• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - fairya

#11311


บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมโฟร์โมสต์ ในฐานะผู้ที่มอบโภชนาการที่ดีให้กับประชากรไทยมาอย่างยาวนานกว่า 65 ปี ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาปัญหาความยากจน โดยเฉพาะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นอย่างยาวนาน จนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนในวงกว้าง และมีผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือทั้งในด้านเศรษฐกิจและสุขภาพอย่างต่อเนื่องนั้น

ซึ่งหนึ่งในกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบไม่น้อยคือ "เด็ก" โดยเฉพาะเด็กๆ จากครอบครัวที่พ่อแม่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ และค่าครองชีพที่ลดต่ำลง โฟร์โมสต์จึงร่วมกับ มูลนิธิกระจกเงา เปิดตัวโครงการ "โฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทยสู้ภัยโควิด-19" เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมส่งต่อน้ำใจอันยิ่งใหญ่ ผ่านผลิตภัณฑ์นมโฟร์โมสต์จำนวน 1 ล้านกล่อง รวมมูลค่า 10 ล้านบาท ให้แก่เด็กและครอบครัวทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเมื่อมีการซื้อผลิตภัณฑ์นมยูเอชทีโฟร์โมสต์ ทุกรสชาติ จำนวน 1 ลัง โฟร์โมสต์จะบริจาคผลิตภัณฑ์นมยูเอชที โฟร์โมสต์โอเมก้า 369 ขนาดบรรจุ 180 มล. ให้กับมูลนิธิกระจกเงาจำนวน 1 ลังทันที

นายราชเทพ นฤหล้า และน.ส. มลฤดี สุขเรืองรอง
นายราชเทพ นฤหล้า และน.ส. มลฤดี สุขเรืองรอง

นายราชเทพ นฤหล้า ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "โฟร์โมสต์เชื่อในความมีน้ำใจของคนไทย จึงได้ร่วมสนับสนุนให้เกิดการต่อยอดสู่การเป็นสังคมแห่งการแบ่งปันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์วิกฤตที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงสารอาหารสำคัญและโภชนาการที่จำเป็นของครอบครัวชาวไทยจำนวนมาก โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา โฟร์โมสต์ได้ร่วมมือกับทีมจิตอาสาจากเพจอีจัน มอบนมยูเอชทีโฟร์โมสต์จำนวน 2,390 ลัง ให้กับ 17 ชุมชน รวมถึง โครงการ 'ปันนมปันน้ำใจร่วมต้านภัยโควิด-19' ที่มอบผลิตภัณฑ์นมแก่โรงพยาบาลรัฐและศูนย์การแพทย์ 19 แห่งทั่วประเทศ มาในปีนี้เราได้จับมือกับมูลนิธิกระจกเงาชวนทุกคนมาร่วมแบ่งปันครั้งยิ่งใหญ่ มอบน้ำนมโคคุณภาพดีที่อุดมด้วยสารอาหารสำคัญจากโฟร์โมสต์จำนวน 27,778 ลัง รวมกว่า 1,000,000 กล่อง ไปสู่เด็กๆ ทั่วประเทศ โดยผู้ที่ร่วมซื้อผลิตภัณฑ์ นอกจากจะได้ผลิตภัณฑ์ไว้ใช้บริโภคภายในครัวเรือนแล้ว ยังได้ร่วมแบ่งปัน นอกจากนี้ ยังได้เปิดโอกาสให้พนักงานของบริษัทฯ บริจาคนมสวัสดิการสมทบโครงการนี้เพิ่มเติมอีกด้วย เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมส่งต่อน้ำใจอันยิ่งใหญ่ ในโอกาสครบรอบ 65 ปีของโฟร์โมสต์ ประเทศไทย

และแม้จะเป็นระยะเวลาเพียงสั้นๆ นับตั้งแต่เปิดตัวโครงการฯ ในวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา แต่ก็ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากคนไทย ถึงวันนี้เราได้มอบนมโคคุณภาพดีโฟร์โมสต์โอเมก้า 369 แก่มูลนิธิกระจกเงา ไปเป็นจำนวนกว่า 415,000 กล่อง (ไม่นับรวมนมสวัสดิการที่พนักงานบริษัทฯ บริจาคสมทบเพิ่มเติม) เพื่อนำไปแจกจ่ายเด็กๆ ในชุมชนต่างๆ สร้างเสริมโภชนาการที่มีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กๆ และบรรเทาผลกระทบในกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงวิกฤตโควิด-19 เพราะพัฒนาการของเด็กๆ คือสิ่งที่เรียกคืนไม่ได้นั่นเอง"

ด้าน น.ส. มลฤดี สุขเรืองรอง ครูประจำศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียน ชุมชนซอยสีน้ำเงิน 1 บางซื่อ กล่าวว่า "ในทุกชุมชนจะมีเด็กเล็กๆ อยู่ในครอบครัวที่เป็นกลุ่มเปราะบาง ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ทำให้พ่อแม่หลายคนมีความเสี่ยงถูกเลิกจ้าง และอีกหลายคนก็ขาดรายได้กะทันหัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของลูก อาหารในแต่ละมื้อคือสิ่งที่พ่อแม่จำเป็นจะต้องหาให้ลูกมากกว่านม แต่เด็กทุกคนต้องการนมที่มีคุณภาพสำหรับสมองที่กำลังเติบโต และร่างกายที่กำลังมีพัฒนาการ โดยเด็กๆ ควรได้ดื่มนมสดวันละอย่างน้อย 2 กล่อง หรือ 400 ซีซี และหากไม่ได้รับสารอาหารที่ดีอย่างครบถ้วน เด็กจะไม่สามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีแข็งแรงสมบูรณ์ได้เลย การขาดแคลนนมโคคุณภาพดีจึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งค่ะ

โครงการ "โฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทยสู้ภัยโควิด-19" ช่วยแก้ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นกับเด็กๆ ในครอบครัวกลุ่มเปราะบาง ให้ยังได้รับสารอาหารและโภชนาการที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตแม้ในยามวิกฤติ ต้องขอขอบคุณในน้ำใจของคนไทยทุกคนที่ร่วมสนับสนุนโครงการนี้ เพราะทุกความช่วยเหลือคือการร่วมสร้างอนาคตให้กับเด็กๆ ในช่วงปฐมวัย ซึ่งเป็นช่วงวัยสำคัญในการสร้างพื้นฐานที่ดีให้กับชีวิตต่อไปค่ะ"

ขณะที่คุณแม่วัย 34 ปี จากชุมชนซอยสีน้ำเงิน 1 กล่าวว่า "รู้สึกดีใจและขอบคุณทางโฟร์โมสต์อย่างมากค่ะ ที่ให้ความสำคัญกับการเจริญเติบโตของเด็กๆ ตัวเองเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องดูแลลูกสองคน และทำงานรับจ้างรายวัน ซึ่งการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ทำให้เราหางานยากขึ้นเรื่อยๆ และส่งผลกับรายได้ในแต่ละวันมาก เวลาลูกร้องจะกินนม เราก็พยายามบ่ายเบี่ยง เพราะบางทีเขาไม่เข้าใจหรอกว่าคำว่าแม่ไม่มีเงินคืออะไร เราต้องเก็บเงินไว้ซื้อข้าวให้ลูกกิน ทั้งที่เราก็อยากให้ลูกได้กินทั้งข้าวและนม เพราะสำคัญต่อการเติบโตของลูกมาก ต้องขอบคุณทุกคนที่ช่วยสนับสนุนโครงการนี้จริงๆ ค่ะ"

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการส่งต่อน้ำใจและสร้างอนาคตที่ดีให้เด็กไทย ภายใต้โครงการ "โฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทยสู้ภัยโควิด-19" ได้ตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 9 กันยายน 2564 ด้วยการซื้อผลิตภัณฑ์นมยูเอชทีโฟร์โมสต์ ทุกรสชาติ จำนวน 1 ลัง ผ่านช่องทางของร้านค้าผู้จัดจำหน่ายที่ร่วมรายการและโฟร์โมสต์ออนไลน์ โฟร์โมสต์จะบริจาคผลิตภัณฑ์นมยูเอชที โฟร์โมสต์โอเมก้า 369 ขนาดบรรจุ 180 มล. ให้กับมูลนิธิกระจกเงาจำนวน 1 ลังทันที เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับเด็กและครอบครัวที่ได้รับความเดือดร้อน สูงสุดจำนวน 1,000,000 กล่อง (ไม่นับรวมนมสวัสดิการที่พนักงานบริษัทฯ บริจาคสมทบเพิ่มเติม) ดูรายละเอียดโครงการได้ที่ https:// www.foremostthailand.com/กิจกรรม/โฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทย และสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ https:// www.facebook.com/ForemostThailand/ การแบ่งปันและน้ำใจจากคนไทยในครั้งนี้ จะช่วยสร้างรอยยิ้มของเด็กไทยในยามวิกฤตให้สดใสยิ่งกว่าเดิม
#11312
Boom Gluta กลูต้า ที่โดมเลือก


ดีและปลอดภัยกลูต้าช็อต ช็อตเดียวรู้เรื่อง!!!

ดำกรรมพันธุ์ ผิวหมองคล้ำ ฝ้ากระ อยากเปลี่ยนลุงป้าเป็นหนุ่มสาวน่ารัก
กลูต้าช๊อต เพียงกล่องเดียว รู้เรื่อง!!!...ดีกว่ากลูกต้าทั่วไป 215 เท่า

ผสมผสานสารสกัดจากธรรมชาติ21ชนิด ปลอดภัย ไร้กังวล ด้วยนวัตกรรมนาโนฟา อินฟาเรด เหรียญเงินระดับนานาชาติ

แค่เทใส่ปาก ละลายและดูดซึมทันที พกพาง่ายไม่ต้องชง!!
1 กล่อง 590 จากปกติ 890.- .
เลขที่จดทะเบียน 1311585950607

 Boom Gluta Shots จึงเป็นที่มาของการแก้ปัญหาด้วยการปกป้องจากภายในด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร "Boom Gluta Shots" มีส่วนประกอบสำคัญ FIR Glutathione Complex สุดยอดอาหารผิวแห่งปี ที่ได้รับรางวัลจากงาน "Seoul International Invention Fair 2020" ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ และเป็นนวัตกรรมใหม่
ที่ทำให้ผิวขาวกว่ากลูตาทั่วไปถึง 250% .

รับตัวแทนจำหน่าย/สมาชิก รับสิทธิ์ลงทะเบียนเรียนคอร์สออนไลน์มูลค่า 7,990 บาท ฟรี

สนใจติดต่อ
โทร. 0846623662

id line : teerapat999

รายละเอียดเพิ่มเติม https://teerapat99-gluta.salepage365.com/



#11315


สมาคมมีเดียฯ ปรับการคาดการณ์งบประมาณการใช้สื่อตลอดปี 2564 จะกลับไปติดลบอีก 2.7% ลดลงต่อเนื่องจากปีที่แล้วที่ จากผลกระทบโดยตรงของการระบาดระลอกใหม่ที่มียอดคนติดเชื้อ Covid-19 เฉลียแตะวันละ 2 หมื่นคน โดยมีภาพรวมการใช้สื่ออยู่ที่ 101,738 ล้านบาท

สำหรับปี 2564 นี้ ดร. ธราภุช จารุวัฒนะ นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทยคนใหม่ (Media Agency Association of Thailand : MAAT) เปิดเผยถึงปัจจัยลบที่จะส่งผลให้ตัวเลขการใช้สื่อโฆษณาลดลงจากที่สมาคมฯ เคยคาดการณ์ว่าจะเป็นบวกจากงบการใช้สื่อในครึ่งปีแรกที่มีภาพบวกกว่า 5.2% โดยมีการคาดการณ์ปีนี้ว่าภาพรวมจะถดถอยลงไปไม่มากที่ 2.7% เทียบจากปีที่แล้วว่า "ภาพรวมสถานการณ์การระบาดระลอกล่าสุด ของ COVID-19 จะส่งผลกระทบที่ค่อนข้างชัดเจนในไตรมาส 3 และต่อเนื่องไปถึงต้นไตรมาสที่ 4 ที่เศรษฐกิจยังเผชิญกับการระบาดที่รุนแรงขึ้นจากสายพันธุ์เดลต้าจนโรงพยาบาลที่มีอยู่ไม่สามารถรองรับคนป่วยที่ติดเชื้อใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล อีกทั้งมาตรการควบคุมการระบาดที่จะต้องเข้มงวดขึ้น ทำให้หลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงักมากขึ้น อีกทั้งการระบาดที่เริ่มแผ่ลามถึงภาคการผลิตและภาคบริการ ทำให้มีผลกระทบมาที่ทุกมีเดียเอเจนซี่ ที่ต้องมีการปรับแผนงานช่วยเหลือให้ลูกค้าเจ้าของสินค้าและบริการตามสถานการณ์ ปัญหาใหญ่จะอยู่ที่การควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศให้ลดลงโดยเร็ว ด้วยการร่วมมือของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนออกมาทำโรงพยาบาลสนามมากขึ้น ตลอดจนการเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชนเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ให้เร็วที่สุด เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจสามารถค่อยๆ กลับมาดำเนินต่อได้มากขึ้นใกล้เคียงกับช่วงก่อนการระบาด"

นางสาวกนกกาญจน์ ประจงแสงศรี ที่ปรึกษาสมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย เสริมว่า "เมื่อพิจารณางบประมาณการใช้สื่อในปี 2564 ประกอบกับภาพการระบาดอย่างต่อเนื่องของสายพันธุ์เดลต้า สื่อโฆษณาที่แทบทุกสื่อจะอยู่ในสภาพลบต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา เป็นไปตามผลกระทบของ CODIV-19 ที่มีผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค มาตรการเพื่อความปลอดภัย ที่ส่งผลให้ สื่อหลักอย่างสื่อโทรทัศน์ (รวมเคเบิ้ลทีวีและโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม) ลดลงเพียงเล็กน้อยแค่ 3% สื่อกลางแจ้ง (Outdoor) ลดลงใกล้เคียงกันที่ 4% ในขณะที่สื่อโรงภาพยนต์ (Cinema) ลดลงอย่างต่อเนื่องจากปีแล้วอีก 26% รวมถึงสื่อเคลื่อนที่ (Transit) ที่ลดลง 18% และสื่อนิตยสาร (Magazine) 16% จากมาตรการล็อกดาวน์และนโยบายเวิร์คฟรอมโฮม ในขณะที่สื่ออินเทอร์เน็ตและสื่อออนไลน์ จะยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องอีก 14% และสื่อ ณ จุดขาย (In-Store) ที่จะกลับเป็นบวกที่ 4%



นางสาวกนกกาญจน์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "ปัจจัยที่มีผลต่ออุตสาหกรรมโฆษณาปี 2564 โดยตรงคือ GDP ที่เติบโตแค่ 0.7% ส่งผลโดยตรงต่อสภาพคล่องการใช้จ่ายของประชาชนและธุรกิจโดยรวมถึงแม้จะมีการสนับสนุนจากภาครัฐต่างๆ และการใช้สื่อของนักการตลาดที่จะต้องมีความหลากหลายในการเลือกใช้กลยุทธเพื่อเข้าถึงการใช้ชีวิตแบบ new normal ของผู้บริโภค ประกอบกับการวัดผลของนักการตลาดที่หลากหลายมิติมากขึ้นในทุกแพลตฟอร์มโดยเฉพาะช่องทางออนไลน์และการใช้โซเชียลคอมเมอร์สให้เป็นประโยชน์กับกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงนี้"

นอกจากนี้ทางสมาคมฯ ได้ประเมินการขยายตัวของค่าสื่อ (Media Inflation) ในครึ่งปีหลังของปี 2564 ค่าสื่อส่วนใหญ่ยังคงราคาไว้ที่ราคาเดิม จะมีเพียงสื่อโทรทัศน์โดยรวม ที่จะการปรับขึ้นประมาณ 3.6% ในขณะที่สื่อสิ่งพิมพ์จะลดลงไปอีก 4%



ดร. ธราภุช ได้กล่าวเพิ่มเติมในตอนท้ายว่า "ถึงแม้ปี 2564 จะเป็นอีกปีที่ทุกธุรกิจยังจะต้องดำเนินต่อไปด้วยความลำบาก ที่ต้องเผชิญปัญหาที่ต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ทั่วโลก และทุกอุตสาหกรรม แต่เราต้องมองปัญหาในมุมใหม่เพื่อเป็นโจทย์ความท้าทายที่ นักการตลาด นักวางแผนสื่อ ที่ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวด้วยกลยุทธใหม่ๆ ที่เฉียบคม ด้วยความเข้าใจในผู้บริโภคและการวางแผนสื่ออย่างแยบยล บริหารจัดการเม็ดเงินที่มีให้ตรงกลุ่มเป้าหมายและคุ้มค่า ความเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค ในยุค new normal ที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว เพื่อปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที ทุกคนทั้งนักการตลาด และเอเจนซี่ต้องให้ความสำคัญของผู้บริโภคมาก่อน ถ้าผู้บริโภคอยู่ได้ แบรนด์ ธุรกิจ สื่อและเอเจนซี่ก็จะอยู่ได้ ในวิกฤติย่อมมีโอกาสเสมอ"
#11316
Boom Gluta กลูต้า ที่โดมเลือก


ดีและปลอดภัยกลูต้าช็อต ช็อตเดียวรู้เรื่อง!!!

ดำกรรมพันธุ์ ผิวหมองคล้ำ ฝ้ากระ อยากเปลี่ยนลุงป้าเป็นหนุ่มสาวน่ารัก
กลูต้าช๊อต เพียงกล่องเดียว รู้เรื่อง!!!...ดีกว่ากลูกต้าทั่วไป 215 เท่า

ผสมผสานสารสกัดจากธรรมชาติ21ชนิด ปลอดภัย ไร้กังวล ด้วยนวัตกรรมนาโนฟา อินฟาเรด เหรียญเงินระดับนานาชาติ

แค่เทใส่ปาก ละลายและดูดซึมทันที พกพาง่ายไม่ต้องชง!!
1 กล่อง 590 จากปกติ 890.- .
เลขที่จดทะเบียน 1311585950607

 Boom Gluta Shots จึงเป็นที่มาของการแก้ปัญหาด้วยการปกป้องจากภายในด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร "Boom Gluta Shots" มีส่วนประกอบสำคัญ FIR Glutathione Complex สุดยอดอาหารผิวแห่งปี ที่ได้รับรางวัลจากงาน "Seoul International Invention Fair 2020" ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ และเป็นนวัตกรรมใหม่
ที่ทำให้ผิวขาวกว่ากลูตาทั่วไปถึง 250% .

รับตัวแทนจำหน่าย/สมาชิก รับสิทธิ์ลงทะเบียนเรียนคอร์สออนไลน์มูลค่า 7,990 บาท ฟรี

สนใจติดต่อ
โทร. 0846623662

id line : teerapat999

รายละเอียดเพิ่มเติม https://teerapat99-gluta.salepage365.com/



#11317
 
 มากกว่าคำว่ากาแฟ Room Coffee อร่อยดี ไม่มีอ้วน




ประโยชน์เพียบจากสารสกัด 36 ชนิด
เสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงร่างกาย ชงง่าย
ชงได้ทั้งน้ำร้อนน้ำเย็น อยากกินต้องได้กิน

มีสารสกัดทั้งหมดมากถึง 36 ชนิด
เช่น โสม ถั่วเช่า เห็ดหลินจือ เมล็ดเจีย คอลลาเจน (สูตรเจ) และอีก...เยอะ
ที่ให้คุณ 5 คุณประโยชน์
Detox ขับสารพิษ
Block บล็อกแป้งและน้ำตาลที่มาใหม่
Burn ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ
Build  ช่วยสร้างเสริมกล้ามเนื้อให้กระชับ
Boost  เพิ่มพลังงานให้กระฉับกระเฉง

และยังช่วยเสริมภูมิต้านทาน ให้ไกลจากโรคหวัดและโรคต่างๆอีกด้วย ทุกอย่างรวมไว้ให้คุณขนาดนี้ บอกเลย คุ้

Room Coffee 1 ห่อ มี 10 ซอง ราคา 299 บาท
สนใจติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ

Tel. 0846623662

Line id : teerapat999
ข้อมูลเพิ่มเติม/รีวิวสินค้า https://teerapat99.iconroomcoffee.com/

#11318


"วันสารทจีน 2564" เป็นวันที่ลูกหลานแดนมังกรจะตั้งโต๊ะอาหารคาวหวานเพื่อไหว้ผีบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูและเป็นนัยว่าทำบุญส่งมอบอาหารไปถึงญาติผู้ล่วงลับให้ได้กินอิ่มหนำอีกครั้งในช่วงปลายปี (หลังจากที่ไหว้บรรพบุรุษไปแล้วในวันตรุษจีนช่วงต้นปี) และเมื่อพูดถึงการซื้อ  "ของไหว้"  สำหรับวันสารทจีนในปีนี้อาจจะไม่คึกคักเหมือนปีที่ผ่านๆ มา เนื่องด้วยสถานการณ์โควิดที่ทำให้สภาพเศรษฐกิจฝืดเคืองกว่าทุกปี 


แต่ไม่ว่าจะฝืดเคืองอย่างไร บางครอบครัวก็ยังคงสืบทอดธรรมเนียมปฏิบัติในการไหว้  "สารทจีน"  เอาไว้เหมือนทุกปี แต่ปีนี้อาจจะต้องมีเทคนิคในการซื้อของไหว้ให้ประหยัด และงบไม่บานปลายกันหน่อย กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รวบรวมทริกดีๆ สำหรับการซื้อของไหว้ให้ครบและคุ้มค่า รวมถึงแนะนำวิธีการตั้งโต๊ะไหว้ว่าต้องทำอย่างไร เตรียมของไหว้อะไร และไหว้เวลาไหนบ้าง? มาเช็คลิสต์ทางนี้...

1. เตรียมของไหว้มงคล "วันสารทจีน" 2564

ตามคติความเชื่อของชาวจีน (และชาวไทยเชื้อสายจีน) เวลาถึงวันสำคัญประจำปีที่จะต้องมีการตั้งโต๊ะไหว้เจ้า ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือไหว้บรรพบุรุษก็ตาม "ของไหว้"  เหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นของคาว ของหวาน หรือผลไม้ จะต้องมีความหมายมงคล ตามความเชื่อที่ว่าเมื่อไหว้ด้วยสิ่งของมงคลแล้ว ความดีอันเป็นมงคลทั้งหลายก็จะตกแก่ผู้ไหว้ ทำให้ชีวิตมีความเจริญก้าวหน้า ราบรื่น ค้าขายรุ่งเรืองเฟื่องฟู เป็นต้น

สำหรับ "ของไหว้" ที่ต้องใช้ในไหว้บรรพบุรุษในวัน "สารทจีน"  จะมีความคล้ายคลึงกับของไหว้ในวันตรุษจีน โดยจะใช้ทั้งของคาวจำพวกเนื้อสัตว์ที่มีความหมายมงคล ขนมมงคล และผลไม้มงคล ดังนี้

'สารทจีน' ความหมาย 'มงคล' ของไหว้ และไหว้อะไรบ้าง
'สารทจีน' VS 'ตรุษจีน' ลูกหลานแดนมังกรรู้ไหมต่างกันยังไง?

- เนื้อสัตว์ : เนื้อสัตว์ 3 อย่าง  (ซาแซ)  หรือเนื้อสัตว์ 5 อย่าง  (โหงวแซ) ต้องเลือกซื้อเนื้อสัตว์ที่มีความหมายมงคล  เช่น เป็ดพะโล้ต้ม ไก่ต้ม หมูสามชั้นต้ม หมูกรอบ ขาหมู ปลานึ่ง  กุ้งต้ม เป็นต้น ส่วนเนื้อสัตว์ที่้ไม่ควรนำมาเป็นของไหว้คือเนื้อวัวและเนื้อแพะ

- ผลไม้ :  ถัดมาก็ต้องเตรียมผลไม้มงคล 3 (ซาก้วย) หรือผลไม้มงคล 5 อย่าง (โหงวก้วย) ก็ได้ โดยต้องเลือกผลไม้ที่มีความหมายมงคลเช่นกัน ได้แก่ แอปเปิ้ลแดง ส้ม สาลี่ ลูกพลับ องุ่นแดง แก้วมังกร  สับปะรด กล้วยหอมทอง  ทับทิม  เป็นต้น  สังเกตว่าจะเน้นผลไม้สีแดงและสีเหลืองทอง ซึ่งชาวจีนเชื่อกันว่าเป็นสีแห่งความเฮงและความโชค ส่วนผลไม้ที่ไม่ควรนำมาเป็นของไหว้คือ ผลไม้ที่มีสีดำ เช่น องุ่นดำ เป็นต้น

- ขนม :  ส่วนขนมที่ขาดไม่ได้ในการไหว้สารทจีนก็คือ  "ขนมเข่ง"  ส่วนขนมเทียนและขนมเปี๊ยะนั้นจะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ และข้อสำคัญคือช่วงสารทจีนไม่นิยมใช้ขนมจันอับมาไหว้บรรพบุรุษ


2. เลือกซื้อ "ของไหว้" สุดประหยัดจัดได้ครบ!

อย่างที่บอกไปว่าปีนี้เกิดวิกฤติโรคระบาดโควิด ทำให้เศรษฐกิจฝืดเคือง การจับจ่ายหาซื้อ "ของไหว้"  ปีนี้จึงต้องประหยัดงบเข้าไว้ สำหรับวิธีการเลือกซื้อของไหว้สำหรับวัน  "สารทจีน"  นั้นก็คือ เน้นซื้อให้ครบทั้ง 3 หมวด คือ ของคาว ขนม และผลไม้ แต่ให้ลดปริมาณลง แม้ว่าตามความเชื่อของลูกหลานแดนมังกร เวลาจะซื้อเนื้อสัตว์ที่เป็นของไหว้ต้องซื้อให้เต็มทั้งตัวก็ตาม  แต่ยังไงก็ควรจับจ่ายตามความสะดวกและตามกำลังทรัพย์ของแต่ละบ้านมากกว่า

วิธีเลือกซื้อเนื้อสัตว์มงคล : เปลี่ยนจากซื้อเป็ดต้มและไก่ต้มทั้งตัว เป็นซื้ออย่างละครึ่งตัว เปลี่ยนจากซื้อขาหมูทั้งขา เป็นสามชั้นต้ม 1 ชิ้น และซื้อของทำกับข้าวที่บรรพบุรุษชอบทานอีกสัก 2-3 อย่าง

วิธีเลือกซื้อผลไม้มงคล : ซื้อแค่ 3 ชนิดก็เพียงพอแล้ว เช่น แอปเปิ้ลแดง สาลี่ กล้วยหอม

วิธีเลือกซื้อขนมมงคล : เน้นขนมเข่ง ขนมเทียนเป็นหลัก ส่วนขนมอื่นๆ ไม่ต้องก็ได้ และอย่าลืมถ้วยน้ำชาและชามข้าวสวยตามจำนวนญาติผู้ล่วงลับที่จะไหว้

ซื้อของจำเป็นอื่นๆ : กระดาษเงินกระดาษทอง กงเต๊ก ชุดเสื้อผ้ากระดาษ เล็กๆ น้อยๆ พอเป็นพิธีสำหรับเผาส่งไปให้ผู้ล่วงลับ


3. วิธีตั้งโต๊ะไหว้ "สารทจีน" 3 ครั้ง  พร้อมเวลาไหว้

ส่วนการจัดโต๊ะไหว้  "สารทจีน"  นั้นจะแบ่งการไหว้ออกเป็น 3 ครั้ง โดยแบ่งออกเป็น

-  ตั้งโต๊ะไหว้เจ้าที่ : ไหว้กันในตอนเช้า ไม่เกินเที่ยงวัน โดยต้องเตรียมทั้งของคาว ขนม และผลไม้ โดย "ของไหว้"  ที่ต้องมีในการไหว้ช่วงนี้คือ ขนมเทียน ขนมเข่ง และต้องแต้ม จุดสีแดง ไว้ตรงกลาง เนื่องจากความเชื่อของชาวจีนที่ว่าสีแดงเป็นสีแห่งความเป็นสิริมงคล นอกจากนั้นก็มี น้ำชา หรือ เหล้าจีน และ กระดาษเงินกระดาษทอง

วิธีไหว้ :  จัดอาหารมงคลเหล่านี้ไว้บนโต๊ะ จุดธูป 5 ดอกยกขึ้นไหว้พร้อมตั้งจิตอธิษฐาน จากนั้นพอไหว้เสร็จก็เผากระดาษเงินกระดาษทอง

-  ตั้งโต๊ะไหว้บรรพบุรุษ :  ไหว้ช่วงสายๆ และไม่เกินเที่ยงวันเช่นกัน โดยใช้ชุดของคาว ขนม ผลไม้ เหมือนกับที่ไหว้เจ้าที่ และให้เพิ่มอาหารเมนูโปรดของเหล่าบรรพบุรุษเข้ามา และให้จัดชามข้าวสวย ถ้วยน้ำชา เก้าอี้ ตามจำนวนของบรรพบุรุษที่จะไหว้ด้วย ขณะที่ไหว้ก็สามารถเผากระดาษเงินกระดาษทอง เสื้อผ้ากระดาษ ชุดกงเต็ก ฯลฯ ไปพร้อมๆ กันเลยก็ได้ 

วิธีไหว้ :  จัดอาหารมงคลเหล่านี้ไว้บนโต๊ะ ไหว้บรรพบุรุษที่เสียนานแล้วใช้ธูป 3 ดอก สำหรับบรรพบุรุษที่เพิ่งเสียได้ไม่นานใช้ธูป 1 ดอก


-  ตั้งไหว้ผีไม่มีญาติ สัมภเวสี  :  ไหว้ช่วงบ่ายแก่ๆ ถือเป็นการให้เกียรติผู้อื่นของคนจีน และเป็นการให้ทาน โดยการทำเช่นนี้เชื่อว่าจะช่วยให้ผู้ไหว้ทำการงานลื่นไหลไม่ติดขัด ค้าขายดี มีความเจริญรุ่งเรือง

วิธีไหว้ :  ต้องจัดโต๊ะไหว้บริเวณนอกตัวบ้าน ของไหว้จะมีทั้งของคาว ขนมหวาน และผลไม้ ตามต้องการ ที่พิเศษคือต้องมีข้าวคลุกกระเทียมเจียวแบบจีนโบราณ  เผือกนึ่งผ่าซีกเป็นเสี้ยวใส่ถาด เส้นหมี่ห่อใหญ่ เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง ให้เจ้าบ้านจุดธูปจำนวนมากไหว้ แล้วปักธูปที่อาหารหรือภาชนะอย่างละ 1 ดอก ส่วนคนอื่นๆ ในบ้านใช้ธูปเพียงดอกเดียวไหว้ เมื่อธูปหมดดอกต้องจุดประทัดเพื่อไล่ผีที่มาร่วมกินอาหารให้เตลิดไป และใช้ไล่สิ่งชั่วร้ายต่างๆ ให้พ้นไปด้วย
#11319
สนใจติดต่อคุณเป้ง 087-347-6299
https://gladnessaccounting.co.th/

สำนักงานบัญชีนนทบุรี  สำนักงานบัญชีบางกรวย  สำนักงานบัญชีบางใหญ่  สำนักงานบัญชีบางบัวทอง  สำนักงานบัญชีไทรน้อย  สำนักงานบัญชีปากเกร็ด  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีพิมลราช  สำนักงานบัญชีบางคูรัด  สำนักงานบัญชีบางรักพัฒนา  สำนักงานบัญชีบางแม่นาง  สำนักงานบัญชีบางกร่าง  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีตลาดขวัญ  สำนักงานบัญชีบางตะไนย์  สำนักงานบัญชีบางพลับ  สำนักงานบัญชีบางรักน้อย  สำนักงานบัญชีมหาสวัสดิ์  สำนักงานบัญชีศาลากลางนนทบุรี  สำนักงานบัญชีอ้อมเกร็ด  สำนักงานบัญชีแจ้งวัฒนะ  สำนักงานบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีถนนชัยพฤกษ์  สำนักงานบัญชีถนนติวานนท์  สำนักงานบัญชีถนนทวีวัฒนา  สำนักงานบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  สำนักงานบัญชีท่าอิฐ  สำนักงานบัญชีถนนนครอินทร์  สำนักงานบัญชีบางม่วง  สำนักงานบัญชีบางกรวย-จงถนอม  สำนักงานบัญชีถนนบางไกรใน  สำนักงานบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีบางคูเวียง  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีถนนพิบูลสงคราม  สำนักงานบัญชีถนนราชพฤกษ์  สำนักงานบัญชีตลิ่งชัน  สำนักงานบัญชีถนนเรวดี  สำนักงานบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนศรีสมาน  รับทำบัญชี
#11320
ลงทองเรียกจิต เป็นการเรียกจิตให้อีกฝ่ายคิดถึง

ด้วยการเสกแผ่นทองคำเปลวแท้  100 %  ด้วยคาถาเรียกจิต  เพื่อเรียกจิตบุคคลที่ต้องการมาไว้ในแผ่นทอง  จากนั้นนำแผ่นทองที่ผ่านการเสกแล้ว  ไปติดตรงตำแหน่งกึ่งกลางหน้าผาก  โดยใช้สีผึ้งเรียกจิตทาก่อน  แล้วท่องคาถาเรียกจิตจนบุคคลที่ต้องการ  คิดถึงเรามากๆ 

ค่าครู 99  บาท
สนใจติดต่อ
โทร 0846623662
lide id : teerapat999

ลาซาด้า  คลิก
https://pdp.lazada.co.th/products/i2641064456.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.6.7dfb4edfDYXNoK

#11322


เคลวิน เหลียง ซีอีโอ ดีเอชแอล โกล. ฟอร์เวิร์ดดิ้ง เอเชียแปซิฟิก ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ในเครือดอยช์โพสต์ดีเอชแอลกรุ๊ป (DPDHL Group) กล่าวว่า ปี 2564 มีการคาดการณ์ว่าตลาดอีคอมเมิร์ซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเติบโต 5.5% จากแรงหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ผ่านการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมการผลิต และการกระจายตัวของซัพพลายเชนของบริษัทภายในภูมิภาค

ดังนั้น ในทิศทางเดียวกันเล็งเห็นถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนของ "การขนส่งทางถนนข้ามพรมแดนระหว่างทวีป" โดยหลังจากนี้ความร่วมมือทางการค้าภายในเอเชียจะเติบโตอย่างแน่นแฟ้นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง การซื้อสินค้าผ่านออนไลน์เติบแบบก้าวกระโดด กลายเป็นนิวนอร์มอลซึ่งพฤติกรรมผู้บริโภคจะคงอยู่ต่อไปแม้โควิดจะคลี่หลายไปแล้วก็ตาม

ขณะเดียวกัน ส่งผลทำให้โซลูชั่นด้านโลจิสติกส์มีความสำคัญมากขึ้นตามลำดับ ทุกวันนี้การขนส่งสัดส่วนกว่า 85% ของตลาดอีคอมเมิร์ซทำผ่านทางทะเล ราง และรถบรรทุก มีเพียง 15% เท่านั้นที่ขนส่งผ่านเครื่องบิน


'อีคอมเมิร์ซ' หนุนตลาดโต


เขากล่าวว่า หนึ่งในปัจจัยที่จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาการค้าระหว่างภูมิภาค ได้แก่ ระบบศุลกากรผ่านแดนอาเซียน หรือ the ASEAN Customs Transit System (ACTS) ที่เริ่มขึ้นในปี 2563 ซึ่งมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ผู้ประกอบการขนส่งและเคลื่อนย้ายสินค้าข้ามพรมแดนอาเซียนได้อย่างราบรื่น ผ่านมาตรฐานและการรับประกันที่ครอบคลุมทั้งอากรขาเข้าขาออกและภาษีตลอดการดำเนินงาน

โดยเฉพาะ หลังจากมีการผ่อนคลายลงของข้อจำกัดทางการค้าและมีการดำเนินตามมาตรการใหม่สำหรับการค้าระหว่างภูมิภาค เช่น ระบบศุลกากรผ่านแดนอาเซียน (ACTS) และ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ซึ่งเป็นผลดีต่อประเทศกลุ่มอาเซียน ที่พร้อมจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลังจากผ่านการแพร่ระบาดของโควิด-19

ข้อมูลระบุว่า เศรษฐกิจของประเทศในเอเชียตะวันออกที่คาดการณ์ว่าจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางการค้าในปี 2564 ส่งผลให้ตลาดการขนส่งสินค้าทางถนนของอาเซียน มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีเพิ่มขึ้นกว่า 8% ภายในปี 2563-2568

โทมัส ทีเบอร์ ซีอีโอ ดีเอชแอล โกล. ฟอร์เวิร์ดดิ้ง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า การใช้จ่ายผ่านรูปแบบอีคอมเมิร์ซของผู้บริโภค และธุรกิจอีคอมเมิร์ซแบบบีทูบีซึ่งคาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นราว 70% ภายในปี 2570 ยังมีส่วนเข้ามาเสริมความต้องการของโซลูชั่นการขนส่งสินค้าแบบถึงที่หมาย (door-to-door logistics solutions) ต่อไปในอนาคตอีกด้วย

"การขนส่งทางถนนกำลังมีบทบาทที่สำคัญมากยิ่งขึ้นในการแก้ปัญหาการขนส่งระยะไกลระหว่างประเทศทั่วภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและยั่งยืน"

ปีที่ผ่านมา อัตราค่าขนส่งทางอากาศและทางทะเลมีการผันผวนอย่างมากในช่วงการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 โดยโซลูชั่นการขนส่งทางถนน หรือการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบได้นำเสนอราคาที่ยั่งยืนยิ่งกว่า ควบคู่กับความสามารถในการขนส่ง และการเข้าถึงชายแดนที่ง่ายยิ่งขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้"

'ขนส่งทางถนน' อนาคตใหม่

ทีเบอร์เผยว่า การขนส่งทางถนนมีราคาถูกและปล่อยมลพิษน้อยกว่าการขนส่งทางอากาศมาก ขณะเดียวกันเพิ่มความปลอดภัย และลดระยะเวลาการขนส่งที่เมื่อเทียบกับการขนส่งทางทะเล

นอกจากนี้ โซลูชั่นการขนส่งทางถนนยังเป็นทางเลือกที่มีความคล่องตัวสูง เพราะรถบรรทุกสามารถทำการขนส่งสินค้าแบบถึงที่หมาย ข้ามพรมแดน ครอบคลุมทั้งในระยะทางทั้งใกล้และไกล

ปัจจุบัน ลูกค้าเลือกใช้การขนส่งทางถนนเพิ่มมากขึ้นสำหรับการขนส่งสินค้าบางส่วนหรือทั้งหมดทั้งระยะใกล้และไกล เพราะการขนส่งทางถนนช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่าการขนส่งทางอากาศ

"การขนส่งทางถนนกำลังมุ่งหน้าสู่อนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี เพื่อประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความยั่งยืนที่มากขึ้น ผ่านการใช้เชื้อเพลิงที่ประหยัดพลังงานคาร์บอน"
#11324


ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัท สตาร์ ยูนิเวอร์แซล เน็ตเวิร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ STAR ได้แจ้งการหยุดธุรกิจจำหน่ายและให้บริการงานทางด้านวิศวกรรม ธุรกิจสื่อและประชาสัมพันธ์ รวมถึงธุรกิจตู้กาแฟหยอดเหรียญ มายังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้พิจาณาแล้วเห็นว่าบริษัทมิได้มีการประกอบธุรกิจหลัก ประกอบกับข้อมูลในงบการเงินไตรมาสที่ 2 ปี 2564 ที่บริษัทนำส่งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังปรากฏชัดเจนว่า บริษัทไม่มีรายได้จากการประกอบธุรกิจหลักแต่อย่างใด

ดังนั้น จึงถือได้ว่าบริษัทมีการหยุดดำเนินธุรกิจทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด ส่งผลให้บริษัทเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนตามข้อกำหนดตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่อง การเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน เพื่อให้เป็นไปตามความในข้อกำหนดตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังกล่าวข้างตัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะดำเนินการดังนี้


1. ประกาศว่าหลักทรัพย์ STAR มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเป็นปีที่ 1 (NC ระยะที่ 1) ตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.2564 โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย NC (Non-compliance) และยังคงเครื่องหมาย SP (Suspension) ห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทต่อไป


2. ให้ STAR แจ้งแนวทางดำเนินการแก้ไขเหตุเพิกถอน กรณีบริษัทมีการหยุดประกอบกิจการทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด พร้อมทั้งกำหนดเวลาดำเนินการของแนวทางดำเนินการดังกล่าว โดยให้บริษัทเผยแพรให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนได้ทราบภายในวันที่ 17 ก.ย.2564

3. เมื่อครบกำหนดเวลาตามข้อ 2 หาก STAR ได้แจ้งแนวทางดำเนินการของบริษัทอย่างครบถ้วนชัดเจนแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะอนุญาตให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทได้เป็นเวลา 1 เดือน และเมื่อครบเวลาดังกล่าว ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทจนกว่าบริษัทจะดำเนินการให้เหตุแห่งการเพิกถอนหมดไปและดำเนินการให้บริษัทมีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายได้ตามปกติ

หากบริษัทไม่แจ้งแนวทางดำเนินการแก้ไขเหตุเพิกถอนภายในกำหนดเวลาตามข้อ 2 ตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจไม่อนุญาตให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัท

4. ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะให้ระยะเวลา STAR ในการแก้ไขเหตุเพิกถอนให้หมดไปภายใน 3 ปี นับแต่วันที่ 18 ส.ค.2564 ซึ่งกำหนดเป็น 3 ระยะ โดยแต่ละระยะมีเวลา 1 ปี (NC ระยะที่ 1, NC ระยะที่ 2 และ NC ระยะที่ 3 เมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว หากบริษัทยังไม่สามารถแก้ไขเหตุเพิกถอนให้หมดไปได้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเสนอคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อพิจารณาเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทต่อไป

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนโปรดศึกษาข้อมูลสำคัญของบริษัท พร้อมทั้งติดตามการนำเสนอแนวทางดำเนินการแก่ไขเหตุเพิกถอนของบริษัทต่อไป