• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

โควิดทุบกำไรแบงก์ Q3 ฮวบ แห่ตั้งสำรองพุ่งรับมือหนี้เสีย

Started by Chanapot, October 22, 2021, 03:59:53 AM

Previous topic - Next topic

Chanapot

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดแบงก์ไทยกำไรไตรมาส 3 ฮวบหนัก "โควิด" รอบล่าสุดกดดันรายได้ธุรกิจหลัก ดันภาระตั้งสำรองหนี้เพิ่มสูงอีกรอบ รับมือแนวโน้มเอ็นพีแอลพุ่ง

รายงานจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินกำไรสุทธิของระบบธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศอยู่ที่กรอบ 3.25-3.35 หมื่นล้านบาท ในไตรมาสที่ 3/2564 ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2564 ที่มีกำไรสุทธิสูงถึง 5.72 หมื่นล้านบาท

เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ปะทุขึ้นในช่วงต้นไตรมาส 3/2564 กดดันรายได้จากธุรกิจหลัก โดยเฉพาะรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ และทำให้ธนาคารพาณิชย์มีค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญในระดับที่สูงกว่าช่วงปกติ และสูงกว่าช่วงครึ่งแรกของปี


ทั้งนี้ สถานการณ์โควิด-19 ที่ปะทุขึ้นในช่วงระหว่างไตรมาสที่ 3 มีความรุนแรงและขยายเป็นวงกว้างย่อมมีผลกดดันสถานะทางการเงินของลูกหนี้หลายกลุ่ม ขณะที่ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สะท้อนสัญญาณว่าลูกหนี้มีแนวโน้มทยอยเข้ารับความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น

โดยยอดภาระหนี้เข้ามาตรการช่วยเหลือขยับขึ้นจากจุดต่ำสุดของปีนี้ที่ 3.18 ล้านล้านบาท (จากจำนวนบัญชีลูกหนี้เข้ามาตรการ 4.77 ล้านบัญชี)ในเดือน เม.ย. 2564 มาที่ 3.35 ล้านล้านบาท (จำนวนบัญชีลูกหนี้เข้ามาตรการ 5.12 ล้านบัญชี) ในเดือน ก.ค. 2564 โดยในจำนวนนี้ สัดส่วนกว่า 60% เป็นลูกหนี้ที่รับความช่วยเหลือจากธนาคารพาณิชย์



ดังนั้นภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งจะทยอยตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญในระดับที่สูงกว่าช่วงปกติ เพื่อเตรียมการรองรับความไม่แน่นอนของประเด็นคุณภาพของสินเชื่อที่ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด แม้ว่าธปท.ได้ขยายเวลาผ่อนปรนเกณฑ์การจัดชั้นลูกหนี้และการกันเงินสำรองให้กับสถาบันการเงินไปจนถึงสิ้นปี 2565 แล้วก็ตาม

สำหรับสัดส่วนหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของระบบธนาคารพาณิชย์คาดว่าอาจขยับขึ้นมาที่ 3.10-3.17% ต่อสินเชื่อรวมในไตรมาส 3/2564 แม้ว่าจะได้รับอานิสงส์จากความยืดหยุ่นของเกณฑ์การจัดชั้นลูกหนี้ เพิ่มจากระดับ 3.09% ในไตรมาส 2/2564 ตามสัญญาณความเปราะบางทางการเงินและปัญหาในการประคองรายได้ของลูกหนี้ในกลุ่ม SMEs และรายย่อย

ขณะที่สัดส่วนการตั้งสำรองฯต่อสินเชื่อ หรือ Credit Cost ยังคงทรงตัวอยู่ในกรอบ 1.46-1.49% ในไตรมาส 3/2564 ขยับขึ้นจากระดับ 1.45% ไตรมาส 2/2564

อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าในไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 ธนาคารพาณิชย์น่าจะสามารถปรับตัวเพื่อประคองผลการดำเนินงานให้อยู่ในระดับที่สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนได้ แต่โจทย์ต่อเนื่องในปีหน้าจะยังคงเป็นเรื่องการดูแลปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพ และการเตรียมรับมือกับการแข่งขันในตลาดผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ซึ่งจะมีผู้เล่นที่หลากหลายมากขึ้น