• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

ภาพเศรษฐกิจและมุมการลงทุนปลายปี 2021

Started by deam205, September 16, 2021, 06:31:41 PM

Previous topic - Next topic

deam205



แล้วเรากำลังเข้าสู่ไตรมาสสี่ สุดท้ายของปีนี้ บทความ "มุมคิดมหภาค" จะขอฉายภาพเศรษฐกิจของภูมิภาคหลักของโลกและมุมการลงทุนปลายปี 2021 ดังนี้

ความเป็นไปของฝั่งประเทศพัฒนาแล้ว (DM):
ธนาคารกลางสหรัฐ: เฟดมีแนวโน้มจะเริ่มลดการซื้อพันธบัตรหรือทำ QE  Taper ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งถือว่าเร็วกว่าคาดเล็กน้อย โดยที่น่าจะใช้เวลาประมาณ 6-8 เดือนจนสิ้นสุด QE ของรอบนี้ ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่าจะขึ้นดอกเบี้ยในช่วงไตรมาส 3 ปีหน้า จากการที่หลายคนมองว่าจีดีพีสหรัฐจะเติบโตน้อยกว่าคาด และอัตราเงินเฟ้อจะออกมาสูงกว่าคาด อย่างไรก็ดี อย่างไรก็ดี หากมีการสะดุดในส่วนของเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐในกลางเดือนตุลาคมนี้ ก็อาจทำให้แผนเปลี่ยนไปจากนี้ได้

ธนาคารกลางยุโรป: แม้อีซีบีจะออกตัวลด QE ก่อนเฟด โดยคริสติน ลาการ์ด ประธานอีซีบี ประกาศลดมูลค่าการซื้อพันธบัตรต่อเดือนในโครงการ QE ในส่วนสู้โควิด (PEPP) จากการประชุมอีซีบี วันที่ 9 กันยายน 2021 ทว่าอีซีบีน่าจะยังต้องใช้นโยบายการเงินกระตุ้นเศรษฐกิจนานกว่าเฟดไปอีกอย่างน้อย 1 ปี 

เยอรมัน: การเลือกตั้งผู้นำเยอรมันใหม่ในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ มีโอกาสเพิ่มขึ้นที่พรรค SPD ภายใต้การนำของโอลาฟ โชลท์ซ รัฐมนตรีคลังเยอรมัน จะได้เก้าอี้ในสภาเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งตรงนี้ มีผลในเชิงลบต่อตลาดหุ้นของเยอรมันเล็กน้อย เนื่องจากพรรค SPD เน้นรัฐสวัสดิการมากกว่าพรรค CDU ของอังเจล่า แมร์เคิล ผู้นำเยอรมันและหัวหน้าพรรค CDU อย่างไรก็ดี ผมยังมองว่าโอกาสที่อามิน ลาร์เช็ตต์ ทายาททางการเมืองของนางแมร์เคิลจะนำพรรค CDU ชนะการเลือกตั้งยังมีอยู่ไม่น้อย  

ญี่ปุ่น: การสรรหาผู้นำใหม่ของญี่ปุ่นที่คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ แน่นอนว่าจะเป็นผลดีต่อนโยบายการกระตุ้นของภาครัฐและเศรษฐกิจญี่ปุ่นในช่วงต่อไป รวมถึงธนาคารกลางญี่ปุ่นน่าจะมีแรงจูงใจมากขึ้นที่จะออกมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินใหม่ๆออกมาอีกชุดหนึ่ง อาจจะเป็นไปได้ว่าจะออกมาภายในสิ้นปีนี้หรืออย่างช้าในช่วงต้นปีหน้า


ในภาพรวม เศรษฐกิจฝั่ง DM ค่อนข้างจะเป็นบวก โดยที่มีความเสี่ยงอยู่ตรงการปรับโทนลงจาก โหมดการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงินอย่างสุดโต่งท่ามกลางโควิด 19 ค่อยๆกลับเข้าสู่ โหมดการใช้ดอกเบี้ยเป็นอาวุธ อย่างที่เป็นเศรษฐกิจยามปกติที่เราคุ้นเคยกัน

ฝั่งประเทศกำลังพัฒนา (EM):
จีน: นโยบายเศรษฐกิจพยายามที่จะปรับโทนจากที่ใช้มาตรการกระตุ้นภายในประเทศ อาทิ การลด RRR หรือ อัตราส่วนสำรองต่อเงินฝากที่บังคับโดยทางการ และ มาตรการดอกเบี้ยต่ำในบางจุด จากธนาคารกลางจีน มาสู่การใช้มาตรการด้านต่างประเทศ อาทิ การเปิดให้เงินทุนต่างชาติและเงินทุนซื้อหวยออนไลน์จากคนรวยในประเทศไหลเข้าออกจากจีนมากขึ้น เพื่อหลักเลี่ยงฟองสบู่ 

รวมถึงการเริ่มปล่อยให้มีการ default ของตราสารหนี้ของบริษัทเอกชนจีน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ของจีนให้ไม่จ่ายดอกเบี้ย

ในภาพรวม เศรษฐกิจจีนไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบจากวิกฤติโควิดมากนัก จึงหันมาปรับนโยบายด้านสังคม โดยการออกกฎหมายต่างๆ เพื่อเน้นความเท่าเทียมของประชาชนชาวจีนทั่วประเทศ

ด้านมุมมองในการลงทุน สำหรับในไตรมาสสี่ ปี 2021 ผมยังมองว่าความร้อนแรงของตลาดหุ้นในฝั่ง DM จะลดลงจากช่วงเกือบ 9 เดือนแรกของปีนี้ ที่ตลาดหุ้น DM  โดยรวมขึ้นไปประมาณร้อยละ 14-18 ทั้งนี้ ผลกระทบจากวิกฤติโควิด 19 ต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในฝั่ง DM ได้ลดลงมาเป็นอย่างมาก แม้จะยังไม่นิ่งเสียทีเดียว ส่งผลให้มาตรการการกระตุ้นทั้งด้านนโยบายการเงิน และการคลังของธนาคารกลางและรัฐบาลค่อยๆมีการลดขนาดของโครงการลงเช่นกัน จะมากหรือน้อยแล้วแต่ว่าตัวเลขเศรษฐกิจรวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อ ในประเทศนั้นๆ จะออกมาดีมากน้อยแค่ไหน 


นอกจากนี้ การที่กูรูหลายคนมองอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ของสหรัฐและยุโรปแม้ว่าจะสูงขึ้นมากในปีนี้ ทว่ายังมองว่าปรากฏการณ์เงินเฟ้อดังกล่าวเป็นแค่เพียงชั่วคราว อันส่งผลมาจากปัจจัยราคาน้ำมัน ปัจจัยด้าน Supply Disruption และภาคบริการโดยเฉพาะอย่างยิ่งการท่องเที่ยวและค้าปลีก ที่เพิ่งเปิดเป็นครั้งแรกหลังปิดมากว่า 1 ปี 

ผลกระทบทั้งหมดต่อเงินเฟ้อที่สูงแบบผิดปกติในขณะนี้ น่าจะเริ่มซาลงราวในช่วงกลางปีหน้านั้น จนสถานการณ์เศรษฐกิจน่าจะกลับมาเป็นเหมือนช่วงปกติมากขึ้น ตรงนี้ จะส่งผลให้ธนาคารกลางหลักอย่างเฟดและอีซีบี กล้าที่จะออกจากโหมด QE เร็วขึ้น จนฝั่งสหรัฐภายใต้เฟดอาจจะขึ้นดอกเบี้ยได้ในช่วงไตรมาส 3 ปีหน้า อันเป็นผลให้ตลาดหุ้นฝั่ง DM  อาจต้องลดค่า P/E เฉลี่ยของตลาดลงจากช่วงวิกฤติโควิด

หากเปรียบเทียบระหว่างกัน ต้องบอกว่าเศรษฐกิจยุโรปยังไม่ได้ออกจากวิกฤติโควิดแต่อย่างใด และยังต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควรที่จะไปถึงจุดนั้น ทว่าวิวัฒนาการของการฟื้นตัวเศรษฐกิจยุโรป เป็นไปในทิศทางและด้วยความเร็วที่ดีกว่าคาด ในขณะที่ ทางสหรัฐเองถือว่าเศรษฐกิจได้พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นกว่าทางยุโรปไปหนึ่งขั้นแล้ว โดยอย่างน้อยโอกาสที่จะกลับไปสู่โหมดถดถอย ถือว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้ ณ ตรงนี้

กระนั้นก็ดี ยังไม่แน่นอนว่าทิศทางเศรษฐกิจจะดีเช่นนี้ขึ้นไปเรื่อยๆหรือไม่ โดยส่วนหลักต้องขึ้นกับคุณภาพการจัดการของ Delta Variants จากหน่วยงานสาธารณสุขฝั่งยุโรปในช่วงเวลาถัดไป ซึ่งตรงนี้ จะเป็นตัวบอกของแนวโน้มของตลาดหุ้นทั่วโลกในปี 2022

ส่วนด้านการลงทุนของตลาด EM เอง ในภาพรวม ก็ยังไม่น่าสนใจเท่าไหร่นัก  จากการที่สถานการณ์โควิดของฝั่ง EM ยังแรงกว่า DM

สำหรับตลาดหุ้นไทยในช่วงปลายปี ยังน่าจะถูกโควิดระลอกนี้และต่อไป เป็นตัวดึงทำให้เกิดความผันผวน รวมถึงฟันด์โฟลว์จากต่างชาติไม่ได้ไหลเข้าฝั่งอาเซียนมากเท่าไหร่นัก จากการที่สถานการณ์โควิดที่ดูยังหนักกว่าภูมิภาคอื่นๆของโลก.