บิตคอยน์ ดิ่งหลุด 60,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ปรับตัวลงต่ำกว่า 2,000,000 บาท ขณะที่นักลงทุนกังวลว่าสหรัฐอาจเรียกเก็บภาษีสกุลเงินคริปโต
16 พ.ย. 2564 ราคาบิตคอยน์ดิ่งลง (https://www.basementkaraoke.com/ratch-%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1-1-8-%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99-frd/)สู่ระดับ 58,600 ดอลลาร์ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 20 วัน และดิ่งลง 14% จากระดับ 69,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
การทรุดตัวของบิตคอยน์ในวันนี้ถือว่าหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. โดยได้รับผลกระทบจากการที่นักลงทุนกังวลว่าสหรัฐจะทำการตรวจสอบการทำธุรกรรมและเรียกเก็บภาษีที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินคริปโต หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงนามในกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานวงเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์วานนี้(15พ.ย.)
กฎหมายดังกล่าวมีเนื้อหากำหนดให้โบรกเกอร์หรือแพลตฟอร์มที่ซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลต้องรายงานต่อกรมสรรพากรสหรัฐ (IRS) เกี่ยวกับการทำธุรกรรมใดๆของลูกค้าที่มีมูลค่ามากกว่า 10,000 ดอลลาร์
นอกจากนี้ ราคาบิตคอยน์และสกุลเงินคริปโตยังถูกกดดันจากการที่นายเน็ด ซีกอล หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัททวิตเตอร์ กล่าวว่า ทวิตเตอร์ไม่มีนโยบายที่จะเข้าลงทุนในสกุลเงินคริปโต
เนื่องจากการนำเงินสดไปลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น บิตคอยน์ ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมเหตุสมผล โดยสินทรัพย์ดังกล่าวมีความผันผวนสูง และไม่มีกฎระเบียบด้านการบัญชีในการกำกับดูแล
ขณะเดียวกัน ทางการจีนได้ออกคำสั่งเตือนไม่ให้รัฐวิสาหกิจดำเนินการเกี่ยวข้องกับการขุดเหมืองคริปโต และจะลงโทษบริษัทที่ยังคงฝ่าฝืนคำสั่งของรัฐบาลด้วยการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น