ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบกว่า 70 จุด หุ้นโบอิ้งดิ่งหนักหลังเครื่องบิน 737 ตกในจีน
ดัชนีดาวโจนส์ (https://www.ejanth.com/%e0%b9%81%e0%b8%9a%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b9%8c%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b9%89-%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b8%a3%e0%b8%88%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%aa%e0%b9%80%e0%b8%8b%e0%b8%b5%e0%b8%a2-%e0%b8%a2%e0%b8%b9/)ฟิวเจอร์ปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่ราคาหุ้นโบอิ้งร่วงลงอย่างหนัก หลังเกิดเหตุเครื่องบินโบอิ้ง 737 ของสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส ตกในจีนช่วงบ่ายวันนี้
ณ เวลา 19.12 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลดลง 76 จุด หรือ -0.22% แตะที่ 34,557 จุด
ราคาหุ้นโบอิ้งร่วงลง 8% ก่อนตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดทำการในวันนี้ หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 737 ของสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส ตกในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงของจีนในช่วงบ่ายวันนี้ โดยเครื่องบินดังกล่าวมีผู้โดยสารบนเครื่องทั้งหมด 132 คนซึ่งรวมถึงลูกเรือจำนวน 9 คน
บริษัทโบอิ้งกำลังร่วมมือกับสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส เพื่อรวบรวมข้อมูลหลังจากเกิดเหตุการณ์เครื่องบินตก ขณะที่สื่อรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยยังไม่พบสัญญาณที่บ่งชี้ว่ามีผู้รอดชีวิต
ทางด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งหาสาเหตุการตกของเที่ยวบิน MU5735 และเตรียมความพร้อมในทุก ๆ ด้านเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่สายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์สได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังจุดที่เกิดเครื่องบินตก และเปิดฮอทไลน์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ครอบครัวของผู้โดยสารบนเครื่อง
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน ขณะที่ข้อมูลของสหประชาชาติ (UN) ระบุว่า มีประชาชนประมาณ 3.4 ล้านคนหนีออกนอกยูเครนนับตั้งแต่รัสเซียเริ่มการโจมตียูเครนในวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งผู้อพยพส่วนมากเป็นสตรีและเด็กที่หนีไปยังโปแลนด์ โดยคาดว่าจำนวนผู้อพยพอาจเพิ่มขึ้นสูงถึง 4 ล้านคน และแม้จำนวนผู้อพยพจะลดลงในช่วงไม่กี่วันมานี้ แต่ยังคงแตะ 50,000 คนต่อวัน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน