• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Panitsupa

#8731


วันนี้ (13 สิงหาคม 2564) นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH พร้อมด้วยนายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO และนายจรัญ คำเงิน ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมพิธีมอบเงินให้แก่มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินจำนวน 3 ล้านบาท เพื่อสมทบทุนในการจัดหายาฟ้าทะลายโจรให้แก่ผู้ป่วยโควิด -19 โดยมีนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ รองประธานโครงการสนับสนุนการใช้ฟ้าทะลายโจรเพื่อช่วยประชาชนในช่วงโควิด-19 เป็นผู้แทนรับมอบผ่านระบบออนไลน์

นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ RATCH ในฐานะผู้แทนกลุ่ม กฟผ. เปิดเผยว่า กลุ่ม กฟผ. พร้อมเป็นอีกหนึ่งภาคส่วนในการช่วยเหลือสนับสนุนหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างสุดกำลัง ตั้งแต่การจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ การผลิตนวัตกรรมทางการแพทย์ เตียงสนาม รวมถึงจัดหาอาหารและสิ่งของจำเป็นมอบให้แก่ประชาชน

โดยในโอกาสนี้ กฟผ. RATCH และ EGCO ร่วมกันมอบเงินให้แก่มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินจำนวน 3 ล้านบาท เพื่อสมทบทุนในการจัดหายาฟ้าทะลายโจรชนิดแคปซูล

รวมถึงฟ้าทะลายโจรแบบต้นสดหรือต้นตากแห้งที่จะนำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตยาฟ้าทะลายโจรให้แก่ผู้ป่วยโควิด -19 สำหรับนำไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ป่วยและคลัสเตอร์ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อบรรเทาอาการระหว่างรอเข้ารับการรักษา และผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ไปได้โดยเร็วที่สุด

ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ รองประธานโครงการสนับสนุนการใช้ฟ้าทะลายโจรเพื่อช่วยประชาชนในช่วงโควิด-19 มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน กล่าวว่า มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินได้ดำเนินการจัดหาฟ้าทะลายโจรชนิดแคปซูล ฟ้าทะลายโจรแบบต้นสดและตากแห้ง รวมถึงวัตถุดิบในการผลิตขิงผงที่เป็นยาฤทธิ์ร้อนที่ใช้รับประทานคู่กับยาฟ้าทะลายโจรเพื่อลดอาการข้างเคียง มอบให้แก่ชุมชนแออัด วัด และโรงพยาบาลต่าง ๆ ในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทางมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับกลุ่ม กฟผ.

ซึ่งเป็นองค์กรเสาหลักที่ช่วยเหลือสังคมมาในทุกวิกฤตมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานนอกเหนือจากภารกิจด้านพลังงานไฟฟ้าทั้งในยามที่ประชาชนต้องการความช่วยเหลือ การดูแลชุมชนสิ่งแวดล้อม ซึ่งการสนับสนุนการจัดหายาฟ้าทะลายโจรในครั้งนี้ของกลุ่ม กฟผ. จะทำให้ยาฟ้าทะลายโจรเข้าถึงประชาชนที่ขาดโอกาสในการรักษาและผู้ป่วยโควิด-19 มากยิ่งขึ้น ตลอดจนช่วยลดความรุนแรงของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดให้อยู่ในวงจำกัดอีกด้วย
#8732


นายบุญชัย จิระพงษ์ตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะสตีล จำกัด (มหาชน) หรือTHE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการในงวดไตรมาส 2 ของปี 2564 บริษัทฯ รักษาความสามารถการเติบโตของกำไรต่อเนื่องจากไตรมาสแรก โดยมีกำไรสุทธิ 360.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 341.22 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 1,805.40% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 18.90 ล้านบาท

ในงวดไตรมาส 2 ของปี 2564 นี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 4,191.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 148.92% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จำนวน 1,684.05 ล้านบาท เป็นไปตามปริมาณการขายเหล็กเพิ่มขึ้นราว 83.98% เนื่องจากการนำเข้าวัตถุดิบเหล็กจากต่างประเทศลดลง รับผลจากการขนส่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลให้ปริมาณเหล็กในประเทศขาดแคลน ราคาขายเหล็กเฉลี่ยทั้งไตรมารถเพิ่มขึ้นจากปี 2563 ราว 38.84% และส่งผลให้ไตรมาสนี้ มีกำไรขั้นต้น 475.50 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้ามีกำไรขั้นต้นเพียง 38.82 ล้านบาท


เมื่อพิจารณางบ 6 เดือนแรก พบว่าบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 709.73 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 141.82 ล้านบาท และมีรายได้รวม 7,394 ล้านบาท ทำให้คาดว่ารายได้รวมในปีนี้ น่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 13,000 ล้านบาท

"ประเทศจะยังคงเผชิญปัญหาวัตถุดิบเหล็กขาดแคลน ภายหลังประเทศปรับลดกำลังการผลิตเหล็กลง และจะทำให้ราคาขายเหล็กม้วนดำ ซึ่งเป็นสินค้าหลักของบริษัท ทรงตัวในระดับสูง ต่อไป ทำให้มีความเชื่อมั่นว่าผลประกอบการในปี 2564 นี้ มีโอกาสจะสร้างสถิติสูงสุด (นิวไฮ)"
#8733


การประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 2/2564 เมื่อเร็วๆนี้ ได้หารือประเด็น โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ Fตาม มติคณะรัฐมนตรี ( ครม.) เมื่อวันที่ 7 เม.ย.2564 อนุมัติผลประโยชน์ตอบแทนทางการเงินที่ภาครัฐได้รับจากโครงการฯ เป็นค่าสัมปทานคงที่ คิดเป็นมูลค่าปัจจุบัน 29,050 ล้านบาท และค่าสัมปทานผันแปรที่ 100 บาทต่อ TEU (หน่วยนับตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งมีขนาด 20 ฟุต) 

โดยคณะกรรมการคัดเลือกฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 20 เม.ย.2564 ได้มีมติให้กลุ่มกิจการร่วมค้า GPC เป็นผู้ผ่านการประเมินข้อเสนอซองที่ 4 ได้เจรจาผลตอบแทนเพิ่มเติม อาทิ เอกชนตกลงเพิ่มเงื่อนไขการสร้างท่าเรือ F2 ให้เร็วขึ้น หากแนวโน้มตู้สินค้าเพิ่มขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ เอกชนจะสมทบเงินเข้ากองทุนเยียวยาความเสียหาย ในอัตรา 5,000 บาท/ไร่/ปี  

ทั้งนี้ ได้ข้อตกลงในร่างสัญญาเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาจากสำนักงานอัยการสูงสุด โดยจะเร่งนำเสนอ ครม. พิจารณา และลงนามสัญญาต่อไป

'สุพัฒนพงษ์' ตรวจเยี่ยมหน่วยตรวจคัดกรองโควิด-19 ของกลุ่ม ปตท.

วันนี้ (12 ส.ค. 2564) นายสุพัฒนพงษ์  พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอรรถพล  ฤกษ์พิบูลย์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมคณะผู้บริหารลงพื้นที่หน่วยตรวจคัดกรองโควิด-19 โครงการลมหายใจเดียวกัน กลุ่ม ปตท. ณ อาคาร EnCo Terminal (Enter) ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ  เพื่อติดตามผลการดำเนินงานภายหลังจากที่ได้เปิดหน่วยตรวจฯ พร้อมโรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-To-End) กลุ่ม ปตท. อย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา

โดยหน่วยตรวจคัดกรองฯ แห่งนี้ เปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผ่านแอปพลิเคชัน QueQ  โดยจะสามารถรองรับได้ 1,500 -2,000 คนต่อวัน   โดยหากตรวจพบว่าเสี่ยงติดเชื้อจะนำส่งตรวจ RT-PCR และ X-ray ต่อไป 
#8734
ข้าวสุขภาพสุรินทร์  ขายข้าวอินทรีย์ส่งทั่วไทย   ปลูกข้าวออแกนิค[/url] ต้นข้าวปลอดสาร   การผลิตข้าวปลอดสาร(ออแกนิค)   ส่งเสริม ผลิตข้าวปลอดสาร  ถ้าไม่อยากกินยาตลอดชีวิตให้กิน "ข้าวกล้อง" เป็นยาการที่ข้าวเปลือกอินทรีย์ถูกขัดสี ทำให้สูญเสียสารอาหารที่จำเป็นออกไปเป็นจำนวนมาก ยิ่งขัดสีเป็นข้าวขาวหลายครั้งเท่าไร สารอาหารยิ่งเหลือน้อยลงไป การหันกลับมากินข้าวกล้อง เหมือนบรรพบุรุษของเรา จึงเป็นวิถีชีวิตที่ถูกต้อง ช่วยไม่ให้เป็นโรคอันไม่ควรจะเป็น เนื่องจากขาดสารอาหาร
 

การฝึกกินข้าวกล้องออแกนิค ( ข้าวอินทรีย์ )
1. คนที่เพิ่งหัดกินข้าวกล้อง ( ต้นข้าวออร์แกนิค
) อาจใช้วิธีง่ายๆ คือนำข้าวกล้องผสมกับข้าวขาวในอัตราส่วน 1 : 2 โดยแช่ข้าวกล้องก่อนนำไปหุงรวมกับข้าวขาว เพื่อจะได้สุกพร้อมๆ กัน และค่อยๆ เพิ่มปริมาณข้าวกล้อง จนเปลี่ยนเป็นข้าวกล้องทั้งหมด ท่านก็จะกินข้าวที่ได้คุณค่าอาหารอย่างเต็มที่ 
2. การกินข้าวกล้องก็คือควรกินขณะยังอุ่นๆ โดยทั่วไป พอข้าวสุก ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุประมาณ 5-10 นาทีแล้วควรรีบกิน ข้าวจะนุ่มกินได้ง่าย และให้ค่อยๆ เคี้ยวพอละเอียด จะได้รสชาติหวานอร่อยของข้าวกล้อง ตาม  การทำนาข้าวออร์แกนิค
3. ควรกินข้าวกล้องที่สุกแล้วให้หมดในมื้ออาหารนั้น เพราะข้าวกล้องบูดเสียได้ง่ายกว่าข้าวขาวทั่วๆ ไป

วิธีหุงข้าวกล้องอินทรีย์  คนทำนาข้าวออร์แกนิค

1. ก่อนซาวข้าวควรเก็บสิ่งแปลกปลอมออกเสียก่อน และซาวข้าวเบาๆ ด้วยเวลาสั้นๆ เพียงครั้งเดียว เพื่อไม่ให้วิตามินสูญเสียไปกับน้ำซาวข้าว
2. การหุงข้าวกล้องนั้น ต้องใส่น้ำมากกว่าหุงข้าวขาว การหุงข้าวกล้อง 1 ส่วนจึงควรเติมน้ำประมาณ 2-3 เท่า ถ้าจะให้ประหยัดเวลาหุง ควรแช่ข้าวกล้องก่อนประมาณครึ่งชั่วโมง วิธีนี้อาจทำให้สูญเสียวิตามินบางอย่างที่ละลายน้ำไปบ้าง แต่ไม่แนะนำให้แช่ข้าวเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะข้าวที่มีสี แต่ถ้าจำเป็นต้องแช่ข้าว แนะนำให้ใช้น้ำที่แช่ข้าวนำกลับไปใช้ในการหุ้ง เพื่อลดการสูญเสียสารต้านอนุมูลอิสระในข้าว โดยเฉพาะข้าวสี
3. สำหรับข้าวใหม่หรือข้าวเก่านั้น จะมีผลต่อการหุงต้มเช่นกัน เพราะข้าวใหม่เมื่อหุงสุกจะมีลักษณะเมล็ดข้าวติดกันมาก ส่วนข้าวเก่าเมื่อหุงสุกการติดกันของเมล็ดข้าวจะน้อย เนื่องจากข้าวเก่าเมล็ดข้าวจะแห้งกว่าข้าวใหม่
เหตุนี้จึงทำให้บางท่านหุงข้าวแล้วบอกว่าใช้น้ำมากเท่าเดิมทำไมข้าวจึงแฉะหรือร่วน ซึ่งก็ต้องถามผู้ขายว่า เป็นข้าวเก่าหรือข้าวใหม่ ส่วนจะให้แฉะหรือร่วนแล้วแต่จะชอบ ผู้หุงข้าวจึงต้องใส่น้ำให้เหมาะสมหรือต้องใช้ศิลปะในการหุงเช่นกัน


ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  เครือข่ายข้าวอินทรีย์สุรินทร์

277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://www.hor.boutique
Facebook : https://www.facebook.com/Rice.For.Infant/
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique คนทำนาข้าวอินทรีย์

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ1.ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ 2.ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์   ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์  3.ข้าวปกาอำปึลอินทรีย์ (#ข้าวพื้นถิ่นจังหวัดสุรินทร์) 4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์ 5.ข้าวกล้องมะลิแดงอินทรีย์ 6.ข้าวมะลินิลอินทรีย์สุรินทร์ 7. ข้าวไรซ์เบอรี่

#ข้าวกล้องอินทรีย์สุรินทร์ #ข้าวกล้องออแกนิคสุรินทร์ #ข้าวกล้องปลอดสารสุรินทร์ #ข้าวกล้องเพื่อสุขภาพสุรินทร์ #ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์ #ข้าวกล้องเมืองสุรินทร์

 

 
 
#8735


ไปรู้จักกับ 5 ดารา-นักร้อง "คุณแม่หน้าเด็ก" ที่แม้อายุอานามก็ไม่ใช่น้อย แต่ในหน้านั้นดูละอ่อนเด็กกว่าวัยมาก ที่สำคัญยังสวยไม่สร่าง

12 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และ "วันแม่แห่งชาติ"

และเนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติปีนี้ (พ.ศ.2564) เราจะพาไปดู 5 ดารา-นักร้อง เหล่าบรรดาคุณแม่วัยเก๋าในวงการบันเทิงแต่หน้าเด็ก ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี

ดารา-นักร้องที่คัดสรรมา 5 คนนี้ แต่ละคนนอกจากจะสวย เก่ง มากความสามารถแล้ว ยังเป็นพวกคุณแม่วัยเก๋าที่แม้อายุอานามก็ไม่ใช่น้อย แต่ในหน้านั้นดูละอ่อนเด็กกว่าวัยมาก ที่สำคัญคือยังสวยไม่สร่างชนิดที่สาวรุ่น ๆ เห็นแล้วอดอิจฉาไม่ได้

นอกจากนี้ปัจจุบันลูก ๆ ของเธอ ก็เป็นขวัญใจใครหลาย ๆ คน จนเหล่าบรรดาแฟนคลับขอสมัครมาเป็นลูกเขย ลูกสะใภ้ จนหัวกระไดบ้านไม่แห้ง เรียกว่าออร่าซุปตาร์จับกันทุกคน แต่จะมีใครบ้างไปดูกันเลย

1.ปิ่น เก็จมณี


ประเดิมกับคุณแม่หน้าเด็กคนแรก "ปิ่น เก็จมณี" กับอายุ 47 ปีบริบูรณ์ ที่วันนี้เป็นคุณแม่คนสวยสุดแซ่บ ของ 3 เจ้าสุดหล่อ เจ้านาย เจ้าขุน และเจ้าสมุทร ที่เป็นขวัญใจของเหล่าบรรดาสาวเล็ก สาวใหญ่ทั่วบ้านทั่วเมือง จนทำให้คุณแม่ปิ่นขึ้นแท่นดีกรีเป็นคุณแม่สามีแห่งชาติหมายเลข 1 ไปแล้ว

2.แอน สิเรียม


"แอน - สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์" ในวัย 50 ปี นางเอกหน้าเด็กตลอดกาล เหมือนสต๊าฟเวลาไว้ เพราะไม่ว่ากี่ปีผ่านไป เลขอายุกลับทำอะไรเธอไม่ได้เลย

สำหรับคุณแม่แอนไม่บอกไม่รู้ว่าเธอเป็นคุณแม่ ลูก 1 ถ้าพูดถึงความสวย เรียกว่าเชื้อไม่ทิ้งแถวจริง ๆ กับลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน น้องนนนี่ นนลนีย์ ชนิดที่เวลาถ่ายรูปแม่-ลูกคู่กัน นอกจากจะดูสวยแพ็คคู่แล้ว ยังดูเหมือนพี่สาวกับน้องสาวมากกว่า

3.หมู พิมพ์ผกา

"หมู-พิมพ์ผกา เสียงสมบูรณ์" คุณแม่คนเก่ง สุดสตรอง ในวัย 51 ปี ที่หน้ายังสวยเหมือนเดิมเป๊ะ จนหลายคนยกให้แม่ เป็นไอดอล ขวัญใจคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว แถมลูกชายสุดหล่ออย่าง นาย ณภัทร ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด จนสาว ๆ พากันอิจฉาอยากมาสมัครเป็นลูกสะใภ้กันเป็นแถว ส่วนเรื่องความเก่ง ไม่ต้องพูดถึงได้แม่มาเต็ม ๆ

4.นิโคล เทเรโอ


"นิโคล เทเรโอ" ยังคงดูเด็กไม่เปลี่ยนไปเลยจริง ๆ นับตั้งแต่เริ่มเข้าวงการ มาจนถึงตอนนี้ก็จะมีอายุ 49 ปีเต็มแล้ว

นิโคล เทเรโอเป็นคุณแม่ลูก 1 แต่ก็ เหมือนเพิ่งจะผ่านมาเพียงไม่กี่ปียังไงยังงั้น นั่นก็เพราะว่าปัจจุบันรูปร่างหน้าตาของเธอยังสวย และเด็กเว่อร์ เรียกได้ว่าแทบจะไม่แตกต่างกับตอนที่เพิ่งเข้าวงการใหม่ ๆ เลยทีเดียว มาพร้อมกับลูกชายน้อง น้องทิกเกอร์ หล่อเข้ม ร้องเพลงเพราะ แถมความสามารถรอบด้านจริง ๆ

5.มาช่า วัฒนพานิช


ปิดท้ายด้วย "มาช่า วัฒนพานิช" คุณแม่คนนี้จัดเป็นพวกสวยอมตะ เพราะอายุปาเข้าไป 50 แล้ว แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรมาบั่นทอนความสวยของแม่ได้ แถมยังมีหนุ่มหล่ออย่าง "กาย นวพล" ที่อากาศว่าร้อนแล้ว ยัง Hot สู้ลูกชายแม่ไม่ได้เลย
#8736


ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากเดิมที่ประเมินว่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ของดีเวลลอปเปอร์มากขึ้นในครึ่งปีหลัง 2564 แม้แต่ "ศุภาลัย" ก็ได้มีการปรับแผนการเปิดตัวจากไตรมาส 3 ขยับไปไตรมาส 4 หรือ ปี 2565 หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น

ฉะนั้น คาดว่า ปี 2564 การเปิดตัวโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล ลดลงกว่าปี 2563 แต่ไม่ได้หมายความว่ายอดขายจะไม่ดี เพราะแม้ยอดเปิดตัวโครงการครึ่งปีแรกลดลง แต่พบว่าโครงการแนวราบยังไปได้ทำให้ยอดขายยังดีอยู่

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ปัญหาหลักนอกเหนือจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พบว่า "เทรนด์การปล่อยสินเชื่อของธนาคาร" ยังมีสัญญาณที่ไม่ดีนัก บางธนาคารเริ่มเข้มงวดกับการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งเป็นหนึ่งในอุปสรรคหลักของการทำตลาดอสังหาฯ ไม่นับรวมกับการที่ธนาคารปล่อยสินเชื่อโครงการยากขึ้น! ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาทำให้การเปิดตัวโครงการลดลง

ขณะเดียวกัน ต้องรอดูว่า "งานก่อสร้าง" จะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้มากน้อยแค่ไหน? เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการปิดแคมป์ก่อสร้าง 30 วันก่อนหน้านี้ ทำให้การก่อสร้างหยุดชะงัก แรงงานกระจายตัวออกต่างจังหวัด แม้จะอนุญาตเปิดแคมป์แต่แรงงานยังไม่กลับมา 100% ต้องใช้เวลา! ทำให้ดีเวลลอปเปอร์ต้องปรับตัวช่วงครึ่งปีหลัง แต่ "ศุภาลัย" โชคดี!! ที่การโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมอยู่ช่วงกลางปี การปิดแคมป์ 1 เดือน จึงสามารถกลับมาได้ทันเวลา เมื่อเทียบกับดีเวลลอเปอร์ที่มีกำหนดการโอนกรรมสิทธิ์ปลายปี มีโอกาสที่ต้องขยับไปโอนข้ามปี

ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทยังคงแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่อง ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม รวม 22 โครงการ มูลค่า 24,820 ล้านบาท เป็นแนวราบ 18 โครงการ คอนโดมิเนียม 4 โครงการ ผลักดันการเติบโตทางด้านรายได้และกำไรได้ต่อเนื่องตามเป้าหมาย 28,000 ล้านบาท

โดยที่ "ศุภาลัย" ได้เตรียมความพร้อมทางต้นทุนทางการเงิน การบริหารความเสี่ยง เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยภายนอกตลอดเวลา


สำหรับสถานการณ์การฟื้นตัวของตลาดอสังหาฯ นั้น ขึ้นอยู่สถานการณ์การติดเชื้อ และมาตรการ "ล็อกดาวน์" มีผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค และกำลังซื้อลูกค้าที่ชะลอตัว

ในฐานะดีเวลลอปเปอร์ต้องปรับตัวด้วยการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้า โดยมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ และเพิ่มช่องทางการตลาดในรูปแบบ "เวอร์ชวล" รับชมโครงการเสมือนจริง และออนไลน์บุ๊กกิ้ง เพื่อเพิ่มความสะดวก ปลอดภัย รวมถึง "Supalai Private Tours" เป็นการสื่อสารและชมโครงการได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อลดการสัมผัสให้เหมาะสมกับวิกฤติโควิด!

นอกจากนี้ มุ่งเน้นการสื่อสารการตลาดรูปแบบใหม่ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจ ทั้งทรู เฮลท์ จาก ทรู ดิจิทัล สามารถพบหมอออนไลน์ หรือบริษัท ซีเนริโอ จำกัด ในการผลิตซีรีส์ แนะนำโครงการ ร่วมกับ "บ้านและสวน" แชร์ไอเดียใหม่ ๆ สำหรับลูกค้าที่จะนำไปตกแต่งสวนสวยงามให้ที่อยู่อาศัย

สำหรับ ผลประกอบการครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มียอดขาย 13,005 ล้านบาท เติบโต 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นสัดส่วน 50% ของเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 27,000 ล้านบาท การเติบโตในครึ่งปีแรกมาจากการขายโครงการแนวราบเป็นหลัก มีมูลค่า 10,080 ล้านบาท เติบโต 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อีก 2,925 ล้านบาท เป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งลดลง 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่

ในครึ่งปีแรกบริษัทเปิดตัว 9 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 9,000 ล้านบาท เป็น "แนวราบ" ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวโครงการใหม่ปี 2564 ยึดแผนเดิมที่จำนวน 31 โครงการ มูลค่ารวม 34,000 ล้านบาท! ซึ่ง 22 โครงการใหม่ในครึ่งปีหลัง ทยอยเปิดช่วงไตรมาส 3 เป็นแนวราบทั้งหมด 7 โครงการ และไตรมาส 4 เปิดตัวแนวราบอีก 11 โครงการ คอนโดมิเนียม 4 โครงการ
#8737


ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสมือ 4 ของโลกจากสเปน ถอนตัวจากรายการอุ่นเครื่อง ยูเอส โอเพน สองทัวร์นาเมนต์ติด ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าเจ้าตัวอาจฟิตไม่ทันสำหรับลุย แกรนด์ สแลม รายการสุดท้ายของปีที่สหรัฐอเมริกา

หวดวัย 35 ปี มีโปรแกรมลงแข่งขันรายการ โรเจอร์ส คัพ ที่แคนาดา กับ ซินซินเนติ มาสเตอร์ส ซึ่งเป็นรายการระดับมาสเตอร์สทั้งคู่ แต่เจ้าตัวก็ยกเลิกโปรแกรมหวดทั้งหมด ด้วยปัญหาอาการเจ็บขาซ้ายที่เกิดเมื่อเดือนมิถุนายน

โรเจอร์ส คัพ กับ ซินซินเนติ มาสเตอร์ส เป็นสองรายการที่นักหวดทั่วโลกลงสนามลับฝีมือ เพื่อเตรียมพร้อมในการลุย แกรนด์ สแลม ยูเอส โอเพน ที่จะมีขึ้นวันที่ 30 สิงหาคมนี้ แต่ "เอล มาทาดอร์" ตัดสินใจไม่แข่งเคาะสนิมทั้งสองรายการ

สำหรับ นาดาล การถอนตัวนี้ทำให้แฟนๆ กังวลว่าเจ้าตัวอาจจะฟิตไม่ทันเพื่อลงแข่ง แกรนด์ สแลม ส่งท้ายปีที่นิวยอร์ค เพื่อโอกาสคว้าแชมป์สมัยที่ 5 และแซงสถิติแชมป์ แกรนด์ สแลม จาก โนวัค ยอโควิช กับ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ที่ทำไว้ 20 สมัยเท่ากัน
#8738


นางจิตเกษม หมู่มิ่ง ผู้อำนวยการใหญ่สายงานการเงิน บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2564/65 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.2564 สถานการณ์การแพร่ระบาตของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยยังคงมีความผันผวน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือน เม.ย.2564 อย่างไรก็ตาม VGI สามารถบริหารจัดการการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยมีรายได้ที่ 596 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.7% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และมีผลกำไรสุทธิที่ 10 ล้านบาท จากประสบการณ์ในปีที่ผ่านมาส่งผลให้บริษัทฯ สามารถลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถเตรียมรับมือกับวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

ทั้งนี้ ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน มีรายได้ 378 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.9% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 266 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากการเติบโตในสื่อโฆษณาทุกหน่วยธุรกิจจากการใช้แคมเปญการจองใช้สื่อโฆษณาล่วงหน้าที่บริษัทฯ ได้เสนอแพคเกจพิเศษสำหรับลูกค้าที่มีการทำสัญญาในระยะยาว รวมถึงการรับรู้รายได้จากการขายสื่อโฆษณาประเภทสตรีทเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งถูกบันทึกภายใต้หน่วยธุรกิจสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน

- สื่อโฆษณาในระบบชนส่งมวลชน มีรายได้ 349 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.5% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 236 ล้านบาท

- สื่อโฆษณาในอาคารสำนักงานและอื่นๆ มีรายได้ 29 ล้านบาท ลดลง 2.8% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่ก 30 ล้านบาท

ส่วนธุรกิจบริการด้านดิจิทัล มีรายได้ 218 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.6% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากค่าคอมมิชชั่น และ Lead Generation ภายใต้กลุ่มแรบบิท

ทั้งนี้ การเติบโตของรายได้มาพร้อมกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยบริษัทฯ มีต้นทุนการให้บริการอยู่ที่ 410 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.2% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่อัตราต้นทุนต่อรายได้ลดลงมาอยู่ที่ 68.9% จาก 74.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่งผลให้มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 31.1% เพิ่มขึ้นจาก 25.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

นอกจากนี้ การขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องทำให้บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 251 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่อัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ลดลงมาอยู่ที่ 42.1% จาก 54.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีสาเหตุจากอัตราการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มากกว่าค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร

ทั้งนี้ บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในกิจการร่วมค้าและบริษัทร่วมจำนวน 38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่รับรู้ส่วนแบ่งขาดทุน 22 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของ บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) จากการรับรายได้ค่าตอบแทนขั้นต่ำในธุรกิจสื่อโฆษณาในประเทศ และความสำเร็จในการเจรจาต่อรองลดค่าสัมปทานของธุรกิจสื่อโฆษณาในสนามบิน Kuala Lumpur International Airport ของธุรกิจสื่อโฆษณาในต่างประเทศ

จากผลการดำเนินธุรกิจที่กล่าวไปทั้งหมดนั้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิที่ 10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109.7% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิ 1.7%
#8739


บรรยากาศโรงเรียนต่างๆ ในรัฐฟลอริดา เปิดการเรียนการสอนเป็นวันแรกเมื่อวันอังคาร (10 ส.ค.) ท่ามกลางการถกเถียงเรื่องควรให้นักเรียนสวมหน้ากากป้องกันหรือไม่ ทั้งนี้ทั้งนั้น รอน ดีแซนทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ซึ่งสังกัดพรรครีพับลิกัน เป็นผู้ที่ตั้งแง่ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคโควิด-19 มาโดยตลอด คราวนี้ถึงขนาดออกกฎห้ามโรงเรียนบังคับการสวมหน้ากาก ขณะที่รัฐฟลอริดากำลังกลายเป็นรัฐที่โควิด-19 ระบาดหนักที่สุดในสหรัฐฯเวลานี้



หน่วยงานหลักในการต่อสู้โรคติดต่อของสหรัฐฯ เตือนคนอเมริกันงดเดินทางมาไทย อิสราเอล ฝรั่งเศส ไอซ์แลนด์ และอีกหลายประเทศที่โควิด-19 กำลังระบาดรุนแรง ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในอเมริกาพุ่งขึ้นวันละแสนต่อเนื่อง 3 วันติด แถมอัตราการป่วยรุนแรงสูงขึ้น 40% และเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 18% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ด้านเพนตากอนเตรียมขอไบเดนอนุมัติการฉีดวัคซีนให้กำลังทหารมะริกัน ภายในเดือนหน้า

ศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) หน่วยงานหลักในการต่อสู้กับโรคติดเชื้อของสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (9 ส.ค.) ประกาศยกระดับคำเตือนเรื่องจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สู่ระดับ 4 ซึ่งหมายถึง "สูงมาก" สำหรับไทย อิสราเอล เขตเวสต์แบงก์ กาซา อารูบา และเฟรนช์โปลีนีเซีย

หลังจากนั้นกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกคำแนะนำ "ระดับ 4: ห้ามเดินทาง" สำหรับฝรั่งเศส ไทย และไอซ์แลนด์ โดยอิงจากคำแนะนำของซีดีซี

แต่สำหรับในอเมริกาเอง สถานการณ์การระบาดล่าสุดก็อยู่ในระดับรุนแรงขึ้นเช่นเดียวกัน โดยตามรายงานของรอยเตอร์ จำนวนผู้ติดเชื้อเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 100,000 คนติดต่อกัน3 วันซ้อน หรือเพิ่มขึ้น 35% จากสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ ลุยเซียนา ฟลอริดา และอาร์คันซอส์ เป็นรัฐที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุดเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะที่อัตราการป่วยรุนแรงทั่วประเทศสูงขึ้น 40% และเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 18% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

อาซา ฮัตชินสัน ผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอส์ ซึ่งสังกัดพรรครีพับลิกัน เผยว่า จำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลรายวันพุ่งทำสถิติสูงสุดและขณะนี้ทั้งรัฐเหลือเตียงผู้ป่วยวิกฤตเพียง 8 เตียง

ฮัตชินสันยังเรียกร้องให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด ขณะที่ผู้คนมากมายยังลังเลเนื่องจากได้รับข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับวัคซีน

ส่วนที่เทกซัส เกร็ก แอ็บบอตต์ ผู้ว่าการรัฐขอให้โรงพยาบาลต่างๆ เลื่อนการผ่าตัดที่ไม่เร่งด่วนออกไปก่อนเพื่อสงวนทรัพยากรไว้สำหรับผู้ป่วยโควิด

แอ็บบอตต์ที่ออกคำสั่งห้ามรัฐบาลท้องถิ่นบังคับสวมหน้ากากป้องกันเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สำทับว่า จะเพิ่มจำนวนคลินิกเพื่อให้ผู้ป่วยโควิดเข้ารับการฉีดแอนติบอดี้

ด้านฟลอริดา รัฐที่กำลังระบาดหนักที่สุดในเวลานี้ เมื่อวันอาทิตย์ (8) รายงานเคสใหม่รายวันทำสถิติสูงสุดที่ 28,317 คน ขณะที่จำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลทุบสถิติ 8 วันซ้อน

นักเรียนส่วนใหญ่ในรัฐฟลอริดายังมีกำหนดกลับเข้าเรียนตามปกติในสัปดาห์นี้ โดยที่เขตการศึกษาบางแห่งยังถกเถียงกันว่า ควรบังคับให้นักเรียนสวมหน้ากากป้องกันหรือไม่ เนื่องจากรอน ดีแซนทิส ผู้ว่าการรัฐ ซึ่งสังกัดพรรครีพับลิกัน ออกคำสั่งห้ามโรงเรียนของรัฐ ตลอดจนถึงภาคธุรกิจ และหน่วยงานรัฐ บังคับการสวมหน้ากาก โดยอ้างว่า เพื่อป้องกันการเลือกปฏิบัติและปกป้องความเป็นส่วนตัว

ขณะเดียวกัน จำนวนผู้ป่วยเด็กในอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพระบุว่า เป็นผลจากการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตาที่มีแนวโน้มทำให้เด็กติดเชื้อได้มากกว่าสายพันธุ์อัลฟาที่ระบาดหนักในอเมริกาก่อนหน้านี้

วิกฤตไวรัสที่กลับมาส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตของชาวอเมริกันอีกครั้ง ผลักดันให้มีการรณรงค์ฉีดวัคซีนสำหรับผู้ที่ยังลังเลรอบใหม่

ในวันจันทร์ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศผ่านบันทึกภายในฉบับหนึ่งว่า จะขออนุมัติจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้บังคับกำลังพลฉีดวัคซีนในช่วงกลางเดือนกันยายน ถึงแม้สำนักงานอาหารและยา (เอฟดีเอ) ยังไม่ได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนโควิดได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าตัวไหนก็ตาม

การใช้วัคซีนในสหรัฐฯเวลานี้ ก็เช่นเดียวกับในประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่ หน่วยงานกำกับตรวจสอบเพียงแค่อนุมัติสำหรับการใช้ฉุกเฉินเท่านั้น สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ทางกองทัพยังไม่บังคับให้กำลังพลฉีดเหมือนวัคซีนตัวอื่นๆ เพราะอาจเปิดช่องให้มีการฟ้องร้องทางกฎหมาย เว้นแต่ได้รับอนุมัติจากไบเดนก่อนเท่านั้น โดยที่ทางประมุขทำเนียบขาวแถลงแสดงท่าทีแล้วว่า พร้อมสนับสนุนการตัดสินใจของเพนตากอนเต็มที่

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หลายคนเชื่อว่า เอฟดีเอจะอนุมัติอย่างสมบูรณ์ให้แก่วัคซีนโควิด อย่างน้อยก็ของไฟเซอร์ ภายในต้นเดือนกันยายนนี้

(ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)
#8740


ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน มีผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิต 84 รายระหว่างรักษาตัวที่บ้าน ในจำนวนนี้ 36 รายมีอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว เสียชีวิตใน 1-9 วันหลังรายงานผลติดเชื้อ, 11 รายเสียชีวิตในช่วง 10-19 วัน, 9 รายเสียชีวิตไปแล้วจึงรายงานว่าติดเชื้อโควิด ระยะเวลาผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตยาวนานที่สุดคือ 30 วันหลังรายงานผลติดเชื้อ และมี 24 รายที่ไม่รู้ว่าระยะเวลาเสียชีวิตชัดเจน

ผู้ป่วยที่เสียชีวิตกว่าร้อยละ 80 เป็นผู้สูงอายุ โดยมี 36 รายที่อายุ 80 ปีขึ้นไป, ช่วงวัย 70 ปีเสียชีวิต 24 ราย, ช่วงวัย 60 ปีเสียชีวิต 11 ราย, ช่วงวัย 50 ปีเสียชีวิต 7 ราย, ช่วงวัย 40 ปีเสียชีวิต 1 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตที่อยู่ในช่วงวัย 30 ปีมี 3 ราย และช่วงวัย 20 ปีเสียชีวิต 1 ราย



การระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาสร้างความกังวลว่า ผู้ติดเชื้อจะมีอาการทรุดหนักลงอย่างรวดเร็วจนอาจเสียชีวิตได้ระหว่างรักษาตัวที่บ้าน

นายกฯ โยชิฮิเดะ ซูงะ ได้ประกาศนโยบายเมื่อต้นเดือนนี้ ให้ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่รักษาตัวที่บ้านเป็นหลัก เพื่อสงวนเตียงในโรงพยาบาลให้สำหรับผู้ที่อาการหนักเท่านั้น ทำให้จำนวนผู้ป่วยที่รักษาตัวที่บ้านในขณะนี้มีมากกว่า 45,000 คน เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากสัปดาห์ก่อนหน้า

อัตราผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นเพราะไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่ติดเชื้อได้ง่าย และผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนหนุ่มสาว ที่ยังไม่ถึงคิวได้รับวัคซีน



นายกฯ ญี่ปุ่นระบุว่า จะติดตามอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้ออย่างใกล้ชิด เพื่อตัดสินใจว่าจะให้การแข่งขัน "พาราลิมปิก" มีผู้ชมหรือไม่ โดยงานพาราลิมปิกจะเริ่มต้นในวันที่ 24 ส.ค.นี้

ขณะนี้ญี่ปุ่นอยู่ในช่วงวันหยุดฤดูร้อน ผู้นำญี่ปุ่นระบุว่านี่เป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะในการควบคุมการระบาด เขาเรียกร้องให้คนหนุ่มสาวหลีกเลี่ยงการเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนา โดยมีข้อมูลว่าร้อยละ 70 ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกรุงโตเกียว เป็นกลุ่มคนที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปี.
#8741


ดร.แลร์รี บริลเลียนท์ นักระบาดวิทยาที่มีชื่อเสียงระดับโลก หนึ่งในคณะทำงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ทำให้เกิดโรคติดต่อมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา 

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สหรัฐ อินเดีย จีน ประเทศต่างๆในยุโรป แอฟริกา และเอเชีย ต่างต้องต่อสู้กับสายพันธุ์เดลตา ที่แพร่กระจายเชื้อได้สูง 

ดร.บริลเลียนท์ กล่าวกับรายการ "Squawk Box Asia" ทางสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่า ข่าวดีคือ วัคซีนที่เป็นเทคโนโลยี mRNA และวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน กำลังพัฒนาประสิทธิภาพต้านเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา 

"เว้นแต่ว่า จะฉีดวัคซีนให้ประชาชนทุกคนใน 200 ประเทศขึ้นไป แม้จะยังมีสายพันธุ์เกิดขึ้นใหม่" ดร.บริลเลียนระบุ และกล่าวว่า ขณะนี้มีเพียง 15% ของประชากรโลกที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 และมีมากกว่า 100 ประเทศที่ฉีดวัคซีนน้อยกว่า 5% ของประชากรประเทศ


ดร.บริลเลียนท์ มองว่า เราใกล้จุดเริ่มต้นของการแพร่บาดไวรัส มากกว่าสิ้นสุด และะเรากำลังเฝ้าดูอยู่ว่า การแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตา ที่มีอยู่ตอนนี้ จะอยู่นานเพียงใด 

ในแบบจำลองของดร.บริลเลียนท์ ได้คาดการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในซานฟรานซิสโก และนิวยอร์ก เป็นลักษณะ "เส้นโค้งรูปตัววี กลับหัว" นั่นแสดงว่าการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็จะลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน 

ถ้าหากคาดการณ์นี้เป็นจริง หมายความว่า สายพันธุ์เดลตาแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว อย่างที่เกิดขึ้นในสหราชอาณาจักร และอินเดีย ซึ่งการระบาดของสายพันธุ์เดลตาลดต่ำลงจากที่เคยขึ้นสูงสุด

เว็บไซต์ Our World in Data ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหราชอาณาจักร เฉลี่ยในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ลดลงจากจุดสูงสุดที่อยู่ประมาณ 47,700 รายในวันที่ 21 ก.ค. เหลืออยู่ที่ 26,000 รายในวันที่ 5 ส.ค. 

ส่วนที่อินเดีย พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันต่ำกว่า 50,000 ราย ตั้งแต่วันที่ปลายเดือน มิ.ย. จากที่เคยติดเชื้อรายวันสูงสุด 390,000 รายในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา 
#8742


รอยเตอร์ - กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 9,690 คนในวันอาทิตย์ (8) นับเป็นยอดติดเชื้อรายวันที่สูงเป็นประวัติการณ์ และเพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่พบในวันเสาร์ (7) ที่ 7,334 คน

กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ผู้ป่วยติดเชื้อส่วนใหญ่พบในนครโฮจิมินห์ ศูนย์กลางการระบาด และ จ.บิ่งเซวือง กับ จ.ด่งนาย ที่อยู่ติดกัน

เวียดนามประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดในช่วงปีที่ผ่านมา แต่นับตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย. ประเทศเผชิญกับจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นจากการระบาดของสายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายเชื้อได้รวดเร็วและติดง่ายขึ้น

ประเทศมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสม 210,405 คน ตั้งแต่การระบาดเริ่มขึ้น และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3,397 คน ตามข้อมูลของกระทรวง

เวียดนาม ประเทศที่มีประชากร 98 ล้านคน จนถึงขณะนี้ ได้แจกจ่ายวัคซีนไปแล้วเกือบ 8.9 ล้านโดส แต่มีประชาชนไม่ถึง 900,000 คน ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม.
#8743


กรณี "เงินเยียวยา" แรงงานผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด 13 จังหวัด 9 ประเภทกิจการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร , นครปฐม , สมุทรสาคร , ปทุมธานี , นนทบุรี , สมุทรปราการ , สงขลา , ยะลา , ปัตตานี , นราธิวาส , พระนครศรีอยุธยา , ชลบุรี และ ฉะเชิงเทรา ที่ประกาศ ล็อกดาวน์ โดยประกันสังคม เปิดลงทะเบียนผ่าน www.sso.go.th  

ตรวจสอบสิทธิรับเงินเยียวยา ผ่านออนไลน์ คลิก  หากได้รับสิทธิ ต้องผูกพร้อมเพย์ กับบัญชีธนาคารด้วยเลขบัตรประชาชน เพื่อรับการโอนเงิน  ซึ่งทางกระทรวงแรงงานเริ่มจ่าย "เงินเยียวยา" ตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.64 เป็นต้นมานั้น

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ภาพรวมการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33 ใน 10 จังหวัด 9 กิจการ เป็นที่น่าพอใจ จากรายงานของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) พบว่า โอนเงินแล้ว 2,434,182 ราย เป็นเงิน 6,085,0000,000 บาท ซึ่งไม่มีอะไรติดขัด มีเพียงผู้ประกันตนประมาณ 200,000 ราย ที่ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชน ซึ่งกำลังเร่งดำเนินการให้ผู้พร้อมเพย์กับบัตรประชาชนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ เพื่อที่จะเริ่มดำเนินการโอนเงินในวันที่ 13 สิงหาคมนี้


3 จังหวัดเพิ่มเติม ได้แก่ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และพระนครศรีอยุธยา จะโอนเงินในวันที่ 9 สิงหาคมนี้

ผู้ประกันตน ม.33 
รับเงินเยียวยา 2 ส่วน คือ เงินชดเชย 50% ของค่าจ้าง สูงสุด 7,500 บ. และเงินชดเชยเพิ่มเติมอีก 2,500 บาท ระยะเวลา 2 เดือนคือในเดือน ก.ค. - ส.ค. รวม 5,000 บาท โดยจะดำเนินการทยอยโอนเงินผ่าน "พร้อมเพย์" 

นายจ้าง ม.33 
รับเงินเยียวตามจำนวนลูกจ้าง หัวละ 3,000 บาท สูงสุด 200 คน 

สำหรับ นายจ้างที่ยังไม่ได้ยื่นขอรับค่าชดเชยเยียวยา สามารถยื่นความประสงค์ขอรับเงินได้ที่ ระบบ e – service ของประกันสังคม "www.sso.go.th"  จากนั้นปริ้นข้อมูลแบบรับการ "เงินเยียวยา" แล้วกรอกข้อมูลตามแบบฟอร์ม ส่งกลับมาให้ประกันสังคม

นายจ้างที่เป็นนิติบุคคล
ต้องแนบแบบแสดงความจำนง, สำเนาบัญชีธนาคาร,หนังสือมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจลงนามแทน) กลับมาด้วย

นายจ้างบุคคลธรรมดา
แบบแสดงความจำนง, ผูกบัญชีธนาคารพร้อมเพย์ (ผูกเลขบัตรประชาชนเท่านั้น) เพื่อประกันสังคมจะได้โอนเงินให้โดยเร็ว

สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท ขณะนี้ "ประกันสังคม" อยู่ระหว่างประมวลผลข้อมูล 
#8744


"อาลีบาบา กรุ๊ป" รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสเดือน มิ.ย. 2564 ไปเมื่อเร็วๆ นี้ เริ่มต้นปีงบประมาณด้วยไตรมาสแรกที่ดี ในเดือนมิถุนายน 2564 อีโคซิสเต็มทั้งหมดของอาลีบาบา มีจำนวนลูกค้าประจำทั่วโลกแตะ 1,180 ล้านคน เพิ่มขึ้น 45 ล้านคนจากไตรมาสเดือนมีนาคม ในจำนวนนี้เป็นผู้บริโภคในจีน 912 ล้านคน

ปัจจุบันอีโคซิสเต็มของอาลีบาบา ครอบคลุมทั้งฝั่งผู้บริโภคและอุตสาหกรรม มีกลไกมากมายที่ขับเคลื่อนการเติบโตในระยะยาว การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน และการสร้างคุณค่าในระยะยาวของอาลีบาบา จะหนุนนำให้ยักษ์เทคฯ รายนี้ เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมประสบการณ์ให้ผู้บริโภค และช่วยให้ลูกค้าองค์กรประสบความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนธุรกิจไปสู่ดิจิทัล

อาลีบาบา กับกลยุทธ์ในอนาคต ​

แดเนียล จาง ประธานกรรมการและซีอีโอของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวเปิดใจกับกลุ่มผู้ถือหุ้น หลังรายงานผลประกอบการงวดล่าสุด ว่า หลังจากนี้ การกำหนดจุดยืนเชิงกลยุทธ์ของบริษัทในอนาคต จะเน้นเพื่อการผสานอินเทอร์เน็ตทั้งในฝั่งของผู้บริโภค และอุตสาหกรรมเข้าด้วยกันให้ประสบความสำเร็จตามทิศทางการพัฒนาของการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัล

"อาลีบาบาได้ปรับตัวเองกลายเป็นบริษัทที่มีกลไกหลากหลาย ด้วยธุรกิจในอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน เรากำลังสร้างคุณค่าที่มากกว่าให้กับผู้บริโภค และผู้ใช้ โดยกระตุ้นให้ธุรกิจดั้งเดิมเข้า สู่ระบบการค้าออนไลน์แบบใหม่ อาลีบาบายังมุ่งมั่นที่จะมีส่วนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจดิจิทัลด้วยเช่นกัน"


สิ้นเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา จำนวนผู้บริโภคทั่วโลกที่ใช้งานเป็นประจำในอีโคซิสเต็มของอาลีบาบา แตะระดับ 1.13 พันล้านราย สร้างประวัติศาสตร์จำนวนผู้ใช้เกิน 1 พันล้านราย ยอดซื้อสินค้าจากทุกธุรกิจ( GMV) จากผู้บริโภคทั้งในจีนและต่างประเทศรวมกันมีมูลค่ามากกว่า 8.119 ล้านล้านหยวน หรือ 41 ล้านล้านบาท 

ขณะที่ ปีงบประมาณที่ผ่านมา ยอดเฉลี่ยการซื้อสินค้าต่อคนต่อปีของผู้บริโภคจากทุกแพลตฟอร์มหรือ GMV ของอาลีบาบามีมากกว่า 9,200 หยวน หรือ ราว 46,524 บาท

ยอมรับปีแห่งความยากลำบาก 

"วันนี้ของปีก่อน ผมคาดว่า ทั่วโลกน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติและเปิดให้ท่องเที่ยวได้เหมือนเดิม แต่มันก็ยังไม่เกิดขึ้น เราผ่านปีที่ยากลำบากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน"  

จาง ยอมรับ พร้อมบอกว่า นอกจากสถานการณ์โรคระบาดจะซับซ้อนขึ้นแล้ว ยังก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงลึก และยาวนานในเชิงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เศรษฐกิจโลก และสิ่งแวดล้อมมหภาคโดยรวม

แม้จะมีอุปสรรคแต่ ซีอีโออาลีบาบา ยังยืนยัน มุ่งดำเนินตามวิสัยทัศน์และพันธกิจ รวมทั้งเปลี่ยนความท้าทายให้กลายเป็นโอกาสอย่างต่อเนื่อง 


ทั่วโลก 240 ล้านคนอุดหนุนประจำ 

ขณะที่ กลยุทธ์การขยายธุรกิจไปทั่วโลกของอาลีบาบา ยังมีความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม มีจำนวนผู้บริโภคในต่างประเทศที่ซื้อสินค้าเป็นประจำแตะ 240 ล้านคน จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของ "ลาซาด้า" ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วของ "อาลีเอ็กซ์เพรส" ในยุโรป 

จาง บอกด้วยว่า ด้วยความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมาหลายปี ทั้งในแง่สินค้าและซัพพลายเชน การส่งและกระจายสินค้า การบริหารจัดการผู้บริโภค การพัฒนาและดำเนินช่องทางโซเชียลคอมเมิร์ซ ทำให้อาลีบาบามีความพร้อมในการพัฒนาธุรกิจใหม่ที่ทำกำไรและยั่งยืน เพื่อเติมเต็มมิติต่างๆ ของ New Retail 

บูม "คลาวด์" ฐานที่มั่นใหม่ 

"อาลีบาบา คลาวด์" เป็นอีกหนึ่งเสาหลักที่สองของการเติบโตของ อาลีบาบา กรุ๊ป สามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง มีรายได้ 6 หมื่นล้านหยวน ซึ่งเติบโตขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อาลีบาบา คลาวด์ ถือเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน หรือ Infrastructure as a Service (IaaS) ที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก 

"เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าอินเทอร์เน็ตเชิงอุตสาหกรรม เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพทั่วโลก เมื่อมองไปยังอนาคต อาลีบาบา คลาวด์ อยู่ในตำแหน่งที่ดีด้วยหนึ่งในเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างจีน จึงพร้อมคว้าโอกาสทองของยุคนี้ ซึ่งต่อไปทุกบริษัทจะก้าวเข้าไปสู่โลกอินเทอร์เน็ต อาลีบาบาจะต่อยอดความสามารถด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีอัจฉริยะ โดยใช้มาตรฐานเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกเป็นหลัก" 

จากนี้ อาลีบาบา จะเร่งเดินหน้าผลักดันกลยุทธ์ในการผสานคลาวด์และดิงทอล์ค เพื่อสร้างแพลตฟอร์มสำนักงานเคลื่อนที่สำหรับองค์กร ลงทุนพัฒนาเทคโนโลยี และสร้างมิดเดิลแพลตฟอร์มที่ดีเยี่ยม รวมถึงพัฒนาอีโคซิสเต็มส์ให้แข็งแกร่งขึ้น และให้บริการอย่างมีคุณภาพ และทำให้เสาหลักแห่งการเติบโตนี้เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง

"เมื่อเริ่มก่อตั้ง อาลีบาบาตั้งพันธกิจว่าจะช่วยให้คุณ ทำธุรกิจอย่างสะดวกในทุกที่ ตลอด 22 ปีที่ผ่านมา มุ่งทำตามแผนระยะยาว และลงทุนเพื่ออนาคต พันธกิจนี้เป็นตัวแปรสำคัญในการพัฒนาของเรา และเป็นหลักที่นำทางเราทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต" 

ย้ำ'ดีเอ็นเอ'เน็ตที่เปิดกว้างและโปร่งใส 

ความเป็นผู้นำและจุดแข็งของอาลีบาบา คลาวด์ ยังเป็นผลจากการลงทุนหลายสิบปี และการเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยกลไก 2 ส่วน คืออินเทอร์เน็ตในฝั่งผู้บริโภคและอินเทอร์เน็ตเชิงอุตสาหกรรม จากข้อมูลเชิงลึกและการทดลองเป็นเวลาหลายปี กลยุทธ์ New Retail ของอาลีบาบา ได้เห็นผลและมีมิติมากขึ้น 

"อาลีบาบาก้าวเข้าสู่ปีงบประมาณใหม่แล้ว เราเชื่อว่า อาลีบาบาจะสามารถผสานอินเทอร์เน็ตในฝั่งผู้บริโภคและอินเทอร์เน็ตเชิงอุตสาหกรรมได้สำเร็จ เราเริ่มต้นจากการเป็นบริษัทบนอินเทอร์เน็ต และนำดีเอ็นเอที่เป็นจุดเด่นของอินเทอร์เน็ตคือความเปิดกว้าง โปร่งใส และเชื่อมถึงกันทั่วโลกมาใช้ เรากำลังสร้างคุณค่าที่มากกว่าให้กับผู้บริโภคและผู้ใช้ ด้วยการผลักดันให้ธุรกิจดั้งเดิมเข้ามาสู่การค้าออนไลน์แบบใหม่ อาลีบาบายังมุ่งมั่นที่จะมีส่วนสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจดิจิทัลด้วย" ซีอีโอ อาลีบาบา กรุ๊ป ทิ้งท้าย 
#8745


บมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) หรือ SMT ประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทในงวดไตรมาส 2 ปี2564 มีกำไรสุทธิ 56.01 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 18.94  ล้านบาท  หรือเพิ่มขึ้น 51.10% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี2563  ที่มีกำไรสุทธิ 37.07 ล้านบาท 

โดยมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ 606.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.14% จากไตรมาส 2 ปี2563 จำนวน 113.97 ล้านบาท หรือ 23.14% โดยที่ บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจ IC เติบโต 14% , ธุรกิจ OPTICS เติบโตมากถึง 100% และ PCBA เติบโต 78% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

ด้าน "วิรัตน์ ผูกไทย" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า "ผลประกอบการที่ออกมาดี เนื่องจากการเติบโตของยอดขาย ของผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง และการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและบริษัทก็ไม่มีปัญหาการขาดแคลนชิป เพราะมีการเตรียมการสั่งซื้อไว้ล่วงหน้า และยังคงมั่นใจเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตได้ 30% และอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 20% อย่างแน่นอน อีกทั้งล่าสุดได้รับปัจจัยบวกจากกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพ (Potential Customers) กว่า 80 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 2,600 ลบ. สนับสนุนรายได้ปี 2565 ให้เติบโตแข็งแกร่งมากขึ้น"

ด้านมาตรการป้องกันเชื้อ COVID-19 ปัจจุบันบริษัทได้ฉีดวัคซีนให้พนักงานทุกคนกว่า 90% เรียบร้อยแล้ว รวมถึงมีมาตรการที่เข้มงวดสำหรับบุคคลภายนอกที่มาติดต่อบริษัทจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม บริษัทจึงมั่นใจว่าจะเกิดความปลอดภัยต่อพนักงานและจะไม่เกิดผลกระทบใดๆ ต่อการดำเนินงานของบริษัท

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

นายวิรัตน์ ผูกไทย  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SMT กล่าวว่า ผลประกอบการที่ออกมาดี เนื่องจากการเติบโตของยอดขาย ของผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง และการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและบริษัทก็ไม่มีปัญหาการขาดแคลนชิป เพราะมีการเตรียมการสั่งซื้อไว้ล่วงหน้า และยังคงมั่นใจเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตได้ 30% และอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 20% อย่างแน่นอน


อีกทั้งล่าสุดได้รับปัจจัยบวกจากกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพ (Potential Customers) กว่า 80 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 2,600 ลบ. สนับสนุนรายได้ปี 2565 ให้เติบโตแข็งแกร่งมากขึ้น

ด้านมาตรการป้องกันเชื้อ โควิด -19 ปัจจุบันบริษัทได้ฉีดวัคซีนให้พนักงานทุกคนกว่า 90% เรียบร้อยแล้ว รวมถึงมีมาตรการที่เข้มงวดสำหรับบุคคลภายนอกที่มาติดต่อบริษัทจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม บริษัทจึงมั่นใจว่าจะเกิดความปลอดภัยต่อพนักงานและจะไม่เกิดผลกระทบใดๆ ต่อการดำเนินงานของบริษั