง กับ จ.ด่งนาย ที่อยู่ติดกัน

เวียดนามประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดในช่วงปีที่ผ่านมา แต่นับตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย. ประเทศเผชิญกับจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นจากการระบาดของสายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายเชื้อได้รวดเร็วและติดง่ายขึ้น

ประเทศมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสม 210,405 คน ตั้งแต่การระบาดเริ่มขึ้น และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3,397 คน ตามข้อมูลของกระทรวง

เวียดนาม ประเทศที่มีประชากร 98 ล้านคน จนถึงขณะนี้ ได้แจกจ่ายวัคซีนไปแล้วเกือบ 8.9 ล้านโดส แต่มีประชาชนไม่ถึง 900,000 คน ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม.
#8717


กรณี "เงินเยียวยา" แรงงานผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด 13 จังหวัด 9 ประเภทกิจการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร , นครปฐม , สมุทรสาคร , ปทุมธานี , นนทบุรี , สมุทรปราการ , สงขลา , ยะลา , ปัตตานี , นราธิวาส , พระนครศรีอยุธยา , ชลบุรี และ ฉะเชิงเทรา ที่ประกาศ ล็อกดาวน์ โดยประกันสังคม เปิดลงทะเบียนผ่าน www.sso.go.th  

ตรวจสอบสิทธิรับเงินเยียวยา ผ่านออนไลน์ คลิก  หากได้รับสิทธิ ต้องผูกพร้อมเพย์ กับบัญชีธนาคารด้วยเลขบัตรประชาชน เพื่อรับการโอนเงิน  ซึ่งทางกระทรวงแรงงานเริ่มจ่าย "เงินเยียวยา" ตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.64 เป็นต้นมานั้น

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ภาพรวมการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33 ใน 10 จังหวัด 9 กิจการ เป็นที่น่าพอใจ จากรายงานของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) พบว่า โอนเงินแล้ว 2,434,182 ราย เป็นเงิน 6,085,0000,000 บาท ซึ่งไม่มีอะไรติดขัด มีเพียงผู้ประกันตนประมาณ 200,000 ราย ที่ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชน ซึ่งกำลังเร่งดำเนินการให้ผู้พร้อมเพย์กับบัตรประชาชนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ เพื่อที่จะเริ่มดำเนินการโอนเงินในวันที่ 13 สิงหาคมนี้


3 จังหวัดเพิ่มเติม ได้แก่ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และพระนครศรีอยุธยา จะโอนเงินในวันที่ 9 สิงหาคมนี้

ผู้ประกันตน ม.33 
รับเงินเยียวยา 2 ส่วน คือ เงินชดเชย 50% ของค่าจ้าง สูงสุด 7,500 บ. และเงินชดเชยเพิ่มเติมอีก 2,500 บาท ระยะเวลา 2 เดือนคือในเดือน ก.ค. - ส.ค. รวม 5,000 บาท โดยจะดำเนินการทยอยโอนเงินผ่าน "พร้อมเพย์" 

นายจ้าง ม.33 
รับเงินเยียวตามจำนวนลูกจ้าง หัวละ 3,000 บาท สูงสุด 200 คน 

สำหรับ นายจ้างที่ยังไม่ได้ยื่นขอรับค่าชดเชยเยียวยา สามารถยื่นความประสงค์ขอรับเงินได้ที่ ระบบ e – service ของประกันสังคม "www.sso.go.th"  จากนั้นปริ้นข้อมูลแบบรับการ "เงินเยียวยา" แล้วกรอกข้อมูลตามแบบฟอร์ม ส่งกลับมาให้ประกันสังคม

นายจ้างที่เป็นนิติบุคคล
ต้องแนบแบบแสดงความจำนง, สำเนาบัญชีธนาคาร,หนังสือมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจลงนามแทน) กลับมาด้วย

นายจ้างบุคคลธรรมดา
แบบแสดงความจำนง, ผูกบัญชีธนาคารพร้อมเพย์ (ผูกเลขบัตรประชาชนเท่านั้น) เพื่อประกันสังคมจะได้โอนเงินให้โดยเร็ว

สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท ขณะนี้ "ประกันสังคม" อยู่ระหว่างประมวลผลข้อมูล 
#8718


"อาลีบาบา กรุ๊ป" รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสเดือน มิ.ย. 2564 ไปเมื่อเร็วๆ นี้ เริ่มต้นปีงบประมาณด้วยไตรมาสแรกที่ดี ในเดือนมิถุนายน 2564 อีโคซิสเต็มทั้งหมดของอาลีบาบา มีจำนวนลูกค้าประจำทั่วโลกแตะ 1,180 ล้านคน เพิ่มขึ้น 45 ล้านคนจากไตรมาสเดือนมีนาคม ในจำนวนนี้เป็นผู้บริโภคในจีน 912 ล้านคน

ปัจจุบันอีโคซิสเต็มของอาลีบาบา ครอบคลุมทั้งฝั่งผู้บริโภคและอุตสาหกรรม มีกลไกมากมายที่ขับเคลื่อนการเติบโตในระยะยาว การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน และการสร้างคุณค่าในระยะยาวของอาลีบาบา จะหนุนนำให้ยักษ์เทคฯ รายนี้ เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมประสบการณ์ให้ผู้บริโภค และช่วยให้ลูกค้าองค์กรประสบความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนธุรกิจไปสู่ดิจิทัล

อาลีบาบา กับกลยุทธ์ในอนาคต ​

แดเนียล จาง ประธานกรรมการและซีอีโอของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวเปิดใจกับกลุ่มผู้ถือหุ้น หลังรายงานผลประกอบการงวดล่าสุด ว่า หลังจากนี้ การกำหนดจุดยืนเชิงกลยุทธ์ของบริษัทในอนาคต จะเน้นเพื่อการผสานอินเทอร์เน็ตทั้งในฝั่งของผู้บริโภค และอุตสาหกรรมเข้าด้วยกันให้ประสบความสำเร็จตามทิศทางการพัฒนาของการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัล

"อาลีบาบาได้ปรับตัวเองกลายเป็นบริษัทที่มีกลไกหลากหลาย ด้วยธุรกิจในอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน เรากำลังสร้างคุณค่าที่มากกว่าให้กับผู้บริโภค และผู้ใช้ โดยกระตุ้นให้ธุรกิจดั้งเดิมเข้า สู่ระบบการค้าออนไลน์แบบใหม่ อาลีบาบายังมุ่งมั่นที่จะมีส่วนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจดิจิทัลด้วยเช่นกัน"


สิ้นเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา จำนวนผู้บริโภคทั่วโลกที่ใช้งานเป็นประจำในอีโคซิสเต็มของอาลีบาบา แตะระดับ 1.13 พันล้านราย สร้างประวัติศาสตร์จำนวนผู้ใช้เกิน 1 พันล้านราย ยอดซื้อสินค้าจากทุกธุรกิจ( GMV) จากผู้บริโภคทั้งในจีนและต่างประเทศรวมกันมีมูลค่ามากกว่า 8.119 ล้านล้านหยวน หรือ 41 ล้านล้านบาท 

ขณะที่ ปีงบประมาณที่ผ่านมา ยอดเฉลี่ยการซื้อสินค้าต่อคนต่อปีของผู้บริโภคจากทุกแพลตฟอร์มหรือ GMV ของอาลีบาบามีมากกว่า 9,200 หยวน หรือ ราว 46,524 บาท

ยอมรับปีแห่งความยากลำบาก 

"วันนี้ของปีก่อน ผมคาดว่า ทั่วโลกน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติและเปิดให้ท่องเที่ยวได้เหมือนเดิม แต่มันก็ยังไม่เกิดขึ้น เราผ่านปีที่ยากลำบากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน"  

จาง ยอมรับ พร้อมบอกว่า นอกจากสถานการณ์โรคระบาดจะซับซ้อนขึ้นแล้ว ยังก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงลึก และยาวนานในเชิงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เศรษฐกิจโลก และสิ่งแวดล้อมมหภาคโดยรวม

แม้จะมีอุปสรรคแต่ ซีอีโออาลีบาบา ยังยืนยัน มุ่งดำเนินตามวิสัยทัศน์และพันธกิจ รวมทั้งเปลี่ยนความท้าทายให้กลายเป็นโอกาสอย่างต่อเนื่อง 


ทั่วโลก 240 ล้านคนอุดหนุนประจำ 

ขณะที่ กลยุทธ์การขยายธุรกิจไปทั่วโลกของอาลีบาบา ยังมีความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม มีจำนวนผู้บริโภคในต่างประเทศที่ซื้อสินค้าเป็นประจำแตะ 240 ล้านคน จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของ "ลาซาด้า" ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วของ "อาลีเอ็กซ์เพรส" ในยุโรป 

จาง บอกด้วยว่า ด้วยความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมาหลายปี ทั้งในแง่สินค้าและซัพพลายเชน การส่งและกระจายสินค้า การบริหารจัดการผู้บริโภค การพัฒนาและดำเนินช่องทางโซเชียลคอมเมิร์ซ ทำให้อาลีบาบามีความพร้อมในการพัฒนาธุรกิจใหม่ที่ทำกำไรและยั่งยืน เพื่อเติมเต็มมิติต่างๆ ของ New Retail 

บูม "คลาวด์" ฐานที่มั่นใหม่ 

"อาลีบาบา คลาวด์" เป็นอีกหนึ่งเสาหลักที่สองของการเติบโตของ อาลีบาบา กรุ๊ป สามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง มีรายได้ 6 หมื่นล้านหยวน ซึ่งเติบโตขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อาลีบาบา คลาวด์ ถือเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน หรือ Infrastructure as a Service (IaaS) ที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก 

"เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าอินเทอร์เน็ตเชิงอุตสาหกรรม เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพทั่วโลก เมื่อมองไปยังอนาคต อาลีบาบา คลาวด์ อยู่ในตำแหน่งที่ดีด้วยหนึ่งในเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างจีน จึงพร้อมคว้าโอกาสทองของยุคนี้ ซึ่งต่อไปทุกบริษัทจะก้าวเข้าไปสู่โลกอินเทอร์เน็ต อาลีบาบาจะต่อยอดความสามารถด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีอัจฉริยะ โดยใช้มาตรฐานเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกเป็นหลัก" 

จากนี้ อาลีบาบา จะเร่งเดินหน้าผลักดันกลยุทธ์ในการผสานคลาวด์และดิงทอล์ค เพื่อสร้างแพลตฟอร์มสำนักงานเคลื่อนที่สำหรับองค์กร ลงทุนพัฒนาเทคโนโลยี และสร้างมิดเดิลแพลตฟอร์มที่ดีเยี่ยม รวมถึงพัฒนาอีโคซิสเต็มส์ให้แข็งแกร่งขึ้น และให้บริการอย่างมีคุณภาพ และทำให้เสาหลักแห่งการเติบโตนี้เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง

"เมื่อเริ่มก่อตั้ง อาลีบาบาตั้งพันธกิจว่าจะช่วยให้คุณ ทำธุรกิจอย่างสะดวกในทุกที่ ตลอด 22 ปีที่ผ่านมา มุ่งทำตามแผนระยะยาว และลงทุนเพื่ออนาคต พันธกิจนี้เป็นตัวแปรสำคัญในการพัฒนาของเรา และเป็นหลักที่นำทางเราทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต" 

ย้ำ'ดีเอ็นเอ'เน็ตที่เปิดกว้างและโปร่งใส 

ความเป็นผู้นำและจุดแข็งของอาลีบาบา คลาวด์ ยังเป็นผลจากการลงทุนหลายสิบปี และการเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยกลไก 2 ส่วน คืออินเทอร์เน็ตในฝั่งผู้บริโภคและอินเทอร์เน็ตเชิงอุตสาหกรรม จากข้อมูลเชิงลึกและการทดลองเป็นเวลาหลายปี กลยุทธ์ New Retail ของอาลีบาบา ได้เห็นผลและมีมิติมากขึ้น 

"อาลีบาบาก้าวเข้าสู่ปีงบประมาณใหม่แล้ว เราเชื่อว่า อาลีบาบาจะสามารถผสานอินเทอร์เน็ตในฝั่งผู้บริโภคและอินเทอร์เน็ตเชิงอุตสาหกรรมได้สำเร็จ เราเริ่มต้นจากการเป็นบริษัทบนอินเทอร์เน็ต และนำดีเอ็นเอที่เป็นจุดเด่นของอินเทอร์เน็ตคือความเปิดกว้าง โปร่งใส และเชื่อมถึงกันทั่วโลกมาใช้ เรากำลังสร้างคุณค่าที่มากกว่าให้กับผู้บริโภคและผู้ใช้ ด้วยการผลักดันให้ธุรกิจดั้งเดิมเข้ามาสู่การค้าออนไลน์แบบใหม่ อาลีบาบายังมุ่งมั่นที่จะมีส่วนสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจดิจิทัลด้วย" ซีอีโอ อาลีบาบา กรุ๊ป ทิ้งท้าย 
#8719


บมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) หรือ SMT ประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทในงวดไตรมาส 2 ปี2564 มีกำไรสุทธิ 56.01 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 18.94  ล้านบาท  หรือเพิ่มขึ้น 51.10% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี2563  ที่มีกำไรสุทธิ 37.07 ล้านบาท 

โดยมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ 606.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.14% จากไตรมาส 2 ปี2563 จำนวน 113.97 ล้านบาท หรือ 23.14% โดยที่ บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจ IC เติบโต 14% , ธุรกิจ OPTICS เติบโตมากถึง 100% และ PCBA เติบโต 78% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

ด้าน "วิรัตน์ ผูกไทย" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า "ผลประกอบการที่ออกมาดี เนื่องจากการเติบโตของยอดขาย ของผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง และการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและบริษัทก็ไม่มีปัญหาการขาดแคลนชิป เพราะมีการเตรียมการสั่งซื้อไว้ล่วงหน้า และยังคงมั่นใจเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตได้ 30% และอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 20% อย่างแน่นอน อีกทั้งล่าสุดได้รับปัจจัยบวกจากกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพ (Potential Customers) กว่า 80 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 2,600 ลบ. สนับสนุนรายได้ปี 2565 ให้เติบโตแข็งแกร่งมากขึ้น"

ด้านมาตรการป้องกันเชื้อ COVID-19 ปัจจุบันบริษัทได้ฉีดวัคซีนให้พนักงานทุกคนกว่า 90% เรียบร้อยแล้ว รวมถึงมีมาตรการที่เข้มงวดสำหรับบุคคลภายนอกที่มาติดต่อบริษัทจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม บริษัทจึงมั่นใจว่าจะเกิดความปลอดภัยต่อพนักงานและจะไม่เกิดผลกระทบใดๆ ต่อการดำเนินงานของบริษัท

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

นายวิรัตน์ ผูกไทย  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SMT กล่าวว่า ผลประกอบการที่ออกมาดี เนื่องจากการเติบโตของยอดขาย ของผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง และการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและบริษัทก็ไม่มีปัญหาการขาดแคลนชิป เพราะมีการเตรียมการสั่งซื้อไว้ล่วงหน้า และยังคงมั่นใจเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตได้ 30% และอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 20% อย่างแน่นอน


อีกทั้งล่าสุดได้รับปัจจัยบวกจากกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพ (Potential Customers) กว่า 80 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 2,600 ลบ. สนับสนุนรายได้ปี 2565 ให้เติบโตแข็งแกร่งมากขึ้น

ด้านมาตรการป้องกันเชื้อ โควิด -19 ปัจจุบันบริษัทได้ฉีดวัคซีนให้พนักงานทุกคนกว่า 90% เรียบร้อยแล้ว รวมถึงมีมาตรการที่เข้มงวดสำหรับบุคคลภายนอกที่มาติดต่อบริษัทจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม บริษัทจึงมั่นใจว่าจะเกิดความปลอดภัยต่อพนักงานและจะไม่เกิดผลกระทบใดๆ ต่อการดำเนินงานของบริษั
#8720
ลอตเตอรี่ออนไลน์ ซื้อเองง่าย จ่ายโดยรัฐบาล ราคา 80 บาท ไม่มีค่าบริการ
ซื้อ https://bit.ly/366z1vn
#8721


'สี จิ้นผิง'ตั้งเป้าส่งวัคซีนโควิดช่วยทั่วโลก 2 พันล้านโดสในปีนี้ พร้อมบริจาคเงิน 100 ล้านดอลลาร์ให้แก่โครงการโคแวกซ์

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี (5 ส.ค.) ว่า จีนจะจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 2,000 ล้านโดสให้แก่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกภายในปี 2564 นี้

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสียังระบุว่าจีนจะบริจาคเงิน 100 ล้านดอลลาร์ให้แก่โครงการโคแวกซ์ซึ่งเป็นโครงการกระจายวัคซีนให้แก่ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลาย หลังจากที่ผ่านมา จีน ได้จัดส่งวัคซีนจพนวนกว่า 770 ล้านโดสไปให้ประเทศอื่นๆ

ทั้งนี้ เมื่อเดือนก.ค.ในการประชุมฉุกเฉินในระดับประมุขแห่งรัฐและรัฐบาลกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก (เอเปก)ทางออนไลน์ ประธานาธิบดีสี สัญญาว่าจะให้ความช่วยเหลือทางการเงิน 3,000 ล้านดอลลาร์ แก่ประเทศกำลังพัฒนาเพื่อนำไปต่อสู้กับโควิด-19 ให้ฟื้นตัวจากผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจ
#8722


ราคาน้ำมันขยับขึ้นราว 1% ในวันพฤหัสบดี(5ส.ค.) ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก ได้แรงหนุนจากข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯ ความเคลื่อนไหวของตลาดทุนฉุดให้ราคาทองคำปรับลด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 94 เซนต์ ปิดที่ 69.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ ปิดที่ 71.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

เครื่องบินรบของอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีในสิ่งที่พวกเขาระบุว่าเป็นฐานยิงจรวดในเลบานอนในวันพฤหัสบดี(5ส.ค.) ตอบโต้เหตุยิงจรวด 2 ลูกจากดินแดนเลบานอนเข้าใส่อิสราเอล ในสถานการณ์ความเป็นปรปักษ์ข้ามพรมแดนที่ลุกลามบานปลาย ท่ามกลางความตึงเครียดกับอิหร่าน

ความตึงเครียดดังกล่างก่อความกังวลเกี่ยวกับอุปทานทางพลังงาน ส่งผลให้ราคาน้ำมันฟื้นตัวในวันพฤหัสบดี(5ส.ค.)

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(5ส.ค.) ปิดบวก เอสแอนด์พี500และแนสแดคทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากข้อมูลผู้เข้ารับสวัสดิการคนว่างงานที่ดีขึ้น ก่อนสหรัฐฯเผยแพร่รายงานการจ้างงานรายเดือนในวันศุกร์(6ส.ค.)

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 271.58 จุด (0.78 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,064.25 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 26.44 จุด (0.60 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,429.10 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 114.58 จุด (0.78 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,895.12 จุด

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 14,000 ราย สู่ระดับ 385,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ข้อมูลนี้ถูกเผยแพร่ออกมาก่อนหน้าที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานรายเดือนในวันศุกร์(6ส.ค.) ซึ่งพวกนักวิเคราะห์คาดหมายว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะมีการจ้างงานเพิ่มเติมถึง 925,000 ตำแหน่ง และอัตราคนว่างงานน่าจะลดลงสู่ระดับ 5.6%

ส่วนราคาทองคำปิดลบในวันพฤหัสบดี(5ส.ค.) หลังผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 5.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,808.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

(ที่มา:รอยเตอร์/มาร์เก็ตวอตช์)
#8723


ช็อกวงการ! "บาร์เซโลนา" ยืนยัน ไม่ต่อสัญญา "ลิโอเนล เมสซี" กัปตันทีม เหตุติดเรื่องกฎการเงินของลาลีกา ทำให้จอมทัพหมายเลข 10 ต้องอำลาถิ่นคัมป์นูแบบไม่มีค่าตัวแน่นอนแล้ว หลังอยู่กับสโมสรมานานกว่า 20 ปี
สโมสรบาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่แห่งลาลีกาสเปน แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (5 ส.ค.) ว่า ถึงแม้ทั้งสโมสรและ "ลิโอเนล เมสซี" ดาวเตะทีมชาติอาร์เจนตินา ได้บรรลุข้อตกลงเรื่องสัญญาฉบับใหม่และมีความประสงค์ชัดเจนว่าต้องการเซ็นสัญญากันในวันนี้ แต่สุดท้ายสิ่งนี้ก็ไม่เกิดขึ้น เนื่องจากติดขัดเรื่องการเงินและกฎการลงทะเบียนผู้เล่นของลาลีกา

ด้วยเหตุนี้ เมสซีจึงไม่สามารถอยู่กับบาร์เซโลนาได้อีกต่อไป ทั้งสองฝ่ายรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ความต้องการของทั้งผู้เล่นและสโมสร ไม่สามารถเกิดขึ้นจริงได้

"เอฟซี บาร์เซโลนา ขอแสดงความซาบซึ้งจากใจจริงต่อเมสซี สำหรับผลงานและความสำเร็จต่าง ๆ ที่เขาร่วมสร้างให้กับสโมสร และขออวยพรให้เขาโชคดีกับอนาคต ทั้งในเรื่องชีวิตส่วนตัวและการค้าแข้ง"

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เดิมนั้น บาร์เซโลนาบรรลุสัญญาฉบับใหม่กับเมสซียาวถึงปี 2026 แต่ด้วยค่าเหนื่อยหลายแสนยูโรต่อสัปดาห์ของเมสซี จะทำให้บาร์เซโลนาใช้เงินเกินกว่าที่ลาลีกากำหนดไว้ จึงไม่ได้รับการอนุมัติจากลาลีกาให้เซ็นสัญญากัน แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงกันไว้แล้วก็ตาม

ดาวเตะระดับโลก วัย 34 ปี เซ็นสัญญาฉบับแรกกับบาร์เซโลนาในปี 2000 ขณะอายุเพียง 13 ปี และลงเล่นให้สโมสรทุกรายการรวม 788 นัดจนกระทั่งสิ้นสุดสัญญาฉบับเดิมเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา และปัจจุบันกลายเป็นนักเตะฟรีเอเยนต์ที่สามารถย้ายทีมได้แบบไม่มีค่าตัว
#8724


ขึ้นชื่อว่าเป็นรายการ "Survival Audition" ที่มีกติกาและหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกเด็กสาวที่ฝันอยากเป็นไอดอลมาร่วมรายการแบบเฉพาะตัว โดยให้สิทธิ์ขาดในกรรมการคนเดียวชี้ชะตาเด็กสาวผู้มีฝันว่าใครจะรอดหรือร่วง! ทำให้วันอาทิตย์ที่ผ่านมารายการ "Last Idol Thailand Presented by True 5G" (ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์) ทางช่อง 7 HD ถูกจับตามองเรื่องการเกณฑ์ในการคัดเลือกของกรรมการที่มาร่วมรายการในแต่ละครั้ง

รูปแบบของ "ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์" เน้นเฟ้นหาเด็กสาวธรรมดาที่มีออร่า ไม่จำเป็นต้องร้องเก่ง เต้นดี แต่ต้องมีเสน่ห์บางอย่างประกายออกมาในระหว่างที่พวกเธอวาดลีลาบนเวที โดยทางรายการจะคัดสมาชิกชั่วคราว 7 คน และให้ผู้ท้าชิงเลือกเอาว่าต้องการจะแข่งขันกับสมาชิกชั่วคราวคนไหน เมื่อโชว์ของทั้ง 2 คนจบลง ทางรายการจะประกาศหมายเลขที่กำหนดเอาไว้ว่าสัปดาห์นี้กรรมการที่จับได้ลูก.หมายเลขไหนเป็นผู้ตัดสิน เช่น ทางรายการกำหนดให้กรรมการที่จับได้ลูก.หมายเลข 3 เป็นผู้ตัดสินว่าจะให้ สมาชิกชั่วคราว หรือ ผู้ท้าชิง จะได้ไปต่อในรายการ ถ้าสัปดาห์นั้นผู้ท้าชิงสามารถชนะใจกรรมการได้ สมาชิกชั่วคราวคนนั้น ๆ ก็ต้องออกจากรายการไป แต่ถ้ากรรมการคนนั้น ๆ เทใจให้สมาชิกชั่วคราวมากกว่า ผู้ท้าชิงก็ต้องม้วนเสื่อกลับบ้านไป ด้วยกติกาที่ยกสิทธิ์ขาดในการตัดสินให้กับกรรมการเพียงคนเดียว

เรียกว่าคนที่จะได้ไปต่อในรายการนี้ "เก่งอย่างเดียวไม่พอ ดวงต้องรุ่ง" ด้วย ขณะเดียวกันก็ยังสร้างภาระอันหนักอึ้งให้กับกรรมการมาแล้วหลายต่อหลายคน เช่น สัปดาห์ที่นางเอกสาวมากฝีมือ หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ มาเป็นกรรกมการ เจ้าตัวถึงขั้นปาดน้ำตามาแล้ว หลังเธอแจ็กพ็อตต้องทำหน้าที่กรรมการติดต่อกัน 2 ครั้งรวด ดังนั้นไปฟังความรู้สึกของกรรมการหลาย ๆ คนที่เคยผ่านช่วงเวลาอันสุดโหดกันดีกว่าว่าพวกเขามีเกณฑ์ในการเป็นกรรมการให้กับ "ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์" นั้น

เริ่มที่ หนึ่ง ETC กล่าวว่า "การเป็นกรรมการรายการนี้ก็ไม่ได้สนุกนะ เครียด กดดัน แต่ก็อยากมาอีก เพราะในความเครียดความกดดันมันมีเสน่ห์บางอย่างของรายการที่รู้สึกว่าไม่เหมือนการประกวดที่ไหน ทำให้เราได้เห็นคนหลาย ๆ แบบและได้ลองวิเคราะห์คนที่แตกต่างกันไป ในช่วงเวลาที่น้อง ๆ ร้องเพลงให้เราฟัง พยายามรับสารที่เขาต้องการส่งมาถึงเราให้มากที่สุด เพราะเราต้องใช้สิ่งเหล่านี้เป็นเกณฑ์ในการตัดสิน เพราะว่าบางคนอาจร้องเพี้ยนทั้งเพลง แต่ทัศนคติดี คาริสม่าได้ คุณสมบัติของไอดอลที่จะมัดใจผมได้ ต้องมีความเป็นธรรมชาติ มีพลังงานบวกในตัว คนเหล่านี้เวลาเจอสถานการณ์ที่บีบคั้นจะทำให้เรารู้เลยว่าเขามีทัศนคติที่ดีอย่างไรในสถานการณ์ที่กดดัน รายการนี้ ไม่ได้มองหาคนที่เก่งที่สุดอยู่แล้ว แต่เรามองหาคนที่พร้อมจะพัฒนาต่อครับ"

ฟาก แทน ลิปตา เผยว่า "สำหรับมองว่าคนที่จะเป็นไอดอลได้ ผมมองหาสิ่งที่ฝรั่งเรียกว่า "X Factor" เป็นปัจจัยที่บางครั้งเราไม่สามารถหาคำจำกัดความได้ มันคือประกายหรือเสน่ห์ในตัวน้อง ๆ รายการนี้ไม่ใช่รายการประกวดการเต้นหรือร้องเพลง ที่เราจะมาจับผิดเสียงร้องน้องว่าเพี้ยนตรงไหนไหม แต่มันมากกว่าการร้องเพลงดีหรือเต้นเก่ง มันคือการทำให้คนอื่นรักเรา เรามอบความสุขให้เขามากแค่ไหน สำหรับผมชอบคนที่ทัศนคติดี ซึ่งผมมักจะเห็นในไอดอลที่เก่ง ๆ ได้รับความนิยมสูง ๆ ครับ กับหน้าที่กรรมการในรายการนี้ ผมต้องพยายามมีสติกับตัวเอง ระมัดระวังคำพูด ต้องใช้ประสบการณ์และ feeling เพื่อมาดูว่าใครควรจะได้ไปต่อ รายการนี้โหดมาก ถ้าสติไม่อยู่กับตัวมันมีโอกาสที่จะเป็นประเด็นดราม่าได้ครับ"


ด้าน หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ กล่าวว่า "ก่อนมาอัดรายการคิดว่าน่าจะเป็นรายการไอดอลน่ารักสนุกสนาน ไม่คิดว่าทุกอย่างจะเข้มข้น ดุเดือดแบบนี้ รายการนี้ไม่ใช่ว่าคุณร้องเก่งเต้นเก่งแล้วคุณจะได้ตำแหน่งนั้น แต่มันคืออะไรบางอย่างที่เรารู้สึกแล้วมันมากระแทกใจเรา จริง ๆ หนูนาก็เคยผ่านการเป็นกรรมการต่าง ๆ มาบ้าง แต่รายการนี้แตกต่างจากที่ผ่านมา ยากและกดดันมาก ด้วยความที่ทั้งหมดมันคือความใฝ่ฝันของพวกเขา น้อง ๆ อาจจะเป็นที่ชื่นชอบของหลาย ๆ คน แต่เราต้องเป็นคนที่ตัดสินชี้ชะตาของเขา ทั้ง ๆ ที่มันอาจจะไม่ได้ถูกต้องไปซะทั้งหมด เราไม่รู้ว่าเราทำถูกหรือทำผิด แต่เราคือคนที่ต้องทำตรงนั้น เพราะฉะนั้นความรับผิดชอบของเราตรงนี้มันหนักมากค่ะ"

ต่อกันที่ ณัฐ วง "เคลียร์" เผยว่า "จริง ๆ ตอนแรกก็ลังเล แต่ก็อยากลองมาสัมผัสอีกโลกหนึ่งที่ใกล้ตัวแต่เรายังไม่เคยได้ก้าวเข้าไป เกณฑ์การตัดสินจะเป็นเรื่องคาริสม่ามากกว่าการร้องและเต้นดี ผมเน้นไปตรงที่ใครที่ให้ความสุขเราได้มากกว่าเวลาที่เขาอยู่บนเวที บางคนร้องเพี้ยนแต่ทำไมน้องคนนั้นทำให้เราขนลุกได้ เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นจริง ๆ มันต้องมาสัมผัสเอง ผมขอเรียกว่า "เสน่ห์" แล้วกัน ถามว่าผมใช้เกณฑ์อะไรในการตัดสิน มันไม่มีมาตรฐานอะไรทั้งสิ้น มันมีรายละเอียดหลาย layer มากในการที่จะเลือกตัดสิน อย่างผมเองก็แทงสวนกับกรรมการหลายคนไป 2-3 รอบเหมือนกัน แต่พอเรามาคุยกันเราก็จะรู้ว่ากรรมการแต่ละคนอาจมองคนละมุมกัน มีความชอบต่างกัน บางทีก็มีเรื่องดวงมาประกอบด้วย แต่สำหรับผมนอกจากจะมองหาน้อง ๆ ที่มอบความสุขให้ผู้ฟังได้แล้ว ผมยังมองหาความเป็นนักสู้ในตัวของพวกเขาครับ"



ฟาก โบ ไทรอั้มพ์ คิงดอม กล่าวว่า "รายการนี้เขาเน้นดูที่คาริสม่ากับคาแร็คเตอร์ว่าเขาชัดเจนมากแค่ไหนค่ะ สำหรับโบคิดว่าคนที่จะมาเป็นไอดอลต้องมีเซอร์วิสมายด์ ที่จะเติมตัวเองเต็มและมอบให้กับคนอื่น นอกจากนี้ต้องมีความเป็นนักสู้ มันมาด้วยการฟาดฟันกัน ไม่ว่าจะออกมาหน้าจอหรือหลังจอมันมีกระบวนการที่ต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ถามว่าการเป็นกรรมการในรายการนี้เป็นยังไงบ้าง คือน้ำตาจะไหล กดดันมาก มันคือความฝันของเขา เหมือนเราไปทำลายความฝันของเขา โบเชื่อว่ามันยังไม่เป็นการเดบิวต์ เราให้โอกาสอีกคนด้วย เราพยายามทำเพื่อให้ ลาสต์ ไอดอล ดีขึ้นจริง ๆ ภาพรวมของวงเป็นสิ่งสำคัญ คุณสมบัติที่โบมองหาในตัวน้อง ๆ คือ ทัศนคติที่ดี ความมีเสน่ห์มีออร่า อย่างโบเป็นคนร้องเพลงเพี้ยน ไม่ได้เต้นเก่ง โบรู้ว่าเรื่องพวกนี้ฝึกกันได้ค่ะ"


ปิดท้ายกันที่ มด-ณปภัช วัฒนากมลวุฒิ เผยว่า "มดไม่เคยเป็นกรรมการตัดสินใด ๆ มาก่อน แต่พอเป็น "ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์" มดเชื่อว่าเราสามารถเอาประสบการณ์ในการเป็นนักร้องของเรามาใช้ได้ เรารู้ว่าการที่จะแสดงให้คนรู้สึกสนุกไปกับเรา ต้องทำยังไง รายการนี้เป็นกลุ่มเด็กไอดอล มดรู้สึกว่าคาแร็คเตอร์ที่โดดเด่นเป็นอะไรที่สำคัญมาก เพื่อให้คนรู้สึกว่าฉันชอบคนนี้เพราะคาแร็คเตอร์แบบนี้ มันจะยิ่งดึงคนได้มากกว่าเดิม แต่ด้วยกติกาการตัดสินของรายการนี้ไม่เหมือนรายการอื่น ๆ มดว่าอยู่ที่ดวงด้วย เพราะกรรมการไม่ได้ประชุมเพื่อหามติส่วนข้างมากเป็นหลัก รายการนี้เขาให้กรรมการคน ๆ เดียวตัดสิน แล้วตัวกรรมการก็ยังต้องจับลูก.นำโชคเลย รายการนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ มดว่าการจะเป็นไอดอลได้ นอกจากบุคลิกภาพจะต้องดี มีเสน่ห์ ก็มีเรื่องดวงด้วย มันเหมือนจังหวะชีวิตของคนว่าเขาจะได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ไหมค่ะ"

ติดตามชม "Last Idol Thailand Presented by True 5G" (ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์) ได้ทุกวันอาทิตย์ เวลา 12.30-13.30 น. ทางช่อง 7 HD
#8725


ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ รองประธาน สมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า สถานการณ์ธุรกิจค้าปลีกขณะนี้เผชิญวิกฤติหนัก! ดัชนีความเชื่อมั่นเดือน ก.ค.ดิ่งลงจุดต่ำสุดในรอบ 16 เดือน ติดลบถึง 70% คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 2.7 แสนล้านบาท กว่า 1 แสนร้านค้าเตรียมปิดกิจการ กระทบการจ้างงานกว่า ล้านคน!

เป็นโจทย์ใหญ่และวาระเร่งด่วนจะร่วมหาทางออก พยุงการจ้างงาน ประคองธุรกิจกันต่อไปอย่างไร? ภายใต้สงครามเชื้อโรคที่ยังคุกคามหนัก!!

ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นค้าปลีกเดือน ก.ค. น่าเป็นห่วงอย่างมาก!!!  จากการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์เดลตารุนแรงกว่าระลอกแรก นอกจากนี้มาตรการ "ล็อกดาวน์" และ "เคอร์ฟิว" ในเดือน ส.ค. ที่ปัจจุบันได้ขยายพื้นที่ควบคุมเข้มสูงสุดเป็น 29 จังหวัด ส่งผลให้ภาคค้าปลีกต้องใช้เวลานานกว่าจะฟื้นตัวสู่ระดับปกติ คาดว่าน่าจะเป็นช่วงกลางปี 2566 เลยทีเดียว

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ค้าปลีก หรือ Retail Sentiment Index (RSI) อยู่ที่ระดับ 16.4 ลดต่ำสุดในรอบ 16 เดือน ความเชื่อมั่นติดลบ 70% 

การลดลงของยอดขายสาขาเดิม หรือ  Same Store Sale Growth (SSSG) ใน เดือน ก.ค. นั้น  เกิดจากทั้งการใช้จ่ายต่อบิล  Spending per Bill หรือต่อครั้ง Per Basket Size และ ความถี่ในการจับจ่าย (Frequency on Shopping) ลดลงพร้อมกัน!!  ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก สะท้อนถึงการฟื้นตัวต้องใช้เวลา 

"คาดว่าภาคการค้าปลีกและบริการครึ่งปีหลังจะทรุดหนัก การเติบโตโดยรวมปีนี้มีแนวโน้มจะติดลบทั้งปี"


ขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ค้าปลีก RSI ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ยืนอยู่ที่ระดับ 27.6 ต่ำกว่าดัชนีเดือน เม.ย.2563 ที่ระดับ 32.1 สะท้อนถึงความวิตกกังวลในความไม่ชัดเจนต่อแนวทางการกระจายการฉีดวัคซีนของภาครัฐที่ยังมีความล่าช้า ขณะที่ มาตรการเยียวยาก็ไม่เข้มข้นมากพอ รวมทั้งการกระตุ้นกำลังซื้อที่ภาครัฐประกาศจะอัดฉีดเพิ่มเติมนั้นกลับไม่ตรงตามเป้าหมาย

นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่น RSI แยกตามภูมิภาค ปรากฎว่า ลดลงต่ำกว่าระดับค่าเฉลี่ยกลางที่ 50 อย่างต่อเนื่องในทุกภูมิภาค เป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด โดยเฉพาะภาคกลาง ลดลงอย่างชัดเจนกว่าภาคอื่นๆ จาก "คลัสเตอร์การแพร่ระบาดในกลุ่มผู้ใช้แรงงานในโรงงานเป็นจำนวนมาก" ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นใน 3 เดือน ข้างหน้า ลดลงในทุกภูมิภาคอย่างชัดเจน และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลางที่ระดับ 50 ค่อนข้างมาก 

สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ประกอบการประเมินว่า วิกฤติการแพร่ระบาด! ยืดเยื้อไม่จบง่ายๆ ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนแอ เปราะบางอย่างมาก การฟื้นตัวต้องใช้เวลานาน

หากพิจารณาดัชนีความเชื่อมั่น RSI แยกตามประเภทร้านค้าปลีก  พบว่า ดัชนีปรับลดลงมากอย่างชัดเจน และต่ำลงในทุกเซ็กเมนต์โดยเฉพาะ "ห้างสรรพสินค้า" และ "ร้านอาหาร" ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงและหนักสุด! จากมาตรการการ "ล็อกดาวน์"  สะเทือนยอดขายหายไปกว่า 80-90% เมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย. 

ส่วน "ร้านสะดวกซื้อ" หรือ "คอนวีเนียนสโตร์" ที่เคยเปิดบริการ 24 ชั่วโมง ได้รับผลกระทบจากมาตรการกำหนดให้ปิดบริการตั้งแต่ 21.00-04.00 น. ยอดขายหดตัว 20-25% จากรายได้ในรอบดึกที่เป็นส่วนหนึ่งของ Peak Hour หายไป! และจำนวนสาขาของร้านค้าสะดวกซื้อกว่า 40% ตั้งอยู่ในเขตสีแดงเข้มที่เป็นเขตควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด

สำหรับ มุมมองของผู้ประกอบการ ประเมินผลกระทบต่อยอดขายและกำลังซื้อ รวมถึงการจ้างงานต่อการแพร่ระบาดไวรัสโควิดระลอกใหม่ ในเดือน ก.ค. เทียบเดือนก่อนหน้า ผู้ประกอบการกว่า 90% เห็นว่า กำลังซื้อของผู้บริโภคมีสัญญาณปรับตัวแย่กว่าเดือน มิ.ย. ค่อนข้างมาก เพราะกังวลต่อความไม่แน่นอนของแผนการฉีดและกระจายวัคซีนของภาครัฐ  "63%" ประเมินว่า ยอดการจับจ่ายและการใช้บริการ (Traffic) ลดลงมากกว่า 25%  และไม่มีพฤติกรรมในการกักตุน (Stock Up) เพราะกำลังซื้ออ่อนตัวลงอย่างมาก! 

ผู้ประกอบการ "61%"  ยอมรับว่าการจับจ่ายและใช้บริการ  ลดลงมากกว่า 25% เป็นผลจากมาตรการเคอร์ฟิว กว่า "41%"  มีการปรับลดการจ้างงาน หรือ ลดชั่วโมงการทำงาน เพราะธุรกิจมียอดขายและค่าธรรมเนียมการขายลดลง  "53%"  มีสภาพคล่องทางการเงินไม่ถึง 6 เดือน สะท้อนภาวะธุรกิจที่ฝืดเคือง และการเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำยังคงเป็นปัญหาที่ต้องการได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน "42%"  คาดว่าการบริโภคภาคเอกชนในไตรมาส 3 นี้ จะหดตัว 10% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 

โดย ผู้ประกอบการ 90% ประเมินการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะเข้าสู่ระดับปกติได้ในช่วงกลางปี 2566 หรืออาจจะนานกว่านั้น!!

อย่างไรก็ดี "เมื่อรัฐประกาศมาตรการล็อกดาวน์และเคอร์ฟิว จำเป็นต้องมีมาตรการเยียวยาช่วยเหลือลูกจ้างควบคู่กันไปด้วย เพื่อไม่ให้ลูกจ้างถูกเลิกจ้างงานหรือพักงาน โดยเฉพาะกลุ่มห้างสรรพสินค้า และร้านอาหาร"

สมาคมฯ เสนอ  4 มาตรการเร่งด่วนต่อภาครัฐ 1.ต้องมีมาตรการเยียวยานายจ้างช่วยจ่ายค่าเช่า และค่าแรงพนักงาน 50%  เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน  2.ภาครัฐต้องช่วยผู้ประกอบการด้วยการลดค่าสาธารณูปโภค 50% เป็นเวลา 6 เดือน 3.ภาครัฐต้องเร่งสถาบันการเงินอนุมัติสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ให้ผู้ประกอบการที่ยื่นขอเงินกู้อย่างทั่วถึงและรวดเร็วภายใน 30 วัน  ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติเงินกู้เพียง 10% ของจำนวนที่ยื่นขอสินเชื่อไปแล้วกว่า 30,000 ราย หากการอนุมัติยังล่าช้าจะส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องเลิกกิจการกว่าแสนรายอย่างแน่นอน 4.ขอให้พักชำระหนี้และหยุดคิดดอกเบี้ยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่เป็นลูกหนี้ปัจจุบันกับสถาบันการเงิน 

รัฐต้องพิจารณาและให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพราะภาคค้าปลีกและบริการกำลังทรุดหนัก แนวโน้มปิดกิจการกว่าแสนราย! สิ่งที่ตามมาคือการเลิกจ้างกว่าล้านคน ดังนั้น รัฐบาลต้องเรียกความเชื่อมั่นให้กลับมาโดยเร็วที่สุด!!
#8726


ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในเช้าวันนี้หลังขาดปัจจัยชี้นำที่ชัดเจน ขณะที่นักลงทุนรอดูการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันนี้

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,465.48 จุด ลดลง 1.07 จุด หรือ -0.03%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,709.22 จุด ลดลง 18.90 จุด หรือ -0.07% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,262.97 จุด เพิ่มขึ้น 58.28 จุด หรือ +0.22%

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการจ้างงานจะพุ่งขึ้น 926,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. สูงกว่าที่เพิ่มขึ้น 850,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ ที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 14,000 ราย สู่ระดับ 385,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนจำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลง 366,000 ราย สู่ระดับ 2.93 ล้านราย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องอยู่ที่ต่ำกว่าระดับ 3 ล้านรายนับตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.2563

นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในภูมิภาคที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนมิ.ย.ของเกาหลีใต้และการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนมิ.ย.ของญี่ปุ่น
#8727


ใกล้จะถึงเทศกาลวันแม่เข้าไปทุกที แต่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยังคงน่ากังวล หลายคนเลยต้องแตะเบรกยกเลิกกิจกรรมฉลองวันแม่ ไม่ว่าจะเป็นทริปพาคุณแม่เที่ยว รับประทานอาหารกับครอบครัวที่ร้านโปรด หรือพาคุณแม่ไปช้อปปิ้งนอกบ้านได้เหมือนปีที่ผ่านๆ มา ทำให้หวนคิดถึงบรรยากาศวันแม่แบบเดิมอยู่ไม่น้อย ลาซาด้าจึงขอชวนสองหนุ่มหล่ออย่าง "บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล" และ "พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร" มาส่งแรงใจคูณสองให้กับทุกคน พร้อมชวนช้อปไอเทมออนไลน์สุดคุ้มค่า เป็นของขวัญเซอร์ไพรส์คุณแม่เนื่องในโอกาสวันแม่ที่กำลังจะมาถึง กับแคมเปญ Lazada 8.8 Super Saving Day ในวันที่ 8 สิงหาคม 2564 นี้เท่านั้น

เหล่าสาวกนักช้อปคงรู้กันดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญไหนๆ ลาซาด้าก็ขนดีลเด็ด พร้อมโปรโมชั่นจัดหนักมาให้ช้อปเป็นประจำ พิเศษสุด! สำหรับเดือนสิงหาคมนี้ ลาซาด้าชวนสร้างความประทับใจให้คุณแม่แบบ New Normal ที่ไม่ต้องออกจากบ้านก็หาของขวัญเซอร์ไพรส์คุณแม่ได้ง่ายๆ เตรียมพบกับส่วนลดสูงสุดกว่า 80% พร้อมรับลาซาด้าโบนัส 30 บาท เมื่อซื้อครบทุกๆ 400 บาท และลด 100 บาท เมื่อซื้อครบทุกๆ 1,500 บาท และไม่ว่าจะช้อปจากที่ไหน ลาซาด้าก็มีคูปองส่งฟรีทั่วไทยอีกด้วย โปรเด็ดคุ้มหลายต่อขนาดนี้ กดสินค้าที่คุณแม่ต้องปลื้มเข้ารถเข็นไว้ให้พร้อม

"พีพี กฤษฏ์" เผยว่า "ช่วงนี้ไม่ได้ไปไหนเลยครับถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ได้มีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น ที่สำคัญตอนนี้ใกล้เทศกาลวันแม่แล้วด้วย สำหรับผมจริงๆ คือทุกวันอยู่แล้ว เพราะผมกับคุณแม่ค่อนข้างสนิทกันมาก ปกติจะชอบหาของขวัญมาเซอร์ไพรส์คุณแม่ทุกเทศกาลอยู่แล้ว ยิ่งลาซาด้ากำลังจะมี แคมเปญ 8.8 ลดจัดหนักมาก ผมเลยไปลองดูสกินแคร์ที่คุณแม่ชอบเอาไว้ ว่าจะกดสั่งมาให้ช่วงแคมเปญ 8.8 นี้แหละ คุณแม่น่าจะแฮปปี้กับของขวัญที่ผมเตรียมนะครับ เพราะได้ใช้เป็นประจำแน่นอน"

ส่วนหนุ่ม "บิวกิ้น พุฒิพงศ์" กล่าวว่า "ตอนนี้ผมมีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น ทำให้มีเวลาเรียนรู้และค้นพบความสามารถในด้านอื่นของตัวเอง อย่างการชงกาแฟ ผมซื้อเอสเพรสโซ่แมชชีนมาลองทำเอง เรียนรู้การใช้อุปกรณ์ ทดลองและฝึกเทคนิคยากๆ ในการทำกาแฟให้หอมอร่อย โดยมีคุณแม่เป็นกรรมการคอยช่วยติชมและมีประสบการณ์ร่วมกับเราตลอด วันแม่ปีนี้ก็คงพิเศษไม่แพ้ทุกปีครับ ได้ชงกาแฟดีๆ ให้คุณแม่ดื่ม ถ้าคุณแม่อยากได้อุปกรณ์เครื่องครัวมาทำอาหารชิ้นไหนเราก็สั่งจากลาซาด้าให้มาส่งที่บ้านเลย เพราะในลาซาด้ามีครบทุกอย่างจริงๆ แถมกำลังจะมีแคมเปญ 8.8 ขนดีลเด็ดมาไม่อั้นอีกด้วย ใครมีแพลนกำลังหาของขวัญให้คุณแม่อยู่ ห้ามพลาดนะครับ" 
เห็นสองหนุ่มบิวกิ้น-พีพี เตรียมตัวหาของขวัญเซอร์ไพรส์วันแม่กันแล้ว แฟนคลับของสองหนุ่มต้องรีบมาช้อปปิ้งเลือกของขวัญให้คุณแม่กันบ้างแล้วล่ะ กับ Lazada 8.8 Super Saving Day คุ้มหลายต่อ ลดแล้ว ลดได้อีก ในวันที่ 8 สิงหาคม 2564 นี้เพราะนอกจากดีลแจกส่วนลดแบบจุกๆ แล้ว ลาซาด้ายังร่วมกับแบรนด์สินค้าชั้นนำจาก LazMall ที่การันตีแบรนด์แท้ราคาดี ส่งฟรีถึงบ้านคุณ พร้อมรับประกันคืนสินค้าภายใน 15 วัน มามอบดีลและโปรโมชั่นสุดพิเศษ ลดแร๊งแรง! พร้อมของสมนาคุณมากมาย กับ Crazy Brand Mega Offer เฉพาะ 2 ชั่วโมงแรก ตั้งแต่เที่ยงคืน - ตี 2 เท่านั้น และยังใช้ส่วนลดได้ถึง 6 ต่อ งานนี้พลาดไม่ได้แล้ว! รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https:// bit.ly/2TjIdtk
#8728


นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK เปิดเผยว่า ตามที่ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้บริษัทฯ ฟื้นฟูกิจการและแต่งตั้งผู้ทำแผนตามที่บริษัทเสนอเมื่อวันที่ 4 พ.ย.2563 และบริษัทได้นำส่งแผนฟื้นฟูกิจการในวันที่ 17 พ.ค.2564 แล้วนั้น บริษัทใคร่ขอรายงานว่า ในวันนี้ (4 ส.ค.) เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มีการจัดการประชุมเจ้าหนี้ของบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และที่ประชุมได้มีมติตามมาตรา 90/46 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม)

โดยมีเจ้าหนี้ที่มีจำนวนหนี้รวมกันในสัดส่วนร้อยละ 76.72 ของจำนวนหนี้ของเจ้าหนี้ทั้งหมดที่เข้าร่วมประชุมและออกเสียงลงคะแนน ลงมติยอมรับแผนฟื้นฟูกิจการที่ผู้ทำแผนได้ยื่นต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2564 และคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการจำนวน 1 ฉบับที่บริษัทได้ยื่นต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์รัพย์เมื่อวันที่ 30 ก.ค.2564 ส่งผลให้บริษัทฯ จะมีผู้บริหารแผนที่ถูกนำเสนอดังนี้

1. นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร

2. นายไต้ ชอง อี

3. นายปริญญา ไววัฒนา

4. นายชวลิต อัตถศาสตร์
#8729


ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งช่วยคนไทยฝ่าวิกฤตโควิด-19 ด้วยการมอบสิทธิ์พิเศษให้ผู้ใช้รถยนต์ใช้ "ประกันรถเปิดปิด" แบบ Top-up ประเภทความคุ้มครอง ชั้น 3+ ความคุ้มครอง 100,000 บาท (จำนวน 30 ชั่วโมง ระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน) ฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย

นายเทพพันธ์ อัศวะธนกุล  รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TVI ผู้นำด้านนวัตกรรมประกันภัย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ในปัจจุบันที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อของคนไทยในวงกว้าง "ประกันภัยไทยวิวัฒน์" ในฐานะบริษัทประกันวินาศภัยไทย และผู้นำด้านนวัตกรรมประกันภัย จึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อช่วยเหลือคนไทยให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน

ด้วยการเปิดให้ผู้ใช้รถยนต์ทั่วประเทศ  ที่ไม่เคยใช้ประกันรถเปิดเปิดมาก่อน ลงทะเบียนรับสิทธิใช้ "ประกันรถเปิดปิด แบบ Top-up" ฟรี! รับความคุ้มครองเริ่มต้น  30 ชั่วโมง นานสูงสุด 30 วัน โดยแผนประกันที่เปิดให้ลงทะเบียนใช้ฟรี คือ ประกันรถเปิดปิด แบบ Top-up ประเภท 3+ ทุนประกันตัวรถยนต์ 100,000 บาท โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองเบื้องต้นสำหรับผู้ใช้รถยนต์ที่ต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายทางด้านการประกันภัย 

โดยผู้ใช้รถยนต์ที่สนใจสามารถเลือกเพิ่มความคุ้มครองเป็นชั้น 2+ หรือชั้น 1 หรือเพิ่มทุนประกัน ได้เช่นกันโดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการได้สามารถมีอายุรถได้สูงสุดถึง 15 ปี ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ ได้ที่ www.thaivivat.co.th หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมผ่านช่องทาง Facebook Fanpage ประกันภัยไทยวิวัฒน์ หรือโทร 02-200-7000 ตั้งแต่วันนี้ - 31 สิงหาคม 2564

ทั้งนี้  สำหรับลูกค้าที่ใช้ประกันรถเปิดปิด แบบ Package อยู่แล้ว  และมีการต่ออายุล่วงหน้าเข้ามาผ่าน แอปพลิเคชัน Thaivivat ทุกแพ็กเกจ สามารถรับจำนวนชั่วโมงที่เหลืออยู่จากกรมธรรม์เดิม ทบในกรมธรรม์ใหม่ สูงสุดไม่เกิน 100 ชั่วโมง เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยให้กับลูกค้า รวมถึงยังมีสิทธิพิเศษตรวจเช็คสภาพรถยนต์ฟรี 30 รายการ และพ่นฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 สำหรับลูกค้าประกันรถเปิดปิด นอกจากนี้ยังมีโปรโมชันอีกมากมายที่จะมาช่วยเสริมเพื่อให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์เต็มที่ในช่วงวิกฤตโรคระบาดที่หลายๆ บ้านใช้รถน้อยลง

"โครงการนี้ถือเป็นส่วนเล็กๆ ในการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ไปพร้อมๆกับการเปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้ประสบการณ์การใช้งานประกันรถเปิดปิด ที่ช่วยประหยัดค่าเบี้ยประกันได้สูงสุดถึง 70% จอดรถไว้ ไม่ขับไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกัน แต่ยังได้รับความคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมง  ตอบโจทย์สถานการณ์ในปัจจุบัน ที่คนส่วนใหญ่ Work From Home กันมากขึ้น" นายเทพพันธ์ กล่าว
#8730


นางแองเจล่า ฮันเตอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ชับบ์ ไลฟ์ เปิดเผยว่า ประกันภัยคุ้มครองวงเงินสินเชื่อเป็นผลิตภัณฑ์ที่มอบความอุ่นใจเพิ่มขึ้นแก่เจ้าของรถที่ใช้บริการสินเชื่อ และลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

โดย ชับบ์ ไลฟ์ ได้ร่วมมือกับ กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแก่ลูกค้าของกรุงศรี ออโต้ มาเกือบ 20 ปี ซึ่งชับบ์ ไลฟ์ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สานต่อพันธมิตรในครั้งนี้ โดยยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ให้ตอบสนองความต้องการด้านการเงินได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่น การผ่อนชำระเบี้ยประกันรายเดือน ซึ่งช่วยให้เจ้าของรถสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้ดียิ่งขึ้น

ผลิตภัณฑ์ประกันภัยคุ้มครองวงเงินสินเชื่อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ช่วยลดข้อกังวลกับภาระทางการเงินของผู้ใช้บริการสินเชื่อ ด้วยความคุ้มครองในกรณีที่อุบัติเหตุ ทุพพลภาพ ตลอดจนการเสียชีวิต จนทำให้ไม่สามารถชำระค่างวดต่อไปได้ โดย ชับบ์ ไลฟ์ จะเข้ามารับผิดชอบสำหรับค่างวดคงเหลือ ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถเลือกทำประกันได้พร้อมการทำสัญญาสินเชื่อเช่าซื้อ

นางกฤติยา ศรีสนิท ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือกับ ชับบ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ เป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นของ กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ ในการส่งมอบบริการด้านการเงินที่ครอบคลุมแก่ผู้ใช้บริการสินเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อรถจักรยานยนต์ และสินเชื่อเพื่อคนมีรถ "คาร์ ฟอร์ แคช" โดยถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเราเชื่อว่า ประกันภัยคุ้มครองวงเงินสินเชื่อจะยังคงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ใช้รถที่มองหาความคุ้มครองและความคุ้มค่า ท่ามกลางสถานการณ์ไม่แน่นอนในปัจจุบัน

"การสานต่อความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการเน้นย้ำถึงค่านิยมของทั้งสององค์กรที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก โดย ชับบ์ ไลฟ์ และกรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ จะเดินหน้าเชื่อมต่อการให้บริการผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ และข้อมูลกรมธรรม์ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ไร้รอยต่อยิ่งขึ้น"