"การบินไทย"ขายหุ้น BAFS 15 ล้านหุ้น หรือ 2.35% ให้ BCP ทำให้ภายหลังขายหุ้นซื้อหวยออนไลน์ถูกกฎหมาย (https://www.magictimemedia.com/Guestpost/%E0%B8%AD%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%86-%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%96%E0%B8%B0/%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%88-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%9D%E0%B8%99-%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%A5/)ครั้งนี้เหลือถือ 25.62 ล้านหุ้น หรือ 4.019%
แบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ (แบบ 246-2)ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ระบุ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)หรือ THAI ขายหุ้น บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)หรือ BAFS เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2564 จำนวน 15 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 2.352% ให้บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ BCP โดยเป็นการซื้อขายกันโดยตรง ทำให้ภายหลังการขายหุ้นครั้งนี้ "การบินไทย" เหลือถือ BAFS จำนวน 25.62 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 4.019%
สำหรับครั้งก่อนหน้านี้ THAI ได้รายงานขายหุ้นBAFS ผ่านแบบ 246-2ของก.ล.ต. เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2564 จำนวน ซึ่งเป็นการกันโดยตรงให้กับ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ RATCH จำนวน 98.98 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น15.52% ทำให้ตอนนี้เหลือถือหุ้น จำนวน 45 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 7.05%
สำหรับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรก(@24 ส.ค. 2564)
1.บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ถือ98,983,125 หุ้น หรือคิดเป็น15.53%
2.บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ถือ 63,737,000หุ้น หรือ10.00%
3.บริษัท เอสโซ่ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน)ถือ45,000,000 หุ้น หรือ7.06%
4.บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ถือ 45,000,000 หุ้น หรือ7.06%
5.บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัดถือ 45,000,000หุ้น หรือ7.06%
6.บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ถือ 45,000,000หุ้น หรือ7.06%
7.บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)ถือ 31,500,000หุ้น หรือ 4.94%
8.บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ถือ 16,000,000 หุ้น หรือ 2.51%
9.บริษัท ซัสโก้ ดีลเลอร์ส จำกัด ถือ12,750,000 หุ้น หรือ 2.00%
10.บริษัท แอร์ โททาล (ประเทศไทย) จำกัดถือ 12,750,000หุ้น หรือ 2.0%