ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกจากแรงช้อนซื้อ นักลงทุนยังจับตาโอมิครอน

[Panitsupa]

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดในแดนบวกจากแรงช้อนซื้อหลังร่วงลงก่อนหน้านี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่า จะนำไปสู่การประกาศใช้มาตรการควบคุมการระบาดในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ขณะที่บางประเทศในยุโรปเริ่มประกาศใช้มาตรการดังกล่าวไปแล้ว

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,309.60 จุด เพิ่มขึ้น 371.79 จุด หรือ +1.33%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,795.57 จุด เพิ่มขึ้น 50.71 จุด หรือ +0.22% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,591.45 จุด ลดลง 2.15 จุด หรือ -0.06%

สำหรับความเคลื่อนไหวสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ล่าสุดนั้น นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เปิดเผยหลังการประชุมฉุกเฉินคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (20 ธ.ค.) ว่า รัฐบาลจะยังไม่มีการประกาศมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดครั้งใหม่ แต่จะจับตาดูสถานการณ์เป็นรายชั่วโมง

นายจอห์นสันกล่าวว่า ที่ประชุมได้หารือกันเกี่ยวกับการออกมาตรการเพิ่มเติมจาก Plan B ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน แต่ยังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ โดยรัฐบาลจะรอดูข้อมูลใหม่ที่เข้ามาเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อ, ผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล รวมทั้งจำนวนผู้เสียชีวิต และรัฐบาลจะไม่ลังเลใจในการใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น หากมีความจำเป็น

ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในอังกฤษที่พบเมื่อวานนี้ อยู่ที่ 91,743 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดในช่วงต้นปี 2563

ทางด้านเนเธอร์แลนด์ได้เข้าสู่ภาวะล็อกดาวน์ไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (19 ธ.ค.) เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโอมิครอน ซึ่งการล็อกดาวน์จะครอบคลุมไปถึงช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ขณะที่ไอร์แลนด์ได้ประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิวตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 2564 - 30 ม.ค.2565 ซึ่งจะส่งผลให้ร้านอาหาร, ผับบาร์, โรงภาพยนตร์, สถานบันเทิงและสถานที่พักผ่อนต่าง ๆ ต้องปิดให้บริการก่อนเวลา 20.00 น.

ทางด้านนายเปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีสเปนจะหารือกับผู้นำภูมิภาคต่าง ๆ ในวันพุธนี้ (22 ธ.ค.) เพื่อหารือถึงการใช้มาตรการควบคุมในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า ขณะที่อิตาลีเตรียมหารือการบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น โดยจะมีการประชุมในวันพฤหัสบดีนี้ (23 ธ.ค.)

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าติดตามวันนี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. ของเกาหลีใต้ และรายงานการประชุมของธนาคารกลางออสเตรเลีย