• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

หอการค้าร่วมต่างประเทศฯ (JFCCT) จัดสัมมนา 3 วันเต็ม

Started by deam205, October 22, 2021, 05:47:55 AM

Previous topic - Next topic

deam205

หอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT) ได้จัดงานสัมมนาแบบผสมผสานออนไลน์และออฟไลน์ "Reconnecting International Business with Thai Eastern Economic Corridor" มุ่งประชาสัมพันธ์โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในฐานะจุดหมายของการทำธุรกิจให้กับกลุ่มนักลงทุนชาวต่างชาติทั้งในและต่างประเทศ โดยมีนักลงทุนต่างชาติเข้าร่วมงาน 181 คน ทั้งแบบสัมมนาออนไลน์ และเข้าร่วมงานสัมมนา 3 วัน 2 คืน ระหว่างวันที่ 14 – 16 ตุลาคม 2564 ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยจาก เทรนด์โลกที่เปลี่ยนไป อีอีซีจึงเน้นส่งเสริมกลุ่มอุตสาหกรรม 3+1 ได้แก่ Health & well-being เช่น medical sector, Digital เช่น smart electronics, Decarbonization เช่น automotive และ Logistics

งาน EEC Business Forum – "Reconnecting International Business with Thai Eastern Economic Corridor" จัดขึ้นโดยหอการค้าเนเธอร์แลนด์-ไทย (NTCC) ในนามของหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT) ด้วยความร่วมมือจากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.), สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.), สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa), จังหวัดชลบุรี รวมทั้งภาคเอกชนและผู้สนับสนุนทุกฝ่าย



กิจกรรมตลอดระยะเวลา 3 วันประกอบไปด้วยการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก การเสวนา กิจกรรมสร้างเครือข่าย และการเยี่ยมชมชุมชนตะเคียนเตี้ย ชุมชนสวนมะพร้าวในเมืองพัทยา โดยมีจุดประสงค์ เพื่อสร้างโอกาสในการต่อยอดความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มธุรกิจต่างชาติและกลุ่มธุรกิจท้องถิ่นในจังหวัดชลบุรี สร้างโอกาสในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ในการทำธุรกิจของทั้งสองกลุ่ม รวมทั้งนำเสนอข้อมูลล่าสุด โครงการสาธารณูปโภคในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกแก่นักลงทุนต่างชาติ เช่น เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัลประเทศไทย ท่าเรือแหลมฉบัง และสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา รวมถึงรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อม 3 สนามบินทั้งดอนเมือง สุวรรณภูมิและอู่ตะเภา ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2568



นายสแตนลีย์ คัง ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT) ตัวแทนผู้จัดงานระบุว่า "การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ของงานสัมมนาในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อปีที่แล้วที่จังหวัดระยอง สมาชิกของเราซึ่งเป็นหอการค้าร่วมต่างประเทศของประเทศต่างๆ ล้วนมีความสนใจอย่างยิ่งที่จะต่อยอดความสัมพันธ์กับกลุ่มธุรกิจท้องถิ่นในจังหวัดชลบุรี และที่สำคัญอย่างยิ่งคือการได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับแผนการพัฒนาล่าสุดของโครงการสาธารณูปโภคใน EEC เราเชื่อมั่นในศักยภาพของพื้นที่ EEC และจัดงานครั้งนี้ที่มีรูปแบบผสมผสานทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ก็เพื่อช่วยกระจายข้อมูลดังกล่าวไปยังกลุ่มนักลงทุนต่างชาติทั้งในไทยและต่างประเทศพร้อมๆ กัน"


"ปัจจุบันสมาชิกของเรามีมากกว่า 9,000 บริษัทที่ลงทุนอยู่ในประเทศไทย แผนการโปรโมทพื้นที่อีอีซีในครั้งนี้สมาชิกให้ความสนใจกันเป็นอย่างมากเนื่องจากมีโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานและสาธารณูปโภคดิจิทัลที่จะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิตอลเป็นกลุ่มที่มีความคืบหน้ามากที่สุด ให้ความสนใจลงทุนในพื้นที่อีอีซีมากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่ม Smart Electronics เช่น กลุ่มผู้ประกอบชิ้นส่วนสำหรับ EV หรือกลุ่ม smart devices เนื่องจากพื้นที่อีอีซีอยู่ใกล้กับสนามบินถึง 2 แห่ง คือสุวรรณภูมิและ อู่ตะเภา ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งออกนั่นเอง" นายสแตนลีย์ คัง กล่าวถึงผลตอบรับที่ดีของงานสัมมนาในครั้งนี้