• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Jessicas

#10876


"นพ.สันต์" ติงสื่อฟังไม่ได้ศัพท์ กรณีนักวิจัย "ฟ้าทะลายโจรรักษาโควิดได้" ขอถอนต้นฉบับที่กำลังรอตีพิมพ์ แม้ค่า p-value สรุปผลไม่แตกต่างจากยาหลอก แต่ไม่ได้หมายความว่า รักษาโควิดไม่ได้ เพียงแต่ต้องวิจัยซ้ำขยายกลุ่มตัวอย่างให้ใหญ่ขึ้น ชี้พิเศษกว่าคู่แข่ง "ฟาวิพิราเวียร์" ที่มีข้อมูลน้อยพอกัน คือ แค่ทำวิจัยเพิ่มอีกนิดเดียว ก็จะเห็นดำเห็นแดงแล้ว อีกทั้งยังหาง่าย ราคาถูก มีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของชาติ

จากกรณี นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ ศัลยแพทย์หัวใจและผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ครอบครัว เผยแพร่บทความว่า ทีมผู้วิจัยชาวไทย ที่สรุปผลได้ว่า ฟ้าทะลายโจรใช้รักษาโควิด-19 ลดการเกิดปอดอักเสบได้ ทำการขอถอนนิพนธ์ต้นฉบับของตนเองที่รอตีพิมพ์กลับคืนจากคลังวารสารรอตีพิมพ์ (medRxiv) เหตุผิดพลาดในการคำนวณค่านัยสำคัญของความแตกต่าง (p-value) ซึ่งหากคำนวณอย่างถูกต้องแท้จริงแล้วค่านัยสำคัญจริงๆ คือ p=0.1 แปลได้ว่า "การใช้ฟ้าทะลายโจรลดปอดบวมได้ไม่แตกต่างจากใช้ยาหลอก" ทำให้สื่อหลายแห่งตีความไปว่าฟ้าทะลายโจร ใช้รักษาโควิดไม่ได้ (อ่านบทความ : จำเป็นต้องมีการวิจัยรักษาโควิด-19 ด้วยฟ้าทะลายโจรซ้ำด้วยกลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่ขึ้น)

วันนี้ (8 ส.ค. 2564) นพ.สันต์ จึงชี้แจงว่า สื่อตีความผิดพลาด เนื่องจากค่า p-value ที่ได้นั้น ไม่ได้หมายความว่า ฟ้าทะลายโจรรักษาโควิดไม่ได้ เพียงแต่ต้องทำการวิจัยนี้ซ้ำใหม่ด้วยกลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม


เมื่อวานนี้ ผมเล่าเรื่องคณะผู้วิจัยชาวไทย ที่ทำวิจัยฟ้าทะลายโจรรักษาโควิดได้ขอถอนต้นฉบับของตัวเองกลับออกมาจากเว็บไซต์งานวิจัยรอตีพิมพ์ (medRxiv) เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดในการคำนวณเชิงสถิติในประเด็นการคิดค่านัยสำคัญทางสถิติ (p-value) คิดไม่ถึงว่าจะมีผู้ตัดเอาบทความของผมครึ่งบรรทัดไปโพนทะนาผ่านทางหนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆ ว่า ฟ้าทะลายโจรใช้รักษาโควิดไม่ได้ ผลเสียแล้วควรต้องเลิกใช้..ไปโน่นเลย ผู้คนก็พากันกระต๊าก กระต๊าก ต่อๆ กันไป ซึ่งเป็นการตัดบทความของผมเอาไปแค่บรรทัดเดียวแล้วเอาไปกระเดียดที่ได้ผลแบบอะเมซซิ่งทิงนองนอยมากส์

ตัวผมเองไม่ถือสานะครับ เพราะเรื่องก็ดี ชื่อก็ดี ภาพของผมก็ดี มักมีคนชอบเอาไปทำยำใหญ่ใส่สาระพัดเป็นประจำอยู่แล้ว เอาไปขายยาสีฟันก็ยังเคยมีเลย หิ หิ ครั้งนี้ผมก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่กลับมองเห็นเป็นโอกาสดีที่จะทำให้ผู้คนได้หันมาสนใจและพยายามทำความเข้าใจงานวิจัยทางการแพทย์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น จะได้ไม่ถูกคนกระเดียดข้อมูลให้ตื่นตกใจได้ง่ายๆ

ขอย้อนไปเริ่มต้นที่สนามหลวงก่อนนะ

เมื่อมีโรคโควิด-19 มา ได้มีการทำวิจัยในห้องทดลองที่ไต้หวันและในเมืองไทย แล้วสรุปผลได้ตรงกันว่า ฟ้าทะลายโจรระงับยับยั้งเชื้อไวรัสซาร์สโควี 2 ซึ่งเป็นเชื้อต้นเหตุของโรคโควิด-19 ทั้งนอกเซลล์และในเซลล์ได้ [1, 2]

ต่อมาก็ได้มีการทดลองใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโรคโควิด-19 ในคนกลุ่มเล็ก (case series) จำนวน 6 คน ซึ่งสรุปผลได้ว่าฟ้าทะลายโจรในขนาดที่ใช้ (180 มก.ของแอนโดรกราฟโฟไลด์ต่อวันนาน 5 วัน) สัมพันธ์กับการที่ไวรัสลดจำนวนลงและหมดไปจากตัว (viral shedding) ได้ โดยที่ไม่มีผลข้างเคียงที่มีนัยสำคัญ งานวิจัยนี้ไม่ได้ตีพิมพ์ แต่นำเสนอในที่ประชุมวิชาการโดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก [3]

ต่อมาพัฒนาการทางวิชาการในเรื่องนี้ ก็แยกกันทำไปสองทาง ทางหนึ่งคือ ได้มีการทำวิจัยแบบย้อนหลังตามดู (retrospective cohort study) กลุ่มคนไข้โควิด-19 ที่ได้รับการรักษาต่างกันสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งใช้ฟ้าทะลายโจร 309 คน อีกกลุ่มหนึ่งไม่ได้ใช้ฟ้าทะลายโจร 526 คน แล้วพบว่า กลุ่มที่ได้ฟ้าทะลายโจรเป็นปอดบวม 3 คน (0.9%) กลุ่มที่ไม่ได้ฟ้าทะลายโจรเป็นปอดบวม 77 คน (14.64%) ซึ่งเป็นความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.001) งานวิจัยนี้ตีพิมพ์ในรูปของรายงานสรุป (short communication) ในวารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก [4]

อีกด้านหนึ่งก็มีการทำวิจัยการใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโควิด-19 ในรูปของการวิจัยแบบสุ่มตัวอย่างแบ่งกลุ่มเปรียบเทียบ (RCT) ซึ่งถือว่าเป็นระดับหลักฐานชั้นสูงสุดของการวิจัยทางการแพทย์ รายละเอียดของงานวิจัยมีอยู่ว่าผู้วิจัยได้ใช้ผู้ป่วย 57 คน สุ่มตัวอย่างแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่ง 29 คน ให้กินฟ้าทะลายโจรซึ่งมีเนื้อยาแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มก.ต่อวันกินนาน 5 วัน อีกกลุ่มหนึ่ง 28 คน ให้กินยาหลอก โดยใช้การเกิดปอดอักเสบ (pneumonia) เป็นตัวชี้วัด พบว่า กลุ่มที่กินยาหลอกเกิดปอดอักเสบ 3 คน (10.7%) ขณะที่กลุ่มที่กินฟ้าทะลายโจรไม่เกิดปอดอักเสบเลย (0 คน) เป็นความแตกต่างที่มีนัยสำคัญทางสถิติ (p=0.039) ซึ่งคณะผู้วิจัยได้ส่งผลไปตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติ โดยเผยแพร่นิพนธ์ต้นฉบับล่วงหน้าในเว็บไซต์งานวิจัยรอการตีพิมพ์ (medRxiv)[5] แต่ต่อมาคณะผู้วิจัยพบความผิดพลาดในการคำนวณค่า p-value ว่าที่คำนวณได้ p = 0.039 นั้นผิดไป ที่ถูกต้องเป็น p = 0.1 จึงได้ขอถอนนิพนธ์ต้นฉบับกลับมาแก้ไขความผิดพลาดดังกล่าว

ผมได้เล่าเรื่องการขอถอนต้นฉบับกลับมาแก้ไขให้แฟนบล็อกฟัง และแจ้งเปลี่ยนข้อสรุปของผมเองที่เคยพูดว่าหลักฐานวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนให้ใช้ฟ้าทลายโจรรักษาโรคโควิด-19 มีมากพอแล้วนั้น ผมต้องขอแก้ไขคำพูดใหม่ เป็นหลักฐานวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนให้ใช้ฟ้าทลายโจรรักษาโรคโควิด-19ในคนยังมีไม่มากพอ (เพราะยังขาดงานวิจัยระดับ RCT) จึงต้องทำวิจัยซ้ำโดยการขยายกลุ่มตัวอย่างให้ใหญ่ขึ้น

เพราะการที่กลุ่มตัวอย่างเล็กได้ค่า p มากกว่า 0.05 ก็บอกได้แค่ว่ายังบอกไม่ได้ว่าความแตกต่างในผลการรักษา (คือการเกิดปอดบวม) ในทั้งสองกลุ่มมันต่างกันจริงหรือไม่ การจะรู้ได้ก็ต้องมีกลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่กว่านี้

ทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรสักแอะเดียวที่จะบ่งชี้ว่าการใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโรคโควิด-19 ไม่ได้ผล ฟังให้ดีนะ "ยังไม่มั่นใจว่ามันได้ผลจริงหรือเปล่า" ไม่เหมือนกับ "ใช้แล้วไม่ได้ผล"

ซึ่งยาคู่แข่งกันที่ใช้ในเมืองไทยอีกตัว คือ Favipiravir ก็มีข้อมูลน้อยประมาณเดียวกัน คือ ทุกอย่างติดอยู่ที่ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ คือ นับถึงวันนี้การใช้ Favipiravir แล้วจะทำให้ไวรัสโควิด-19 หายไปจากตัวเร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ..รึก็เปล่า จะทำให้ใช้ออกซิเจนน้อยลง..รึก็เปล่า จะทำให้ต้องเข้าไอซียูน้อยลง..รึก็เปล่า และที่สำคัญจะทำให้คนป่วยตายน้อยลง..รึก็เปล่า [6]

แต่ฟ้าทะลายโจรมันมีความพิเศษกว่า Favipiravir ตรงที่แค่ทำวิจัยซ้ำขยายกลุ่มตัวอย่างให้ใหญ่ขึ้นอีกนิดเดียว ก็จะเห็นดำเห็นแดงแล้วว่าได้ผลหรือไม่ได้ผลต่างจากยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ เท่าที่ผู้รู้ทางสถิติคำนวณให้คร่าวๆ หากพิจารณาจากอัตราการเป็นปอดบวมของผู้ใช้และผู้ไม่ใช้ฟ้าทะลายโจรในงานวิจัย retrospective cohort ที่ได้รายงานไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แค่ขยายกลุ่มตัวอย่างในงานวิจัย RCT ไปให้ได้กลุ่มละ 40 คน คือ ขยายอีกกลุ่มละ 10 คน ก็จะเห็นดำเห็นแดงกันแล้ว

อีกทั้งฟ้าทะลายโจรเป็นพืชสามัญในท้องถิ่น หาง่ายกว่า ราคาถูกกว่า มีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของชาติมากกว่าไปซื้อยาเขามาทั้งๆ ที่ผลการรักษาก็แปะเอี้ย ในแง่การค้าขายระดับนานาชาติ หากจะขายฟ้าทะลายโจร ก็ต้องมีงานวิจัยระดับ RCT สนับสนุน ตัวหมอสันต์จึงลุ้นตัวโก่งให้ทำงานวิจัยนี้ต่อให้เบ็ดเสร็จสะเด็ดน้ำ โดยยินดีช่วยทุกอย่างเท่าที่หมอแก่คนหนึ่งจะช่วยได้
#10877


ซีเอ็นเอ็น เครือข่ายสถานีโทรทัศน์ชื่อดังของสหรัฐฯ ไล่ออกพนักงาน 3 คน จากกรณีมาทำงานทั้งที่ยังไม่ฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ตามรายงานของสำนักข่าวหลายแห่งของอเมริกาเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว

กรณีนี้นับเป็นหนึ่งในตัวอย่างแรกๆที่บริษัทหนึ่งๆดำเนินการไล่ออกพนักงาน โทษฐานที่ละเมิดระเบียบข้อบังคับฉีดวัคซีนของทางบริษัท ในขณะที่มาตรการบังคับพนักงานฉีดวัคซีนของบริษัทต่างๆ เป็นสิ่งชอบธรรมตามกฎหมายในสหรัฐฯ

เวลานี้บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ในนั้นรวมถึงเฟซบุ๊กและกูเกิล เผยว่าจะบังคับพนักงานฉีดวัคซีน ครั้งที่สำนักงานของพวกเขากลับมาเปิดทำการอย่างสมบูรณ์ในอีกหลายเดือนข้างหน้า

เจฟฟ์ ซัคเกอร์ ประธานบริหารของซีเอ็นเอ็น พาดพิงเกี่ยวกับการไล่ออกครั้งนี้ในบันทึกของทางบริษัทเมื่อวันพฤหัสบดี(5ส.ค.) และบันทึกดังกล่าวหลุดถึงมือสื่อมวลชนสหรัฐฯหลายแห่ง

ในบันทึกดังกล่าว ซัคเกอร์ ระบุว่าการฉีดวัคซีนคือมาตรการบังคับสำหรับทุกคนที่ทำงานในภาคสนาม ทำงานร่วมกับพนักงานคนอื่นๆหรือทำงานในออฟฟิศ "ขอผมพูดให้เข้าใจว่า เรามีนโยบายอดทนเป็นศูนย์ในเรื่องนี้"

เมื่อเดือนพฤษภาคม รัฐบาลสหรัฐฯระบุว่าเป็นเรื่องชอบธรรมตามกฎหมายสำหรับนายจ้างที่จะบังคับพนักงานที่เข้ามาในสถานที่ทำงาน ฉีดวัคซีนโควิด-19

รายงานของสำนักข่าวเอพีระบุว่าสายการบินหลักๆอย่างเดลตา แอร์ไลน์สและยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส ต่างบังคับพนักงานแสดงเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน ส่วนธนาคารเพื่อการลงทุน "โกลด์แมน แซคส์" กำลังบังคับพนักงานให้เปิดเผยสถานะฉีดวัคซีน แต่ไม่ถึงขั้นบังคับให้พนักงานฉีดวัคซีน

ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพิ่งออกคำสั่งให้ลูกจ้างรัฐบาลกลางมากกว่า 2 ล้านคนฉีดวัคซีน หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องเข้ารับการตรวจเชื้อเป็นประจำและสวมหน้ากาก

(ที่มา:บีบีซี/ยูเอสเอทูเดย์)
#10879


ในฐานะพันธมิตรอย่างเป็นทางการด้านการลดคาร์บอนของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) บริษัท Dow ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ขั้นสูงต่างๆ ระดับโลกที่มีความยั่งยืนและล้ำหน้า ซึ่งช่วยให้ Dow สามารถปรับปรุงประสบการณ์การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกสำหรับเจ้าภาพ นักกีฬา และแฟนๆ ทั่วโลกทั้งในและนอกสนามแข่งขัน รวมทั้งในชีวิตประจำวัน

สำหรับเบื้องหลังของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกกรุงโตเกียวในปีนี้ นวัตกรรมและความเชี่ยวชาญของ Dow มีส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนความพยายามในการเพิ่มประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความยั่งยืนของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและขบวนการโอลิมปิก ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืนของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC)

การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก การแข่งขันกีฬาระดับโลกที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งจากการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานถาวรและชั่วคราว การดำเนินงานด้านต่างๆ และการเดินทางของนักกีฬา ผู้ชม และสื่อมวลชน ไปยังการแข่งขัน

ทั้งนี้ เป็นความรับผิดชอบของคณะกรรมการจัดงานในการวัดแหล่งที่มาของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายใต้อำนาจหน้าที่ของทีมงาน และลดการปล่อยก๊าซเหล่านี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รวมทั้งกำหนดกลยุทธ์เพื่อสร้างสมดุลของการปล่อยมลพิษที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ผ่านความพยายามในการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีจากที่อื่น ๆ เพื่อให้ผลกระทบของปริมาณคาร์บอนสุทธิของกิจกรรมการแข่งขันเป็นศูนย์ สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนและความพยายามที่จะทำให้เกมการแข่งขันไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศสุทธิเพิ่มขึ้นจากการดำเนินงานของโอลิมปิก

ด้วยเหตุนี้ Dow จึงมุ่งมั่นใช้ความเชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์และกลยุทธ์เชิงรุกในการขับเคลื่อนการตัดสินใจเพื่อสร้างความยั่งยืน และช่วยสร้างพลังบวก รวมถึงมรดกที่จะอยู่คู่สังคมตลอดไป สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียว 2020 สิ่งที่เป็นมรดกคือ การรวมสิ่งเก่าเข้ากับสิ่งใหม่ให้เป็นหนึ่งเดียว โดยพิสูจน์ให้เห็นว่าการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีล่าสุด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืนของทิวทัศน์ในกรุงโตเกียวปี 2020 ที่มีสิ่งปลูกสร้างใหม่ รวมถึงย่านต่างๆ ในกรุงโตเกียวตั้งแต่ปี ค.ศ.1964 ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยเทคโนโลยีด้านอาคารขั้นสูง เพื่อช่วยให้อาคารที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป ดูล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น

เทคโนโลยีของ Dow อยู่เบื้องหลังสถานที่หลายแห่ง ทั้งใหม่และที่มีอยู่เดิม เพื่อช่วยป้องกัน ปิดผนึก เชื่อมต่อ เคลือบ ปกป้อง และส่งมอบความยั่งยืนในระยะยาวของอาคารหลังจากพิธีปิดการแข่งขัน มากกว่าครึ่งหนึ่งของสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกจากทั้งหมด 43 แห่ง เป็นสถานที่เดิมที่มีอยู่แล้ว ช่วยให้สามารถลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 80,000 ตัน และท่ามกลางอาคารที่มีอยู่แล้ว 9 หลัง ได้รับการปรับปรุงใหม่โดยนำเทคโนโลยีต่างๆ ของ Dow มาใช้เพื่อช่วยยกระดับประสิทธิภาพและความสวยงามของส่วนหน้าอาคาร ภายนอกอาคาร และระบบไฟฟ้า ตัวอย่างโซลูชันของ Dow บางส่วนที่ถูกนำมาใช้ ประกอบด้วย

DOWANOL™ ไกลคอลอีเทอร์ (Glycol Ethers) ที่ใช้ในน้ำเป็นตัวทำละลาย จึงมีสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่ายในระดับที่ต่ำ ช่วยลดความเสียหายจากความชื้น การแตกร้าว และการผุกร่อน เพื่อให้สถานที่ยังคงดูใหม่

ELASTENE™ อีลาสโตเมอร์ (Elastomeric) ช่วยปกป้องผนังภายนอกด้วยคุณสมบัติการต้านทานสิ่งสกปรกและน้ำได้ดีเยี่ยม

อะคริลิคโพลีเมอร์ PRIMAL™ ของ Dow ทำหน้าที่ในการปกป้องผนังภายใน ให้ทนทานในระยะยาวและยึดเกาะดีเยี่ยม

Dow AXELERON™ เป็นสารประกอบใช้ในชั้นฉนวนในสายโทรคมนาคม ช่วยให้ความเร็วในการส่งและสัญญาณของสนามกีฬามีประสิทธิภาพและวางใจได้มากที่สุด ลดความเสี่ยงของสัญญาณขัดข้อง

นอกจากนี้ ยังมีการใช้สารประกอบ AXELERON™ ร่วมกับ ENGAGE™ โพลิโอเลฟินอีลาสโตเมอร์ (Polyolefin Elastomers) ในการทำชั้นฉนวนสำหรับสายเคเบิลแรงดันต่ำและขนาดกลางที่ยาวกว่า 45 กิโลเมตร เพื่อช่วยส่งกำลังไฟฟ้าที่มีความเสถียรได้ทั่วทั้งอาคาร

DOWSIL™ SE 797 สารผนึกซิลิโคนที่ถูกใช้ในหลังคาและทางเดินเชื่อมที่เชื่อมโยงศูนย์กระจายเสียงนานาชาติกับศูนย์ข่าวหลัก ทำให้ด้านหน้ากระจกดูโฉบเฉี่ยวโดยไม่มีกรอบโลหะ สารผนึกซิลิโคนมีการยึดเกาะที่ดีเยี่ยมและป้องกันสภาพอากาศ ทั้งยังช่วยดูดซับและบรรเทาการเคลื่อนไหวระหว่างองค์ประกอบของโครงสร้าง เพื่อป้องกันการแตกร้าวที่อาจเป็นผลมาจากอุณหภูมิสูงในช่วงฤดูร้อนของโตเกียว

VORACOR™ โพลียูรีเทนของ Dow ถูกนำไปใช้ในการทำกระดานโต้คลื่น เนื่องจากสามารถขึ้นรูปได้หลากหลายและน้ำหนักเบา มีความหนาแน่นต่ำ แต่มีความแข็งแรงสูง นอกจากนี้ ยังสามารถขึ้นรูปได้ง่ายและทนทาน

เทคโนโลยีอีลาสโตเมอร์ (Elastomer) VERSIFY™ ได้รับเลือกจาก Toppan Printing มาใช้ในการผลิตเส้นใยโพลิโอเลฟินส์ ซึ่งถูกนำมาใช้ทำป้ายชั่วคราวต่างๆ โดยชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติกทั้งหมดจะเป็นโพลิโอเลฟินส์เพียงชนิดเดียวเพื่อให้ง่ายต่อการรีไซเคิล เมื่อการแข่งขันสิ้นสุดลง Dow และ Toppan ตั้งใจจะรวบรวมป้ายต่างๆ เหล่านี้ เพื่อเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ต่อไป รวมถึงนำมาผ่านกระบวนการให้กลายเป็นเม็ดพลาสติกเพื่อนำมาใช้ใหม่ หรือนำมาผสมกับเศษไม้เพื่อผลิตเป็นวัสดุที่สามารถนำไปทำเป็นม้านั่ง พื้น เป็นต้น


สถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก แสดงให้เห็นมรดกที่น่าภาคภูมิใจของญี่ปุ่น ทั้งมรดกของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียวในปี ค.ศ.1964 และอนาคตที่สดใสของการพัฒนาเมืองของกรุงโตเกียว แม้ว่าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ยังคงเรียกว่า "โตเกียว 2020" จะถูกเลื่อนออกไปเป็นเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2564 แต่การมุ่งเน้นที่จะสร้างประสบการณ์โอลิมปิกที่ไม่มีใครเทียบได้ เพื่อแฟนกีฬาและนักกีฬายังคงดำเนินต่อไป การปรับปรุงสถานที่ต่างๆ สำหรับมหกรรมกีฬาโตเกียว 2020 ซึ่งประกอบด้วยสถานที่ทั้งหมด 43 แห่ง ได้แก่ อาคารก่อสร้างถาวรใหม่ 8 แห่ง สถานที่ที่มีอยู่เดิม 25 แห่ง และสถานที่ชั่วคราวอีก 10 แห่ง ซึ่งได้รับการออกแบบใหม่เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานของผู้คนในเมืองและผู้อยู่อาศัยในทศวรรษหน้านั้น จะช่วยสร้างเกียรติประวัติศาสตร์ให้กับประเทศญี่ปุ่นต่อไป


นิโคลเลตต้า พิคโคโรวาซซี ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีและความยั่งยืน และโซลูชันด้านกีฬาและโอลิมปิกของ Dow กล่าวว่า "ความร่วมมือที่เรามีกับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) เป็นตัวอย่างหนึ่งของความร่วมมือในการพลิกโฉมของการผสานพลังของวิทยาศาสตร์เข้ากับการกีฬา เพื่อกระตุ้นการนำเทคโนโลยีอันล้ำสมัยมาใช้เสริมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้ยังคงอยู่กับคนรุ่นต่อไป เรายกย่องการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกว่าเป็น 'งานแสดงสินค้า' ที่ใหญ่ที่สุดและทรงพลังที่สุดงานหนึ่งของเรา ซึ่งเป็นทางหนึ่งที่เราสามารถสื่อสารกับลูกค้า ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ลูกค้าจะได้สัมผัสโซลูชันและเห็นวิธีแก้ปัญหาของ Dow โดยตรงที่จัดแสดงในเกมการแข่งขันต่างๆ ผ่านอาคารสถานที่ รวมถึงอุปกรณ์และเครื่องแต่งกายสำหรับนักกีฬา"

Dow มีประวัติอันยาวนานกับโลกของกีฬา ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี ค.ศ.1980 เป็นปีแรกที่ Dow เริ่มจัดหาวัสดุอุปกรณ์ให้แก่สถานที่จัดการแข่งขัน และในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา การเป็นพันธมิตรกันนี้ก็ได้พัฒนาและเติบโตจากจุดแข็งไปสู่อีกจุดแข็งหนึ่ง ในปี ค.ศ. 2010 Dow ได้กลายเป็นบริษัทเคมีอย่างเป็นทางการของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ The Olympic Partners (TOP) และในปี ค.ศ. 2017 หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการเป็นพันธมิตรด้านคาร์บอนกับคณะกรรมการจัดงานโอลิมปิกที่เมืองโซชีและนครริโอ เด จาเนโร (Sochi and Rio Organizing Committees) คณะกรรมการโอลิมปิกสากลได้แต่งตั้ง Dow ให้เป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการด้านการลดคาร์บอน
#10880
รับผลิตสเปรย์แอลกอฮอลการ์ดราคาส่ง
ราคาถูก ราคาเบา ราคาโรงงาน
มีเลขที่จดแจ้ง ได้มาตรฐาน 
ราคาเริ่มต้น 15 บาท/ชิ้น
สนใจติดต่อ  https://lin.ee/nXGuYwR
โทร. 0863754112
#10882


พัชร์ เคียงศิริ ชื่อนี้เป็นที่ต้องการตัวมาโดยตลอดในวงการกลุ่มบริษัทขนาดกลางที่ต้องการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตมีขนาดใหญ่ขึ้น เนื่องจากเขามีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในการเป็น 'ที่ปรึกษาด้านการวางแผนกลยุทธ์และการตลาด' ที่สร้างความสำเร็จให้กับหลายบริษัทชื่อดัง

กระทั่งเมื่อ 6 ปีที่แล้ว เขาเริ่มต้นเส้นทางสายใหม่ให้กับตนเองด้วยอาชีพเกษตรกรรม โดยก่อตั้ง บริษัท ไร่รวมใจ จำกัด เพื่อทำนาข้าวหอมมะลิ 105 ออร์แกนิค ที่จังหวัดแพร่

'ไร่รวมใจ' ปลูกข้าวด้วยระบบเกษตรอินทรีย์ด้วยความใส่ใจยิ่ง ความมุ่งมั่นนี้ทำให้นาข้าวไร่รวมใจเป็นนาข้าวออร์แกนิคในจังหวัดแพร่ที่ได้รับการรับรองระบบงานเกษตรอินทรีย์ระดับสากล IFOAM (International Federation of Organic Agriculture Movement) และผลิต 'ข้าวกล้องหอมมะลิ 105' ภายใต้แบรนด์ ข้าวใส่ใจ จำหน่ายออกสู่ท้องตลาดเป็นรายได้หล่อเลี้ยงการทำงานของไร่

ตลอดสามปีที่ผ่านมา เขาตัดสินใจหันหลังให้กับตำแหน่ง 'ที่ปรึกษาด้านการวางแผนกลยุทธ์ฯ' อย่างสิ้นเชิง ถอดสูทสวมเสื้อเกษตรกรเต็มตัว ไม่เพียงแต่ศึกษาวิถีเกษตรกรรมเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาคุณภาพผลผลิต แต่ยังสมัครเรียนหลักสูตรออนไลน์เพื่อหาความรู้ในศาสตร์อีกหลายแขนง จนสามารถสร้างสรรค์คอร์สดูแลสุขภาพและน้ำหนักเฉพาะบุคคลผ่านแอปพลิเคชัน SAIJAI SLIM (ใส่ใจสลิม) ผู้ผ่านคอร์สนี้ต่างภูมิใจกับผลลัพธ์ที่น้ำหนักลดจริงอย่างยั่งยืนและสุขภาพดีขึ้น

ขณะนี้ทุกธุรกิจกำลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรค โควิด-19 อดีตที่ปรึกษาด้านการวางแผนกลยุทธ์ฯ นำ 'ไร่รวมใจ' ฝ่าช่วงเวลานี้อย่างไร ทำไมนักธุรกิจในเมืองใหญ่จึงหันไปทำการเกษตร


พัชร์ เคียงศิริ กับผู้ร่วมงานกลุ่มใหม่ในการทำนาข้าวออร์แกนิค

:: ทำไมคุณพัชร์เลือกทำงานเกี่ยวกับ "การปลูกข้าว" หลังตัดสินใจยุติบทบาทนักธุรกิจในเมืองใหญ่

"ที่ปรึกษาทางด้านการวางแผนกลยุทธ์ เป็นงานที่เหนื่อยมาก ผมรับงานทีละหลายบริษัทและปรากฏตัวที่แต่ละบริษัทลูกค้าสองวันต่อเดือนเท่านั้น ในแต่ละวันที่ไป เราโดนรีดทุกอย่างออกจากหัวสมอง บางวัน 11 ประชุม บางวัน 14 ประชุม กินข้าวเที่ยงครึ่งกินไปประชุมไปก็มี ทำให้เบิร์นเอาท์ (burnout) คำนี้เป็นคำที่...คุณอานันท์ ปันยารชุน เคยใช้ตอนถามผมว่าทำไมผมถึงมาเป็นเกษตรกร พอเห็นผมถอนหายใจตอบไม่ถูก ท่านก็พูดเลยว่า 'เบิร์นเอาท์' ใช่ไหม

ผมมีโอกาสไปช่วยเหลืองานในตำบลน้ำชำ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ได้สัมผัสความเป็นธรรมชาติมากๆ รวมถึงการทำเกษตรกรรมทฤษฎีใหม่ของรัชกาลที่ 9 หลังจากนั้นเลยตัดสินใจซื้อที่ และในที่ด้วยความบังเอิญมีนาข้าว ทำให้เราได้กินข้าวในนาของตัวเองเป็นครั้งแรก คือมีคนช่วยปลูก เขาแบ่งไปสองส่วน เราเอามาส่วนเดียว ตอนนั้นยังไม่คิดอะไรมาก ก็ยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาฯ


นาข้าวหอมมะลิ 105 "ไร่รวมใจ" จ.แพร่ (ภาพ : พัชร์ เคียงศิริ)

แต่ว่าตอนที่กินข้าวในนาตัวเอง ทำไมหอมแบบนี้ ทำให้ผมศึกษาเพิ่มเติมมากขึ้น และพบว่า ในชีวิตเราเติบโตขึ้นมากับความเคยชินในสิ่งต่างๆ รอบตัว ทำให้เราลืมดูรายละเอียดสิ่งใกล้ตัว ผมมักเปรียบเทียบว่า เราเติบโตขึ้นมาพร้อมกับการหายใจ เราเคยสนใจไหมว่าการหายใจที่ดีต้องทำอย่างไร เลยทำให้ผมหันกลับมาคิดว่า เราเติบโตมาพร้อมกับการกินข้าว แต่เราไม่เคยสนใจข้าวไทยเจ๋งยังไง  คำว่าข้าวหอมมะลิ สมัยก่อนผมคิดว่ามีพันธุ์เดียว เอาเข้าจริงๆ ข้าวหอมมะลิมีหลายพันธุ์ และก็มีข้าวบางพันธุ์ที่มีคำว่า 'หอม' นำหน้า แต่ไม่ใช่ข้าวหอมมะลิ จึงเป็นที่มาของคำว่า 'ใส่ใจ' เพื่อสะท้อนว่าเราควรใส่ใจรายละเอียดใกล้ตัว และ 'ข้าวใส่ใจ' ก็เป็นสินค้าแรกที่เราผลิตและจำหน่ายครับ 

และต้องขอเท้าความด้วยว่า คุณพ่อมีอิทธิพลมากครับ ท่านเลิกกินเนื้อสัตว์บกสัตว์ปีกตั้งแต่อายุ 60 ผมเลยทำตามพ่อ เลิกกินสัตว์บกสัตว์ปีกตั้งแต่อายุ 40 และผมก็หันมากินแมคโครไบโอติกส์ ยังกินเนื้อปลาอยู่บ้าง แต่ข้าวแทบจะเรียกว่าปฏิเสธข้าวขาว กินข้าวกล้องอย่างเดียว ร่างกายก็ดีขึ้น คอเลสเตอรอลที่เคยสูงก็ลดลง ไขมันเลวเหลือครึ่งหนึ่งของคนในอายุเดียวกัน ไขมันดีเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของคนอายุเท่ากัน นี่เป็นคำพูดของหมอที่ดูจากผลเลือดผม

พอได้ผลที่ดี สุดท้ายเราก็อยากส่งของดีๆ แบบนี้ออกไป ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ยากมาก เพราะผมทำธุรกิจ business-to-business มาโดยตลอด ตอนนี้ผมกำลังจะมาทำธุรกิจ business-to-consumer (บีทูซี) คนละสเกล ก็ลองดู เพราะเราก็เบิร์นเอาท์แล้วจริงๆ"


รวงข้าวหอมมะลิ 105 ออร์แกนิค ของไร่รวมใจ (ภาพ : พัชร์ เคียงศิริ)

:: ผลผลิตของไร่รวมใจวางจำหน่ายที่ใดบ้าง

"เราขายตรงอย่างเดียวครับ ไม่มีวางจำหน่ายผ่านคนกลาง จริงๆ แล้วเป็นโมเดลที่เราคิดไว้ตั้งแต่ต้นครับว่าจะทำธุรกิจแบบส่งตรงเข้าบ้านคนเลย ด้วยความที่เป็นข้าวกล้องออร์แกนิค ใช้ต้นทุนสูงมาก แข่งราคากับคนอื่นไม่ได้ ผมไม่สามารถขายราคานี้โดยผ่านช่องทางคนกลางได้ จึงเป็นทั้งโชคร้ายและโชคดี

โชคร้ายคือทำให้สเกลเล็ก โชคดีคือคนที่เขาเห็นสินค้าของเราได้ลองสินค้าของเรา เขาอยู่กับเรายาวเพราะข้าวกล้องหอมมะลิ 105 เราหอมและนุ่มมาก และเราอำนวยความสะดวกอย่างดี โดยติดต่อผ่านเฟซบุ๊กใส่ใจกินอยู่เป็น และไลน์ @saijai_wellbeing"



นาข้าวหอมมะลิ 105 ออร์แกนิค "ไร่รวมใจ"

:: 'ไร่รวมใจ' ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ลักษณะใดบ้างหรือไม่ อย่างไร

"อย่างที่เรียนว่าโชคดี คือการไม่ผ่านหน้าร้านหรือคนกลาง เราติดต่อตรงกับครัวเรือนไปเลย และโควิดทำให้คนทำกับข้าวกินเองมากขึ้น เราค่อนข้างเติบโตสวนกระแส

แต่ต้องเล่าย้อนกลับไปเมื่อสามปีที่แล้ว ที่บอกว่าผมเลิกเป็นที่ปรึกษาฯ ผมก็ศึกษาหาความรู้ในเชิงการวางแผนเพิ่มเติม ผมเรียนออนไลน์กับ ฮาร์วาร์ด บิซิเนส สคูล เซอร์ทิฟิเคตชื่อ ดิสรัปทีฟ สแตรทิจี (Certificate in Disruptive Strategy, Harvard Business School) ช่วงนั้นดิสรัปชั่นกำลังฮิต ผมนำสิ่งที่เขาสอนมาใช้ด้วยการเริ่มถามกลับไปที่ลูกค้าที่ซื้อข้าวผมว่า คุณซื้อข้าวใส่ใจ คุณต้องการให้ข้าวเราทำอะไรให้คุณ

คนกินข้าว เราก็นึกว่าต้องการกินให้อิ่ม แต่เขาบอกซื้อ 'ข้าวใส่ใจ' เพื่อให้ดูแลสุขภาพ ผมก็ถามต่อ ให้ดูแลสุขภาพด้านไหน ปรากฏว่า 80 เปอร์เซนต์ของคำตอบคือให้ดูแลน้ำหนัก ต้องการลดน้ำหนัก ผมก็เลยพัฒนาสิ่งใหม่ขึ้นมา เรียกว่า SAIJAI SLIM (ใส่ใจสลิม) เป็นคอร์สลดน้ำหนักแบบองค์รวมออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันชื่อเดียวกันนี้ ก็โชคดีตรงที่ว่ายุคนี้ลดการพบหน้ากัน แต่เราทำมาแล้วปีกว่า มีคนมาเข้าคอร์สลดน้ำหนักหลากหลาย เจ้าของร้าน เจ้าของทีมฟุต. อดีตโฆษกพรรคการเมือง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เด็กๆ อายุ 20 กว่า"


พัชร์ เคียงศิริ ในวันที่เป็นเกษตรกรเต็มตัว

คุณพัชร์ให้สัมภาษณ์กับ 'จุดประกาย กรุงเทพธุรกิจ' ด้วยว่า คอร์สลดน้ำหนักแบบองค์รวมผ่านแอปพลิเคชัน SAIJAI SLIM ระยะเวลา 42 วัน ผู้เข้าคอร์ส 90 เปอร์เซนต์สามารถลดน้ำหนักได้จริงตามที่ตั้งใจ อีก 10 เปอร์เซนต์ที่ไม่เห็นผลเพราะไม่ได้ปฎิบัติตามคำแนะนำ เนื่องจาก SAIJAI SLIM เน้นการปฏิบัติตัวจากการให้ข้อมูลที่ถูกต้องตามหลักสุขภาพ ไม่ใช่การลดน้ำหนักด้วยการใช้ยาต้องห้ามประเภทต่างๆ

กว่าจะเป็นแอปพลิเคชัน SAIJAI SLIM ที่เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของไร่รวมใจ คุณพัชร์ได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในศาสตร์อีกแขนง อาทิ หลักสูตร Introduction to Food & Health จาก Stanford School of Medicine(USA), ศึกษาโยคะระดับโยคาจารย์จากสถาบันหฐราชาโยคาศรม เรียนโยคะออนไลน์จากสถาบันในแคว้นแคชเมียร์ ประเทศอินเดีย มีโอกาสเรียนรู้ด้านอายุรเวช และความช่วยเหลือด้านข้อมูลจากเพื่อนซึ่งเป็นแพทย์แผนไทย และแพทย์แผนจีน


ความเป็นธรรมชาติอีกมุมหนึ่งของ "ไร่รวมใจ" (ภาพ : พัชร์ เคียงศิริ)

:: 'โมเดลไร่รวมใจ' ที่คุณพัชร์ทำอยู่ เช่นการขายแบบบีทูซี การพัฒนาแอปพลิเคชัน เป็นทางออกหนึ่งสำหรับคนทำธุรกิจในการรับมือสถานการณ์โควิดได้หรือไม่

"ผมขอใช้คำว่าบังเอิญ ตอนเราทำ เราไม่รู้ว่ามันจะมีโควิด แต่เราเห็นแนวโน้ม และด้วยต้นทุนของเรา มันทำให้เราผ่านคนกลางไม่ได้จริงๆ เราก็เลยต้องทำทุกอย่างเอง ไม่ผ่านคนกลาง ซึ่งเหนื่อยมาก"

สิ่งทอ 'กัมพูชา' วอนแบรนด์ดัง บรรเทาผลกระทบโควิด-19
เชื่อมั่นรัฐบาลแค่ไหน รับมือเศรษฐกิจถดถอย
'แดเนียล จาง' บุรุษผู้ดึง ดีเอ็นเอ 'อาลีบาบา' ชิงบัลลังก์อีคอมเมิร์ซโลก

"เราจะต้องเสนอเฉพาะสิ่งดีๆ เท่านั้นให้กับลูกค้าของเรา อะไรที่ไม่ดีจริง อะไรที่หลอกเขา อย่าทำ" พัชร์ เคียงศิริ

:: โควิด-19 อยู่กับเราไปอีกนานเท่าใดยังไม่ทราบ หลายบริษัทหลายธุรกิจประสบปัญหา ในฐานะผู้มีประสบการณ์ทำงานด้าน 'การวางแผนกลยุทธ์และการตลาด' คุณพัชร์พอจะให้ความเห็นในเรื่องนี้อย่างไรได้หรือไม่

"ความเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่เราต้องยอมรับ และอยู่กับมันให้ได้ คนที่ไม่เปลี่ยน ก็จะประสบปัญหา เบื้องต้นผมขอพูดแค่นี้

แต่ก่อนหน้าที่ผมจะได้รับการติดต่อจาก 'กรุงเทพธุรกิจ' ผมเพิ่งสรุปแนวคิดของตัวเองออกมาเป็น 7 ข้อ ผมใช้คำว่า 'บริษัทของผมสามารถอยู่รอดและดีขึ้นในช่วงโควิด-19 ได้อย่างไร'

ข้อที่หนึ่ง Employees come first. Find the right team members, love them, and take care of them as best as you can. พนักงานมาก่อนเสมอ พนักงานเป็นคนสำคัญที่สุด สิ่งที่เราต้องทำคือต้องหาสมาชิกของทีมเราที่ถูกต้อง เราต้องรักเขาดูแลเขาให้ดีที่สุด

ข้อที่สอง We offer only good things to our customers. เราจะต้องเสนอเฉพาะสิ่งดีๆ เท่านั้นให้กับลูกค้าของเรา อะไรที่ไม่ดีจริง อะไรที่หลอกเขา อย่าทำ มันอยู่ไม่นานไม่ยั่งยืน

ข้อที่สาม Focus on what really needs to be done, not everything. And begin with yourself. เราเองจะต้องโฟกัสอยู่เฉพาะสิ่งที่จำเป็นต้องทำจริงๆ ไม่ใช่โฟกัสทุกอย่าง เพราะว่ามีอะไรเยอะแยะเข้ามา อย่าไปเสียเวลากับทุกอย่าง ให้ใช้เวลากับสิ่งที่จำเป็นจริงๆ นิสัยนี้ต้องให้เริ่มที่ตัวเรา


ข้าวหอมมะลิ 105 ออร์แกนิค "ไร่รวมใจ" ที่ลูกค้ารอคอยผลผลิต (ภาพ : พัชร์ เคียงศิริ)

ข้อที่สี่ When we are proud of our products and services, we passionately deliver them to our customers. Make sure they say 'I got more than I paid' in the end. เมื่อเรามีความภูมิใจ เชื่อมั่น ศรัทธาและรักในสินค้าและบริการของเรา เราจะสามารถส่งมอบสินค้าและบริการของเราไปยังลูกค้าของเราได้โดยมีแพสชั่นตลอดเวลา ลูกค้าต้องได้ความรู้สึกว่าเขาได้มากกว่าที่เขาจ่ายในตอนจบ

ข้อห้า We make things fun. ทำทุกอย่างให้สนุก น้องๆ ในทีมผมทุกคนประชุมผ่านซูมก็สนุก ทำงานก็สนุก ผมอยู่บ้านถ่ายคลิปเองคนเดียวก็สนุก ข้อที่ห้าสัมพันธ์กับข้อแรกคือหาสมาชิกในทีมที่ถูกต้อง

ข้อที่หก Multi-tasking is normal. Cross-functional is the new normal. คนหนึ่งคนทำงานได้หลายอย่าง (Multi-tasking)เป็นเรื่องธรรมดาแล้ว ครอส-ฟังก์ชันนัลเป็นนิวนอร์มอล เป็นสิ่งที่ผมได้จากบทความของแมคคินซีย์ (McKinsey & Company บริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจในอเมริกา) คำว่าครอส-ฟังก์ชันนัลเกิดขึ้นมาในช่วงล็อคดาวน์โควิดครั้งแรก 

แมคคินซีย์บอกว่าคุณต้องสร้างครอส-ฟังก์ชันนัลทีมขึ้นมา จะเป็นทีมที่รวมบุคลากรจากหลายๆ ฝ่ายในยามปกติเข้ามาอยู่ในทีมเดียวกัน ไม่ให้อยู่ไกลกัน ต้องเอาหลายมุมเข้ามาเจอกันในเวลาเดียวกัน เพื่อพัฒนาเพื่อตัดสินใจในเวลาอันสั้น เพราะทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเร็วมาก พอผมเขียนข้อนี้จบ ผมก็ถามตัวเองว่า แล้วเน็กซ์นอร์มอลคืออะไร ซึ่งตอนนี้ผมกำลังเตรียมการอยู่


"อย่าไปกลัวการ Execute ทำไปเถอะ ถ้าพลาด แก้ไขได้ แต่ต้องทำบนพื้นฐานความถูกต้องนะครับ" พัชร์ เคียงศิริ

ข้อที่เจ็ด Adopt the 3 E's: Educate, Execute, and Evolve. ใช้หลักการทำงาน 3E,

Educate เราต้องเรียนรู้อย่างไม่สิ้นสุด อย่าคิดว่าเรารู้เยอะแล้ว ผมยอมรับว่าช่วงหนึ่งผมเคยเป็นเคยคิดว่าเรามีความรู้เยอะมาก ปรากฏว่าในขณะที่เราคิดแบบนั้นโลกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ พอมาเริ่มเรียนรู้อีกที สนุกมาก

Execute การลงมือทำ เรียนแล้วเก็บไว้ในหัวไม่นำออกมาทำ ไม่นำออกมาใช้..ไม่ได้ สิ่งที่เจ๋งอย่างหนึ่งสำหรับโลกปัจจุบันก็คือ ในโลกออนไลน์ สามปีที่แล้วมีคนพูดว่า ถ้าคุณลงคอนเทนต์อะไรไปในโซเชียลมีเดียแล้วคุณพลาด คุณจะต้องแก้ไขให้ได้ภายใน 24 ชั่วโมง ฉะนั้นเราอย่าไปกลัวการ Execute ทำไปเถอะ ถ้าพลาด แก้ไขได้ แต่ต้องทำบนพื้นฐานความถูกต้องนะครับ

Evolve คือวิวัฒนาการ เราต้องวิวัฒนาการไปสู่การทำงานที่ดีขึ้น การทำงานที่สนุกขึ้น ลูกค้าต้องมีความสุขมากขึ้น ผมเพิ่งพูดเรื่องนี้ให้น้องๆ เราประชุมออนไลน์กัน ตบมือกัน น้ำตาไหลกัน ผมบอกว่า น้องๆ คุณรู้ไหมสี่ปีที่แล้วเราคือบริษัทขายข้าวออร์แกนิค แต่ตอนนี้เราได้อยู่ในธุรกิจเวลเนสโดยสมบูรณ์แล้ว เราไม่ใช่ผู้ขายข้าวอย่างเดียวอีกต่อไป เรามีทั้งแอปฯ SAIJAI SLIM ที่ช่วยคนลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน เรามียูทูบแชนแนล 'ใส่ใจกินอยู่เป็น' ที่ให้ความรู้ เป็นประโยชน์กับคนฟังคนดูตลอด มีไลน์กลุ่ม 'อายุยืนไปด้วยกัน' ซึ่งเป็นสังคมบวกที่ต่างให้ความรู้ ความสุข ความจรรโลงใจ แก่กันและกัน และเรากำลังเริ่มคิดโปรเจคใหม่ๆ อีก

เป็นไอเดีย 7 ข้อที่ผมสรุปได้ว่าทำให้เราดีขึ้น แต่ภายใต้ 7 ข้อนี้ ผมบอกได้เลยว่าทุกคนทำงานหนักขึ้น"

พัชร์ เคียงศิริ ไม่ได้รับประกันว่า 7 ข้อนี้ทำแล้วทุกธุรกิจจะอยู่รอดในช่วงโควิด-19 แต่ผู้เขียนเชื่อว่า น่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน ที่จะนำบางข้อ หรือทั้งหมดในข้อเขียนนี้ไปประยุกต์ใช้กับงานของท่านเอง
#10883


วันที่ 8 ส.ค. เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้บริการฉีดวัคซีนนอก รพ. "หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย" ณ ศูนย์การค้า เดอะมอลล์ บางแค โดยมี ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการแพทย์ ผู้บริหารเขตบางแค นางสาวกฤษณา อัมพุช รองประธานกรรมการ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางแค

ผู้บริหารเครือโรงพยาบาล BDMS กรุงเทพดุสิตเวชการ โดยโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล ผู้บริหารจากคณะแพทยศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม ผู้บริหารสถานประกอบการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจเยี่ยม


สำหรับสถานที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล หรือ "หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย" ณ ศูนย์การค้า เดอะมอลล์ บางแค เป็นความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร - หอการค้าไทย - เดอะมอลล์ บางแค เครือโรงพยาบาล BDMS กรุงเทพดุสิตเวชการ คณะแพทยศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม ตั้งอยู่บริเวณชั้น 4 หน้าโรงภาพยนตร์ SF CINEMA

เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. สามารถให้บริการฉีดวัคซีน จำนวน 4,000 คน/วัน ให้บริการฉีดวัคซีนแก่ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป สัญชาติ ไทย อาศัยอยู่ใน กทม. ผู้ที่ตั้งครรภ์ และประชาชนที่มีอายุระหว่าง 18-59 ปี ที่ลงทะเบียนผ่านโครงการ "ไทยร่วมใจ" กรุงเทพฯ ปลอดภัย SAFE BANGKOK ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง หรือเว็บไซต์ www.ไทยร่วมใจ.com หรือร้านค้าสะดวกซื้อ ได้แก่ เซเว่น อีเลฟเว่น แฟมิลี่มาร์ท ท็อปส์ เดลี่ และมินิบิ๊กซี ที่มีคิวฉีดวัคซีนเดิมลงทะเบียนไว้วันที่ 1-8 ก.ค. 64 โดยให้มาฉีดวัคซีนในวันที่ 7 - 10 ส.ค. 64
#10889
เพนดูลั่มลูกดิ่งพลังจิต พร้อมคู่มือ 399 บาท

ประโยชน์ของเพนดูลั่ม
ใช้สื่อสารกับเทพ เทวดาและถามในสิ่งที่เราไม่รู้ ใช้สำหรับตรวจประเมินสุขภาพ ใช้เลือกสิ่งที่เหมาะกับตัวเรา ตรวจฮวงจุ้ย ตรวจเช็คพลัง วัตถุมงคล ตรวจหาของหาย ใช้ทำน้ำมนต์ ใช้ดึงพลังเข้าตัว
การตรวจเช็คพุทธคุณ พลังจากพระเครื่อง วัตถุมงคล ของทนสิทธิ์ ต่าง ๆ
โดยปกติจะทำได้เฉพาะผู้ทรงญาณสมาบัติ แต่วิธีง่าย ๆ โดยผู้ที่มีสมาธิเ้พียงขณิกสมาธิ (แนะนำให้ได้ถึงอุปจารสมาธิ) ก็สามารถทำได้ โดยการใช้เพนดูลั่มเป็นตัวตรวจเช็ค ซึ่งจะมีความถุูกต้องประมาณ 80-90 % โดยผู้ที่ตรวจจะต้อง
1. วางอุเบกขา ให้ได้ ไม่คิดไปก่อน หรือบังคับให้เพนดูลั่ม ทำตามสิ่งที่คิด
2. ต้องมีพื้นฐานความรู้เรื่องวัตถุมงคล เล็กน้อย เช่น รู้ว่า พระเครื่อง วัตถุมงคล จะมีความเด่น ด้านใดบ้าง ซึ่งก็จะมี เด่นด้าน
- เมตตามหานิยม คนรักคนชอบ เข้าหาลูกค้า เข้าหาเจ้านาย
- แคล้วคลาดปลอดภัย
- คงกระพันชาตรี
- มหาอุต ปืนแตก
- มหาลาภ เกี่ยวกับด้านโชค ลาภ
- ป้องกันคุณไสย
- กันสะท้อน คือป้องกันคุณไสย แล้วยังสะท้อนกลับไปยังผู้ที่ปล่อยคุณไสยนั้น โดยแรงสะท้อนกลับก็จะขึ้นกับผู้ที่ใส่วัตถุมงคลนั้น ๆ เช่น ผู้ที่ทรงศีลบริสุทธิ์แรงสะท้อนก็จะมากกว่ากว่าคนที่ศีลขาด คนที่มีศีล 8 ก็จะมากกว่า คนมีศีล 5 ....
- ทำน้ำมนต์ คือวัตถุมงคลนั้น ๆ สามารถนำไปทำน้ำมนต์รักษาโรค ได้
- อื่น ๆ
สำหรับวิธีการใช้เพนดูลั่มในการตรวจเช็ควัตถุมงคล
1. นำวัตถุมงคล พระเครื่อง เครื่องราง ของทนสิทธิ์ นั้น ๆ วาง ไว้บนพื้นโต๊ะ หรือบนภาชนะที่สูงกว่าพื้นธรรมดา หากอาจใช้หนังสือ ผ้ามารองก่อนว่า เพื่อมิให้เป็นการปรามาส
2. ขอขมาพระรัตนตรัย ก่อน เพื่อบอกกล่าว ว่าการตรวจเช็คนี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะปรามาส แต่เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจว่าวัตถุมงคลชิ้นนี้ได้ผ่านการปลุกเสก หรือพุทธาภิเศก มาแล้ว (วิธีการนี้ก็จะสามารถตรวจดูพระปลอม ที่เขาทำปลอม หรือทำเกินจำนวนแล้วไม่ได้เข้าพิธี แต่ก็มีบางกรณีที่มวลสารในการสร้างพระเป็นมวลสารที่มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว ในกรณีนี้ก็ต้องยิ่งคำถามที่แตกประเด็นออกไป)
3. ใช้เพนดูลั่ม จ่อเหนือวัตถุมงคลนั้น ๆ ให้ห่างจากวัตถุมงคลประมาณ 1 น้ิว เป็นอย่างน้อย เพื่อป้องกันการกระทบด้วยแรงแหว่งซึ่งมาจากวัตถุมงคลนั้น ๆ
4. ดูทิศทางของแรงแหว่งที่ออกมาจากวัตถุมงคลนั้น ๆ ว่าไปตามทิศทางใดบาง ซึ่งต้องใช้ประสบการณ์ โดยทั่วไปถ้าพุทธคุณรอบด้าน จะทำให้เพนดูลั่มหมุนเป็นวงกลม ถ้าแรงแหว่งมีมากก็แสดงว่ามีพุทธคุณมากตาม บางองค์ แทบจะทำให้เพนดูลั่มหลุ่ดจากมือ
5. ตั้งคำถาม ถามเพนดูลั่ม ไปที่ละข้อ ตามความเด่นของวัตถุมงคล เช่น พระองค์นี้เด่นด้านมหาลาภ ด้านคงกระพันชาตรี ... ไปเรื่อย ๆ จนครบ แล้วก็จะทราบว่าพระองค์นี้เด่นด้าน....ครบทุกด้านหรือไม่
การใช้เพนดูลั่มตรวจพลังนี้สามารถตรวจพลังของหิน ได้ จึงเป็นที่นิยมของนักสะสมหิน จะมีเพนดูลั่มในการตรวจพลังหินไว้ติดตัว

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662
id line : teerapat999

ลาซาด้า
https://www.lazada.co.th/.../-i1134792176-s2626624357...
#10890
มาฟัง ดร.สมโชค เดชะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ออสซี่ออยล์ จำกัด ทางรายการ กรุงเทพธุรกิจ ในหัวข้อเรื่อง ออสซี่ออยล์แตกไลน์ 'น้ำมันแกลลอน' สู้ศึกโควิด
โอกาสมาถึงแล้ว..คุณพร้อมแล้วหรือยังที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจลงทุนวันนี้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่าในวันข้างหน้าหากสนใจทักแชทได้เลยนะคะ
Aussie oil ผู้เชียวชาญด้านธุรกิจพลังงานที่เราอยากแนะนำให้กับคุณ ...
ปรึกษาหรือสอบถามฟรี
สอบถามรายละเอียดได้ที่ :
Tel : 02-1114-7334  line: @aussieoil
(สามารถติดต่อได้ 9.00 - 17.00 น.)

https://youtu.be/cZRFXCcpzo0