CEN ปรับกลยุทธ์ลงทุนสู่ธุรกิจใหม่ต่อยอดผลงานปี 64 พลิกจากขาดทุนเป็นกำไร (https://www.pantippost.com/bgrim-%e0%b8%a1%e0%b8%b6%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%84%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b9%8a%e0%b8%b2%e0%b8%8b-%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%9f%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%84%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c/)
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค (CEN) เปิดเผยว่า ในปี 65 บริษัทได้ตั้งบริษัทใหม่เพื่อแสวงหาและลงทุนในธุรกิจดิจิทัลและบริการ นอกจากนั้น บริษัทมีเป้าหมายที่จะกระจายการลงทุนเข้าสู่ธุรกิจใหม่ที่หลากหลายเพิ่มขึ้นในธุรกิจที่สอดคล้องกับแนวโน้มของตลาดใหม่ (New Market Trend) เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน หลังจากผลประกอบการในปี 64 พลิกจากขาดทุนมาเป็นกำไร
ทั้งนี้ CEN รายงานงบการเงินปี 64 มีรายได้รวม 1,907 ล้านบาท เติบโต 10.8% จากปี 63 และมีกำไรสุทธิ 365 ล้านบาท หรือกำไรต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 0.47 บาท พลิกฟื้นจากขาดทุน 174 ล้านบาทในปี 63
นายเชิดศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทเน้นการปรับปรุงพื้นฐานธุรกิจของบริษัทในเครือ ประกอบด้วย บมจ.ระยองไวร์ (RWI) และ บมจ.สกาย ทาวเวอร์ (STOWER) ให้สามารถสร้างรายได้และเติบโตอย่างต่อเนื่องและหาวิธีการฟื้นฟูสนับสนุนธุรกิจของบริษัทย่อย ให้สามารถกลับมาประกอบธุรกิจแบบมีกำไร และเติบโตต่อเนื่อง
ในด้านการลงทุนเดิมบริษัทอยู่ในกลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ธุรกิจโรงไฟ้ฟ้า และธุรกิจเสาไฟฟ้าแรงสูง และเสาโทรคมนาคมในต่างประเทศ ล่าสุด STOWER ได้ลงทุนในบริษัท QROI Network Services ในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในการให้บริการติดตั้งอุปกรณ์และระบบโครงข่ายบนเสาโทรคมนาคมให้กับผู้จำหน่ายอุปกรณ์ระบบโทรศัพท์มือถือ และจะช่วยสนับสนุนธุรกิจการก่อสร้างและให้เช่าเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือของ STOWER
ณ สิ้นปี 64 CEN มีอัตรากำไรสุทธิ 19.5% ส่วนผู้ถือหุ้น (NAV) 3,168 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67% จากปีก่อนหน้า อัตราผลตอบแทน สินทรัพย์ (ROA) เท่ากับ 8.7% อัตราผลตอบแทนส่วนทุน (ROE) เท่ากับ 16.4% มูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น (NAV Per Share) เท่ากับ 2.85 บาท อัตราหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น (DE Ratio) เท่ากับ 0.26