พิมพ์แคตตาล็อก

[Jessicas]

พิมพ์แคตตาล็อก
งานเอกสารแคตตาล็อกแท้จริงแล้วตามความหมายที่ถูก คืองานเอกสารที่มีลักษณะเป็นเล่มหรือเอกสารเย็บเล่มที่
ควรมีบทนำ สารบาญ เนื้อหาโดยไม่ต่างอะไรจากหนังสือฉบับย่อหนึ่งเล่ม แต่ถ้าว่าในตอนนี้งานเอกสารแคตตาล็อกได้มีการ
เปลี่ยนความหมายไปเป็นการตามรูปแบบของการใช้แรงงาน ซึ่งความหมายแปลงเป็นสิ่งพิมพ์ที่แสดงเนื้อหา
ของผลิตภัณฑ์โดยจะมีรูปภาพประกอบและอาจจะมีคำพรรณนาหรือคำแนะนำสินค้าดูแลไว้ ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนเป็นว่าสิ่ง
พิมพ์แคตตาล็อกไม่จำเป็นที่ต้องเป็นรูปเล่มหรือควรมีองค์ประกอบอย่างบทนำรวมทั้งสารบาญก็ได้ โดยที่นิยมมากในขณะนี้
ก็คือสิ่งพิมพ์แคตตาล็อกแบบอย่างแผ่นพับ ฯลฯ
รูปแบบของแคตตาล็อกที่ถูกต้อง คือ งานเอกสารโฆษณาประเภทการแสดงระเอียดรายการที่สินค้าที่คนจัดทำ
อยากพรีเซนเทชั่น โดยจะมีภาพประกอบผลิตภัณฑ์ ชื่อสินค้ารวมทั้งรายละเอียดของสินค้านั้น ซึ่งอาจจะมีการจัดชนิดและประเภทเป็นกรุ๊ป
ชนิดสินค้าเพื่อจ่ายต่อการจำแนกแยกแยะ โดยจะมีการจัดทำสารบัญเพื่อง่ายต่อการค้นหา ทั้งนั้นเอกสารทั้งผองจะถูก
ทำเป็นต้นแบบรูปเล่มคล้ายกับวารสาร โดยจุดหมายด้านการใช้งานของการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นชี้เฉพาะแจ้งชัดใน
ด้านรายละเอียด ต่างจากงานพิมพ์ประชาสัมพันธ์จำพวกอื่นๆที่คนจัดทำต้องการจะใส่รายละเอียดประเภทไหนลงในสิ่งพิมพ์ก็ได้ แต่สำหรับ
สิ่งพิมพ์นี้ถ้าหากเมื่อคนกล่าวถึงงานพิมพ์แคตตาล็อก ในความคิดทุกคนจำเป็นต้องนึกภาพเอกสารที่มีรูปสินค้าแล้วก็รายละเอียดโดยทันที
แม้กระนั้นเนื่องแต่การพิมพ์แคตตาล็อกเป็นรูปแบบรูปเล่มนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากรวมถึงมีความหนาและก็ขนาดใหญ่
ก็เลยไม่เหมาะสำหรับการใช้งานประเภทการแจกจ่ายแบบทั่วๆไปตามท้องถนน ก็เลยทำให้มีการจัดทำแผ่นพับที่เจาะจงประเภทกำหนดรายละเอียด
สินค้า แล้วก็ทำให้คนทั่วไปเรียกแผ่นพับเหล่านี้ว่าแคตตาล็อกกันอย่างมากมายซึ่งนับว่าผิดต้องตามหลักการใช้งานควรเรียก
เป็นแผ่นพับมากยิ่งกว่า ในการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นคนจัดทำต้องจัดรูปแบบการเดินเรื่อง องค์ประกอบรายละเอียด หมู่ แล้วก็จำนวน
หน้า รวมถึงจำนวนเล่มที่จำต้องผลิต ด้วยเหตุว่าการต้นแบบการพิมพ์ไม่ต่างจากหนังสือเนื่องจากว่าจำนวนเล่มจำต้องเยอะในระดับหนึ่งเพื่อให้
คุ้มกับทุนในการทำแม่พิมพ์จำนวนมาก
ขนาดของสิ่งพิมพ์แคตตาล็อกโดยปกติควรใช้ขนาดราวๆ A4 , A5 ,A6 หรือบางทีก็อาจจะใหญ่หรือเล็กกว่าสัก
นิดหน่อย เพราะว่าหากขนาดที่แปลกเกินความจำเป็นบางครั้งก็อาจจะจะต้องเสียค่าแผ่นพิมพ์เพิ่มเติมอีก การเลือกใช้กระดาษก็มักจะเป็นกระดาษปอนด์หรือ
อาร์ตมัน แต่ว่าที่จำต้องตรึกตรองเรื่องความงามเป็นพิเศษโน่นคือ ปกของแคตตาล็อก โดยชอบใช้กระดาษที่มีความหนากว่า
ด้านใน เป็นต้นว่า อาร์ตการ์ด เป็นต้น ทั้งนี้อาจจะมีการตกแต่งพิเศษจำพวก Spot UV หรือ ปั๊มนูน ส่วนท้ายที่สุดการเข้าเล่มจะ
เป็นแบบเย็บมุงหลังคา หรือการไสสันทากาว แบบไหนก็ขึ้นอยู่กับความหนาของรูปเล่มอีกครั้งหนึ่ง
เพราะพิมพ์แคตตาล็อกนั้นมีค่าใช้จ่ายที่มากจึงไม่นิยมใช้เป็นโฆษณาที่ใช้แจกมากเกินไปและไม่เหมาะกับ
กลุ่มลูกค้าทั่วๆไป จำเป็นต้องใช้สำหรับกรุ๊ปลูกค้าที่ความพอใจจริงๆแล้วก็มีโอกาสบริโภคเท่านั้น ดังเช่น กรุ๊ปลูกค้าเดิมที่มีในฐานข้อมูล
ก็บางทีอาจจะใช้การจัดส่งผ่านไปรษณีย์ให้ลูกค้าโดยตรง หรือบางครั้งอาจจะเป็นลูกค้าที่เข้ามาไต่ถามถึงผลิตภัณฑ์ของท่านหรือเข้ามาในส่วน
ของร้านท่านแล้ว ตัวอย่างเช่น ลูกค้ามาเดินดูรถยนต์ในโชว์รูมรถยนต์ จะต้องแจกแคตตาล็อกที่มีรายละเอียดอื่นๆให้ประกอบการ
ตกลงใจเพื่อสร้างความซาบซึ้งให้ลูกค้า สุดท้ายนี้การพิมพ์แคตตาล็อกจะต้องมีการวางแผนรวมทั้งคำนึงถึงความเหมาะสมเป็น
อย่างยอดเยี่ยมเสียทุกครั้งก่อนที่จะมีการทำ