นางจาร์ซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เปิดเผยในวันนี้ว่า นิวซีแลนด์พร้อมยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (https://www.ratchaburinews.com/%e0%b8%99%e0%b8%9e-%e0%b8%a2%e0%b8%87-%e0%b9%84%e0%b8%82%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%83%e0%b8%88-%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%84%e0%b8%8b%e0%b8%b5%e0%b8%99/) ที่เข้มงวดทั่วประเทศ หากมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน แต่ยังคงยืนยันว่าจะไม่ใช้การล็อกดาวน์
มาตรการควบคุมที่เข้มงวด บวกกับข้อได้เปรียบทางสภาพภูมิศาสตร์ ส่งผลให้นิวซีแลนด์ไม่พบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโอมิครอนในชุมชน แม้ในขณะนี้จะพบผู้ติดเชื้อในศูนย์กักตัวที่เขตชายแดนของประเทศก็ตาม
นางอาร์เดิร์นกล่าวว่า นิวซีแลนด์จะแจ้งเตือนสัญญาณไฟแดง หากพบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโอมิครอนในชุมชนภายใน 24-48 ชั่วโมง ซึ่งจะบังคับให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัย และจำกัดการรวมกลุ่มทางสังคม
"ข้อมูลจากต่างประเทศชี้ให้เห็นว่า โอมิครอนใช้เวลาเพียง 14 วันในการเพิ่มระดับการแพร่ระบาดจากร้อยคนสู่พันคน" นางอาร์เดิร์นกล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปัจจุบัน ประชากรนิวซีแลนด์ที่อายุเกิน 12 ปีประมาณ 93% ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และราว 20% ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ ซึ่งทางการนิวซีแลนด์จะเร่งระดมฉีดเข็มบูสเตอร์ให้กับประชาชนเพื่อเพิ่มระดับภูมิคุ้มกันต่อไป
อนึ่ง นิวซีแลนด์สั่งห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติเข้าประเทศตั้งแต่เดือนมี.ค. 2563 และขณะที่แผนการเปิดประเทศนั้นต้องเลื่อนออกไปจากช่วงกลางเดือนม.ค.ไปเป็นสิ้นเดือนก.พ. เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับไวรัสโอมิครอน