(https://i.ibb.co/ThmQzmb/564000009077901.jpg)
คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
การแข่งขันฟุต.โลกทุกๆ 2 ปีตามเอกสารของ สหพันธ์ฟุต. ซาอูดี อาราเบีย ที่เสนอให้ทาง สหพันธ์ฟุต.นานาชาติ หรือ ฟีฟ่า (Fédération Internationale de Football Association - FIFA) พิจารณาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้น ก็ใช่ว่า ฟีฟ่า จะโยนทิ้งตะกร้าไปโดยไม่ได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้เสียเลย แต่เขาว่ามันจะเป็นการลดคุณค่าความขลังของ ฟีฟ่า เวิร์ลด์ คัพ (FIFA World Cup) สุดยอดทัวร์นาเม้นท์ของกีฬาฟุต.ที่ 4 ปีมีครั้ง เช่นนั้น ผมก็ขอแทงสวนไปเลยด้วยการนำเสนอ ฟีฟ่า เวิร์ลด์ คัพ น้อคเอ๊าท์ (FIFA World Cup Lottovip (https://www.ad4ever.com/%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C/) knockout) ก็แล้วกัน
อารแซน เว็งเกอร์ (Arsène Wenger) อดีตผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล (Arsenal FC) ยาวนานที่สุด ชาวฝรั่งเศส วัย 71 ปี ซึ่งในปัจจุบันเขาเป็น ประธานฝ่ายพัฒนากีฬาฟุต.ของ ฟีฟ่า ก็ได้แสดงความเห็นด้วยอย่างชัดเจน โดยบอกว่า เขาต้องการเห็น ฟุต.โลก และ ฟุต.ยูโร แข่งกันทุกๆ 2 ปีและอยากให้เขี่ยพวกทัวร์นาเม้นท์เห่ยๆทิ้งไปเลย หันมาเน้นรายการที่สำคัญจริงๆ ซึ่งนั่นแหละจะช่วยยกระดับกีฬาฟุต. เกมฟุต.จะได้รับการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพไปพร้อมๆกับการปรับปรุง กฎ กติกา (Laws of the game) โดยผ่านการแข่งขันที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
โค้ชที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ เดอะ กันเน่อร์ส (The Gunners) เสนอทางออกให้ยกเกมคัดเลือกฟุต.โลกไปรวมแข่งกันในช่วงปิดการแข่งขันของลีกในประเทศอันเป็นช่วงที่เปิดโอกาสให้เกมทีมชาติ นั่นคือ ช่วงก่อนเปิดและหลังปิดฤดูกาลประจำปีในเดือนมีนาคมและเดือนตุลาคม และก็ควรมีการแบ่งกลุ่มให้ประกอบด้วยบรรดาชาติที่อยู่ใกล้ๆกัน นักเตะจะได้ไม่ต้องเดินทางไกลบักโกรก หากทำได้อย่างนี้ก็จะเป็นประโยชน์กับสโมสรด้วย อย่างไรก็ตาม กว่าจะเปลี่ยนแปลงไปสู่จุดนั้นได้ก็ต้องรอหลังปี 2024 โน่น เพราะปฏิทินของ ฟีฟ่า ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว
แม้ว่าจะมีบุคคลในวงการฟุต.เห็นดีด้วยกับความคิดนี้หลายคน แต่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็มีไม่น้อย โดยเฉพาะ อเล็กซานเดอร์ เชเฟริน (Aleksander Čeferin) ประธาน สหสมาคมฟุต.ยุโรป (Union of European Football Associations - UEFA) วัย 53 ปี ชาวสโลเวเนีย เขากล่าวในที่ประชุมสมัชชาใหญ่สโมสรยุโรปที่ เมืองเชอแน้ฟ (Genève) ประเทศสวิส เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา ต่อหน้าผู้แทนที่เข้าร่วมประชุมถึง 166 สโมสรว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการจัดแข่ง ฟุต.โลก ในทุกๆ 2 ปี เพราะจะทำให้ความขลังที่ตั้งนานจึงจะมีครั้งหนึ่งอันทำให้ ฟีฟ่า เวิร์ลด์ คัพ เป็นสุดยอดทัวร์นาเม้นท์ของกีฬาฟุต.ที่สำคัญที่สุดในโลกที่ทุกคนรอคอยต้องเสื่อมถอยจืดจางลง
ผมก็ไม่เห็นด้วยที่ทัวร์นาเม้นท์แบบนี้จะเกิดขึ้นถี่ขนาดนั้น แต่อยากนำเสนออีกรูปแบบหนึ่งที่เคยคิดไว้นานแล้วคือ เราน่าจะมี ฟีฟ่า เวิร์ลด์ คัพ น้อคเอ๊าท์ ในทุก 4 ปีต่างหาก โดยจัดคร่อมกับ ฟีฟ่า เวิร์ลด์ คัพ อันนี้เปรียบเสมือนฟุต. น้อคเอ๊าท์ แบบพวก เอ๊ฟ เอ คัพ นั่นแหละ ทีมชาติสมาชิกของ ฟีฟ่า ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวน 211 ชาติจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด โดยแต่ละรอบจัดแข่งระบบ น้อคเอ๊าท์ เหย้า-เยือน จนได้คู่ชิงชนะเลิศไปแข่งกันเกมเดียวในสนามกลาง
การประกบคู่นั้น ก่อนอื่นก็ต้องจัดอันดับทุกทีมตาม ฟีฟ่า เวิร์ลด์ แร้งกิ้ง (FIFA World Rankings) โดยการจัดแข่งขันก็ต้องคำนึงถึง กฎกำลังของ 2 (Power of two) เพื่อที่จะให้ได้จำนวนทีมที่ลงตัวนำมาประกบคู่กันให้ได้ 64 คู่ แล้วแข่งกันจนเหลือทีมชนะ 64 ทีม นำมาประกบคู่กันได้ 32 คู่ แข่งกันจนได้ทีมชนะ 32 ทีม นำมาประกบคู่กันได้ 16 คู่ ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆจนเหลือเพียง 2 ทีมมาเป็นคู่ชิงชนะเลิศ โดยอาจวางทีม 80 อันดับแรกไว้ใน รอบน้อคเอ๊าท์ รอบ 3 และวางทีมอันดับต่อไป 48 ทีมไว้ใน รอบ น้อคเอ๊าท์ รอบ 2 ส่วนอีก 83 ทีมจากท้ายสุดก็นำมาประกบคู่แข่งกันในรอบแรก ซึ่งอาจมีทีมที่ได้ชนะผ่านโดยไม่ต้องแข่งบ้าง เพื่อให้ได้ทีมชนะ 48 ทีมเข้าไปในรอบ 2 ทั้งนี้ การประกบคู่อาจใช้ระบบก้างปลาอย่างในกีฬาเท็นนิส ทำให้ทีมอันดับดีๆแยกย้ายกันไปอยู่ในสายบนสายล่างและได้เจอกับทีมอ่อน ทีมแข็งระดับต้นๆของโลกไม่ต้องมาเจอกันเองก่อนเวลาอันควร
ฟีฟ่า เวิร์ลด์ คัพ น้อคเอ๊าท์ จะทำให้ทุกทีมทั้ง 211 ชาติสมาชิกของ ฟีฟ่า ได้เข้าร่วมการแข่งขัน ฟุต.โลก อย่างเต็มภาคภูมิ ไม่ต้องหัวใจสลายร่วงหล่นหลุดวงโคจรแค่ใน รอบคัดเลือก อยู่ร่ำไป รูปแบบนี้ ทีมมาตรฐานแข่งกันไม่เยอะ แค่ 7 รอบก็ไปถึงแช้มพ์โลก นักเตะไม่โทรมมาก ที่สำคัญ มันเป็นระบบที่แฟร์ แบ่งปันรายได้ให้เจ้าบ้าน และดีต่อหัวใจแฟน.ทั่วโลกด้วยครับ