WHO ชี้วัคซีนซิโนฟาร์มและซิโนแวคมีบทบาทสำคัญในโครงการโคแวกซ์ (https://www.krabinnews.com/%e0%b8%aa%e0%b8%98-%e0%b8%a2%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%a5%e0%b9%87%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%94%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b9%8c-%e0%b9%81%e0%b8%95%e0%b9%88/)
ดร.บรูซ ไอล์วาร์ด ที่ปรึกษาอาวุโสของผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า วัคซีนซิโนฟาร์มและซิโนแวคกว่า 180 ล้านโดสที่ถูกส่งไปยัง 49 ประเทศผ่านโครงการโคแวกซ์ (COVAX) มีบทบาทสำคัญระดับโลกในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันและรักษาชีวิตประชาชน
ดร.ไอล์วาร์ดกล่าวว่า วัคซีนทั้ง 2 ตัวจากจีนคิดเป็นเกือบ 20% ของวัคซีนทั้งหมดที่ส่งผ่านทางโครงการโคแวกซ์
ทั้งนี้ ซิโนฟาร์มและซิโนแวคได้รับการรับรองให้ใช้ได้เป็นกรณีฉุกเฉินจาก WHO ในปี 2564
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตัวเลขอย่างเป็นทางการแสดงให้เห็นว่า โครงการโคแวกซ์ส่งออกวัคซีนทั้งหมด 959 ล้านโดสไปยัง 144 ประเทศ
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO กล่าวว่าด้วยความเร็วในการแจกจ่ายวัคซีนในปัจจุบันนั้น ทำให้มี 109 ประเทศที่จะยังไม่สามารถฉีดวัคซีนครบโดสให้กับประชากร 70% ของประเทศได้ภายในต้นเดือนก.ค. 2565 ตามที่ WHO เรียกร้อง
นายแพทย์ทีโดรสกล่าวเสริมว่า ความเท่าเทียมด้านวัคซีนและสุขภาพเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ที่สุดในปีที่แล้ว โดยปัจจัยเหล่านี้ "เป็นฆาตกรสังหารประชาชนและงาน" และบ่อนทำลายการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก พร้อมทั้งระบุว่า "การฉีดวัคซีนบูสเตอร์ซ้ำอีกหลังได้รับวัคซีนบูสเตอร์แล้วในไม่กี่ประเทศ จะไม่ยุติการแพร่ระบาด ขณะที่มีประชาชนอีกหลายพันล้านคนยังคงไม่ได้รับการปกป้อง"