ภาวะตลาดหุ้นยุโรป (https://www.bkkhuman.com/%e0%b8%ab%e0%b8%b8%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%81%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%a5%e0%b9%81%e0%b8%aa%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%a3%e0%b8%b4/): หุ้นยุโรปปิดร่วง วิตกขึ้นดอกเบี้ย-ข้อมูลศก.อ่อนแอกดดันตลาด
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงอย่างหนักในวันศุกร์ (21 ม.ค.) โดยปรับตัวลงตามตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่าง ๆ ในปีนี้ และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 474.44 จุด ลดลง 8.91 จุด หรือ -1.84%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,068.59 จุด ลดลง 125.57 จุด หรือ -1.75%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,603.88 จุด ลดลง 308.45 จุด หรือ -1.94% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,494.13 จุด ลดลง 90.88 จุด หรือ -1.20%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง 1.4% ในรอบสัปดาห์นี้ โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ร่วงลงมากที่สุดในวันศุกร์ โดยร่วงลง 3.3% ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับภาวะชะงักงันด้านอุปทานถ่วงหุ้นกลุ่มรถยนต์ของยุโรปร่วงลง 4.2%
หุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานนำตลาดร่วงลง และการร่วงลงของหุ้นรายตัวถ่วงตลาดลงด้วย โดยหุ้นซีเมนส์ กาเมซา ผู้ผลิตกังหันลมของเยอรมนี ร่วงลงมากกว่า 13% หลังปรับลดคาดการณ์รายได้ในปีนี้ และส่งผลถ่วงหุ้นซีเมนส์ เอนเนอร์จี ร่วงลงเกือบ 16% ด้วย
ตลาดยังถูกกดดัน หลังการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค GfK ของอังกฤษร่วงลงแตะระดับ -19 ในเดือนม.ค. จากระดับ -15 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2564 ขณะที่เงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ
ส่วนสำนักงานสถิติเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของสหราชอาณาจักร ร่วงลง 3.7% ในเดือนธ.ค. โดยร่วงลงมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ซึ่งได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่าอาจลดลง 0.6%
หุ้นริโอ ทินโต ร่วงลง 2.3% หลังเซอร์เบียยกเลิกใบอนุญาตสำรวจแร่ลิเธียม เนื่องจากมีความวิตกด้านสิ่งแวดล้อม
บรรดานักลงทุนจะจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า