• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Ailie662

#3741


kamagra oral jelly ราคา ลดพิเศษ ส่งฟรี เก็บเงินปลายทาง คามากร้าเจลลี่คือไวอากร้าเจล ออกฤทธิ์ ภายใน 15 นาที ต่อรอบได้หลายรอบ แข็งต่อเนื่อง Kamagra Oral Jelly คามากร้า เจลลี่ ไวอากร้า เพิ่มพลังเพศชาย  ของแท้ ราคาถูก เป็นยาขยายหลอดเลือดไปเลี้ยงที่อวัยวะเพศ ช่วยรักษาอาการอวัยวะเพศไม่แข็งตัว นกเขาไม่ขัน ช่วยให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวได้ดี ไม่อ่อนตัวขณะมีเพศสัมพันธ์ เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ


วิธีรับประทาน คามากร้าเจลลี่
ทานในขณะท้องว่าง หลังจากทานแล้วโดยเฉลี่ยยาจะออกฤทธิ์ ภายใน 15 นาที

เจลคามากร้า ให้ผลอย่างไร
ช่วยทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ดีขึ้น
ยืดเวลาการมีเพชสัมพันธุ์ ชะลอหลั่งไว
จะมีกิจกรรมตอนไหนก็ได้แค่มีการกระตุ้น
อาการข้างเคียง

สำหรับคนที่ร่างกายปกติ ที่เกิดจากทานยาไวอากร้า ก็มี ปวดหัว หน้าแดง ตาพร่า ใจเต้นแรง แล้วก็ตาแพ้แสงผลข้างเคียงนี้ขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละบุคคล บางคนก็ไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ

คุณสมบัติของยา คามากร้า เจลลี่
Kamagra oral jelly เป็นยาที่จะช่วยกระตุ้นการขยายหลอดเลือด ทำให้ช่วยเรื่องการแข็งตัว และมีผลช่วยในเรื่องของความอึด ส่วนตัวเวลาไม่ได้ใช้ยาจะสามารถสอดใส่ได้ไม่เกิน 5 นาที แต่ถ้าใช้ยาจะได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ซึ่งผลนี้จะขึ้นอยู่กับบุคคลที่ทานยาครับ แต่ละคนจะไม่เหมือนกัน

* Kamagra oral jelly แตกต่างจากตัวอื่นคือ เป็นยาที่ออกฤทธิ์เร็วที่สุดในยาทั้งหมดครับ ประมาณ 15  นาที และได้ผลค่อนข้างดี ต่างชาติจะนิยมใช้ตัวนี้กันครับ

ผลข้างเคียง ไวอากร้าเจล
ยากลุ่มไวอากร้า อาจจะมีอาการข้างเคียงเกิดขึ้นได้ โดยส่วนมากอาจจะเกิดอาการ หน้าแดง ตาแพ้แสง มองเห็นเป็นแสงสีฟ้า ปวดหัวหรือปวดตา ใจเต้นเร็ว คัดจมูก นอนไม่หลับ ซึ่งเป็นผลจากฤทธิ์ยาที่ไปขยายเส้นเลือด ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้มากขึ้น ผลข้างเคียงอาจจะเกิดมากน้อย แล้วแต่บุคคล โดยผลข้างเคียงจะหายไปเองเมื่อหมดฤทธิ์ยา หรือผ่านไปประมาณ 1 วัน การทานน้ำเปล่ามากๆ จะช่วยบรรเทาอาการเกิดผลข้างเคียงได้

ใน 1 วัน ห้ามทานยาเกิน 1 ซอง ครับ เป็นปริมาณยาที่ไม่อันตราย หากต้องการทานซองต่อไป ให้เว้นอย่างน้อย 24 ชม ถึงทานได้ครับ

Tags :: kamagra oral jelly ราคา,คามากร้า,คามากร้าเจล
#3742


คณะทำงานจัดการความรู้เพื่อพัฒนาระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ด้านพลังงาน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการวิจัย (สกสว.) ได้จัดประชุมหารือเรื่อง "ทิศทางการพัฒนาพลังงานสะอาดในอุตสาหกรรมน้ำมันและการกลั่น" โดยมี รศ.ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการ สกสว. เป็นประธานการประชุม ร่วมหารือกับภาคีภาครัฐ ด้านพลังงาน ผู้แทนสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ตลอดจนตัวแทนจากภาคเอกชน

นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยข้อมูลว่า ด้วยปัญหาภาวะโลกร้อนที่นำไปสู่สนธิสัญญาระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิด Net Zero Carbon Emission ในปี 2050 ทำให้ทั่วโลกเริ่มเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานปิโตรเลียมมาสู่การใช้เชื้อเพลิงชีวภาพมากขึ้นในอนาคต โดยประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายว่า ในปี 2030 ประเทศไทยจะลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 20%


แม้ว่าความต้องการน้ำมันของโลก (Global oil demand) น้ำมันยังคงเป็นแหล่งพลังงานหลักในปัจจุบัน ซึ่งถูกใช้ในภาคส่วนการขนส่ง เป็นภาคส่วนหลักที่มีความต้องการใช้น้ำมันสูงสุด แม้ปัจจุบันจะมีพลังงานทดแทนอย่างอื่นก็ไม่อาจทำให้ความต้องการน้ำมันของโลก (Global oil demand) ลดน้อยลง เรียกได้ว่าน้ำมันยังคงครองส่วนแบ่งทางการตลาดของพลังงานโลกอยู่ อย่างไรก็ตามหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย ได้ให้ความสนใจกับการผลิต "พลังงานเชื้อเพลิงชีวภาพ" มาทดแทนน้ำมัน โดยคาดการณ์ว่าเชื้อเพลิงชีวภาพจะถูกนำมาใช้ในภาคการขนส่ง และอุตสาหกรรมการบินมากขึ้น แต่จะเป็นเชื้อเพลงชีวภาพแบบดั้งเดิมน้อยลง และใช้เทคโนโลยีผลิตพลังงานชีวภาพขั้นสูง (Advanced Biofuel) เช่น เทคโนโลยีผลิตพลังงานจากเศษวัสดุทางเกษตร หรือของเสียจากอุตสาหกรรม รวมถึงการใช้เทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture, Utilization and Storage: CCUS) ทดแทนมากขึ้นในอนาคต



สำหรับประเทศไทยพบว่ามีกำลังการผลิต (Supply) หลัก คือ ไบโอดีเซล และไบโอเอทานอลซึ่งเมื่อวิเคราะห์แล้วพบว่าประเทศไทยมีกำลังการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพเหล่านี้มากกว่าความต้องการ (Demand) ทำให้ยังคงมีส่วนเกินในภาคการผลิต ซึ่งมองว่านี่คือโอกาสของประเทศที่สามารถรองรับสู่การผลิตสารเคมีชีวภาพมูลค่าสูงได้ ดังในสถานการณ์โควิด-19 ไบโอแอลกอฮอลล์นิยมถูกนำไปใช้ในการเจือจางเป็นเจลแอลกอฮอลล์ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด อีกอันที่เป็นโอกาส คือ การผลิตสุรา แต่มีข้อจำกัดเรื่องกฎระเบียบที่ไม่สามารถผลิตแอลกอฮอลล์เพื่อมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารได้ และมีข้อเสนอให้ควรวางแผนการวิจัยและพัฒนาของประเทศเพื่อการขับเคลื่อนจากโมเดล BCG ที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงขยับตัวให้เร็วขึ้น สิ่งที่ประเทศไทยควรดำเนินการเพื่อทำให้การวิจัยพัฒนาในเรื่องของพลังงานชีวภาพและเคมีชีวภาพเป็นรูปธรรมมากขึ้นอันนำไปสู่การยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมได้อย่างแท้จริง คือ



• จัดการรวบรวมองค์ความรู้ที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูง (Advanced Technology) ด้านพลังงานที่เคยศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาแล้วคัดเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะกับชีวมวลของประเทศไทย
• สร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้รองรับการขยายขนาดจากงานวิจัยในห้องปฏิบัติการเพื่อเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม
• เพิ่มทักษะแรงงานและนักวิจัยของประเทศ ในทำการตลาด การคำนวณความคุ้มทุน โดยเร่งสร้างบุคลากรวิจัยทักษะสูงที่มี

ความเชี่ยวชาญจำเพาะเจาะจงในสารเคมีชีวภาพหรือเชื้อเพลิงนั้นๆ และอาจจำเป็นต้องร่วมมือกับพันธมิตรในต่างประเทศ ซึ่งเมื่อเกิดความร่วมมือแล้วเราจะทำอย่างไรให้คนเหล่านี้เข้ามาอยู่ในประเทศ และถ่ายทอดองค์ความรู้ให้เรา ดังนั้นการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ในด้านพลังงานชีวภาพขึ้นมาใหม่จึงเป็นสิ่งที่ประเทศควรทำ

โดยการประชุมวันนี้ถือเป็นการหารือ โดยสกสว. จะนำข้อมูลและข้อเสนอแนะสำคัญจากผู้เข้าร่วมไปสู่กระบวนการจัดการความรู้ และพัฒนาแผนวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับด้านพลังงานต่อไป
#3743


ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด กล่าวว่า ในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นี้ ทาง เอสซีบี อบาคัส และแอปพลิเคชั่น "เงินทันเด้อ" มีความยินดีที่ได้ร่วมแคมเปญกับ ฟู้ดแพนด้า เพื่ออำนวยความสะดวกทางด้านสินเชื่อให้กับไรเดอร์ฟู้ดแฟนด้า ซึ่งถือเป็นกำลังหลักในการช่วยเหลือพี่น้องคนไทยให้อยู่บ้านเพื่อรักษาระยะห่าง นอกจากนี้ แคมเปญนี้ยังสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของเราที่ต้องการมุ่งเน้นการบริการทางการเงินเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนยุคใหม่ที่ต้องการเงินทุนเพื่อการประกอบอาชีพ โดยทาง เอสซีบี อบาคัส หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือกันในครั้งนี้จะช่วยให้ไรเดอร์ฟู้ดแพนด้ามีเงินทุนหมุนเวียนเพื่อประกอบอาชีพเสริม และมีกำลังใจในการให้บริการอย่างดีเยี่ยมต่อไป


การร่วมมือกันระหว่าง ฟู้ดแพนด้า และ เอสซีบี อบาคัส จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ไรเดอร์ฟู้ดแพนด้าทั่วประเทศ ที่มีความจำเป็นต้องขอสินเชื่อ โดยสามารถขอสินเชื่อตั้งหลักผ่านทางแอปพลิเคชั่น "เงินทันเด้อ" ได้ทันที ไม่ต้องเตรียมเอกสารให้ยุ่งยาก เพียงแค่มีรายได้ขั้นต่ำต่อเดือนจากการให้บริการเดลิเวอรี่กับฟู้ดแพนด้า 2,000 บาทขึ้นไป สัญชาติไทย อายุ 20-57 ปี ก็สามารถสมัครใช้บริการได้ เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น "เงินทันเด้อ" สมัครใช้บริการและยื่นขอสินเชื่อตั้งหลัก โดยรู้ผลไวภายใน 15 นาที และรับเงินภายใน 24 ชั่วโมงหลังได้รับการอนุมัติสินเชื่อ โดยมีวงเงินสินเชื่อสูงสุดที่ 50,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 2.75 ต่อเดือน และระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุด 15 เดือน นับว่าเป็นบริการทางการเงินที่สะดวก รวดเร็ว และตอบสนองความต้องการของไรเดอร์ ซึ่งเป็นบุคลากรคนสำคัญของฟู้ดแพนด้าอย่างแท้จริง

นายอเล็กซานเดอร์ เฟลเดอร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ดแพนด้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "หนึ่งในฟันเฟืองสำคัญของการดำเนินธุรกิจของ ฟู้ดแพนด้า นอกเหนือจากร้านค้าพาร์ทเนอร์ และลูกค้าทุกท่านแล้ว ไรเดอร์ คือบุคลากรสำคัญที่คอยส่งมอบความสุข ความอร่อย และประสบการณ์ที่ดีเยี่ยม ทางบริษัทได้ตระหนักถึงความทุ่มเทและความตั้งใจของไรเดอร์ที่คอยส่งมอบบริการจากฟู้ดแพนด้าถึงมือลูกค้าทุกท่านเป็นอย่างดีเสมอมา นับตั้งแต่วันแรกที่ได้ให้บริการคนไทยจวบจนปัจจุบัน เรารับฟังทุกความต้องการของไรเดอร์มาโดยตลอด จากผลสำรวจพบว่าไรเดอร์ต้องการการสนับสนุนด้านเงินทุน ฟู้ดแพนด้า จึงได้ร่วมมือกับบริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด ผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่น "เงินทันเด้อ" บริการสินเชื่อตั้งหลักที่จะมาอำนวยความสะดวกในเรื่องเงินทุนหมุนเวียนเพื่อประกอบอาชีพเสริม รวมถึงเป็นการให้กำลังใจไรเดอร์ของเราทุกคน ในช่วงเวลาที่ยากลำบากขณะนี้"

"นี่เป็นเพียงหนึ่งในแคมเปญที่ทางฟู้ดแพนด้าได้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนไรเดอร์ ขอสัญญาว่าเราจะเดินหน้าต่อไปเพื่อพัฒนาการให้บริการให้ดีขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง และดูแลพาร์ทเนอร์ของฟู้ดแพนด้าให้ดีที่สุด ขอบคุณทุกท่านและพนักงานทุกคนที่ให้โอกาสและเชื่อมั่นในฟู้ดแพนด้า" 
#3744


นายสมโภชน์ วัลยะเสวี กรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พรีซิชั่น จำกัด (มหาชน) APCS เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2564 บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 499 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนที่ทำได้ 278 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 422.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนอยู่ที่ 18 ล้านบาท

ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 956 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 256 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 36.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนที่ทำได้ 700 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 139 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 271.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนอยู่ที่ 81 ล้านบาท

"ผลการดำเนินงานของบริษัทพลิกมีกำไร อันเป็นผลมาจากธุรกิจผลิตชิ้นส่วน (AUTO) ฟื้นตัวได้แรงจากการปรับประสิทธิภาพควบคุมต้นทุนการผลิตได้เป็นอย่างดีมีการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นถึง 95.3% เมื่อเทียบจากช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตทำให้กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างมากอยู่ที่ 57 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจวิศวกรรมและก่อสร้าง (EPC) และธุรกิจจำหน่ายน้ำดิบ (WATER) สามารถสร้างอัตราการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ"

กรรมการบริหาร กล่าวอีกว่า แนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากธุรกิจผลิตชิ้นส่วนมีคำสั่งซื้อกลับเข้ามาจำนวนมาก หลังจากธุรกิจยานยนต์เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนธุรกิจวิศวกรรมและก่อสร้างเข้าสู่ช่วง High Season รวมทั้งมีแผนจะยื่นเข้าประมูลงานใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจจำหน่ายน้ำดิบกลับมามีปริมาณการขายน้ำที่เพิ่มขึ้นเกือบ 100% จึงน่าจะยังคงรักษาการเติบโตในระดับที่ดีได้ต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ควบคุมการบริหารจัดการต้นทุนและการดำเนินการอย่างรอบคอบ ประกอบกับเร่งเพิ่มสัดส่วนธุรกิจที่มีกำไรขั้นต้นสูง จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างมั่นคง และสามารถฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจชะลอตัวไปได้อย่างแน่นอน
#3745


ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ Live สดผ่าน facebook : คณะอนุกรรมการขับเคลื่อน Ecommerce กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดตัวโครงการ "เกษตรกร Happy" phase 2 เพื่อช่วยเกษตรกรชาวสวนลำไย เงาะ ลองกอง ในการขายผลไม้คุณภาพดี สดจากสวน ถึงมือผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งโครงการดังกล่าว เป็นแผนการดำเนินงานของคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ที่ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงและเข้าขั้นวิกฤต จนทำให้มีการเพิ่มมาตรการล็อกดาวน์ทั้งในและต่างประเทศ ตลาดต่างประเทศมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้นมากขึ้น ระบบขนส่งระหว่างประเทศเกิดความติดขัด ตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน แรงงานและผู้ค้า

 รวมทั้งบริษัทขนส่งในประเทศติดโควิดเพิ่มมากขึ้น ผู้ส่งออกและล้งลดจำนวนลง ในขณะที่ผลไม้อยู่ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวพร้อม ๆ กัน ทั้งมังคุด เงาะ ลำไย และลองกอง เป็นต้น โครงการนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วน โดยมีวัตถุประสงค์ คือ 1) รณรงค์ส่งเสริมการบริโภคผลไม้ไทยภายในประเทศ 2) เพิ่มกิจกรรมการค้าทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อระบบการค้าที่เป็นธรรม และ 3) ยกระดับราคา เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ภายใต้แนวคิด "คนกินยิ้มได้ เกษตรกรไทยแฮปปี้" และ "คนไทยไม่ทิ้งกัน"


        และจากการดำเนินโครงการ "เกษตรกร Happy" phase 1 ในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนมังคุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งได้รับความรวมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย กรมประชาสัมพันธ์ ททบ.5 กองทัพบก บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด, บริษัท แกร็บ ประเทศไทย จำกัด, บริษัท เซ็นทรัล กรุ๊ป จำกัด, เครือข่ายร้านธงฟ้า คณะอนุกรรมการขับเคลื่อน Ecommerce คณะกรรมการธุรกิจเกษตร ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเฉพาะสื่อมวลชนทุกแขนงที่ช่วยในการสื่อสารรณรงค์จนประสบความสำเร็จ และสามารถระบายมังคุดออกจากกลไกตลาดและรักษาเสถียรภาพราคาได้ในระดับที่น่าพอใจ


"ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันดำเนินโครงการเกษตรกร Happy ซึ่งในวันนี้เป็นการดำเนินโครงการเฟส 2 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ที่กำลังออกตามฤดูกาล ทั้งลำไย ลองกอง และเงาะ โดยในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ได้ดำเนินการในหลายมิติ ทั้งการรณรงค์บริโภคผลไม้ไทย การขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้อุดหนุนผลไม้ไทย และได้มอบ หมายปลัดเกษตรฯ ตั้งทีมกระจายผลไม้เฉพาะกิจ เพื่อประสานงานไปทุกจังหวัดทั่วประเทศ

            สำหรับการแก้ไขปัญหาด้านการส่งออกลำไย ตามที่จีนมีหนังสือเพื่อให้ไทยสั่งระงับการส่งออกลำไยจาก66 ล้งที่ตรวจพบเพลี้ยแป้งปนเปื้อน นั้น กรมวิชาการเกษตรอยู่ระหว่างเจรจากับจีนโดยต่อรองให้จีนอนุโลมให้ล้งที่ตรวจพบเพลี้ยแป้งไม่มาก และไทยพร้อมจะสุ่มตรวจเพิ่มขึ้นจากเดิม 3 % เป็น 5-10 %  คาดว่าจีนจะรับข้อเสนอของไทย  

            นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ ยังอยู่ระหว่างประสานกับเวียดนามเพื่อให้เปิดตลาดกับไทยด้วย  อย่างไรก็ตาม การดำเนินการจะประสบความสำเร็จได้ ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน กระทรวงเกษตรฯ จึงพยายามเพิ่มช่องทางให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้มากขึ้นและง่ายที่สุด จึงขอเชิญชวนให้พี่น้องหันมาบริโภคผลไม้ไทย และร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน

ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีผลไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งในตลาดโลกและตลาดภูมิภาค เช่น มีพื้นที่เพาะปลูกถึง 7 ล้านไร่ สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศจากการส่งออกถึง 1 แสนล้านบาทต่อปี ทั้งผลไม้สด ผลไม้แช่แข็ง และผลไม้แปรรูป ซึ่งในปี 2564 ได้ประมาณการว่าจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้น 23% จากปีที่ผ่านมา จาก 4.4 ล้านตัน เป็น 5.4 ล้านตัน และถึงแม้ว่าเราจะเผชิญกับสถานการณ์การโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563

 

กระทรวงเกษตรฯ ได้บริหารจัดการเชิงรุก โดยได้เร่งพัฒนาการบริหารผลไม้จัดการทั้งระบบ ตั้งแต่การผลิต การสร้างมาตรฐาน GAP/GMP การแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม การสร้างแบรนด์ผลไม้ การบริหารโลจิสติกส์ ตลอดจนการตลาดสมัยใหม่ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ทำให้ในเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ผลไม้สามารถครองแชมป์การส่งออก ด้วยอัตราการเติบโตสูงถึง 185% ทุเรียนส่งออกขยายตัว 172% และมังคุดเติบโตถึง 488% ส่งผลให้การส่งออกสินค้าเกษตรโดยรวม มีมูลค่า 71,473 ล้านบาท โดยมีอัตราการขยายตัวสูงสุดถึง 59.8% นับเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 10 ปี และเป็นการขยายตัว 9 เดือนต่อเนื่องกัน
#3746


ริมถนนนักลงทุน เสิร์ฟความเคลื่อนไหวแวดวงตลาดหุ้น หนึ่งความเคลื่อนไหวน่าสนใจ ยกให้ 'หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล' ที่หลายตัวประกาศงบไตรมาส 2 ปี 64 ออกมา 'โดดเด่น' หลังได้รับผลกระทบเชิงบวกจากโควิด-19 ตัวเลขติดเชื้อพุ่ง

๐ หากดูงบไตรมาส 2 ปี 2564 ที่ทยอยออกมา หนึ่งในธุรกิจที่มีผลดำเนินงานเติบโต 'โดดเด่น' ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 คงต้องยกให้ 'ธุรกิจโรงพยาบาล' สะท้อนผ่านกำไรสุทธิสองโรงพยาบาลขนาดใหญ่ อย่าง บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ หรือ BDMS โชว์กำไรสุทธิ 1,452.16 ล้านบาท เติบโต 217% จากช่วงเดียวกันปีก่อนกำไรสุทธิ 457.82 ล้านบาท 

๐ ขณะที่ บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล หรือ BCH คาดมีโอกาสกำไรไตรมาส 2 ปี 2564 จะออกมาดีกว่าคาด 180% จากไตรมาสก่อน และ 225% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังหลายโรงพยาบาลที่ประกาศออกมาแล้วดีกว่าคาดอย่างมีนัยสำคัญจากรายได้เกี่ยวเนื่องกับ COVID-19 ที่พุ่งขึ้น ฟาก 'กูรู' เชื่อว่ากลุ่มโรงพยาบาลยังคงได้รับผลกระทบเชิงบวกจากภาวะ COVID-19 ที่ยังคงรุนแรง และยังคงคำแนะนำ 'ซื้อ' ทุกบริษัท 

๐ หุ้น ไซแมท เทคโนโลยี หรือ SIMAT มีเสน่ห์อะไร ? ถึงดึงดูด 'นักธุรกิจ-นักลงทุน' อย่าง 'สุระ คณิตทวีกุล' ครอบครองหุ้น SIMAT จำนวน 15,466,000 หุ้น คิดเป็น 2.38% แต่ที่ชัวร์คือธุรกิจของ SIMAT กำลังเทิร์นอะราวด์อย่างสวยงาม สะท้อนผ่านผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิ 17.08 ล้านบาท !! ส่วนรายได้อยู่ที่ 257.40 ล้านบาท

๐ และล่าสุดคว้า 'ธีรวุฒิ กานต์นิภากุล' อดีตรองผู้อำนวยการอาวุโสฝ่าย Equity Derivative บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เข้ามารับตำแหน่ง 'ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุน' ของ SIMAT เพื่อปรับโครงสร้างองค์กรแห่งนี้ใหม่และแสวงหาโอกาสลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็น New S-Curve เหมือนอย่างที่ 3 ปีก่อน ที่บริษัทซื้อกิจการ บริษัท ฮินซิซึ (ประเทศไทย) หรือ HST ถือหุ้น 70% ซึ่งในปัจจุบันกำลังสร้างกำไรให้เป็นกอบเป็นกำ !!




๐ ผลดำเนินงานเติบโตยังไม่แผ่ว 'ตัน ภาสกรนที' นายใหญ่ บมจ. อิชิตัน กรุ๊ป หรือ ICHI หลังแจ้งผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2564 กำไรสุทธิ 164.3 ล้านบาท และรายได้ 1,492.7ล้านบาท งานนี้ 'เฮียตัน' บอกว่า รายได้-กำไรสุทธิเติบโตจากการปรับกลยุทธ์สู้โควิด-19 ส่งผลิตภัณฑ์เจาะตลาดค้าปลีกรายย่อย และกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเจาะตลาดต่อเนื่อง มุ่งขยายฐานลูกค้า พร้อมจัดทัพสินค้าสุขภาพบุกตลาดในครึ่งปีหลัง เตรียมรับข่าวดีจาก 'ธุรกิจรับจ้างผลิต' (OEM) ที่จะปิดดีลเพิ่มภายในปีนี้

๐ ผลงานไตรมาส 2 ปี 2564 ยังสวยงามต่อเนื่อง ล่าสุด 'กลุ่มเจมาร์ท' โชว์กำไรสุทธิ 232.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,648.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.9% งานนี้ 'อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา' เจ้าของอาณาจักร บมจ. เจ มาร์ท หรือ JMART การันตีการเติบโตนั้นมาจากธุรกิจด้านการเงินที่เป็นหัวหอกในการส่ง "กำไร" เข้ามาต่อเนื่อง พร้อมมองผลงานครึ่งปีหลังยัง 'ร้อนแรง' ต่อเนื่องอีก 



๐ แม้สถานการณ์โควิด-19 รุนแรง แต่ 'อดิศักดิ์' ณ กลุ่มเจมาร์ท ไม่หวั่น !! หลังบริษัทปรับกลยุทธ์ใหม่ นำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นขับเคลื่อนในธุรกิจยุคดิสรัปฯ หนุนโอกาสโตกระโดดจากความพร้อมในการ Synergy การพัฒนาเทคโนโลยีและฟินเทคที่เริ่มเห็นภาพชัดจากพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ ขณะที่แผนจับมือพันธมิตรจะเริ่มเห็นความคืบหน้าในเร็วๆ นี้แล้ว 

๐ ข่าวร้ายของคนรัก 'ทองคำ' หลังราคาทองคำปรับตัวลดลงหลุด 2 แนวรับสำคัญ 1,790 และ 1,751 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เหตุตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ออกมาดีเกินคาด ส่งผลดอลลาร์สหรัฐเริ่มแข็งค่าสวนทางทองคำ คาดอาจเป็นสัญญาณให้เฟดลดการทำ QE ภายในสิ้นปีนี้ และนี่อาจจะกำลังส่งสัญญาณราคาทองคำเข้าสู่ 'ขาลง' ชัดเจนหรือเปล่า... 'ฐิภา นววัฒนทรัพย์' หญิงเก่ง บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) แนะนำสำหรับคนที่ต้องการขายเพื่อลดความเสี่ยง มองว่าสามารถขายได้ที่แนวต้าน 1,751-1,755 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 27,700 บาท จุดนี้ถือเป็นแนวต้านระยะสั้นสำคัญ
#3747


ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (9-13 ส.ค.2564) ดัชนี SET ปรับลง 11.87 จุด หรือปรับลง 0.77% มาอยู่ที่ 1,528.32 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.33 แสนล้านบาท ระหว่างสัปดาห์ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดที่ 1,551.61 จุด และต่ำสุดที่ 1,525.29 จุด โดยตลาดหุ้นไทยยังถูกกดดันจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่ยอดผู้ติดเชื้อรายวันทำจุดสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ต่อเนื่อง รวมถึงแรงขายตามข่าว (Sell on Fact) จากการรายงานงบไตรมาส 2 ปี 2564

ขณะที่การซื้อขายแยกตามกลุ่มผู้ลงทุน พบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 2,307.71 ล้านบาท เช่นเดียวกับบัญชีหลักทรัพย์ที่ซื้อสุทธิ 809.49 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยในประเทศที่ซื้อสุทธิ 96.94 บ้านบาท ส่วนนักลงทุนต่างประเทศเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ 3,214.15 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นเดือนถึงปัจจุบัน (1-13 ส.ค.) นักลงทุนต่างประเทศยังเป็นกลุ่มเดียวที่มียอดขายสุทธิสะสมอยู่ที่ 11,362.58 ล้านบาท สวนทางกับอีก 3 กลุ่มนักลงทุนที่เหลือ เช่นเดียวกับในช่วงตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันที่มียอดขายสุทธิสะสมสูงสุดอยู่ที่ 104,644.84 ล้านบาท และหากย้อนไปไกลกว่านั้นพบว่านักลงทุนกลุ่มนี้มียอดขายสุทธิสะสมราว 6.5 แสนล้านบาท ในช่วงกว่า 4 ปีที่ผ่านมา (2559-ปัจจุบัน)


เมื่อพิจารณาข้อมูลการซื้อขายด้วยบัญชี NVDR ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุนชาวต่างประเทศ พบว่า ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันกลุ่มหุ้นที่มียอดขายสุทธิสะสม ได้แก่ กลุ่มสื่อสาร 6,905.86 ล้านบาท กลุ่มค้าปลีก 2,684.44 ล้านบาท กลุ่มเกษตร 1,771.96 ล้านบาท กลุ่มอาหาร 821.45 ล้านบาท กลุ่มขนส่ง 812.81 ล้านบาท และกลุ่มประกัน 433.69 ล้านบาท

หากพิจารณาข้อมูลรายหุ้น พบว่า CPF มียอดขายสุทธิสะสมสูงสุด 4,279.03 ล้านบาท INTUCH 4,002.64 ล้านบาท CPN 2,872.48 ล้านบาท CPALL 2,519.85 ล้านบาท และ BEM 2,487.86 ล้านบาท


อย่างไรก็ดี "ณัฐพล คำถาเครือ" ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า สัดส่วนการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 30% ตอนปลาย แต่กลุ่มนักลงทุนที่มีสัดส่วนการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันมากที่สุดคือนักลงทุนรายย่อยในประเทศที่ประมาณ 40% ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยปัจจุบันได้แรงหนุนจากเม็ดเงินในประเทศเป็นหลัก

ขณะที่การไหลออกต่อเนื่องในระดับแสนล้านบาทนั้น คาดว่าเป็นผลจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศเป็นหลัก อีกทั้งประเทศไทยยังมีความเสี่ยงจะเป็นประเทศเดียวที่จีดีพีปี 2564 ติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่สองจากปี 2563 ดังนั้น คาดว่ากระแสเงินลงทุน (ฟันด์โฟลว์) ของกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศยังเป็นการไหลออกต่อเนื่อง จนกว่าภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยจะกลับมา
#3748


นางสาวนฤมล อาภรณ์ธนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารอาคารที่พักอาศัย บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพลัสฯ ได้มีมาตรการที่ครอบคลุมทุกมิติด้านการดูแลและป้องกันโควิด-19 ในโครงการที่อยู่อาศัยกว่า 85,000 ครัวเรือน มีการตั้งการ์ดเชิงรุก และประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เหมาะสม มีประสิทธิภาพ อย่างทันท่วงทีในทุกสถานการณ์ สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันที่มีในส่วนของการดูแลรักษาตัวเองที่บ้าน (Home Isolation) พลัสฯ ก็พร้อมให้ความช่วยเหลือดูแลและอำนวยความสะดวกอย่างเต็มกำลัง ในกรณีที่มีลูกบ้านที่ติดเชื้อระดับสีเขียวและประสงค์ที่จะกักตัวและรักษาตัวแบบโฮม ไอโซเลชั่น เพื่อช่วยลดปัญหาการขาดแคลนเตียงสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการหนัก

พลัสฯ จึงได้เพิ่มการดูแลช่วง โฮม ไอโซเลชั่นผ่าน 4 มาตรการหลัก – ตรวจสอบ, ติดตาม, ประสานงาน, ดูแล ดังนี้ 1.ตรวจสอบ สรุปจำนวนและข้อมูลผู้ติดเชื้อในโครงการ รวมทั้งขอเบอร์ติดต่อญาติหรือผู้ติดต่อในกรณีฉุกเฉิน เตรียมพร้อมเบอร์ติดต่อโรงพยาบาลที่ดูแลลูกบ้านผู้ป่วยแบบ โฮม ไอโซเลชั่น2.ติดตาม โดยทีมนิติบุคคลมีการโทรหาลูกบ้านหรือติดต่อผ่านแอพพลิเคชั่นในทุก ๆ วัน เพื่อสอบถามอัพเดตอาการ

3.ประสานงาน ช่วยประสานติดต่อสถานพยาบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีลูกบ้านที่เป็นผู้ป่วยมีอาการทรุด รวมทั้งช่วยอำนวยความสะดวกด้านการใช้ชีวิตในเรื่องต่าง ๆ ในระหว่างการ โฮม ไอโซเลชั่นและ 4.ดูแล ด้านการช่วยรับอาหาร พัสดุ และของใช้จำเป็นของลูกบ้าน และนำไปส่งถึงหน้าห้องพัก และมีการทำความสะอาดเข้มข้นในบริเวณโถงทางเดินในชั้นดังกล่าว มีตารางการเก็บขยะถึงหน้าห้องพัก รวมทั้งมีการมอบน้ำเปล่า และเตรียมจัดหาฟ้าทะลายโจรให้ลูกบ้านที่รักษาแบบโฮม ไอโซเลชั่นอีกด้วย

นอกจากนี้ยังตั้งการ์ดเชิงรุกและยังคงเข้มข้นมาตรการดูแลป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในโครงการอย่างเคร่งครัด มีการตรวจคัดกรองก่อนเข้าพื้นที่โครงการ ทำความสะอาดและพ่นฆ่าเชื้อในโครงการ มีมาตรการเคลื่อนย้ายส่งตัวผู้ป่วย มีการอัพเดตข่าวสารสถานการณ์โควิด-19 ผ่านป้ายประกาศและโฮม เซอร์วิส แอพพลิเคชั่น รวมทั้งมีการให้ข้อมูลและเบอร์ติดต่อแนะนำสถานพยาบาลและ Hospitel ใกล้เคียง รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น กิจกรรม LIVE พูดคุยกับนักจิตบำบัดลดความกังวลใจช่วงโควิด หรือการแบ่งปันผักผลไม้และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากวัตถุดิบในสวนโครงการ นอกจากนี้พลัสฯ ยังมีการปลูกพืชสมุนไพรอย่างฟ้าทะลายโจรและกระชายในกว่า 230 โครงการอีกด้วย เพื่อเตรียมนำไปแปรรูปและแจกจ่ายให้ลูกบ้านในอนาคต

"พลัสฯ พร้อมเดินหน้าสนับสนุนโครงการ No One Left Behind #แสนสิริไม่ทอดทิ้งใคร โดยร่วมมือกับแสนสิริในการให้ความช่วยเหลือและดูแลทุกครอบครัวในโครงการที่อยู่อาศัย ซึ่งพนักงานพลัสฯ ทุกคนอยู่ในกลุ่ม Vaccinated ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 100% เรียบร้อยแล้ว จึงมีความพร้อมในการดูแลให้ความช่วยเหลือลูกบ้าน ล่าสุดเรามีการนำฟ้าทะลายโจรมาแบ่งปันมอบให้ลูกบ้านที่เป็นผู้ป่วยโฮม ไอโซเลชั่นในโครงการ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เราได้มาจากการอุดหนุนเกษตรกร ช่วยสนับสนุนกระจายรายได้ให้ผู้ค้าขายรายย่อยเพื่อดูแลทุกคนในโครงการที่อยู่อาศัยของเราให้เป็นคอมมูนิตี้ที่ปลอดภัย และจะต้องรอดไปด้วยกัน" นางสาวนฤมล กล่าว
#3749


เมื่อวันที่ 14 ส.ค. แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่าโรงพยาบาลสนามราชานุกูล เพื่อเด็กพิเศษและครอบครัวได้จัดตั้งภายในสถาบันราชานุกูลใช้พื้นที่บริเวณโรงเรียนราชานุกูล 2 อาคาร เบื้องต้นสามารถ รองรับผู้ป่วยได้จำนวน 100 เตียง ถือเป็นโรงพยาบาลสนามเฉพาะเด็กพิเศษ และครอบครัวแห่งแรกที่ติดเชื้อโควิดแต่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อยซึ่งจะให้การดูแลเด็กพิเศษอายุ 3-13 ปี พร้อมสมาชิกในครอบครัวที่อายุไม่เกิน 60 ปี

อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดและการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยรอบที่ 3 มีเด็กและวัยรุ่น เพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 14 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดในประเทศไทยสาเหตุมาจากรูปแบบการแพร่ระบาดเปลี่ยนจากคลัสเตอร์สถานบันเทิง คลัสเตอร์แรงงานมาเป็นการติดเชื้อภายในครอบครัวแทน

อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวย้ำว่าเด็กพิเศษเมื่อเจ็บป่วยต้องได้รับความรักและความใส่ใจจากคนใกล้ชิดร่วมกับทีมแพทย์ โรงพยาบาลสนามแห่งนี้จึงมีความพิเศษที่จัดรูปแบบการรักษาใกล้เคียงกับบ้านให้มากที่สุดทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและผู้ที่เด็กคุ้นเคย
ด้านแพทย์หญิงมธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กล่าวถึงความสำเร็จของการตั้งโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ ว่าเป็นการประสานความร่วมมือหลายภาคส่วนประกอบด้วยกรุงเทพมหานครสนับสนุนด้านอาคารสถานที่และสิ่งแวดล้อมให้ได้ มาตรฐานบับเบิ้ลแอนด์ซีล (Bubble & Sealed) ภาคเอกชนสนับสนุนนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกระหว่าง รักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม อาทิโปรแกรมแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ระบบกรองเชื้อระบายอากาศ เครื่องฆ่าเชื้อยูวีซี ประจำห้องเพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อและฆ่าเชื้อและโปรแกรมครอบครัวแห่งสติเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันทางใจ

ขณะที่กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ทำหน้าที่ ในการประสานส่งต่อและให้ความช่วยเหลือด้านสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการในระหว่างที่เด็กพิเศษและครอบครัวพักรักษาตัว อยู่ในโรงพยาบาลสนามรวมทั้งแผนการให้ความช่วยเหลือและติดตามภายหลังหายจากอาการป่วยและปลอดเชื้อโควิดเดินทาง กลับสู่ชุมชน

กระทรวงสาธารณสุขโดยสถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิตเข้ามาดูแลผู้ติดเชื้อที่เป็นเด็กพิเศษร่วมกันกับสถาบันเด็ก แห่งชาติมหาราชินี และโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ที่ต้องการบริการแบบพิเศษด้วยการสนับสนุนทีมผู้ดูแลรักษามืออาชีพ ประกอบด้วย จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น กุมารแพทย์ อายุรแพทย์ พยาบาล ทีมสหวิชาชีพและเจ้าหน้าที่พร้อมปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยเพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิดเหมาะกับเด็กพิเศษและติดตามภาพถ่าย เอกซเรย์ปอดอย่างต่อเนื่องเพื่อเฝ้าระวังอาการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาที่พักรักษาตัวรวมทั้งวางแผนการส่งต่อกรณีฉุกเฉิน
โรงพยาบาลสนามราชานุกูลเพื่อเด็กพิเศษและครอบครัวพร้อมเปิดให้บริการในวันเสาร์ที่14 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป

ครอบครัวที่มีเด็กพิเศษ (สติปัญญาบกพร่อง ออทิสติก สมาธิสั้น และบกพร่องการเรียนรู้) ที่ผลตรวจโควิดด้วย Antigen test kit เป็นบวกสามารถติดต่อสำหรับประสานส่งต่อเข้าโรงพยาบาลสนามฯ ได้ที่ 084-107-8129 , 065-885-0584 และ 097-078-0696
#3750


บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เดินหน้าปรับลดอัตราค่าบริการ EMS ในประเทศสูงสุด 20% ตามเงื่อนไขส่งสิ่งของ/พัสดุ ในปริมาณตั้งแต่ 2-20 กิโลกรัม เพื่อแบ่งเบารายจ่ายของผู้ใช้บริการและลดความเสี่ยงในการออกนอกบ้านเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19

นายดนันท์  สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า บริการ EMS ส่งด่วนทั่วไทยเป็นบริการที่ตอบโจทย์ประชาชนและร้านค้าออนไลน์ ช่วยพลิกฟื้น SMEs ไทยให้ไปต่อได้ในภาวะวิกฤติ

นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังได้ปรับปรุงฟีเจอร์บริการใหม่ เพื่อรองรับปริมาณการส่งสิ่งของที่มากขึ้น ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบสถานะได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะเริ่มให้บริการในวันที่ 14 สิงหาคม 2564



เขาดล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ได้ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจค้าขาย ต้องปรับตัวมาขายสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น ในทางกลับกันผู้บริโภคที่ต้องพักอาศัยอยู่ที่บ้าน ได้หันมาสั่งของผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นจากเดิม

ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงในการออกนอกบ้าน ไปรษณีย์ไทยจึงปรับลดอัตราค่าบริการ EMS ในประเทศ ให้แก่ผู้ใช้บริการที่มีปริมาณการส่งสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก โดยอัตราค่าบริการที่ปรับลดลงมีเงื่อนไขเฉพาะการจัดส่งตั้งแต่น้ำหนักเกิน 2 กิโลกรัม จนถึง 20 กิโลกรัม ซึ่งในแต่ละพิกัดน้ำหนักปรับลดสูงสุด 20% ถือเป็นการปรับลดอัตราค่าบริการครั้งใหญ่ ตั้งแต่ที่มีการเปิดให้บริการ EMS มา

นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังได้พัฒนาฟีเจอร์ของตัวบริการให้มีความรวดเร็วและผู้ใช้บริการใช้งานได้อย่างคล่องตัวขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การใช้ระบบเทคโนโลยีแบบ Real Time ด้วยการแจ้งเตือนผู้รับก่อนการนำจ่าย และการ Pick Up รับฝากถึงที่อยู่ได้ไวขึ้น

ผ่านช่องทาง Line @Thailandpost มีการกำหนดมาตรฐานการจัดส่งในปลายทาง กทม. ให้ถึงภายในวันเดียวหรือไม่เกินวันรุ่งขึ้น และพื้นที่ต่างจังหวัดภายใน 1-3 วัน   เพิ่มโอกาสในการขายด้วยการเรียกเก็บเงินปลายทาง (COD) โดยสามารถเลือกการรับเงินผ่านระบบกระเป๋าเงินไปรษณีย์ (Wallet@post) หรือโอนเข้าบัญชีธนาคารได้โดยตรง ซึ่งจะมีระบบการแจ้งเตือนสถานะสิ่งของที่อยู่ระหว่างดำเนินการผ่านระบบ Wallet@post หรือ SMS

รวมถึงสามารถเลือกรับสิ่งของได้หลากหลายช่องทาง หากไม่อยู่บ้านหรือไม่สะดวกรับของที่บ้านเมื่อมีการฝากส่งสิ่งของ สามารถไปรอรับได้ที่ ตู้ iBox หรือ Box 24 ที่ตั้งอยู่ในจุดที่มีการเดินทางได้ง่ายและกระจายอยู่ครอบคลุมในย่านใจกลางเมือง โดยไปรษณีย์ไทยปรับระยะเวลาในการสอบสวนภายใน 5 วันทำการ หากสิ่งของได้รับความเสียหาย/สูญหายจะได้รับอัตราการชดใช้ทันทีไม่เกิน 2,000 บาท/ชิ้น
#3751


โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักเทนนิสขวัญใจแฟนๆ ตลอดกาล ฉลองวันเกิดอายุ 40 ปีไปเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา ก่อนบอกข่าวร้ายว่ายังไม่มีกำหนดกลับคืนสังเวียนเทนนิสเร็วๆ นี้

เฟเดอเรอร์ เพิ่งลงสนามไปเพียง 13 แมตช์ ในปี 2021 หลังมีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าจนต้องเข้ารับการผ่าตัด และไม่ได้ลงแข่งมหกรรมโอลิมปิก 2020 ให้กับทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์

ด้วยวัยที่เพิ่มขึ้นแตะหลัก 4 ทำให้ "เฟดเอ็กซ์" ต้องยอมรับความจริงว่าการฟื้นฟูร่างกายนั้นไม่เร็วเท่าสมัยหนุ่ม จนไม่สามารถบอกแน่ชัดได้ว่าจะกลับมาลงสนามหวดแร็กเก็ตได้เมื่อไหร่

"ผมสบายดี ได้หยุดพักผ่อน แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมาสักพักแล้วเพราะอาการที่หัวเข่า ดังนั้นผมเลยต้องหยุดทำทุกอย่างตั้งแต่จบศึกวิมเบิลดัน ซึ่งสัปดาห์นี้ต้องไปพบแพทย์และทีมงาน แล้วมาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ซึ่งทุกอย่างก็ยังไม่มีอะไรแน่นอน"

"ทุกอย่างมันต่างไปจากเดิม คำถามก็มีแต่เรื่องง่ายๆ อันดับโลกของผมเป้นยังไง แล้วจะกลับมาแข่งรายการไหน ผมรู้สึกอย่างไรเมื่อจะได้กลับไปซ้อม เป้าหมายคืออะไร ถึงจะกระตือรือร้นกว่าแต่ก่อน แต่ก็ตอบได้ยากอยู่เหมือนกัน"
#3752


บมจ. ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น แจ้งผลงานไตรมาส 2/64 กำไรสุทธิ 220.6ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 35.5 % เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และขยายตัวเพิ่มขึ้น 9.4% จากไตรมาสที่แล้ว โดยไตรมาสนี้มีรายได้รวม 858.3 ล้านบาท บริษัทฯ สร้างยอดขายประกันภัยได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ทุกช่องทาง และยังมีรายได้จากประกันโควิดที่เติบโตตามความต้องการของตลาด เบี้ยประกันภัย COVID-19 ทำได้เกือบ 700 ล้านบาท มั่นใจปีนี้ทำยอดขายได้ตามเป้า 25,000 ล้านบาท ยังคงเดินหน้าบุกผลิตภัณฑ์ประกันออนไลน์เต็มรูปแบบด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตอบโจทย์ความต้องการประกันของผู้บริโภคในทุกมิติ พร้อมเปิดตัว Innovative ในการเลือกซื้อประกันภัยบ้านเร็วๆ นี้


ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM ผู้นำด้านที่ปรึกษาประกันภัยและการเงิน เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2564 ว่า บริษัท ฯ มีกำไรสุทธิ 220.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.5% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีรายได้รวม 858.3 ล้านบาท โดยเฉพาะรายได้ค่าบริการ จำนวน 835.7 ล้านบาท บริษัทฯ สร้างยอดขายประกันภัยได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ทุกช่องทาง และยังมีรายได้จากประกันโควิดทั้งจากการต่ออายุและที่เติบโตตามความต้องการของตลาดที่ในไตรมาสนี้มีความตื่นตัวของการทำประกันภัยโควิดในวงกว้าง เบี้ยประกันภัยโควิด ทำได้เกือบ 700 ล้านบาท โดยช่องทางหลักยังเป็นช่องทางออนไลน์ ทำให้บริษัทมีฐานลูกค้าสะสมกว่า 2 ล้านราย

ขณะเดียวกัน บริษัท ฯ ยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยต้นทุนและค่าใช้จ่ายการให้บริการคิดเป็น 45.7% ของรายได้รวม หรือลดลง 2.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 48.4.% ของรายได้รวม ส่งผลให้บริษัท ฯ สามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ไว้ได้ในระดับสูงที่ 53.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารอยู่ที่ 188 ล้านบาท คิดเป็น 21.9% ของรายได้รวม

ดร.อัญชลิน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวโน้มการเติบโตในครึ่งหลังของปี 2564 คาดว่าสามารถปิดยอดขายตามเป้า 25,000 ล้านบาท ทั้งนี้มั่นใจว่าแม้ภาวะเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบจากโควิด แต่ประกันภัยยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้บริโภค เพราะเมื่อเกิดเหตุประกันจะมาช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคได้ ขณะเดียวกันผู้บริโภคก็เห็นความสำคัญของประกันสุขภาพมากขึ้น ซึ่งเห็นได้จากการตื่นตัวในการทำประกันโควิดซึ่งจะเป็นประสบการณ์ที่ผู้บริโภคสัมผัสได้จริงว่าประกันสามารถช่วยแบ่งเบาภาระได้

ขณะเดียวกันบริษัท ฯ ยังคงเดินหน้าบุกผลิตภัณฑ์ประกันออนไลน์เต็มรูปแบบด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตอบโจทย์ความต้องการประกันของผู้บริโภคในทุกมิติ ซึ่งบริษัทมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันให้เหมาะสมกับ Lifestyle ของผู้บริโภค และครอบคลุมได้ทุก Segment เต็มรูปแบบ โดยบริษัทพร้อมเปิดตัว Innovative ในการเลือกซื้อประกันภัยบ้านเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ช่องทางเทเลที่ทางหลักของบริษัทก็ได้มีการวางระบบการทำงานแบบ Work from home ไว้รองรับตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้สามารถขายประกันได้ไม่หยุดชะงัก รวมทั้งงานบริการก็ยังสามารถให้บริการลูกค้าได้เต็มรูปแบบ ขณะที่ช่องทางออนไลน์บริษัทมีฐานลูกค้ากว่า 2 ล้านราย ซึ่งบริษัทสามารถต่อยอดจากฐานลูกค้าได้ โดยเฉพาะประกันสุขภาพที่เป็นผู้บริโภคให้ความสนใจกันมากยิ่งขึ้น ดร.อัญชลิน กล่าว
#3753


หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยข้อมูลทิศทางราคาน้ำมันดิบระยะสั้นปรับลด หลังกังวลความต้องการใช้น้ำมันอาจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ จากผลกระทบของโควิด-19 โดยมีปัจจัยที่ส่งผมมาจาก ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงเล็กน้อย หลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในหลายประเทศ อาทิเช่น จีน ส่งผลให้ IEA หวยออนไลน์ ปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันในครึ่งปีหลังลง 0.55 ล้านบาร์เรลต่อวันจากการคาดการณ์ในรายงานฉบับก่อนหน้า โดยทั้งปี 2564 ความต้องการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้นราว 5.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลง 0.1 ล้านบาร์เรลต่อวันจากรายงานฉบับก่อนหน้า

รวมถึง สหรัฐฯ ออกมาเรียกร้องให้กลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในระยะยาวเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและเพื่อเป็นการควบคุมราคาน้ำมันเบนซินในประเทศสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ กลุ่มผู้ผลิตจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 1 ก.ย.



นอกจากนี้ ในรายงานประจำเดือน ส.ค. กลุ่มโอเปกคาดความต้องการใช้น้ำมันในปี 2564 จะเพิ่มขึ้นที่ระดับเดิมที่ 5.94 ล้านบาร์เรลต่อวัน แม้ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะเพิ่มขึ้น แต่เศรษฐกิจโลกยังคงเติบโตขึ้นต่อเนื่อง

โดยปิดตลาดเมื่อวันที่ 12 ส.ค.2564 ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อยู่ที่ 69.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 0.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 71.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 0.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ 70.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล


ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ พบว่า ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกจากเอเชียเหนือที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงหนุนจากตลาดน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ ที่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลงกว่า 1.1 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้า

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกจากเอเชียเหนือที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่อุปสงค์ชะลอตัวลงตามฤดูกาล นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์

โดยปิดตลาดเมื่อวันที่ 12 ส.ค.2564 ราคาน้ำมันเบนซิน อยู่ที่ 83.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดีเซล อยู่ที่ 74.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
#3754


"กรุงเทพธุรกิจ" สัมภาษณ์พิเศษ "ปกาสิต วัฒนา" กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบรนเนอร์จี้ จำกัด บริษัทที่ขับเคลื่อนด้วย "กลุ่มคนรุ่นใหม่" ที่เข้าใจและก้าวไปกับการเปลี่ยนแปลงของโลกเน้นคิด และดีไซน์ดิจิทัลโซลูชั่น เป็นบริษัทในเครือ เบญจจินดา โฮลดิ้ง

เบรนเนอร์จี้ (Brainergy) เป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วย "กลุ่มคนรุ่นใหม่" ที่เข้าใจและก้าวไปกับการเปลี่ยนแปลงของโลกเน้นคิด และดีไซน์ดิจิทัลโซลูชั่น ตอบโจทย์กลุ่มธุรกิจตั้งแต่ขนาดใหญ่จนถึงเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ เป็นบริษัทในเครือของบิ๊กคอร์ปชั้นนำของไทย ที่มีผลงานและชื่อเสียงเป็นที่ประจักษ์ในแวดวงธุรกิจมาอย่างยาวนานอย่าง "กลุ่มบริษัทเบญจจินดา โฮลดิ้ง จำกัด" 

นั่นทำให้ เบรนเนอร์จี้ มีโอกาสทำงานกับกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก ทำให้มีความเข้าใจภาพรวมของธุรกิจ และสามารถตอบโจทย์ได้หลายประเภทและหลายขนาดองค์กร เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้เกิดการพัฒนาโซลูชั่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

 โดยเฉพาะห้วงวิกฤติและความท้าทายใหม่ ที่ธุรกิจต้อง "รอด" และมีหนทางเดินไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน การทรานส์ฟอร์มไปสู่สิ่งที่ดีกว่า มีนวัตกรรมเป็นหัวใจหลักจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่สุด "ดิจิทัล โซลูชั่น" เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จะกรุยทางให้ทุกธุรกิจมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ 

"กรุงเทพธุรกิจ" สัมภาษณ์พิเศษ "ปกาสิต วัฒนา" กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบรนเนอร์จี้ จำกัด หัวเรือใหญ่คนรุ่นใหม่ไฟแรง ที่พร้อมดัน 3 ดิจิทัลโซลูชั่นหลัก SmartTAX  SmartFLOW และ SmartSIGN ช่วยทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ดิจิทัลในชั่วข้ามคืน พร้อมเป้ารายได้ 100 ล้านบาท ท่ามกลางวิกฤติรอบด้าน

ปลุกดิจิทัลทรานส์ฟอร์ม-วางเป้า100ล.

"ดิจิทัล โซลูชั่น ของเบรนเนอร์จี้ ถูกพัฒนาขึ้นด้วยความมุ่งหวังให้ช่วยแก้ไข Pain Point ที่หลายองค์กรพบเจอให้หมดไป ไม่ว่าเป็นเรื่องการจัดการเอกสารที่มีความวุ่นวาย การทำข้อมูลภาษีที่มีความยุ่งยาก การลดขั้นตอนการทำงานที่มีความซ้ำซ้อน หรือ การลดสาเหตุต่างๆ ที่ทำให้การดำเนินการต่างๆ ในองค์กรเกิดความล่าช้า"

ปกาสิต บอกว่า เบรนเนอร์จี้ เน้นมาตรฐานการให้บริการที่ตอบโจทย์ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นแบบองค์กรขนาดใหญ่ นำองค์ความรู้ที่แตกต่างแต่ละสายธุรกิจ และความต้องการพื้นฐานที่เหมือนกันทุกธุรกิจมาประยุกต์ใช้เข้าด้วยกัน เพื่อลดจุดด้อยและเสริมจุดแข็งพัฒนาเป็นโซลูชั่น 

ขณะที่ ห้วงเวลาที่ทุกองค์กรเผชิญวิกฤติ เขายอมรับว่า เครือเบญจจินดาเป็นอีกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติที่ทุกคนเจอ ซึ่งทุกองค์กรล้วนได้รับผลกระทบมากน้อยที่ต่างกันไป  

"สำหรับเบรนเนอร์จี้ ผ่านเหตุการณ์มาตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปีนี้ เราต้องเรียนรู้ และสร้างโปรดักส์ ปีนี้เป้าหมายเราหวังไปแตะ 100 ล้าน แต่วันนี้จุดที่เรายืนอยู่ ยังเจอความท้าทาย ลูกค้าชะลอโปรเจคออกไป แต่ยังโชคดีที่มีลูกค้าหลายรายมากกว่า 10 โปรเจค ยังมองว่าการเกิดโควิดเป็นตัวกระตุ้นให้เขาต้องรีบทรานส์ฟอร์ม"



ปกาสิต ขยายความว่า เป้า 100 ล้านบาท หลักๆ มาจากกลุ่มลูกค้าเก่าที่เคย on board ไว้แล้ว และยังทำต่อในส่วนของเฟสถัดไป ซึ่งเบรนเนอร์จี้ พยายามสนับสนุนลูกค้าในทุกส่วนท่ามกลางวิกฤติ ให้ลูกค้าสามารถใช้งานดิจิทัลโซลูชั่นตอบโจทย์การทำงานในยุคนี้ได้จริง 

"ยอมรับว่าวันนี้กลุ่มลูกค้า มีทั้งต้องหยุดการทรานส์ฟอร์มเอาไว้ก่อน เพราะต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยเหตุผลวิกฤติ ต้องหยุดหรือปิดหน้าร้าน ธุรกิจดำเนินต่อไม่ได้ ขณะที่อีกกลุ่มที่เป็นกลุ่มพวกซัพพลาย กลุ่มนี้เป็นกลุ่มต้องการนำดิจิทัลโซลูชั่นเข้าไปใช้ และมองหาว่าอะไรที่ทำแล้วทำให้เขา Quick win ได้" 

ชู 3 ดิจิทัลโซลูชั่นบุกองค์กรทุกระดับ 

ปกาสิต มองว่า ทั้ง 3 ดิจิทัลโซลูชั่นหลัก ที่เป็นจะเป็นเรือธงของเบรนเนอร์จี้นับจากนี้ จะตอบโจทย์การทำงานในองค์กรต่างๆ ยุคนี้ได้ดี และช่วยลดต้นทุน ไม่ว่าจะเป็น โซลูชั่น SmartTAX ระบบจัดทำและนำส่งข้อมูลภาษีอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐานที่กรมสรรพากรกำหนด SmartFLOW ระบบการจัดการและขออนุมัติเอกสารออนไลน์ และ SmartSIGN ระบบลงลายมือชื่อดิจิทัล ซึ่งทั้ง 3 โซลูชั่นยังเป็นไปตามกฏหมายด้านธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด 

"กลุ่มลูกค้าหลักของเรา มีทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม รีเทล ประกันภัย ธนาคาร พลังงาน และเร็วๆ นี้จะเข้าไปมากขึ้นในกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี ซึ่งเรามองว่า เขามีศักยภาพในแง่ของการพัฒนาโปรดักส์ แต่จะดีมากหากมีระบบหลังบ้านที่ดี ธุรกิจจะเดินไปเร็วขึ้นตรงนี้เป็นโรดแมพของเรา"

มอง"คลาวด์"โตสะพัด3หมื่นล. 

ปกาสิต ยังมองเทรนด์ของการใช้คลาวด์ในยุคนี้ด้วยว่า ถือเป็นอินฟราฯ สำคัญของดิจิทัลโซลูชั่นต่างๆ ว่ายังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในไทยน่าจะมีเม็ดเงินมากกว่า 30,000 ล้านบาท และมองว่าวิกฤติจะเป็นตัวเร่งให้เกิดการใช้คลาวด์เพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาลในภาคธุรกิจ 

"เราจะพบว่าการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยทำงานในองค์กร ทั้งรวดเร็ว สะดวก ปลอดภัย รวมถึงการ save cost และช่วยตอบโจทย์ pain point ทั้งในเรื่อง Process การทำงานรูปแบบเดิมและการทำงานในสถานการณ์โควิดแล้ว ในอนาคต หลังจากนี้ หากมีการเร่งให้เกิดดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น ได้ทุกภาคส่วน ก็น่าจะเกิด การทำงานที่คล่องตัวและฉับไว้ได้มากยิ่งขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน-รัฐ เอกชน-เอกชน หรือรัฐ-รัฐ เพราะข้อมูลทุกอย่างจะถูกคุยกันบนแพลตฟอร์มดิจิทัล"

ขณะเดียวกัน เขาย้ำว่า สิ่งหนึ่งที่เบรนเนอร์จี้พยายามทำ คือ การดีไซน์โซลูชั่นที่จะเน้นการดีไซน์บายลอว์ ไม่ได้เน้นดีไซน์บายแพชชั่น ซึ่งอาจต่างจากสตาร์ทอัพ หรือบริษัทรายอื่น คือ มีแพชชั่นมาแล้วคิดว่าอยากจะทำ 

"เรามองว่าถ้าเราจะเสิร์ฟ และโฟกัสในส่วนของ document management ต่างๆ มันต้องปฏิบัติตามกฏหมาย ซึ่งไม่ใช่แต่กฏหมายในไทยแต่ต้องมองไปถึงกฏหมายในต่างประเทศด้วย" 
#3755


ชมรมแพทย์ชนบท  ออกมาเปิดเผย รายงานการวิจัยการประเมินคุณภาพ ของ ชุดทดสอบ Lepu Medical SARS CoV2 Antigen Test ใน Nasopharyngeal swab และ Saliva เปรียบเทียบกับวิธีมาตรฐาน Real Time PCR ในประเทศปากีสถาน
ได้รับการตีพิมพ์ ในวารสาร Virology Journal เมือวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 วารสาร Virology Journal นี้เป็นวารสารที่มีชื่อเสียงระดับโลกและมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับจากนักวิจัยทั่วโลกอีกด้วย

วิธีวิจัย

การวิจัยนี้ผู้เขียนคือนักวิจัย ในนามสถาบัน Isalamabad Diagnostics Center โดยทําการวิจัยที่เมือง Isalamabad และ Ralwalpindi
เมื่อวันที่ 3-10 ตุลาคม 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการประเมิน
คุณภาพและประสิทธิภาพของชุดทดสอบโควิดแอนติเจนยี่ห้อ Lepu Medical SARS CoV 2 antigen ในสิ่งส่งตรวจ Nasopharyngeal swab และ นํ้าลาย โดยทําการทดสอบในประชากรกลุ่มเสี่ยง, บุคลากรทางการแพทย์,ผู้ต้องขัง ,ช่างตัดผม,กลุ่มสัมผัสใกล้ชิด และประชากรทั่วไป ทั้งหมดจํานวน 33,000 คน เป็นผู้ติดเชื้อโควิดที่ให้ผลบวก 100 คน ที่ยืนยันโดยวิธี Real Time PCR แบบ 3 gene ที่ได้รับมาตรฐาน USFDA approval โดย
ผลการวิจัยนี้จะนํามาซึ่งข้อมูลประสิทธิภาพการใช้ชุดตรวจนี้ในโครงการคัดกรองการติดเชื้อในระดับประเทศในลําดับถัดไป

ผลการวิจัย

พบว่าชุดทดสอบ Lepu Medical SARS CoV 2 antigen ให้ผลความไว 52% เมื่อตรวจ กับ Nasopharyngeal Swab ซึ่งให้ผลลบปลอมที่ 48% และมีความไวที่21% เมื่อตรวจในนํ้าลายโดยมีผลลบ
ปลอมที่ 79% โดย มีผลลบปลอมอยู่ที่ 100% เมื่อใช้ตรวจในนํ้าลายเด็ก เปรียบเทียบผลกับวิธีมาตรฐาน RealTime PCR ซึ่งให้ผล False negative ที่มีนัยสําคัญ


สรุปผลการวิจัย

พบว่า การใช้ชุดทดสอบ Lepu Medical SARS CoV 2 antigen ที่ตรวจใน Nasopharyngeal swab จะให้ผลความถูกต้องมากว่าการตรวจจากนํ้าลายมากถึง 2.5เท่า โดยชุดทดสอบ นี้ให้ผล ความไว ที่ 52 % เมื่อ
ทดสอบกับ Nasopharyngeal swab หมายถึงชุดทดสอบมีโอกาสเกิดผลลบปลอมที่ 48% ซึ่งผู้วิจัยพบว่า
โรงงานผู้ผลิตมีการรายงานความไวชุดทดสอบไว้ที่ 90% ดังนั้นพบว่าชุดทดสอบให้ผลระดับความไวตํ่ากว่าตัวเลขความไวที่รายงานโดยบริษัทผู้ผลิตเองซึ่งสอดคล้องกับผลวิจัยในประเทศจีน ( งานวิจัยชื่อDiagnosis of AcuteRespiratory Syndrome Coronavirus 2 infection by detection Nucleocapsid Protein:2020 ) ที่ให้ผลความไวการทดสอบที่ 68% เท่านั้น นอกจากนี้ยังพบว่าชุดทดสอบมีความไว ที่ 21% เมื่อใช้ตรวจกับนํ้าลาย
ผู้ใหญ่ และ มีความไว 0% เมื่อใช้ตรวจกับนํ้าลายเด็ก ซึ่งให้ผลลบปลอมสูงถึง 79%-100%

บทสรุปจากงานวิจัย

ทําให้ทาง ประเทศปากีสถานมีความหวาดกลัวและคิดว่า ATK ยี่ห้อ Lepu Medical SARS CoV 2 antigen ไม่เหมาะที่จะนํามาใช้ในโครงการการตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อในประเทศด้วยเหตุผลที่ชุดทดสอบให้ความไวตํ่าที่จะ
นํามาซึ่งผลลบปลอมที่สูงมากทั้งการตรวจใน Nasopharyngeal swab และตรวจในนํ้าลาย เมื่อนํามาใช้งานภาคสนามจริงๆ
#3756


ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14.88 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 35,499.85 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 13.13 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 4,460.83 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 51.13 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 14,816.26 จุด

แอ๊ปเปิ้ล อิงค์ ไมโครซอฟต์ อเมซอนดอทคอม อัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล และเฟซบุ๊ค ซึ่งมีมูลค่าตลาดคิดเป็นราวๆ 1 ใน 4 ของเอสแอนด์พี 500 เป็นแกนนำเอสแอนด์พี 500 และแนสแด็ก เคลื่อนไหวในแดนบวก ส่วนดัชนีดาวโจนส์ แกว่งตัวขึ้นมาทุบสถิติสูงสุดในช่วงท้ายของการซื้อขาย


นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากความเคลื่อนไหวในแดนบวกของหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง เทสลา อิงค์ เอ็นวิเดีย คอร์ป และโมเดอร์นาอิงค์ แม้หุ้นส่วนใหญ่ในตลาดจะปรับตัวลดลงมากกว่าปรับตัวขึ้นก็ตาม

การซื้อขายยังได้รับอิทธิพลจากการที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 12,000 ราย สู่ระดับ 375,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานยังคงฟื้นตัวแม้มีความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา

ขณะเดียวกัน ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 1% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.6%

มื่อเทียบรายปี ดัชนีพีพีไอพุ่งขึ้น 7.8% ในเดือนก.ค. หลังจากที่ขยายตัว 7.3% ในเดือนมิ.ย. แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2553

ส่วนดัชนีพีพีไอพื้นฐาน ที่ไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดีดตัวขึ้น 1% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และพุ่งขึ้น 6.2% เมื่อเทียบรายปี
#3757


"สถาบันการเงิน" ภายใต้กฎหมาย "คุ้มครองเงินฝาก" จะได้รับความคุ้มครองเงินฝากตามกฎหมายคุ้มครองเงินฝากลดลงมาอยู่ในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อสถาบันการเงิน จากเดิมที่คุ้มครองในวงเงิน 5 ล้านบาท ตั้งแต่ 11 ส.ค. 64 เป็นต้นไป

มีการตั้งข้อสังเกตว่าการปรับลดการคุ้มครองเงินฝากหวยออนไลน์ในครั้งนี้ กำลังบ่งบอกว่าสถาบันการเงินกำลังสั่นคลอนหรือไม่ ทว่าตามหลักการและข้อมูลที่ปรากกฎในตอนนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น

การลดการคุ้มครองเงินฝากเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง เมื่อเห็นควรว่าต้องมีการปรับลดการคุ้มครองเงินฝากลงตามสถานการณ์ทางการเงินของประเทศ ปัจจัยอื่นๆ ทำให้ก็มีการเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ ตามยุคสมัย

"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" พาไปดูการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับการฝากเงิน ที่คนที่กำลังฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ทั้งหลายต่อรู้ หลังจากที่มีการลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือ 1 ล้านบาท ที่คนฝากเงินต้องรู้

 1. สถาบันคุ้มครองเงินฝาก เกี่ยวข้องกับผู้ฝากเงินอย่างไร ? 

"สถาบันคุ้มครองเงินฝาก" จะมีบทบาท เมื่อสถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต โดยจะทำการจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้ฝากเงินตามวงเงินคุ้มครองไปก่อน โดยผู้ฝากไม่ต้องรอให้กระบวนการชำระบัญชีเสร็จสิ้น

หมายความว่า เมื่อธนาคารที่ฝากเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต ประชาชนจะได้รับวงเงินตามเกณฑ์คุ้มครอง คืนโดยเร็ว จากสถาบันคุ้มครองเงินฝาก โดยปัจจุบันจะไ้ด้รับวงเงินคืนไม่เกิน 1 ล้านจาก สถาบันคุ้มครองเงินฝาก 

พูดง่ายๆ ก็คือ เมื่อธนาคารที่เราฝากเงินล้ม เนื่องจากเพิกถอนใบอนุญาต ประชาชนที่ฝากเงินจะได้รับเงินส่วนที่ฝากอยู่คืนครบทั้งหมด ตามวงเงินที่ "สถาบันคุ้มครองเงินฝาก" กำหนดนั่นเอง



 2. คุ้มครองเงินฝากสูงสุดเท่าไร ? 

ผู้ฝากเงินในสถาบันการเงินภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝาก จะได้รับความคุ้มครองเงินฝากตามกฎหมายคุ้มครองเงินฝาก ในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นวงเงินที่กำหนดตามกฎหมาย 

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่มีกฎหมายการคุ้มครองเงินฝากในประเทศไทย ก็มีการลดความคุ้มครองลงเรื่อยๆ จากเดิมก่อน 10 ส.ค. 2554 มีการคุ้มครองเงินฝากในบัญชีเงินฝากของผู้ฝากเงินที่เป็นเงินสกุลบาทแบบ "เต็มจำนวน" 

นับตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. 2554 เป็นต้นมาจนถึงวันที่ 10 ส.ค. 2555 ลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากลงมาเหลือไม่เกิน 50 ล้านบาท

ตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. 2558 เป็นต้นมา ลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากลงเหลือไม่เกิน 25 ล้านบาท และปรับลดลงมาเรื่อยๆ ดังนี้ 

11 ส.ค. 58 - 10 ส.ค. 59 วงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือไม่เกิน 25 ล้านบาท

11 ส.ค. 59 - 10 ส.ค. 61 วงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือไม่เกิน 15 ล้านบาท

11 ส.ค. 61 - 10 ส.ค. 62 วงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือไม่เกิน 10 ล้านบาท

11 ส.ค. 62 - 10 ส.ค. 64  วงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือไม่เกิน 5 ล้านบาท

11 ส.ค. 64 เป็นต้นไป วงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือไม่เกิน 1 ล้านบาท


 3. การคุ้มครองเงินฝาก ครอบคลุมสถาบันการเงินใดบ้าง ? 

การคุ้มครองเงินฝากโดยสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ครอบคลุม ธนาคารพาณิชย์ไทย 18 แห่ง สาขาธนาคารต่างประเทศ 12 แห่ง บริษัทเงินทุน 2 แห่ง และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ 3 แห่ง รวมทั้งสิ้น 35 แห่ง

ตรวจสอบรายชื่อสถาบันการเงินที่มีการคุ้มครองเงินฝาก คลิกที่นี่ 

 

 4. สถาบันการเงินที่ไม่อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝาก 

สถาบันการเงินที่ไม่อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝาก เนื่องจากมีรัฐบาลเป็นผู้คุ้มครองเงินฝากให้ หากสถาบันการเงินดังกล่าวเกิดปัญหาขึ้นรัฐบาลจะเป็นผู้ดูแลเอง ประกอบด้วย 4 ธนาคาร ได้แก่ 

- ธนาคารออมสิน

- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

- ธนาคารอาคารสงเคราะห์

- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

 5. การคุ้มครองเงินฝาก ไม่ได้คุ้มครองทุกประเภทบัญชี 



 6. ผู้ได้รับผลกระทบจากการลดความคุ้มครองเงินฝากจาก 5 ล้านเหลือ 1 ล้านบาท 


การคุ้มครองเงินฝาก ณ ทีนี้จะคุ้มครอง บัญชีเงินฝาก 5 ประเภท ได้แก่ 

1) เงินฝากกระแสรายวัน
2) เงินฝากออมทรัพย์
3) เงินฝากประจำ
4) บัตรเงินฝาก 
5) ใบรับฝากเงิน

ไม่คุ้มครองบัญชีเงินฝากบางประเภท และบัญชีอื่นๆ เช่น

- เงินฝากประเภทที่เป็นเงินตราต่างประเทศ
- เงินลงทุนในตราสารต่าง ๆ เช่น พันธบัตร หุ้นกู้ หน่วยลงทุน (SSF, RMF)
- เงินฝากในสหกรณ์
- แคชเชียร์เช็ค ตั๋วแลกเงิน
- เงินอิเล็กทรอนิกส์ 
- ผลิตภัณฑ์ประกันประเภทออมทรัพย์ ที่ออกโดยบริษัทประกัน


 7. ผู้ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการลดความคุ้มครองเงินฝากจาก 5 ล้านเหลือ 1 ล้านบาท 


 8. วิธีปฏิบัติเมื่อสถาบันการเงินที่มีเงินฝากอยู่ ถูกเพิกถอนใบอนุญาต 

เมื่อกระทรวงการคลังประกาศเพิกถอนใบอนุญาตสถาบันการเงิน ผู้ฝากเงินไม่ต้องดำเนินการใด ๆ และไม่จำเป็นต้องมายื่นคำขอรับเงินแต่อย่างใด โดยสถาบันคุ้มครองเงินฝากจะทำหน้าที่จ่ายคืนเงินให้กับผู้ฝากภายใน 30 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด 


 9. บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่ผูกไว้กับบัญชีกองทุนหรือประกัน ได้รับความคุ้มครองหรือไม่ ? 

บัญชีเงินฝากที่ผูกไว้กับบัญชีกองทุนหรือประกัน จะได้รับความคุ้มครองเฉพาะในส่วนของเงินฝากออมทรัพย์


 10. วิธีดูว่าสถาบันการเงินที่เราฝากเงินยังมีสุขภาพดีหรือไม่ 



ที่มา: dpa.or.th สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ธนาคารแห่งประเทศไทย
#3758
 ข้าวorganic   ข้าวออร์แกนิคส่งทั่วไทย #ข้าวออแกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิก หรือ "#ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (#OranicRice)
ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก (#OranicFood) หรือเรียกง่ายๆเป็นภาษาไทยว่า "ข้าวเกษตรอินทรีย์" หรือ "ข้าวอินทรีย์" /  ข้าวมะลินิลออแกนิคสำหรับทารก คือ ข้าวที่ผ่านการผลิตทางการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือวัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น (รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์ ข้าวที่ไม่ตัดต่อทางพันธุกรรม) กระบวนการผลิตข้าวไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ก่อนการปลูกข้าวจะต้องเตรียมหน้าดินก่อนด้วยวิธีธรรมชาติ ทุกขั้นตอนการผลิตข้าวจะไร้สารปนเปื้อนที่เกิดมนุษย์ จะไม่ผ่านการฉายรังสี ไม่เพิ่มเติมสิ่งปรุงแต่งลงไปในข้าว 




  กลุ่มข้าวหอมมะลิอินทรีย์ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก หรือ "ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (Oranic Rice)   ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิคสำหรับทารก คืออะไร?
1. ส่วนประกอบทุกอย่างล้วนมากจากธรรมชาติ โดยข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ ในการเพาะปลูก ข้าวปะกาอำปึลออแกนิคคือเลย ข้าวก็จะถูกปลูกและเจริญเติบโตมาด้วยอาหารจากธรรมชาติล้วน ๆ ส่วนข้าวก็จะเป็นการปลูกในนา ไม่ใส่วัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ใช้แต่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกจากธรรมชาติในการเพาะปลูกข้าว ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่นำมาเพาะปลูกจะต้องไม่มีตัดต่อพันธุกรรม และต้องมีการเตรียมหน้าดินก่อนการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีธรรมชาติ คือ จะต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี เหล่านี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการสร้างอาหารแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง 100% มีกลิ่นหอมตามแบบธรรมชาติ ทุกขั้นตอนในการปลูกข้าวและการแปรรูปข้าวจะต้องอยู่ในมาตรฐานที่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ส่วนประกอบทุกอย่างจึงสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษตกค้างหรือสารก่อมะเร็ง
2. ข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ เลย ส่วนประกอบทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ เพราะถ้ามีการใช้สารเคมีก็จะไม่ถือว่าเป็นข้าวออแกนิค ซึ่งการไม่ใช้สารเคมีที่ว่านั้นหมายถึง การไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี 
3. ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการปลูก  ขายข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์ เพราะข้าวออแกนิคนั้น นอกจากจะมุ้งเน้นให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีแล้ว จุดประสงค์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการช่วยลดมลพิษให้กับธรรมชาติ เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้สารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารเร่งการเจริญเติบโตต่าง ๆ นั้นจะก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในดิน ในน้ำ และในอากาศ ซึ่งกว่าจะย่อยสลายไปได้บางทีก็อาจใช้ระยะเวลาเป็นสิบ ๆ ปี ซึ่งวิธีการปลูก  ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลินิล แบบธรรมชาตินี้เองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไป เพราะนอกจากจะได้รับประทานข้าวที่ปลอดสารพิษแล้ว ยังช่วยลดมลพิษต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ข้าวกล้องเกษตรอินทรีย์หอมมะลิแดง
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://xn--12cbh7f2bxa6ba6b0a4lsdyb.net/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวหอมมะลิสุขภาพ
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิค
3.  ข้าวกล้องปะกาอำปึลออร์แกนิค
4.  ขายข้าวสารหอมมะลิผสมหลายสายพันธุ์ จ.สุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออร์แกนิก6.  ข้าวกล้องเกษตรอินทรีย์หอมมะลินิล7.  ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์กรมการข้าว


#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์  #ข้าวออแกนิคสุรินทร์  #ข้าวออแกนิกสุรินทร์   #ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  #ข้าวสุขภาพสุรินทร์
 
 
#3759


วันที่ 11 ส.ค. 2564 รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและวัยรุ่น ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม ร่วมสนทนาในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "วิกฤตโควิด เรียนออนไลน์ หรือ หยุดเรียน 1 ปี ?"

โดย รศ.นพ.สุริยเดว กล่าวว่า ระบบการศึกษาของไทยเป็นระบบ.สูง สอบได้สอบตก แล้วเด็กแต่ละคนมีความถนัดต่างกัน แต่ถูกจับเข้าระบบคล้ายกับอุตสาหกรรมการศึกษา ทำให้เด็กมีความตึงเครียดสูง ปกติเวลาไปโรงเรียน เด็กก็จะคลายเครียดด้วยการเล่นในเวลาพักเบรก แต่ตอนนี้ต้องอยู่หน้าจอตลอดเวลา

แล้วตอนนี้น่าเห็นใจพ่อแม่มาก ภาระทุกอย่างอยู่ที่บ้าน ตนพูดตั้งแต่ปีที่แล้ว สถานการณ์โควิดควรพลิกวิกฤติเป็นโอกาส ไม่ใช่เอาวิชาทั้งหมดมาทำเป็นเรียนออนไลน์ เด็กวันนึงอยู่หน้าจอหลายชั่วโมง ไม่สามารถออกนอกบ้านได้ ไม่สามารถเจอเพื่อนฝูงได้ แถมเรื่องไหนที่ไม่เข้าใจ พ่อแม่ก็ต้องช่วยลูก มันจึงไม่ใช่ตึงเครียดแค่เด็ก แต่เครียดทั้งบ้าน

รศ.นพ.สุริยเดว กล่าวอีกว่า สิ่งที่กระทรวงศึกษาฯ ควรทำ คือต้องปลดล็อก ถ้ายังมีทัศนคติให้เอาเนื้อหาวิชาที่เรียนอยู่ตอนไม่มีโควิด เอาทั้งหมดมาแปรรูปไว้ในออนไลน์ ให้เด็กเรียนแต่เช้าจนบ่ายสาม แล้วให้การบ้าน ถ้ายังทำลักษณะนี้ อย่าว่าแต่เด็กเลย ผู้ใหญ่มานั่งเรียนแบบนี้ก็เครียด

ยิ่งเด็กเล็กปฐมวัย ผิดหลักพัฒนาการอีก เพราะเด็กเล็กสมาธิสั้น เรียนคุณครูทุกท่าน เด็กเล็กสมาธิสั้นทั้งโลกไม่ใช่เฉพาะเด็กไทย การเรียนของเด็กอนุบาล ควรเรียนรู้ผ่านการเล่น การนั่งหน้าจอผิดหลักการแน่นอน

ตนเสนอให้สำรวจพ่อแม่ ซึ่งควรทำตั้งแต่ปีที่แล้ว ว่ามีกี่ครอบครัวที่พร้อมเป็นโฮมสคูลได้ กี่ครอบครัวไม่มีอินเตอร์เน็ต กี่ครอบครัวที่พ่อแม่ไม่มีเวลา จากนั้นจัดให้มีอาสามัครการศึกษาขึ้นมา ให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แล้วโรงเรียนคอยให้คำแนะนำพ่อแม่ว่าต้องเรียนอะไรบ้าง โดยให้แต่ละครอบครัวไปใช้เวลาว่างของตัวเอง ไม่ใช่ต้องเข้าเรียนเลิกเรียนตามเวลา

สอง ยกเลิกระบบแพ้คัดออก ยกเลิกการตัดเกรดออกทั้งหมด โดยเฉพาะในเด็กอนุบาลและประถมทั้งหมด โดยเด็กอนุบาลให้ดูที่พัฒนาการของเขาเอา

ระดับ ป.1-6 กระทรวงต้องใจกล้าประกาศเป็นหลักสูตรสมรรถนะ ยกเลิกรายวิชาที่มันมีกี่สาระการเรียนรู้เต็มไปหมด และหลักสูตรตามชั่วโมง ยกเลิกให้หมด และยกเลิกการตัดเกรดไปด้วย โดยให้ครูมาเป็นช่วง ๆ แล้วมีจังหวะให้พักได้ เช่นชั่วโมงเช้าเรียนรู้อะไร ช่วงบ่ายให้เวลาเด็กไปเรียนรู้ ทดลอง โดยใช้ข้าวของในบ้านเลยก็ได้

ระดับมัธยม วิชาไหนไม่มีความจำเป็น ยกเลิกได้ก็ดี ในวัยนี้เขาสามารถเรียนออนไลน์ได้ แต่มันไม่ใช่การเรียนเต็มเหนี่ยว ควรปล่อยครึ่งวันให้โล่ง ให้เขาไปทบทวนบทเรียน

อีกอันที่ตนเสนอไปที่รัฐมนตรีแล้วด้วย คือควรแปรรูปกิจกรรมโฮมรูมเป็น 3 คำถาม คือ ถามลูกว่าเรียนมาทั้งวันรู้สึกอย่างไรบ้าง ได้เรียนอะไร แล้วสิ่งที่เรียนมาจะเอาไปปรับใช้ทำอะไรได้บ้าง

รศ.นพ.สุริยเดว กล่าวต่ออีกว่า โรงเรียนต้องเป็นศูนย์กลางโฮมสคูล คอยสนับสนุนพ่อแม่ คนที่พร้อมก็ช่วยอัปสกิลให้ ส่วนคนที่ไม่พร้อมก็มีอาสามัครลงพื้นที่

รศ.นพ.สุริยเดว กล่าวอีกว่า เรื่องข้อเสนอหยุดเรียน 1 ปี ถ้ากระทรวงทำเท่ากับยกธงขาวยอมแพ้ ทำไมถึงไม่ทำตามที่ตนเสนอ ทำไมโรงเรียนจะเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้แห่งโลกออนไลน์ไม่ได้ โดยที่ไม่ต้องเข้าแถวเวลาพร้อมกัน ให้เป็นเรื่องของแต่ละบ้านแต่ละท้องถิ่น

การเรียนรู้หยุดไม่ได้ แต่อย่าทำผิดหลักธรรมชาติ หลักจิตวิทยาพัฒนาการ และต้องต้องไม่ผิดหลักสังคม พ่อแม่มีภาระมากมาย อะไรที่ติดขัดเพราะกฎหมายก็ล้างมันซะ นี่มันเป็นสงครามโรค เลิกยึดติดกรอบเดิม ๆ
#3760


ผลการดำเนินงานกลุ่มปตท. จำนวน 7 บริษัท บมจ.ปตท.(PTT) ,บมจ.พีทีที โกล.เคมิคอล(PTTCG),บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP),บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR),บมจ.ไทยออยล์ (TOP), บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC)และบมจ. โกล. เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่(GPSC) ซึ่งไตรมาส2ปี 2564 มีกำไรสุทธิรวม68,976.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 206.12% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ22,532.39 ล้านบาท

ทั้งนี้จากทุกธุรกิจมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก2564 มีกำไรสุทธิ 137,701.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,373.16% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,625.26ล้านบาท 

นายจักรพงศ์ เชวงศรี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า  ภาพรวมงบกำไรไตรมาส 2ปี 2564 ของกลุ่มปตท ที่ประกาศออกมาถือว่าดีกว่าคาดราว 6-7% มาจากPTTCG กำไรดีกว่าคาดหนุนกำไร PTT ดีกว่าคาดเช่นกัน จากค่าการกลั่นปรับตัวดีและมีรายการพิเศษบันทึกเข้ามา ส่วนPTTEP และ OR ที่ประกาศออกมาต่ำกว่าคาด จากขาดทุนการประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันและผลกระทบโควิด-19

สำหรับแนวโน้มครึ่งปีหลัง2564 ประเมินว่า ทิศทางกำไรของหุ้นกลุ่มปตท. อ่อนตัวลงจากครึ่งปีแรก เนื่องจากผลกระทบโควิด-19ที่รุนแรงและยาวนาน ราคาน้ำมันเริ่มทรงตัว และเงินบาทอ่อน มีโอกาสขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนมากขึ้นเป็นหลัก โดยคาดรกำไรหุ้นกลุ่มปตท. (ไม่รวม GPSC)ทั้งปีนี้ค่อนข้างระมัดระวังอยู่ที่  159,000 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าจากปีก่อน    

ทั้งนี้ จากผลกระทบโควิดเดลตา ที่รุนแรงและยาวนานในครึ่งปีหลัง ยังคงกดดันหุ้นกลุ่มนี้ น่าจะซึมตัวลงและคาดใช้เวลา 3-5 เดือนกว่าที่โควิดคลี่คลาย แนะนำนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และถือได้นาน สามารถทยอยเข้าลงทุนกลุ่มหุ้นปตท. ได้เมื่อราคาย่อตัวลง แต่ถ้ารับความเสี่ยงไม่ได้แนะลงทุนหุ้นกลุ่มอื่น

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยบบล. ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี กล่าวว่า คาดกำไรสุทธิกลุ่มปตท. ยังขึ้นกับราคาน้ำมัน แต่หากดูในด้านของกำไรจากการดำเนินงานไม่รวมขาดทุนน้ำมัน คาดครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก หากโควิด-19 คลี่คลาย ประเทศต่างๆมีการผ่อนคลายล็อกดาวน์ และเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว หนุนความต้องการใช้ปิโตรเคมี น้ำมัน ฯลฯ เพิ่มขึ้น ขณะที่กำไรPTTEP จะได้ผลบวกจากราคาขายก๊าซฯที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 

ทั้งนี้บริษัทยังคงเป้ากำไรกลุ่มปตท.ปีนี้อยู่ที่ 199,588 ล้านบาท  โดยกลยุทธ์การลงทุนแนะซื้อ PTT ราคาเหมาะสม45 บาท ,PTTEP ราคาเหมาะ138บาท ,IRPCที่ 4.10 บาท  ส่วนPTTGCที่ 57บาท แนะถือ  ขณะที่ ORให้ราคาที่26 บาทและ TOP ที่41.50 บาท แนะขาย