• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ufa

ufabet

ปูนปั้น

สล็อตเว็บตรง

สล็อตเว็บตรง

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

pgslot

PG SLOT

PG SLOT

pg slot

PG SLOTเว็บตรง

PG SLOT เว็บตรง

pg slot

บาคาร่า

PG SLOT

pg slot

PG SLOT

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อต

บาคาร่า168

PG SLOT

สล็อตเว็บตรง

pg slot

สล็อตเว็บตรง

เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก

พาณิชย์ ชี้ช่องส่งออกวัตถุดิบอาหาร หลังอินเดียจ่อลดภาษีนำเข้าสู้ของแพง

Started by Chigaru, March 10, 2022, 04:48:15 PM

Previous topic - Next topic

Chigaru

พาณิชย์ ชี้ช่องส่งออกวัตถุดิบอาหาร หลังอินเดียจ่อลดภาษีนำเข้าสู้ของแพง

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้กรมฯ ติดตามโอกาสทางการค้าของไทยในประเทศต่างๆ และกรมฯ ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ล่าสุดได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย ถึงโอกาสในการส่งออกสินค้ากลุ่มวัตถุดิบอาหารเข้าสู่ตลาดอินเดีย หลังจากที่ปัจจุบันอินเดียเผชิญกับสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้น ตามการเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงสถิติของอินเดีย ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของอินเดียในเดือนม.ค. 65 เพิ่มขึ้น 6.01% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า และสูงกว่า CPI ในเดือนธ.ค. 64 ซึ่งอยู่ที่ 5.66% และมีข้อมูลจากผู้ผลิตรายใหญ่ในอินเดีย เช่น Nestle India, ITC, HUL, Dabur and Britannia พบว่า สินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาเพิ่มขึ้น 4-20% อาทิ ชา กาแฟ บิสคิต ช็อคโกแลต บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เครื่องสำอาง และของใช้ในบ้าน ขณะที่สินค้าวัตถุดิบก็มีราคาเพิ่มขึ้นด้วย โดยดัชนีราคาค้าส่ง (WPI) ในเดือนม.ค. 65 มีระดับสูงถึง 12.96% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า

นายภูสิต กล่าวว่า ทูตพาณิชย์มุมไบ รายงานว่า ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่สูงขึ้นในบางรายการ สะท้อนถึงโอกาสของสินค้าไทยที่อาจส่งออกไปอินเดียได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่อินเดีย มีแผนจะลดภาษีนำเข้าตั้งแต่เดือนพ.ค. 65 เป็นต้นไป และเป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารในอินเดีย เช่น น้ำมันปาล์มดิบที่ลดจาก 7.5% เหลือ 5% ถั่วพิสตาชิโอลดจาก 30% เหลือ 10% อินทผลัมจาก 30% เหลือ 20% ส้มและมะนาว จาก 40% เหลือ 30% เม็ดมะม่วงหิมพานต์ จาก 30% เหลือ 2.5% และบิสคิตและเวเฟอร์ จาก 45% เหลือ 30% ซึ่งราคาของกาแฟที่แพงขึ้น อาจเป็นโอกาสของไทยในการส่งออกเพื่อทำตลาดระดับบนในช่วงนี้ด้วย

นอกจากนี้ ในการทำตลาดในอินเดีย ผู้ผลิตและผู้ส่งออก สามารถสำรวจราคาของคู่แข่งในตลาดอินเดียผ่านแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ได้ เช่น amazon.in โดยดูจากราคาสูงสุดสำหรับการขายปลีก (MRP) ที่ระบุไว้ที่ฉลาก ซึ่งเป็นราคาที่ครอบคลุมถึงค่าบรรจุภัณฑ์และค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมตลาด ส่วนต่างกำไรของผู้ผลิต (ประมาณ 20%) ค่าขนส่งและจัดเก็บ (ประมาณ 6%) ส่วนต่างกำไรของตัวแทนจำหน่าย/กระจายสินค้า (Stockist Margin ประมาณ 10%) รวมถึงส่วนต่างกำไรที่ร้านค้าส่งและค่าปลีก (ประมาณ 20%)

ทั้งนี้ เพื่อประเมินในเบื้องต้นว่าราคาของสินค้าไทยเมื่อรวมค่าขนส่ง ภาษีนำเข้า และภาษี GST แล้ว จะสามารถแข่งขันกับรายอื่นได้หรือไม่ เนื่องจากคนอินเดียส่วนใหญ่มีความอ่อนไหวในราคา รวมทั้งนำไปวางแผนปรับต้นทุนสินค้าเพื่อเข้าสู่ตลาดอินเดีย