• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

ครม.รับทราบ ธ.ก.ส.ร่วมลงทุนกับบริษัทเทคโนโลยีด้านการเกษตรของไทย 2 ราย

Started by dsmol19, October 06, 2021, 12:01:34 PM

Previous topic - Next topic

dsmol19



รองโฆษกรัฐบาล เผย ครม.รับทราบ ธ.ก.ส.ร่วมลงทุนกับบริษัทเทคโนโลยีด้านการเกษตรของไทย 2 ราย ทำหน้าที่ติดตามผลอย่างต่อเนื่อง

วันนี้ (5 ต.ค.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบการร่วมลงทุน (Venture Capital) ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กับผู้ประกอบการภาคการเกษตรของไทย เพื่อสนับสนุนด้านการเงินในลักษณะการร่วมทุนให้กับผู้ประกอบการภาคการเกษตรหรือที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการเกษตร เพื่อสร้างโอกาสและเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ประกอบการที่มีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจแต่ขาดโอกาสในการเพิ่มทุนให้มีทุนในการดำเนินกิจการระยะแรกได้ โดยสัดส่วนร่วมทุนไม่เกินร้อยละ 49 ของจำนวนหุ้นหลังระดมทุน และกรณีโครงการร่วมลงทุนไม่เกินร้อยละ 80 ของมูลค่าการลงทุน ระยะเวลาร่วมลงทุนไม่น้อยกว่า 3 ปี แต่ไม่เกิน 10 ปี และผู้ประกอบการต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในรูปของบริษัท โดยจะให้มีอำนาจในการบริหารจัดการโดยอิสระ ส่วน ธ.ก.ส.ทำหน้าที่ติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

สำหรับคุณสมบัติของผู้ประกอบการ จะต้องเป็นผู้ประกอบการในระยะเริ่มต้น (Startup) หรือระยะของการขยายธุรกิจ ได้แก่ ผู้ประกอบการที่มีนวัตกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการเกษตร หรือ โครงการวิจัยที่ได้รับทุนสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ที่มีศักยภาพ เป็นผู้ประกอบการที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมายกระดับสร้างมูลค่าเพิ่มภาคการเกษตร รวมทั้งกลุ่มวิสาหกิจ กองทุนหมู่บ้าน ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลถูกต้อง โดยงบประมาณที่ใช้ร่วมลงทุนจะใช้งบประมาณการดำเนินงานปกติของธ.ก.ส.

ทั้งนี้ ธ.ก.ส.ได้คัดเลือกผู้ประกอบการให้เข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 2 ราย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เห็นชอบให้ธ.ก.ส.ร่วมลงทุนด้วยแล้ว ได้แก่ บริษัท คิว บ็อคซ์ พอยท์ จำกัด ประกอบธุรกิจเทคโนโลยีการเกษตร โดยใช้แพลตฟอร์มเพื่อช่วยเกษตรกรในการวางแผนการผลิตให้สัมพันธ์กับความต้องการของตลาดในลักษณะซื้อขายล่วงหน้า มูลค่ากิจการ ณ ต้นปี 2564 อยู่ที่ 135 ล้านบาท อันดับเครดิตอยู่ที่ระดับ AAA รายได้หลักมาจากค่าปรับปรุงแพลตฟอร์มและค่าสมาชิกจากผู้ซื้อผลผลิตการเกษตรรายใหญ่ อย่างไรก็ตามบริษัทฯมีแผนการปรับเปลี่ยนที่มาของรายได้ มาเป็นส่วนแบ่งยอดขายสินค้าเกษตรที่เกิดขึ้นผ่านระบบเพื่อจูงใจให้เกษตรกรใช้บริการแพลตฟอร์มในการขายผลผลิต โดยเสนอให้ ธ.ก.ส.ร่วมลงทุน 15 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.10 ของจำนวนหุ้นหลังการร่วมทุน

ส่วนอีกบริษัทได้แก่ บริษัท อินฟิวส์ จำกัด ให้บริการแอปพลิเคชัน "มะลิซ้อน" ผู้ใช้งานหลักคือ ชาวนาที่ซื้อประกันภัยผลผลิต มูลค่ากิจการอยู่ที่ 35.74 ล้านบาท อันดับเครดิตระดับ AA เป็นการช่วยอำนวยความสะดวกให้เกษตรกรในการบันทึกแปลงที่ดินของเกษตรกรและสามารถแจ้งการประสบภัยเพื่อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนกรณีเอาประกัน ปัจจุบันมีผู้ใช้ระบบประมาณ 4,000 คน รายได้หลักของบริษัทมาจากการสนับสนุนของสมาคมประกันวินาศภัยไทย โดยมีแผนจะขยายระบบวางแผนบริหารจัดการแปลงเกษตรอย่างครบวงจรเพื่อให้เกษตรกรสามารถเชื่อมโยงกับปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) และสามารถวางแผนเพาะปลูกได้ดีขึ้น โดยบริษัทเสนอให้ ธ.ก.ส.ร่วมลงทุนจำนวน 7 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 19.58 ของจำนวนหุ้นหลังการร่วมทุน