บริษัทมะกันในเซี่ยงไฮ้เกินครึ่งหั่นคาดการณ์รายได้ปีนี้ (https://www.do-it-anyway.org/Guestpost/%E0%B8%97%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9D%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%86-%E0%B8%97%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9D%E0%B8%B1/) เซ่นพิษล็อกดาวน์
หอการค้าอเมริกันในเซี่ยงไฮ้ (AmCham Shanghai) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นบริษัทอเมริกันที่ดำเนินธุรกิจในประเทศจีนระบุว่า บริษัทสหรัฐกว่าครึ่งหนึ่งได้ปรับลดคาดการณ์รายได้ประจำปีนี้ลง เนื่องจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ระลอกล่าสุดในเซี่ยงไฮ้
ผลสำรวจดังกล่าวครอบคลุมความเห็นบริษัท 167 แห่ง โดยบริษัทราว 54% ได้ปรับลดคาดการณ์รายได้ในปี 2565 ลง หลังเกิดโรคระบาด ขณะที่ 38% ระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์ผลกระทบต่อรายได้
นอกจากยร่ บริษัท 82% ระบุว่า การผลิตมีความล่าช้าหรือต้องปรับลดกำลังการผลิตลง เนื่องจากการขาดแคลนแรงงาน ไม่สามารถจัดหาซัพพลายได้เพียงพอ รวมถึงได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ของรัฐบาล
ผลสำรวจยังระบุว่า บริษัทเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่พึงพอใจกับนโยบายการรับมือโรคระบาดของจีน ขณะที่ 77% ไม่พอใจกับการกักตัวที่กินเวลานาน เนื่องจากมาตรการควบคุมการระบาดและมาตรการอื่น ๆ ที่ตามนั้น ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต
นอกจากนี้ ยังมีบริษัทในเซี่ยงไฮ้จำนวนเพิ่มขึ้นที่ระบุว่า การล็อกดาวน์ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ อีกทั้งทำให้การผลิตต้องถูกระงับและยอดขายซบเซา ตลอดจนสภาพคล่องทางการเงินฝืดเคืองและต้องเลื่อนการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินออกไป
ทั้งนี้ เมืองเซี่ยงไฮ้ยังคงเผชิญการระบาดของโควิด-19 ครั้งใหญ่ที่สุดมาเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน ส่งผลให้มีการล็อกดาวน์พื้นที่ส่วนใหญ่ในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น