(https://justpaste.it/img/f1a8586d2289ffe7e2611676f72e009b.png)ตู้เย็น 1 ประตู (One door Refrigerator)ตู้เย็น 1 ประตู เป็น
ตู้เย็นขนาดเล็ก (https://www.homepro.co.th/c/APP090203)
ตู้เย็นมินิ (https://www.homepro.co.th/c/APP0904) ที่มีขนาดความจุให้เลือกตั้งแต่ 2 คิว จนถึง 11 คิว ซึ่งโดยปกติแล้วเรามักจะพบเจอตู้เย็น 1 ประตูบ่อยครั้งตามห้องพักหรือโรงแรมทั่วไป แต่ก็สามารถนำมาใช้ในครัวเรือนได้เช่นกัน โดยตู้เย็น 1 ประตูจะเหมาะสำหรับบ้านที่มีขนาดพื้นที่จำกัด มีจำนวนสมาชิกประมาณ 1-2 คน หรือบ้านที่มีความต้องการใช้งานตู้เย็นในห้องต่างๆภายในบ้านนอกเหนือจากภายในห้องครัว เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น เป็นต้น
ประเภทของตู้เย็น 1 ประตูตู้เย็น 1 ประตู ในปัจจุบันสามารถแบ่งย่อยออกได้หลายประเภท คือ ตู้เย็นแบบธรรมดา ตู้เย็นขนาดเล็กและตู้เย็นบิวท์อิน สำหรับตู้เย็น 1 ประตูแบบธรรมดานั้น ภายในจะประกอบด้วยช่องแช่แข็ง ชั้นวาง ช่องแช่เย็นต่าง ๆ และลิ้นชักแช่ผัก ซึ่งจะรวมอยู่ในประตูตู้เย็น 1 บาน ส่วนตู้เย็นเล็กจะมีลักษณะเป็นตู้เย็น 1 ประตูขนาดย่อส่วนและตัดเอาออฟชั่นบางอย่างที่ไม่จำเป็น เช่น ช่องแช่แข็ง ออกไป ส่วนตู้เย็นบิวท์อินจะมีลักษณะเหมือนกับตู้เย็น 1 ประตูแบบเต็ม หรือตู้เย็นบิวท์อินอย่างใดอย่างหนึ่ง สิ่งที่มีเพิ่มขึ้นมาก็คือตัวตู้เย็นจะต้องติดตั้งไปกับห้องเลย
ขนาดความจุตู้เย็นโดยสิ่งที่ต้องคำนึงในการเลือกตู้เย็นมาใช้งานภายในบ้าน คือเรื่องของความจุของตู้เย็น ที่จะต้องเพียงพอต่อความต้องการของสมาชิกในครอบครัว ซึ่งเราสามารถพิจารณาได้จากพฤติกรรมการใช้งาน เช่น ที่บ้านทำอาหารรับประทานเองบ่อยหรือไม่ มีการเก็บวัตถุดิบสำหรับการประกอบอาหารไว้จำนวนมากหรือน้อย ซื้อของแช่แข็งมากกว่าของสดทั่วไปหรือไม่ ฯลฯ เราสามารถเลือกขนาดคิวตู้เย็นให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้งานได้ด้วยการประมาณจากปริมาณของถุงช้อปปิ้งที่เราซื้อตามซุปเปอร์มาเก็ต 1 ถุง จะสามารถเปรียบเทียบได้เท่ากับตู้เย็น 1 คิว หรือเราอาจจะคิดง่ายๆด้วยการเปรียบเทียบกับจำนวนสมาชิกภายในบ้านดังนี้
- สมาชิก 1-2 คน : ขนาดคิวตู้เย็นที่เหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณ 2-7 คิว
- สมาชิก 2-3 คน : ขนาดคิวตู้เย็นที่เหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณ 6-10 คิว
- สมาชิก 4-6 คน : ขนาดคิวตู้เย็นที่เหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณ 10-15 คิว
- สมาชิกมากกว่า 6 คนขึ้นไป : ขนาดคิวตู้เย็นที่เหมาะสมควรมีมากกว่า 15 คิวขึ้นไป
ตู้เย็น 1 ประตูประหยัดไฟนอกจากเรื่องพฤติกรรมและจำนวนสมาชิกภายในบ้านแล้ว เรายังต้องพิจารณาเลือกตู้เย็นที่มีราคาเหมาะสม รูปแบบดีไซน์ทันสมัย และที่สำคัญคือเรื่องของความประหยัดไฟ เนื่องจากตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับทำความเย็นที่ค่อนข้างกินไฟ ดังนั้นการเลือกตู้เย็นที่มีคุณสมบัติช่วยประหยัดพลังงาน จะส่งผลให้คุณสามารถประหยัดค่าไฟได้ในระยะยาว โดยให้เลือกจากตู้เย็นที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่เป็นตัวบ่งบอกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานที่เป็นมาตราฐาน โดยฉลากประหยัดไฟมีตั้งแต่เบอร์ 1 ถึง เบอร์ 5 โดยเบอร์ 5 เป็นตัวบ่งชี้ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าสามารถประหยัดพลังงานได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด