หากทุกเช้าที่เราตื่นนอนขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหลัง คงไม่ใช่เรื่องดีซักเท่าไหร่ เพราะอาการปวดหลังส่งผลต่อชีวิตประจำวันของเรามาก ปัญหาการตื่นมาพร้อมกับอาการปวดหลังในทุกเช้า ส่วนหนึ่งเกิดมาจาก ที่นอน (https://www.homepro.co.th/c/BED0302) ที่ส่งผลต่อการนอนหลับของเราโดยตรง เพราะในหนึ่งวันเราใช้เวลาบนที่นอนไม่ต่ำกว่า 4-8 ชั่วโมงต่อวัน ที่นอนที่ดีย่อมทำให้การนอนของเรามีคุณภาพ และปวดหลังน้อยลง ดังนั้นเรามาเลือกที่นอน ที่ช่วยให้เรานอนหลับสบายไม่ปวดหลังกันเถอะ
(https://lh3.googleusercontent.com/pw/AM-JKLWgB_RUeo5iuUiBz_xV6-j_FkLjLp-L5GxxGHwtxt0zlNLsMzx7mW4gquc7AB9E3pbixGSO5bgUf55OeN9lzWJ-g5-AoaA6spMW2kFhAtTtjBt7T95ySWxRfX-U1QRdE1so93518bwBSGwoLT8nNAn6=w554-h301-no?authuser=0)
เลือกที่นอนแบบไหน หลับสบาย ไม่ปวดหลัง
1. เลือกขนาดที่นอน
สิ่งแรกที่ควรเลือกคือขนาดของที่นอน ควนเลือกที่นอนให้เหมาะกับขนาดตัว และจำนวนคนที่นอน
- ที่นอน Single Size หรือเตียงเดี่ยว จะมีขนาดกว้าง 3.5 ฟุต x ยาว 6.5 ฟุต (กว้าง 107 เซนติเมตร ยาว x 200 เซนติเมตร) เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ที่นอนคนเดียว
- ที่นอน Queen Size หรือเตียงคู่ มีขนาดกว้าง 5 ฟุต x ยาว 6.5 ฟุต (กว้าง 150 เซนติเมตร x ยาว 200 เซนติเมตร) เหมาะสำหรับนอน 2 คน
- ที่นอน King Size มีขนาดกว้าง 6 ฟุต x ยาว 6.5 ฟุต (กว้าง 180 เซนติเมตร ยาว 200 เซนติเมตร) หรือบางรุ่นมีความยาวถึง 7 ฟุต ก็มี สามารถนอนได้ 2-3 คน
ซึ่งนอกจากจะเลือกเหมาะสมกับขนาดตัว และจำนวนคนที่นอนแล้ว ควรเลือกให้เหมาะกับขนาดห้อง และไม่ควรใช้เตียงเดี่ยวสองอันมาต่อกันเพราะจะทำให้นอนแล้วเจอรอยต่อของเตียงทำให้ปวดหลังได้
2. เลือกประเภทของที่นอน
ที่นอนแต่ละประเภทมีคุณสมบัติรวมถึงสนนราคาที่แตกต่างกัน แนะนำให้ลองเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละแบบก่อนตัดสินใจ
(https://lh3.googleusercontent.com/pw/AM-JKLVTy7vHCkkYqztXs1d-ZuOBx24KoYNUabP77tv93qFjzc9LTXS6fIPe5oYgaHOLHK4VLwAwqHNIPyFQoYWvIV377RraSfxkk8iByWwUg8J_v3TzAiFgs--s-nFxrpeMCjAF6Wnh4IgI-stUM-wwrtoa=w324-h207-no?authuser=0)
- ที่นอนสปริง (https://www.homepro.co.th/c/BED0302)
มีคุณภาพที่หลากหลายตามเทคโนโลยีของสปริง ตัวที่นอนสปริงที่ดีจะขึ้นอยู่กับขดลวดสปริงเป็นหลัก โดยขดลวดสปริงส่วนใหญ่จะมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 6 นิ้ว หากที่นอนสปริงที่ยิ่งมีขดลวดสปริงสูง มีจำนวนเกลียวรอบสปริงเยอะ ที่นอนก็จะยิ่งรับน้ำหนักได้ดี มีความยืดหยุ่น คืนตัวง่าย และขดลวดสปริงที่มีคุณภาพดีจะไม่แข็งหรืออ่อนเกินไปจนทำให้เกิดเสียงเอี๊ยดอ๊าดเวลานั่งหรือนอน
ข้อดี - รองรับน้ำหนักได้ดี ยืดหยุ่นคืนตัวง่าย น้ำหนักเบา มีให้เลือกหลายราคา ช่วยลดอาการปวดหลังได้พอสมควร
ข้อเสีย - สปริงมีอายุการใช้งานจำกัด หากสปริงเสื่อมสภาพจะเกิดเสียงรบกวนเวลานอนหรือพลิกตัว
(https://lh3.googleusercontent.com/pw/AM-JKLVOammYSz7Ryt3xK5Gy95Qz1Ffzteb2HpSA1ueiy6nzIBHIJ3VrK8kMc7--Uo5JxwHkSWbeYJ10-rdDQNin4LkA0ix-JUS4GJ1XOPktPykLYt87XlQG5Ig2ukEdY3pZGsdhZMrVuoZX0-gJ4v3KWZv-=w334-h213-no?authuser=0)
- ที่นอนยางพาราแท้ (https://www.homepro.co.th/c/BED0302)
ผลิตโดยใช้น้ำยางพาราฉีดลงในแม่พิมพ์เพื่อขึ้นรูปเป็นที่นอนชิ้นเดียว ทำให้มีคุณภาพดีกว่าที่นอนยางพาราอัดที่ทำจากเศษยางพารานำมาผสมรวมกันเป็นก้อนซึ่งทำให้มีเนื้อแข็งไม่ยืดหยุ่น
ข้อดี - มีความยืดหยุ่นสูง รองรับแรงกดทับได้มาก รองรับสรีระร่างกาย และกระจายน้ำหนักได้ดี จึงช่วยลดอาการปวดหลังได้ดี ระบายอากาศได้ดี ไม่อมฝุ่น ไม่อมความชื้น
ข้อเสีย - มีน้ำหนักมาก เคลื่อนย้ายลำบาก ราคาค่อนข้างสูง
- ที่นอนใยมะพร้าว
ผลิตจากเส้นใยมะพร้าวซึ่งเป็นวัสดุธรรมชาติโดยนำมาแปรรูปให้เป็นแผ่นด้วยการอัดแน่ให้เป็นรูปทรงที่นอน ค่อนข้างแข็งมีความยืดหยุ่นน้อย
ข้อดี - คงรูปได้ดี ยุบตัวยาก มีน้ำหนักเบา เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เหมาะกับคนที่มีปัญหาปวดหลังจากการนอนที่นอนที่นุ่มเกินไป
ข้อเสีย - มีความยืดหยุ่นน้อย ค่อนข้างแข็ง เมื่อเสื่อมสภาพจะก่อนให้เกิดขุยและไรฝุ่นที่เป็นผลเสียต่อทางเดินหายใจ
การเลือกที่นอนให้นอนสบายไม่ปวดหลัง นอกจากจะต้องเลือกขนาดให้เหมาะ เลือกที่นอนที่มีคุณสมบัติเหมาะกับเราแล้ว แนะนำให้ลองนอนดูเพื่อทดสอบว่า สรีระของเราแนบกับที่นอนทุกส่วนโดยไม่มีช่องว่างหรือไม่ เพื่อให้ได้ที่นอนที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด