ภาวะตลาดน้ำมัน (https://www.spiceday.com/%e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99-%e0%b8%9b%e0%b9%8b%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a7/)น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง 6.31 ดอลล์ หลังโอเปกเตือนปริมาณน้ำมันตึงตัว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันอังคาร (12 เม.ย.) หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปกเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านอุปทานน้ำมัน หากมีการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซียอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 6.31 ดอลลาร์ หรือ 6.7% ปิดที่ 100.60 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 6.16 ดอลลาร์ หรือ 6.3% ปิดที่ 104.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
นายโมฮัมหมัด บาร์คินโด เลขาธิการโอเปกเตือนเมื่อวันจันทร์ (11 เม.ย.) ในการประชุมระหว่างตัวแทนสหภาพยุโรป (EU) และโอเปกว่า จะไม่สามารถชดเชยปริมาณน้ำมันที่หายไปถึง 7 ล้านบาร์เรลต่อวันได้ในกรณีที่มีการคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซีย
นายบาร์คินโดคาดว่า ราคาน้ำมันจะไม่ถูกผลักดันโดยปัจจัยพื้นฐาน แต่จะถูกผลักดันจากปัจจัยทางการเมืองเป็นหลักในปัจจุบัน
EU ยังคงมีความเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับการคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันดิบของรัสเซีย แต่รมว.ต่างประเทศบางคนระบุว่า ยังคงมีการพิจารณาทางเลือกดังกล่าว
บรรดาเทรดเดอร์รอดูการเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ที่จะเปิดเผยในวันพุธนี้ (13 เม.ย.) ซึ่งนักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกล. แพลทส์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 เม.ย.