• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

กำลังซื้อตก-แบงก์เข้มปล่อยกู้ พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนเบรกซื้อหันมาเช่าอยู่

Started by kaidee20, August 31, 2021, 01:53:42 PM

Previous topic - Next topic

kaidee20



นับจากเกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ในประเทศไทยตลาดคอนโดมิเนียมกลายเป็นกลุ่มสินค้าในตลาดที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เนื่องจากกลุ่มลูกค้าหลัก คือ กลุ่มคนรุ่นใหม่ คนเริ่มทำงาน ชาวต่างชาติ และกลุ่มนักลงทุน ซึ่งกลุ่มลูกค้าเหล่านี้บางส่วนมีกำลังซื้อที่ลดลง จากผลกระทบเศรษฐกิจ และการลดเวลาจ้างงานในธุอรกิจต่าง ๆ บางส่วนต้องเดินทางกลับประเทศต้นสังกัดและบางส่วนต้องชะลอการซื้อเพื่อดูสถานการณ์ ทำให้ดีมานด์คอนโดหดตัวกระทันหันอย่างรุนแรง ขณะที่จำนวนซับพลายในตลาดยังคงเพิ่มจำนวนขึ้นต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตลาดคอนโดเริ่มกลับมามีสัญญาณที่ดีขึ้น ภายหลังจากเกิดการระบาดของเชื้อโควิด-19 ในระลอกที่3 ซึ่งในส่งฝผลให้ประเทสไทยต้องกลับมาล็อกดาวน์จนธุรกิจทุกอย่างหยุดชะงัดและมีผลต่อรายได้ของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ทำให้สถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากกว่าปกิ โดยประเด็นหลักที่สถาบันการเงินใช้ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อที่อยู่อาศัย คือ เสถียรภาพทางการเงินและอาชีพของผู้กู้ ทำให้ในปัจจุบันมีเพียงกลุ่มคจำนนน้อยที่มีความสามารถในการขอสินเชื่อที่อยูอาศัย

อัตราการปฏิเสธสินเชื่อและการเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่เข้มข้นทำให้ ผู้บริโภคชะลอแผนการซื้อที่อยู่อาศัยและเปลี่ยนมาเช่าที่อยู่อาศัยแทน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ และคนเริ่มทำงานใหม่ ซึ่งมีไลฟสไตล์การอยู่อาศัยในย่านใจกลางเมืองและใกล้แหล่งทำงาน พฤติกรรมดังกล่าวทำให้ความต้องการคอนโดเช่าปรับตัวดีขึ้นเลื่อยๆ และหากยังมีทิศทางเช่นนี้เชื่อว่าในระยะอันใกล้นี้ตลาดคอนโดน่าจะกลับมาเห็นแสงปลายอุโมงได้ไม่ยาก

สุรเชษฐ กองชีพ
สุรเชษฐ กองชีพ

นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอลซันแทนซี่ จำกัด กล่าวว่า ตลาดคอนโดมิเนียมปล่อยเช่าจริง ๆ แล้วค่อนข้างมีปัญหามาก่อนี่จะเกิดวิกฤตโควิด-19แล้ว เนื่องจากจำนวนคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จเข้าสู่ตลาดมีจำนวนมากในแต่ละปี อีกทั้งมีผู้ซื้อบางส่วนที่ตั้งใจซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุนในระยะยาวหรือซื้อมาเพื่อปล่อยเช่าโดยหวังทั้งรายได้จากค่าเช่าและขายต่อในอนาคตในราคาที่สูงขึ้นซึ่งจัดได้ว่าเป็นการลงทุนในระยะยาว โดยกลุ่มเป้าหมายของนักลงทุนรูปแบบนี้ คือชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยและต้องการที่พักในระยะยาวมากกว่า 1เดือนขึ้นไปเพราะการปล่อยเช่ารายวันผ่านการดูแลของกลุ่มบุคคลหรือแอปพลิเคชั่นต่างๆยังไม่เป็นที่ยอมรับในประเทศไทย แม้ว่าจะมีการทำแบบนี้จะมีให้เห็นอยู่บ้าง

อย่างไรกามหลังเกิดวิกฤตโควิด-19 มีผลให้การลงทุนหรือธุรกิจจำนนมากจำเป็นต้องชะลอการลงทุนหรือยกเลิกการขยายกิจการรวมไปถึงหยุดกิจการชั่วคราวชาวต่างชาติที่เคยเช่าคอนโดมิเนียมอยู่เริ่มทยอยย้ายออกและกลับประเทศไปแต่ก็ยังมีชาวต่างชาติบางส่วนที่เลือกที่จะย้ายออกจากที่พักที่พวกเขาเคยอยู่ซึ่งอาจจะเป็นอพาร์ตเม้นต์เซอร์วิส อพาร์ตเม้นต์ หรือโรงแรมมาเช่าคอนโดมิเนียมอยู่เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่แตกต่างกันแค่หาบริการเรื่องของการทำความสะอาดและซักรีดเสื้อผ้าเพิ่มเติมเท่านั้นแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตลาดคอนโดมิเนียมเช่าจะมีลูกค้าต่อเนื่องแบบไม่ขาดตอน หรือไม่ได้รับผลกระทบ

ก่อนหน้านี้ด้วยจำนวนคอนโดมิเนียมที่เข้าสู่ตลาดในแต่ละปีมีมากกว่า40,000 ยูนิตหรือมากกว่านี้ในบางปีมีผลให้จำนวนคอนโดมิเนียมสะสมในกรุงเทพมหานครมากกว่า 650,000 ยูนิตไปแล้วและมีไม่น้อยกว่า 5% ในจำนวนนี้ที่ต้องการปล่อยเช่า
นั่นหมายความว่าจำนวนคอนโดมิเนียมที่มีคนซื้อไว้เพื่อต้องการปล่อยเช่ารายเดือนนั้นมีไม่น้อยกว่า33,000 ยูนิต แม้ว่าจริงๆ แล้วจะไม่สามารถคาดการณ์จำนวนที่แท้จริงได้ก็ตามจำนวนที่แท้จริงอาจจะมากกว่านี้ก็เป็นไปได้แต่ด้วยจำนวนคอนโดเพื่อเช่ามากมายขนาดนี้ ประกอบกับมีที่อยู่อาศัยรูปแบบอื่นๆที่ให้เช่าระยะยาวเป็นทางเลือกอีกการลดน้อยลงของชาวต่างชาติในกรุงเทพมหานครจึงส่งผลกระทบต่อตลาดคอนโดมิเนียมเช่าแน่นอน



โดยที่เห็นได้ชัดมากๆ คือ เรื่องของค่าเช่าที่มีนักลงทุนหลายรายเลือกที่จะลดค่าเช่าของตนเองลง โดยเฉพาะกลุ่มของนักลงทุนที่เพิ่งเข้าสู่ตลาดคอนโดมิเนียมเพราะนักลงทุนกลุ่มนี้อาจจะจำเป็นต้องการรายได้จากคาเช่าคอนโดเพื่อนำมาเป็นค่าผ่อนชำระสินเชื่อธนาคาร ดังนั้น ได้ค่าเช่าลดน้อยลงก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ประกอบกับช่วง 1 ปีกว่าๆผ่านมา ความต้องการเช่าคอนโดมิเนียมลดน้อยลงไปแบบชัดเจน เพราะชาวต่างชาติที่ทำงานในกรุงเทพฯลดจำนวนลงไปชัดเจน ซึ่งจากสถิติของสำนักบริหารแรงงานต่างด้าวพบว่าชาติต่างชาติที่ได้ใบอนุญาตทำงานและไม่ใช่ชาวเมียนมาลาว และกัมพูชารวมไปถึงชนกลุ่มน้อยต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร ณ เดือนมิถุนายนปี 64 ลดน้อยลงไปประมาณ 14,000 คน

เมื่อเทียบกับช่วงปลายปี 62 การขาดหายไปของชาวต่างชาติยังคงมีจากกลุ่มที่เข้ามาทำงานแบบชั่วคราวหรือเข้ามาดูงานและไม่ได้ขอใบอนุญาตทำงานแล้วพักในที่พักที่บริษัทหรือองค์กรเช่าระยะยาวไว้ก็ยังมีอีกจำนวนไม่น้อย รวมไปถึงชาวต่างชาติที่เข้ามาในรูปแบบของนักท่องเที่ยวแต่เลือกที่จะเช่าคอนโดมิเนียมพักอาศัยเพราะอาจจะอยู่กันเป็นเดือนเพราะนอกจาก จะท่องเที่ยวแล้วอาจจะมีการมองหาช่องทางการทำธุรกิจในประเทศไทยด้วยเมื่อรวมๆ แล้วชาวต่างที่หายไปจากกรุงเทพและเป็นกลุ่มเป้าหมายของตลาดคอนโดมิเนียมเช่านั้นหลายหมื่นคนทีเดียว

นอกจากนี้การที่คนไทยส่วนหนึ่งทำงานที่บ้านไม่ต้องเข้าสำนักงานหรือจำนวนวันที่เข้าสำนักงานลดน้อยลงประกอบกับบุตรหลานไม่ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนหรือสถานศึกษาตามปกติก็อาจจะมีผลให้คนไทยกลุ่มนี้บางส่วนที่เช่าคอนโดมิเนียมอยู่
เพราะบ้านของพวกเขาอาจจะอยู่ชานเมืองหรือไกลจากที่ทำงานรวมไปถึงสถานศึกษาของบุตรหลานก็อาจจะขอยกเลิกการเช่าคอนโดมิเนียมไปเช่นกัน



ผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งจากปัจจัยต่าง ๆ นั้นเห็นได้ชัดเจนจากการขาดแคลนกลุ่มลุกค้า ซึ่งแน่นอนว่ามีผลต่อค่าเช่าแน่นอน
เพราะนักลงทุนบางส่วนเลือกที่จะลดคาเช่าลง ประกอบกับผู้เช่าที่ยังคงต้องการหาคอนโดมิเนียมเช่าในกรุงเทพมหานครเองก็พยายามหาคอนโดมิเนียมที่มีค่าเช่ารายเดือนที่ต่ำลงเพราะพวกเขาอาจจะมีเงินสนับสนุนจากบริษัทหรือองค์กรลดลงประกอบ กับเริ่มเห็นสัญญาณการลดค่าเช่าจากกลุ่มของเจ้าของห้องพวกเขาจึงพยายามต่อรองลดค่าเช่าลงมาให้มากที่สุด และไม่รีบตัดสินใจ เนื่องจากตัวเลือกในตลาดมีมากมายอีกทั้งยังมีคนที่ต้องการผู้เช่าโดยไม่ยึดติดกับค่าเช่าหรือผลตอบแทนที่เคยตั้งความคาดหวังไว้เรื่องของค่าเช่าที่ลดลงนั้นมีตั้งแต่ 10% หรือมากกว่า50% ในบางยูนิตขึ้นอยู่กับเจ้าของยูนิตนั้นๆ และแน่นอนว่าเมื่อค่าเช่าลดลงผลตอบแทนจากการเช่าที่เคยคาดหวังไว้ที่ 4 – 5% ต่อปีอาจจะลดเหลือเพียง2 – 3% ต่อปี และอาจจะเป็นการทำให้ผลตอบแทนจากการเช่าไม่กลับในระดับเดิมอีกก็เป็นไปได้เพราะผู้เช่า จำนวนไม่น้อยรับรู้ค่าเช่าในระดับนี้แล้ว การจะปรับค่าเช่าขึ้นในอนาคตก็อาจจะยากกว่าลดลงแบบตอนนี้นักลงทุน ที่มีต้นทุนสูงกว่าก็ได้รับผลกระทบแน่นอน เนื่องจากไม่สามารถได้รับผลตอบแทนได้ตามที่ตั้งใจ

ช่วงต้นปี 64 ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันอาจจะเริ่มเห็นสัญญาณของกลุ่มผู้เช่าที่เป็นชาวต่างชาติเริ่มเข้ามาในประเทศมากขึ้น แม้ว่าจะเป็นจำนวนไม่มาก แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีโดยกลุ่มของชาวต่างชาติที่เข้ามาก็ยังคงมองหาคอนโดในทำเลยอดนิยมเดิมๆที่มีการเดินทางสะดวกสบาย ปลอดภัย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบในพื้นที่ ดังนั้น
ทำเลตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าทั้งBTS และรถไฟใต้ดินจึงยังเป็นทำเลยอดนิยมต่อเนื่องโดยพื้นที่ตามแนวถนนสุขุมวิท รัชดาภิเษก พหลโยธินยังคงได้รับความสนใจเช่นเดิมแต่ถ้ามองในทำเลที่ไกลออกไปหรือไม่ได้จำเพาะเจาะลงเป็นทำเลหรือพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งทำเลรอบๆ มหาวิทยาลัยยังคงเป็นทำเลที่มีนักลงทุนให้ความสนใจต่อเนื่องมากที่สุด

โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยที่อยู่ในจังหวัดปริมณฑลรอบกรุงเทพมหานครเนื่องจากราคาคอนโดมิเนียมไม่สูงมาก อีกทั้งความต้องการในอนาคตยังสามารถคาดหวังได้อยู่แม้ว่าปัจจุบันจะมีการเรียนออนไลน์กันอยู่ก็ตาม แต่เมื่อสถานการณ์ต่างๆ
กลับมาดีขึ้น คอนโดมิเนียมเหล่านี้จะเป็นที่ต้องการนักลงทุนจำนวนไม่น้อยจึงเลือกที่จะซื้อและโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่รอบๆมหาวิยาลัยกันต่อเนื่อง



ช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19มีนักลงทุนที่เป็นกลุ่มของนักลงทุนในระยะยาวหรือกลุ่มที่ซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อต้องการปล่อยเช่าในระยะยาวเลือกซื้อคอนโดมิเนียมจากผู้ประกอบการที่ลดราคาขายโครงการที่สร้างเสร็จแล้วในช่วงกลางปี63ต่อ เนื่องถึงปัจจุบัน เพราะราคาขายลดลงมากกว่า 15% บางยูนิตในบางโครงการลดลงไปมากกว่า30% ซึ่งเหมาะที่จะซื้อมาลงทุนปล่อยเช่าและราคาที่ซื้อในปัจจุบันยังสามารถนำมาปล่อยเช่าในราคาที่ไม่แตกต่างจากคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จก่อนหน้านี้กลุ่มของนักลงทุนที่มีเงินเก็บและไม่ได้ใช้เงินสินเชื่อธนาคารให้ความสนใจคอนโดมิเนียมที่ปล่อยขายแบบลดราคาแม้ว่าบางยูนิตอาจจะไม่ได้อยู่ในมุมหรือชั้นที่ดีแต่เพราะวัตถุประสงค์เพื่อการปล่อยเช่าจึงไม่ใช่ประเด็นสำคัญในการเลือกซื้อเพื่อการลงทุน

อนาคตของตลาดคอนโดมิเนียมเช่าในกรุงเทพมหานครและเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วประเทศไทยคงยังไม่ได้กลับมาเป็นปกติในเร็ววันนี้แม้ว่าการเดินทางระหว่างประเทศเริ่มเปิดให้มีการเดินทางได้แล้วก็ตามแต่ยังคงต้องรอเวลาอีกไม่น้อยกว่า1–2ปีกว่า ที่สถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้นแต่ต้องไม่ลืมว่าคอนโดมิเนียมที่เข้าสู่ตลาดในแต่ละปีก็มีมากขึ้นต่อเนื่องกลุ่มของนักลงทุนที่สนใจเข้ามาลงทุนในคอนโดมิเนียมก็เพิ่มขึ้นมาต่อเนื่องเช่นกัน ความคาดหวังของผลตอบแทนที่จะได้รับคงมีทิศทางที่ลดลงเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ซึ่งก็ไม่ได้สูงเท่าใดนัก เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ 5 - 6 ปี อาจจะยังหลงเหลือเพียงคอนโดมิเนียมที่อยู่รอบมหาวิทยาลัยเท่านั้นที่อาจจะยังสามารถคาดหวังผลตอบแทนที่มากว่าคอนโดมิเนียมในเมืองชั้นในได้

ธนา ต่อสหะกุล
ธนา ต่อสหะกุล

ด้านนายธนา ต่อสหะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มดีพีซี จำกัด MDPC ExpertiseMeets Excellenceในเครือบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งให้บริการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่าแม้ว่าต้นปี 64 จะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19ระลอก2 และระลอก3 แต่ตลาดคอนโดมิเนียมเพื่อเช่ายังคงได้รับความสนใจและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสแรกปี64 ผู้บริโภคแสดงความสนใจห้องชุดให้เช่าเพิ่มขึ้น21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและในไตรมาส2/64 มีผู้บริโภคสนใจห้องชุดให้เช่าเพิ่มขึ้น42% จากไตรมาส2/63

จากตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความสนใจเช่าห้องชุดมากขึ้นรวมถึงปรับเปลี่ยนทำเลและพฤติกรรมในการพักอาศัย เช่น เดิมผู้เช่าสนใจห้อง1 ห้องนอน ขนาดไม่เกิน50 ตร.ม.ที่เน้นพื้นที่ภายในห้องนอนมากกว่าพื้นที่ห้องอเนกประสงค์แต่ปัจจุบันผู้เช่ามองหาห้องชุดแบบ2 ห้องนอน ขนาด43-60 ตร.ม. ที่เน้นประโยชน์จากการใช้ฟังก์ชั่นต่าง ๆ ได้อย่างคุ้มค่าพื้นที่ห้องอเนกประสงค์สามารถปรับเปลี่ยนเป็นสถานที่ทำงานระบบ Work FromHome หรือปรับเป็นพื้นที่ในการออกกำลังกายได้รวมทั้งต้องการพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ เพื่อปลูต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับห้องพัก

"สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการมองหาห้องชุดเพื่อเช่าผู้เช่าต้องการห้องชุดที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้หลากหลายเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบWork From Homeเนื่องจากต้องใช้ระยะเวลานานอยู่ในห้องพัก และต้องการเช่าในระยะที่ยาวขึ้น และหากคอนโดฯมีฟังก์อื่นที่น่าสนใจเพิ่มเติม เช่น สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการปล่อยเช่าได้มากยิ่งขึ้น"

แม้พฤติกรรมการหาห้องชุดเพื่อเช่าจะเปลี่ยนไปแต่ผู้เช่ายังให้ความสำคัญกับเรื่องของ ทำเล โดยยังคงมองหาห้องชุดในทำเลกลางใจเมืองมีระบบการเดินทางที่สะดวกสบาย และใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สำหรับทำเลที่ผู้เช่าให้ความสนใจและมีอัตราการเช่าเติบโตอย่างต่อเนื่องคือทำสุขุมวิทตอนกลางถึงตอนปลาย ลาดพร้าว-พหลโยธิน



ขณะที่ ทำเลย่านสุขุมวิทตอนกลาง เริ่มตั้งแต่แยกอโศกไปจนถึงสถานีรถไฟฟ้าพระโขนง พบว่า มีความหลากหลายของการใช้ชีวิตมากที่สุด โดยเฉพาะ "ทองหล่อ-เอกมัย" เพราะเป็นทำเลที่มีปัจจัยหนุนเอื้อต่อการเติบโตในอนาคตอย่างมากมายและยังเป็นทำเลยอดนิยมของชาวต่างชาติ และในอนาคตพื้นที่นี้จะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาจุดเชื่อมต่อที่บริเวณBTS สถานีทองหล่อ (วัชรพล - ทองหล่อ)และอีกจุดที่BTS สถานีพระโขนง (พระโขนง - ท่าพระ) มาเสริมศักยภาพพื้นที่ส่งผลให้ปัจจุบันอัตราการเช่าในพื้นที่ดังกล่าวสูงถึง40 % โดยส่วนใหญ่เป็นผู้เช่าชาวต่างชาติคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง70% และมีอัตราค่าเช่าห้องชุดขนาดประมาณ40-60 ตร.ม. เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 35,000 บาทต่อเดือนส่งผลให้กลุ่มนักลงทุนเข้ามาลงทุนเพื่อปล่อยเช่าจำนวนมาก โดยมีอัตราRentalield เฉลี่ย อยู่ที่4-6% (ข้อมูลปี64) ซึ่งสูงที่สุดเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่น ๆ ในทำเลสุขุมวิท

ในส่วนของพื้นที่สุขุมวิทตอนปลายที่เริ่มจากสถานีรถไฟฟ้าพระโขนงไปจนถึงสถานีแบริ่งนั้น เป็นทำเลที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มคนวัยทำงานหรือFirst Jobber อย่างมากโดยมีสัดส่วนการเช่าสูงถึง 50% จากกลุ่มผู้เช่าทั้งหมด เนื่องจากราคาปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมยังไม่สูงมากห้องชุดขนาด40-60 ตร.ม. จะมีอัตราค่าเช่าเฉลี่ย24,000 บาทต่อเดือน

ส่วนทำเลลาดพร้าว – พหลโยธิน เป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีอัตราการเติบโตของตลาดเช่าค่อนข้างดีเนื่องจากการขยายตัวของรถไฟฟ้าสายใหม่อย่างสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (หมอชิต –สะพานใหม่ – คูคต) ส่งผลให้มีประชากรในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งพื้นที่อาคารสำนักงานห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ สถานศึกษา ก็มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สถานีกลางบางซื่อศูนย์กลางการคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯก็เป็นอีกปัจจัยหนุนสำคัญที่จะทำให้ตลาดเช่ามีอัตราการเติบโตในอนาคต โดยปัจจุบันค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่18,000 บาทต่อเดือนโดยกลุ่มผู้เช่าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยทำงาน นักศึกษา โดยมีอัตราผลตอบแทนในการลงทุนปล่อยเช่าเฉลี่ย5%

จากสัญญาณการขยายตัวของดีมานด์ในตลาดเช่าขณะนี้คาดว่าจะส่งฝผลต่อการระบายออกของห้องชุดในตลาดที่ดีขึ้น จากการซื้อเพื่อลงทุนเนื่องจากกลุ่มนักลงทุนได้รับปัจจัยกระตุ้นจากการที่สถาบันการเงินที่ประกาศลดวงเงินประกันเงินฝากลงมาอยู่ที่1 ล้านบาท ซึ่งอาจมีผลส่งผลต่อการตัดสินใจนำเงินฝากออกมาซื้อห้องชุดคอนโดเพื่อลงทุนระยะยาวมากชึ้นเพราะปัจจุบันดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ราคาขายอสังหาฯในขณะนี้ต่ำกว่าปกติ30-40%ถือเป็นช่วงนาทีทองของผู้ซื้อลงทุนมากที่สุด