ใช่หรือ? ที่คุณสามารถลากสายเน็ตเวิร์กได้เกิน 100 เมตร

[Chigaru]

ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาทาง Fluke เคยเขียนบล็อกด้านสายเคเบิลที่เกี่ยวกับข้อละเว้นของกฎที่นิยามยาวของแชนแนลรับส่งข้อมูลอยู่ที่ 100 เมตร พร้อมทั้งข้อพิสูจน์ที่ว่าคุณไม่สามารถลากสายเต็มความยาวที่จำกัดนี้ได้เหตุเพราะมีสาเหตุอื่นมาเกี่ยวยกตัวอย่างเช่นการเพิ่มของอุณหภูมิ ขนาดลวดตัวนำ รวมทั้งค่าการสูญเสียสัญญาณข้างในสาย ค่าความต้านทาน DC ที่เกี่ยวเนื่อง แม้กระนั้นทราบหรือไม่ว่าคุณก็สามารถลากให้ยาว "เกินกว่า" 100. เมตรได้ด้วยเช่นเดียวกัน? มาดูกันว่ามีกรณีไหนบ้าง

สาเหตุที่ควรเป็นห่วง
หนึ่งในคำถามที่มักพบจากแผนกซัพพอร์ตด้านเทคนิคของ Fluke ก็คือ เพราะเหตุไรการทดลองความยาวสาย (Length) ไม่ขึ้นว่าไม่ผ่านกรณีที่ลิงค์ถาวรยาวเกิน 90 เมตร หรือตลอดทั้งแชนแนลส่งสัญญาณนั้นรับประทานระยะเกินกว่า 100 เมตร

ถ้าเกิดคุณมองผลการทดสอบลิงค์ถาวรในตัวอย่างด้านล่าง ก็จะมองเห็นได้ว่ามีค่าความยาวที่วัดได้แตกต่างอยู่ 4 ค่าสำหรับอีกทั้ง 4 คู่สาย ซึ่งเป็นที่เข้าใจกันได้เพราะเหตุว่าแต่ละคู่สายต่างมีอัตราการเข้าบิดเกลียวต่างกัน ถ้าหากนำออกาคลายเกลียวออกแล้วยืดสายให้ตึงสุด ความยาวที่วัดได้ก็ย่อมแตกต่างอยู่แล้ว ตามมาตรฐานนั้นจะวัดว่าผ่านหรือไม่ผ่านจากค่าความยาวเส้นที่สั้นที่สุด ฉะนั้นจึงเป็นเหตุผลว่าเพราะเหตุไรเครื่องทดลองนี้ถึงดูเพียงแค่คู่สายที่วัดความยาวได้ 90.8 เมตร แล้วอำพรางข้อมูลของคู่สายอื่นออก

แต่ถ้าเกิดจะมองว่าค่าความยาวคู่สายโทรศัพท์ที่สั้นที่สุดที่ 90.8 เมตรนี้ก็ยังจัดว่ามากยิ่งกว่าค่าลิมิตของลิงค์ถาวรที่อยู่ที่ 90 เมตร แล้วเพราะเหตุใดถึงไม่ขึ้นผลว่าไม่ผ่าน?

เรื่องของ กฎ 10%
ในมาตรฐาน ANSI/TIA-1152 ในหัวข้อหลักเกณฑ์ของเครื่องไม้เครื่องมือทดลองหน้างาน แล้วก็การตรวจวัดระบบสายเคเบิลแบบบิดเกลียวคู่ที่สมดุลนั้น ค่าข้อจำกัดของความยาวลิงค์ถาวรจะคิดจากค่าลิมิตที่ตั้งไว้รวมกับค่าความไม่เที่ยงหรือ NVP ที่คิดอยู่ 10% โดย NVP นี้ย่อมาจากค่า Nominal Velocity of Propagation ที่ระบุในรูปของเปอร์เซ็นต์ บอกถึงลักษณะความเร็วในการส่งต่อสัญญาณบนสายเคเบิลคิดเป็นสัดส่วนต่อความเร็วแสงสว่างในที่ซึ่งไม่มีอากาศ ที่เป็นกลไกของเครื่องทดสอบที่ใช้คำนวณความยาวของสายเคเบิลนั่นเอง

เนื่องด้วยความเร็วแสงสว่างในสุญญากาศนับว่าเป็นความเร็วมากที่สุดที่สามารถทำเป็น ทำให้ค่า NVP ควรต้องน้อยกว่า 100% อยู่เป็นประจำ พวกเราควรจะตั้งค่าใช้สเปก NVP ที่ผู้ผลิตสายเคเบิลกำหนดให้ ซึ่งเป็นไปได้ตั้งแต่ 56 ถึง 78% สุดแต่การออกแบบของสายเคเบิลนั้นๆโดยสิ่งของที่ทำฉนวนสายเคเบิลแต่ละแบบก็มีค่า NVP เป็นของตัวเอง ทำให้เป็นค่าที่ออกจะกว้าง ก็เลยมักตั้งค่า NVP ได้ไม่ค่อยถูกต้อง รวมทั้งเป็นที่มาว่าเพราะเหตุใดมาตรฐาน ANSI/TIA-1152 ถึงเปิดช่องเผื่อค่าความไม่แน่นอนของ NVP อยู่ที่ 10% หากยังคิดภาพตามไม่ออกว่า NVP ส่งผลต่อเครื่องทดสอบอย่างไร ทดลองนึกว่ารายงานที่ใช้ค่า NVP ที่ 60% สำหรับลิงค์ถาวรยาว 80 เมตรนั้น ถ้าแปลงมาใช้ค่า NVP ที่ 78% ก็จะก่อให้รายงานค่าความยาวสายเปลี่ยนเป็น 98.7 เมตรอย่างยิ่งจริงๆ

การที่มาตรฐาน ANSI/TIA-1152 กำหนดมาตรฐานความยาวสูงที่สุดพอๆกับค่าข้อจำกัดธรรมดารวมกับค่าเฉลี่ยความไม่เที่ยงของค่า NVP ที่ 10% ด้วยเหตุดังกล่าวค่าความยาวของลิงค์ถาวรจะไม่ทำให้ผลของการทดลองไม่ผ่านตราบจนกระทั่งจะเกิน 90 เมตรรวมกับอีก 10% หรืออีกแง่หนึ่งคือ ค่าความยาวของลิงค์ถาวรจำเป็นจะต้องยาวเกินกว่า 99 เมตรถึงจะขึ้นว่าไม่ผ่าน รวมทั้งทำให้ค่าระยะของตลอดแชนแนลก็ต้องยาวเกิน 110 เมตรตามไปด้วยถึงทำให้ผลของการทดลองล้มเหลว



อย่ายึดติดกับความยาวสายมากจนเกินไป
ผู้จัดตั้งบางรายออกจะตื่นตระหนกกับหลักสำคัญความยาวสายนี้ แต่ว่าความจริงนั้นการตั้งค่า NVP กระทบกับแค่การตรวจวัดความยาวสายแค่นั้น "ไม่เกี่ยว" กับค่าพารามิเตอร์อื่นทดสอบได้ รวมทั้งตัวเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้งานสายเคเบิลก็ไม่มานั่งพอใจเรื่องความยาวสายด้วย พอใจแค่ค่าพารามิเตอร์ด้านความสามารถการใช้แรงงานที่เรื่องความยาวสายอาจมีผลแค่นั้น ตัวอย่างเช่นค่าการสูญเสียพลังงานข้างในสาย (Insertion Loss) แล้วก็ค่าดีเลย์สำหรับในการส่งต่อสัญญาณ (Propagation Delay)

ฉะนั้นหากค่ากลุ่มนี้ผ่านการทดสอบแล้ว จะมัวกังวลเกี่ยวกับความยาวลิงค์ถาวรที่เกิน 90 เมตรกันอีกหรือ? ที่จริง มาตรฐาน ISO/IEC ก็ไม่ได้ระบุความผ่าน/ไม่ผ่านจากความยาวสายแค่เพียงอันเดียว หากว่าแน่นอนพวกเราไม่ควรหาข้ออ้างมาเปิดทางให้ลากสายได้ยาวถึง 99 เมตร แต่ทางด้านเทคนิคและยังถือว่ายอมรับได้ตราบเท่าที่ค่าพารามิเตอร์ด้านสมรรถนะยังผ่านการทดสอบ ซึ่งเป็นค่าหลักสำหรับเพื่อการตัดสินว่าลิงค์ดังที่กล่าวผ่านมาแล้วรองรับรูปแบบการนำไปใช้งานที่ต้องการได้หรือเปล่า แม้กระนั้นถ้าหากคุณลองอุตสาหะลากลิงค์ถาวรให้สุดกำลังถึง 99 เมตรแล้ว ก็มีทิศทางสูงที่ผลการทดลองค่าพารามิเตอร์ด้านความสามารถที่เกี่ยวข้องกับความยาวสายจะไม่ผ่านตามไปด้วย ซึ่งเครื่องมืออย่าง Fluke Networks' DSX CableAnalyzer™ จะบอกหัวข้อนี้ให้คุณเอง