KCE เด้งนำกลุ่มตามหุ้นเทคฯสหรัฐเกาะ Growth Stock หลังกังวล Inverted Yield Curve
กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ปรับขึ้นตามหุ้นเทคโนโลีตลาดหุ้นสหรัฐ โดยหุ้น Growth Stock กลับมาเป็นที่สนใจ (https://www.tjarinporn.com/%e0%b9%82%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b9%80%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%ab%e0%b9%8c%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b8%a5-kbank/)หลังกังวลภาวะInverted Yield Curve อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวในอนาคต
เมื่อเวลา 11.22 น. ราคาหุ้น KCE ปรับขึ้น 3.08% หรือเพิ่มขึ้น 2.00 บาท มาที่ 67.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 708.41 ล้านบาท
HANA ปรับขึ้น 2.59% หรือเพิ่มขึ้น 1.25 บาท มาที่ 49.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 377.59 ล้านบาท
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ปรับตัวขึ้นมาตามหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวขึ้น ซึ่งเป็นหุ้นกลุ่ม Growth Stock หลังจากเกิดความกังวลภาวะ Inverted Yield Curve ที่บ่งบอกแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะปานกลาง-ยาวจะหดตัว ทำให้มีแรงขายหุ้นในกลุ่ม Value Stock ที่เคลื่อนไหวตามภาวะเศรษฐกิจ อาทิ กลุ่มแบงก์ กลุ่มพลังงาน กลุ่มอุปโภคบริโภค หันไปเล่นกลุ่ม Growth Stock ที่ไม่ได้ขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจ แต่เติบโตได้ด้วย Mega Trend เป็นแรงหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ทั้งนี้ กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ผ่านมาราคาได้รับแรงกดดันจากปัจจัยลบมามากแล้ว และราคาโลหะก็ปรับตัวลงมาแล้ว เงินบาทก็อ่อนตัวด้วย กลับมาเป็นแรงหนุน โดยราคาหุ้น บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) มองส่วนหนึ่งเป็นเทคนิเคิลรีบาวน์และยังอิงธีมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ให้แนวต้านที่ 69 บาท
ส่วน บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส์ (HANA) มองราคาถูกสุด โดยเทรดบน P/E ต่ำสุดของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ให้แนวต้าน 51.50 บาท