• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

ค่าครองชีพสูง… กระทบคนกรุงฯ ลดฉลองสงกรานต์ ปี '65

Started by Thetaiso, April 01, 2022, 02:33:18 AM

Previous topic - Next topic

Thetaiso

ค่าครองชีพสูง... กระทบคนกรุงฯ ลดฉลองสงกรานต์ ปี '65

ภาวะค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น ความกังวลต่อสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน และความไม่แน่นอนของโควิด-19 กดดันกำลังซื้อ?ทำให้คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ลดการใช้จ่ายลง

จากภาวะค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอาหารและสินค้าจำเป็น ซึ่งได้รับผลกระทบจากโรคระบาดปศุสัตว์และการลดลงของอุปทานในบางรายการสินค้า ต่อเนื่องจนถึงต้นปี 2565 ประกอบกับความตึงเครียดของสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้ต้นทุนการผลิตอาหารและพลังงานดีดตัวสูงขึ้นอีก ส่งผลให้ภาวะเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นกดดันกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัว เนื่องจากการขาดรายได้ในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า แม้สถานการณ์โควิด-19 จะบรรเทาลงบ้างแล้ว แต่ยังมีความไม่แน่นอน ส่งผลให้การจับจ่ายของประชาชนน่าจะยังไม่กลับมาคึกคัก สอดคล้องไปกับผลการสำรวจ ซึ่งผู้ตอบแบบสอบถามทุกกลุ่มรายได้ปรับลดค่าใช้จ่ายลงเมื่อเทียบกับ 3 เดือนก่อนหน้า (รวมค่าใช้จ่ายสินค้าจำเป็น ค่าสาธารณูปโภค ชอปปิ้ง ค่าบริการ ท่องเที่ยว ฯลฯ) โดยเกือบครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างใช้จ่ายลดลง 1-25% ของค่าใช้จ่ายเดิมเมื่อเทียบกับ 3 เดือนก่อน และกลุ่มผู้มีรายได้น้อยกว่า 15,000 บาทต่อเดือน ส่วนใหญ่มีรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้จ่าย โดยเน้นการลดปริมาณการซื้อสินค้าเท่าที่จำเป็น ลดการเดินทางและทานข้าวนอกบ้าน รวมถึงประหยัดพลังงาน ทั้งนี้ คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ยังมีความกังวลว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจยืดเยื้อออกไป จึงมีแนวโน้มจะระมัดระวังการใช้จ่ายจนกว่าสถานการณ์จะมีสัญญาณดีขึ้น ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ในช่วงวันหยุดสงกรานต์ปีนี้มากที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ 1) ค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งราคาอาหาร ก๊าซหุงต้ม และค่าสาธารณูปโภค 2) ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น และ 3) ความกังวลต่อจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตามลำดับ

คาดมูลค่าการใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 หดตัวต่อเนื่องจากปีก่อน และเม็ดเงินใช้จ่ายรายกิจกรรมส่วนใหญ่ลดลง

มูลค่าการใช้จ่ายรายกิจกรรมของคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงเกือบทุกประเภท โดยเม็ดเงินใช้จ่ายสำหรับเลี้ยงสังสรรค์ ค่าอาหารและเครื่องดื่มมีสัดส่วนมากที่สุดที่ 40% ของเม็ดเงินรวม อยู่ที่ 9,500 ล้านบาท (-3.0% YoY) ซึ่งผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่มีแผนจะปรุงอาหารทานเองที่บ้าน โดยลดปริมาณการซื้อวัตถุดิบเท่าที่จำเป็นและราคาไม่สูงมากนักเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

ส่วนเม็ดเงินการชอปปิ้งซื้อสินค้าอยู่ที่ 4,200 ล้านบาท (-3.9% YoY) ซึ่งผลการสำรวจพบว่า คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ยังเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องแต่งกายเป็นหลัก แต่ลดจำนวนการซื้อสินค้าลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และงด/ลดการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยลง โดยผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าตามโปรโมชั่นลดราคาส่งเสริมการขายมากที่สุด นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างยังมีแนวโน้มชะลอการซื้อสินค้าที่มีมูลค่าสูง ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ออกไปก่อน

ขณะที่ค่าเดินทาง ค่าที่พักในประเทศเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากฐานที่ต่ำในปีที่แล้ว อยู่ที่ 6,050 ล้านบาท (+1.1% YoY) เป็นผลหลักจากจำนวนผู้เดินทางที่อาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ตามมาตรการสาธารณสุขที่ผ่อนคลายลง และให้สามารถจัดงานสงกรานต์ตามประเพณีในพื้นที่ที่มีการควบคุมได้ แต่ผู้เดินทางจะจัดสรรค่าใช้จ่ายอย่างระมัดระวังภายใต้งบประมาณที่ตั้งไว้ เช่น เลือกเดินทางด้วยรถโดยสารชั้น 2 ทดแทนรถชั้น 1 หรือเลือกที่พักที่เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันของรัฐ เป็นต้น

ดังนั้นศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า เม็ดเงินการใช้จ่ายรวมในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ปี 2565 (13-17 เมษายน 2565) จะอยู่ที่ประมาณ 23,400 ล้านบาท ลดลง 2.5% หดตัวต่อเนื่องจากปีก่อน เป็นผลหลักจากสัดส่วนคนกรุงเทพฯ ที่เลือกทำกิจกรรมฉลองสงกรานต์ลดลงจากปีที่แล้ว และลดการใช้จ่ายลงเหลือเท่าที่จำเป็น โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 5,600 บาท ลดลงจากปีก่อน

โดยช่วงที่ผ่านมาผู้ประกอบการค้าปลีกต้องเผชิญต้นทุนวัตถุดิบและราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้จำเป็นต้องทยอยปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการบางส่วน แต่จากภาวะเงินเฟ้อและค่าครองชีพโดยรวมที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความไม่แน่นอนของสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ทำให้ผู้บริโภคยังคงระมัดระวังการใช้จ่ายและคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เลือกใช้จ่ายเพื่อฉลองเทศกาลสงกรานต์เท่าเดิมหรือลดลง ดังนั้นศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงมองว่า ในช่วงเทศกาลธุรกิจอาจเน้นโปรโมชั่นส่งเสริมการขายระยะสั้น สำหรับสินค้าบางกลุ่ม เช่น สินค้าแฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หรือสินค้าที่มีอายุผลิตภัณฑ์จำกัด เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของกลุ่มลูกค้าที่ยังมีงบประมาณในการจับจ่าย เช่น โปรโมชั่นลดราคาแบบขั้นบันได การให้ส่วนลดพิเศษสินค้าที่ขายได้ช้า จัดชุดสินค้าแบบเซท จูงใจให้เพิ่มปริมาณการซื้อสินค้าต่อครั้งมากขึ้น และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจในระยะนี้ อย่างไรก็ดี ในระยะยาวธุรกิจต้องเน้นการบริหารต้นทุนสินค้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสร้างความแตกต่างในตลาดที่มีการแข่งขันเข้มข้น